..."เจ๊ไฝ" ไข่เจียวปูและเมนูอาหารทะเลระดับ 1 ดาวมิชลิน...
หลังจากการประกาศผลมิชลินสตาร์ประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ร้านอาหารที่ได้รับเสียงฮือฮาและเป็นกระแสมากที่สุดต้องยกให้กับร้านสตรีทฟู้ดหนึ่งเดียวที่ได้รับ 1 ดาวมิชลิน ร้าน เจ๊ไฝ ประตูผี ร้านอาหารริมทางขนาดเล็กที่เปิดมากว่า 70 ปี โดยมีเชฟหลักทำหน้าที่ต้ม ผัด แกง ทอด เพียงคนเดียว นั่นก็คือ เจ๊ไฝ - นางสุภิญญา จันสุตะ ที่ตอนนี้กลายเป็นเชฟระดับมิชลินสตาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับถูกพูดอย่างมากถึงเกี่ยวกับเมนูอาหารของร้านที่มีราคาสูงจนหลายคนสงสัย OpenRice จึงขออาสาพาทุกคนเข้าไปบุกร้านและบุกครัวเจ๊ไฝ ให้รู้กันไปเลยว่าอะไรคือสาเหตุของราคาอาหารที่สูงขนาดนี้ แล้วเมนูไหนคือเมนูเด็ด พร้อมบอกราคาทุกจานแบบไม่มีกั๊ก
OpenRice ตบเท้าเข้าร้านเจ๊ไฝตั้งแต่เวลา 13.30 น. เวลาร้านเปิดพอดีเป๊ะ พร้อมเปิดเมนูสั่งอาหาร 5 อย่าง ซึ่งทุกเมนูเจ๊ไฝเจ้าของร้านจะเป็นผู้ลงมือปรุงทั้งหมด โดยมีผู้ช่วยเตรียมของเตรียมวัตถุดิบและจัดจานเสิร์ฟอยู่รอบข้าง ซึ่งสังเกตว่าในครัวแห่งนี้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้น เจ๊ไฝใช้เตาถ่าน 2 เตาผลัดเปลี่ยนกับทำเมนูต้ม ผัด แกง ทอด โดยมีกระทะหลายใบผลัดเปลี่ยนกันทำอาหารเช่นกัน เมนูเด็ดที่สุดแทบจะไม่ว่างเว้นจากเตาเลยนั่นก็คือ ไข่เจียวปู หรือที่เจ๊ไฝเรียกว่า ไข่ฟูปู นั่นเอง
เจ๊ไฝสืบทอดกิจการร้านอาหารมาจากรุ่นคุณพ่อมาเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ถือเป็นร้านอาหารร้านดังย่านประตูผี ความโดดเด่นของอาหารร้านเจ๊ไฝคือวัตถุดิบเน้นคุณภาพ โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ถือเป็นของขึ้นชื่อของร้าน ตั้งแต่เนื้อปูที่มาจากนครศรีธรรมราชและนราธิวาส โดยเลือกใช้แค่ส่วนกรรเชียงปูเท่านั้น กุ้งเลือกใช้กุ้งลายเสือจากมหาชัย อาหารทะเลอื่นๆ ล้วนแต่ต้องสดและชิ้นโต ทำให้ร้านเจ๊ไฝเป็นร้านประจำของคนที่ชื่นชอบอาหารทะเลสดคุณภาพดี
หลังจากสั่งอาหารเราก็เข้าไปบุกครัวเจ้ไฝซึ่งเป็นครัวเปิดอยู่ด้านข้างร้าน เมนูแรกที่เจ๊ไฝลงมือทำคือ ไข่เจียวปู (ราคา 800, 1000, 1500 บาท) จานที่ OpenRice สั่งไปนั้นมีราคาอยู่ที่ 1500 บาท ที่เห็นมีราคาต่างกันก็เพราะเนื้อปูที่ใช้ทำไข่เจียวมาจากคนละแหล่ง ถ้าเป็นเนื้อปูจากนครศรีธรรมราชจะมีราคาสูงกว่าเนื้อปูจากนราธิวาส เจ๊ไฝบอกว่าปูจากแพนครศรีธรรมราชจะเนื้อแน่น สีขาว สะอาด และหอมกว่าปูจากนราธิวาส สำหรับลูกค้าที่จะไปชิมไข่เจียวปู OpenRice แนะนำว่าให้แจ้งราคาที่ต้องการตอนสั่งอาหารด้วยจะได้ไม่ต้องตกใจตอนเรียกเก็บเงิน ไข่เจียวปูร้านเจ๊ไฝกรอบนอกนุ่มในและที่เห็นฟูแบบไม่มียุบก็เป็นเพราะว่าไม่มีที่ให้ยุบนั่นเอง ทุกอณูของไข่เจียวเต็มไปด้วยเนื้อปู และความพิเศษอีกอย่างคือไม่อมน้ำมันเลย แม้จะใช้น้ำมันเยอะในการทอดก็ตาม แสดงให้เห็นถึงฝีมือขั้นเทพในการทำอาหารของเจ๊ไฝจริงๆ
ส้อมตีไข่แบบดับเบิ้ลพาวเวอร์ แรงคูณสอง ไม่ฟูให้รู้ไป!
