1
1
0
電話號碼
034-725-414
特色
休閒餐廳
家庭親子
營業時間
今日營業
10:00 - 22:00
星期一至日
10:00 - 22:00
付款方式
Cash
其他資料
泊車
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
招牌菜
ไก่ทอดโค้ก ต้มยำกุ้ง ปลาแรดทอดกรอบ
食評 (2)
ของกินในทริปเขาใหญ่ยังไม่หมดนะครับ แต่วันนี้เอาร้านที่อยู่อัมพวามาแทรงคิวก่อน 1 ร้านเพราะว่าหลังจากโพสเรียกน้ำย่อยในเฟสบุค https://www.facebook.com/kunakorn.ruksitanondha แล้วมีคนถามถึงมากมาย ก็เลยคิดว่าจะเอามาโพสซะก่อนที่จะลืมรายละเอียดเรื่องราคาครับ เพราะร้านนี้เค้าคิดราคาอาหารต่างจากร้านอื่นๆครับร้านช้างเผือก อัมพวาวิธีการไปร้านช้างเผือก อัมพวา ก็ไปไม่ยากนะครับ แต่ร้านไม่ได้อยู่บนถนนเส้นหลักๆ ต้องแยกเข้าไปอีกค่อนข้างไกล แต่ถ้าใครเคยไปอัมพวาแล้วคิดว่าไม่หลงแน่ๆ ครับ เริ่มจากเส้นพระราม 2 ขาออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสมุทรสงคราม จะมีสะพานลอยวิ่งข้ามเข้าไปยังตัวเมืองสมุทรสงครามครับ วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จะเจอสี่แยกที่ตรงไปจะเป็นตลาด ให้เลี้ยวขวา เลี้ยวไปตามถนนจะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายตรงหน้าวัดป้อมแก้ว ขับตรงไปตามถนน ข้ามทางรถไฟแล้ววิ่งตานถนนเส้นหลักไว้ พอเจอสี่แยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายตรงหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองครับจากนั้นก็ขับตรงอย่างเดียวเลยครับ จนมาถึงทางแยกเข้าตลาดน้ำอัมพวาให้ชิดซ้ายไว้แล้วฉีกออกมาทางซ้ายเข้าอัมพวา ขับตรงเลยตลาดน้ำอัมพวาไปประมาณ 2 กิโลจะเห็นวัดบางพรหมอยู่ทางซ้ายมือ ร้านช้างเผือกจะอยู่ทางขวามือตรงข้ามกับทางเข้าวัดบางพรหมเลยครับ หน้าร้านไม่มีที่จอดรถนะครับ สามารถหาที่จอดรถบริเวณลานโล่งหน้าวัดบางพรหมได้เลยครับร้านช้างเผือกนี่เป็นร้านเล็กๆ ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆแล้วจะไม่เห็นว่าตรงนี้เป็นร้านอาหารชื่อเสียงโด่งดังเลยครับ ขนาดเจ้าของบล็อกเป็นคนที่ชอบไปแถบๆอัมพวา – บางนกแขวกมากๆ ผ่านไปผ่านมาก็ตั้งหลายหนยังไม่เคยเห็นหน้าร้านจังๆเลย ก็มีคราวนี้นั้นแหละที่หาร้านเจอจนเห็นหน้าร้าน ไม่ใช่อะไรนะครับ เพราะเห็นทางเข้าวัดบางพรหมนั่นเอง ก็ลายแทงเค้าบอกว่าตัวร้านช้างเผือกอยู่ตรงข้ามทางเข้าวัดบางพรหมนี่นา พอเห็นวัดบางพรหมก็เลยเห็นหน้าร้านร้านช้างเผือกนี่เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมานานมากๆ ในแถบอำเภออัมพวา อำเภอบางคณฑี หน้าร้านช้างเผือกจะมีไม้เลื้อยปกคลุมอยู่มาก ทำให้มองเห็นหน้าร้านได้ไม่ถนัด แต่พอเดินเข้ามาในร้านแล้วจะเห็นว่าไม้เลื้อยที่ปกคลุมไปถึงหน้าร้านนั้นเป็นคุณอย่างยิ่ง เพราะสร้างความร่มรื่น เย็นสบายๆให้กับร้านได้มากทีเดียวบรรยากาศโดยรอบนั้นก็เป็นร้านแบบ “บ้านๆ” นะครับ ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ที่พิเศษกว่าที่ร้านอื่นๆก็คือประกาศนียบัตรความอร่อยที่เป็นรูปถ่ายนักการเมือง ดารา และคอลัมม์ต่างๆ ที่เจ้าของร้านติดเอาไว้เยอะมากๆๆๆๆๆๆ ครับ เห็นเท่านี้ก็พอจะเดาออกได้นะครับว่าร้านนี้มีชื่อเสียงมานานเท่าไหร่แล้วชื่อเสียงของร้านนี้อยู่ที่วัตถุดิบสดใหม่ ที่เจ้าของร้านคัดเอามากับมือครับ อย่างเช่นกุ้งแม่น้ำก็คัดแต่เฉพาะกุ้งแม่น้ำที่ตกด้วยมือ ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น รับประกันในความสด ใหม่กันเลยทีเดียวเมนูของร้านก็มีหลากหลายมากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยๆที่ประกอบขึ้นจากกุ้งแม่น้ำ กุ้งทะเล ปลาเต๋าเต้ย ปลาหมึก ปู และอาหารทะเลประเภทอื่นๆ มีให้เลือกทั้งที่อยู่ในเมนูและเมนูอาหารแนะนำที่ขึ้นป้ายอยู่ในร้านสั่งน้ำสมุนไพรมากินกันก่อน ทางร้านบอกว่ามีน้ำมะปรางสดด้วยก็เลยสั่งมาชิมครับ ราคา 50 บาทน้ำมะปรางคั้นสดๆ มีความหวานของมะปรางนิดๆ แต่มีความเค็ม (คงเป็นจากเกลือ) กลบรสหวานๆชื่นใจของมะปรางซะเกือบมิดครับ เมนูนี้ดูสีสวยดี แต่รสชาติไม่ประทับใจเลยครับ แต่เอ.... ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วน้ำมะปรางมันจะต้องมีรสเค็มนำหรือเปล่าไอ้ผมก็ไม่เคยกินน้ำมะปรางมาก่อนซะด้วยก็เลยบอกไม่ได้ว่าจริงๆแล้วน้ำมะปรางควรมีรสเป็นอย่างไรอีกแก้งหนึ่งเป็นน้ำอัญชันสีน้ำเงินเข้ม ราคา 50 บาทแก้วนี้สีสวยถูกใจ และยังมีรสชาติหวานน้อยๆ มีกลิ่นหอมๆ ดื่มเข้าไปแล้วชื่นใจ คลายร้อนจริงๆครับเราเลือกสั่งเมนูแนะนำของทางร้านไป 4 เมนูครับ อ้อๆ เมนูร้านนี้ไม่มีราคานะครับ ไม่ว่าจะเป็นเมนูที่ทำจากหมู ไก่ กุ้งแม่น้ำ หรืออาหารทะเล ครับ แต่ร้านนี้เค้าขึ้นชื่ออยู่แล้วครับว่า “แพง”... เอ้า ... ไม่เป็นไรครับ ลองดูกันซักตั้ง จะแพงแค่ไหนกันเชียว ถ้าแพงแล้วอร่อยนี่สู้ตายครับเมนูแรกเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ไก่ทอดเทวดา ราคา 200 บาทขอบอกว่าเพิ่งมาเห็นราคาตอนสั่งเช็คบิลครับ ตกใจอยู่เหมือนกัน เมนูไก่ราดน้ำซอสราคาตั้ง 200 บาทแน่ะ ... แล้วไก่ทอดมาแบบสุกบ้างไม่สุกบ้างซะด้วยซิครับ คือทางร้านเค้าใช้ปีกบนของไก่มาทอด (กะว่า) ให้สุกทั่ว แต่ปีกบนไก่ต้องทอดไฟอ่อนๆใช้เวลาเกือบ 10 นาทีครับ ถึงจะสุกและร่อนออกจากกระดูก แต่ที่ร้านทอดมาแบบสุกบ้างไม่สุกบ้างโดยเฉพาะตรงที่เป็นข้อต่อยังมีเลือดๆอยู่เลยครับ เลยทานได้เฉพาะเนื้อๆ แต่ .... มีแต่ครับ แต่น้ำซอสเค้ากลมกล่อมมากครับ หวาน เปรี้ยว เค็ม