ระหว่างทอดต้องคอยหมุนตลอด ชิ้นนึงใช้เวลาประมาณ 20 นาที
โฉมหน้าไข่เจียวปู 1500 บาท
เมนูที่ 2 ราดหน้าเป๋าฮื้อญี่ปุ่น ราคา 1,000 บาท ที่ต้องกำชับว่าเป๋าฮื้อญี่ปุ่นก็เพราะว่ายังมีราดหน้าเป๋าฮื้อเม็กซิกันที่ราคาจานละ 10,000 บาทอยู่ด้วย ถ้าไม่ระบุให้ชัดเจนอาจจะมีเงิบกันได้ แม้ว่าจะสั่งเป็นราดหน้าเป๋าฮื้อ แต่เจ๊ไฝจัดเครื่องทะเลมาให้ครบครัน ทั้งกุ้ง ปู ปลาหมึกสด ปลาหมึกแช่ และเป๋าฮื้อ เส้นใหญ่คั่วกระทะมาหอมๆ ซอสราดหน้ารสชาติกลมกล่อมแบบอาหารจีนในภัตตาคารใหญ่
เมนูที่ 3 ต้มยำกุ้ง (ในเมนูมีตั้งแต่ราคา 600, 800, 1000 บาท) สำหรับ OpenRice ต้มยำกุ้งโถนี้ 1600 บาท ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นชามหรือเป็นถ้วยเพราะเสิร์ฟมาเป็นโถจริงๆ ข้างในมีกุ้งตัวใหญ่ประมาณ 8 ตัวได้ รสชาติต้มยำจัดจ้านกินกับข้าวได้อร่อยเลยล่ะ ถ้ามากันแค่ 2 คนแนะนำว่าสั่งถ้วยเล็กก็พอ เดี๋ยวจะกินไม่หมดเอา
เมนูที่ 4 ข้าวกะเพราปู ราคา 600 บาท จานนี้คนชอบกินปูเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดรองจากไข่เจียวปูเลยก็ว่าได้ กรรเชียงปูเน้นๆ ผัดกะเพรารสเข้มข้นกินกับข้าวสวยกำลังดี บอกเลยว่าผัดกะเพราที่นี่เนื้อปูเยอะกว่าใบกะเพรานะจ๊ะ
เมนูที่ 5 กุ้งอบวุ้นเส้น ราคา 1000 บาท ตอนเสิร์ฟมาแทบไม่เห็นความแตกต่างจากร้านอื่นสักเท่าไหร่ แต่พอเขี่ยดูใต้วุ้นเส้นก็พบกับกุ้งแชบ๊วยตัวโตหลายตัวรองอยู่ก้นหม้อ รสชาติไม่ผิดกับกุ้งอบวุ้นเส้นเจ้าอร่อยร้านอื่นๆ ถ้าแลกกับกุ้งสดๆ ตัวโตๆ เมนูนี้ถือว่าน่าสั่ง
หลังจากที่ได้ไปลองลิ้มชิมรสชาติอาหารที่ร้านพร้อมพูดคุยกับเจ๊ไฝตัวจริงแล้ว จากที่เคยสงสัยเรื่องอาหารราคาแพง เราก็ได้คำตอบที่ถือว่าชัดเจนเลยทีเดียว นับว่าเป็นร้านอาหารอีกร้านที่มีราคาสูงจริง แต่เมื่อมองที่วัตถุดิบที่ร้านเลือกใช้แล้วล่ะก็...ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ เพราะเจ๊ไฝเลือกใช้แต่ของเกรดเอเท่านั้น ซึ่งกว่าจะได้มาต้นทุนก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว หากใครอยากลิ้มลองฝีมือเจ๊ไฝและคิดว่าคุ้มค่าคุ้มราคากับเงินที่จะต้องเสียไป OpenRice ก็คิดว่าไม่เสียหายที่จะลองสักครั้ง เท่าที่เห็นลูกค้ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแบบครึ่งต่อครึ่ง ยิ่งได้รับ 1 ดาวมิชลินปี 2560 แล้ว ร้านเจ๊ไฝคงกลายเป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการอาหารไทยที่นักท่องเที่ยวจากต่างชาติจะต้องแวะมาเช็กอินให้ได้อย่างแน่นอน.