เอาน้ำซอสมาคลุกข้าวอร่อยดีครับเมนูที่สองก็เป็นเมนูแนะนำของทางร้านเหมือนกัน ข้าวผัดกรรเชียงปู ราคา 200 บาทเมนูนี้เดาได้อยู่แล้วว่าต้องราคาเกิน 100 แต่คาดไม่ถึงว่าจะราคาถึง 200 บาท นับว่าเป็นข้าวผัดที่ราคาสูงทีเดียว แต่ผัดข้าวมาสวยมากๆครับ ร่วน แต่เม็ดข้าวนุ่ม หอมๆกระทะไหม้ ขนาดของจานก็ใหญ่ได้ระดับหนึ่งประมาณว่าสาวๆสามารถทานได้ถึง 2 คนทีเดียว กรรเชียงปูที่ใส่มาในข้าวผัดมี 4 กรรเชียง แต่ละชิ้นใหญ่มากกกกกกครับ เนื้อแน่น สด หวาน เมนูนี้ถือว่าให้ผ่านได้ในราคา 200 บาทเพราะความสด ใหญ่ ของกรรเชียงปู และความอร่อย หอม ของข้าวผัดครับเมนูที่สามและเมนูที่สี่คิดราคามารวมกันนะครับ เพราะเป็นเมนูที่ทำจากกุ้งแม่น้ำเหมือนกัน ถ้าสั่งเมนูที่ทำจากกุ้งแม่น้ำร้านนี้จะเอากุ้งแม่น้ำไปชั่งรวมกัน และเอามาแบ่งทำอาหารครับ ผัดไทยกุ้งแม่น้ำผัดไทยจานใหญ่มากกกกกกกกกก ผัดมาแบบไว้ฝีมือคนผัดมากกกครับ เส้นสวย ไม่ขาด ไม่ติดกันเป็นแผ่น เครื่องเพียบ แล้วมีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆหนึ่งตัวนอนซุกอยู่ รสชาติของผัดไทยก็ใช้ได้เชียวครับ เป็นรสชาติแบบผัดไทยแบบโบราณ รสชาติจะไม่จัดเหมือนกับผัดไทยในกรุงเทพฯ แต่มีรสครบทุกรส เปรี้ยว หวาน เค็ม ปรุงพริกป่นเพิ่ม บีบมะนาวซักหน่อยสำหรับคนที่ชอบรสจัดๆนะครับ รับรองว่าเป็นผัดไทยที่อร่อยเริ่ดไปเลยครับ .... ราคาของจานนี้ทางร้านคิดแต่ค่ากุ้งครับ ส่วนผัดไทยผัดให้ฟรีๆครับเมนูแนะนำของทางร้านเมนูสุดท้าย ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ราคากุ้งรวมกับกุ้งในผัดไทย 1040 บาท (กุ้งโละละ 1300 บาท ใส่ในต้มยำ 2 ตัว ใส่ผัดไทย 1 ตัว หนักรวม 8 ขีดครับ)ต้มยำร้านนี้เป็นแบบต้มยำพื้นบ้านนะครับ คือเป็นต้มยำแบบน้ำใส รสเด็ดมากๆครับ เผ็ดน้ำ เปรี้ยวตามมาติดๆ เป็นรสที่ถูกใจเจ้าของบล็อกมากๆครับ แล้วไม่ได้ใส่เครื่องอะไรมามากมายด้วยนะครับ ดูเหมือนว่าจะใส่เครื่องต้มยำมีข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดมาเพียงเล็กน้อย แต่มากพอที่จะทำให้หม้อต้มยำทั้งหม้อหอมกลิ่นสมุนไพร ปรุงรสมาเด็ดมากๆ ซดน้ำกันเพลินทีเดียวครับ แทบจะลืมกินกุ้งโลละ 1300 บาทแน่ะครับ อิอิอิร้านช้างเผือก อัมพวา เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานาน ถ้าผ่านมาทางอัมพวา บางคนฑีก็สามารถแวะทานอาหารรสมือแบบบ้านๆกันได้ แต่ต้องมั่นใจว่ากระเป๋าหนักกันหน่อยนะครับ เพราะอาหารร้านนี้ราคาสูง แต่คุณภาพของของสดที่นำมาปรุงอาหารก็สูงไปด้วยครับ 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)
ร้านอาหาร "ช้างเผือก" อยู่เลยตลาดน้ำอัมพวา ผ่านหน้าอุทยาน ร.2 ไปประมาณ 2 กม.ตรงข้ามกับวัดบางพรหม ร้านอยู่ทางขวามือต้องสังเกตุให้ดีซะนิดนึง เพราะด้านหน้าจะไม่เหมือนร้านอาหาร แต่เหมือนบ้านพักอาศัยธรรมดามากกว่าแต่ยังดีว่ามีป้ายชื่อร้านอาหารให้เห็นชัดเจนเมนูแนะนำตัวใหญ่ๆ มีแต่รายการที่น่าลองทั้งนั้นเลยแต่ถ้ามากินที่ร้านนี้ ขอเตือนนิดนึงว่า อย่าสั่งอาหารหลายอย่าง เพราะอาหารเค้าจานใหญ่มากวันนี้ไปกัน 5 คน สั่งอาหารแค่ 4 อย่าง อย่างที่บอกว่า อาหารเค้าจานใหญ่ ไม่กล้าสั่งเยอะ กลัวกินไม่หมดว่าด้วยอาหารจานแรกดีกว่า "ปลาเต๋าเต้ยโจรสลัด"ลักษณะของปลาเต๋าเต้ยคือปลาจาระเม็ดชนิดหนึ่ง แต่อยู่ในน้ำทะเลที่ลึกกว่า สังเกตุจากครีบที่เป็นสามเหลี่ยมระหว่างรออาหาร ป๊าก็เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีคนจีนอยู่คนหนึ่ง อยากกินปลาเต๋าเต้ยมากแต่ไม่มีเงิน ถึงขนาดต้องกลับไปเมืองจีนขายที่ดินเพื่อที่จะเอาเงินมาซื้อปลาเต๋าเต้ยกิน (จริงเหรอ???)ตอนแรกๆ ที่เค้ายกมาเสิร์ฟก็งงๆ กันว่า เราไม่ได้สั่งปลาเต๋าเต้ยทอดกระเทียมนะ แต่ทำไมมาแค่ 2 ตัวโรยกระเทียมแบบนี้ล่ะอีกสักพักก็ได้ถึงบางอ้อ เพราะเค้ายกโจรสลัดมาเสิร์ฟถึงโต๊ะให้อีกจานหน้าตาโจรสลัดที่กินกับปลาเต๋าเต้ยคล้ายๆ กับว่า เอากุ้ง ปู และปลาหมึกมาผัดกับน้ำราด 3 รสนี่ล่ะ แต่อร่อยดี เมนูที่ตั้งใจมากินคือ "กุ้งอบโค้ก" แต่วันนี้กุ้งอบโค้กเลยหมดแต่หัววันเปลี่ยนเป็น "กุ้งแม่น้ำสามรส" แทนก็ได้มากัน 5 คน เค้าเลยจัดกุ้งแม่น้ำมาให้ 5 ตัวโตๆ จะได้ไม่ต้องแย่งกัน ตัวใหญ่จนล้นจานออกมาเลยเอาไปคลุกๆ ในน้ำราด 3 รสอีกรอบให้มันเข้าเนื้อ กุ้งตัวเดียวกินข้าวเกือบหมดจานขาดเมนูน้ำๆ ก็เลยสั่งต้มยำมาอีกสั่งหม้อ มีให้เลือก 2 อย่าง คือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ กับต้มยำรวมมิตรไหนๆ เราก็มีกุ้งแม่น้ำสามรสแล้ว เลยขอสั่งเป็น "ต้มยำรวมมิตร" ดีกว่าอู๊ย... ซดน้ำร้อนๆ เผ็ดๆ ของต้มยำ สะใจดีจริงๆตบท้ายด้วย "ข้าวผัดกรรเชียงปู" อีกจานข้าวเค้าเม็ดร่วนดีนะ พร้อมกรรเชียงปูอีกตรึมแต่แปลกใจ ทำไมข้าวผัดร้านนี้ถึงเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสพริกแบบนี้หว่าลองเอามาคลุกข้าวดูซะหน่อย ได้รสชาติที่แปลกและแตกต่างไปอีกแบบจริงๆ ด้วยอิ่มเต็มๆ กับมื้ออร่อยมื้อนี้แต่ต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่นอน จะมากิน "กุ้งอบโค้ก" ให้ได้เลยอยากรู้นักว่าเป็นยังไง และอร่อยขนาดไหนสำหรับราคานั้น แพงเอาเรื่องเหมือนกันแต่คิดว่าเหมาะสมกับปริมาณ คุณภาพ และรสชาติของอาหารแล้วล่ะปลาเต๋าเต้ยโจรสลัด น้ำหนัก 9 ขีด ราคา 720 บาทกุ้งแม่น้ำสามรส น้ำหนัก 1.1 กก. ราคา 935 บาทข้าวผัดกรรเชียงปู และต้มยำรวมมิตร อย่างละ 300 บาท 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)