lovebird的個人專頁

หาเครื่องดื่มระหว่างเดินเล่นเพลินๆหลังเลิกงาน ไปที่ชั้นล่าง ตรงฟู้ดคอร์ดของเซ็นทรัล พระราม 9 เจอกับร้าน Coffee a day เห็นมาสักพักแล้วในแอพ OpenRice ว่ามีคูปองส่วนลด 15 บาท เลยถือโอกาสเข้าไปใช้ซะเลยพนักงานยิ้มแย้มและต้อนรับดีมากค่ะ แม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็ยังมีเก้าอี้ให้นั่งประมาณ 3-4 ตัว ส่วนคนที่จะใช้คูปองก็ง่ายมากเลยค่ะ เพราะเค้าแปะป้ายไว้ชัดเจนมาก พอเรากดเปิดแอพฯ ก็เข้าไปที่คูปอง สแกน QR CODE แล้วเค้าก็จดรหัส แล้วให้เราเซ็นต์ชื่อ เราก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือ เพื่อส่วนลดต้องใจเย็นหน่อย แต่เรารอได้คร่าเมนูเครื่องดื่มที่สั่งไป คือ ชานมอะเดย์ เย็น ราคา 40 บาท แต่เราจ่ายเพียง 25 บาทเท่านั้นค่ะ เห็นหลายคนบอกว่าชานมที่นี่อร่อย เราเลยอยากชิม แต่เห็นในเมนูที่ร้าน คิดว่าชานมอะเดย์มีความน่าสนใจ พนักงานบอกว่าตัวนี้จะมีกลิ่นโกโก้ด้วย แปลกดีแฮะ รสชาติ เป็นชานมเข้มข้น แก้วใหญ่ค่ะ คิดว่า 40 บาทก็ถือว่าคุ้ม ใส่ฟองนมให้ด้วย แต่กลิ่นโกโก้ไม่ได้โดดเด่นจนรู้สึกได้นะคะ ใครชอบกินชานมน่ามาลองดูค่ะ …

ห้องอาหารตะวันนา เป็นห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติของโรงแรมตวันนา ถนนสุรวงศ์ ราคาบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำที่นี่ 750 บาทเน็ตค่ะ คุ้มค่าสุดๆ อาหารก็สดใหม่ โดยรวมแล้วอร่อยเลยทีเดียวค่ะอาหารที่นี่เน้นที่อาหารไทย แต่อาหารชาติอื่นๆก็ไม่ได้น้อยหน้า รวมทั้งยังมีห้องขนมหวานที่มีแต่ขนมน่ากินทั้งนั้นเลยค่ะการเดินทางมาที่ร้าน นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาสถานีสีลมแล้วเดินมาหรือเรียกแท็กซี่ต่อมาอีกหน่อยก็ได้ค่ะ ถ้านั่งรถไฟฟ้าจะลงสถานีศาลาแดงหรือช่องนนทรีก็ได้ค่ะ แล้วก็เดินมา ช่วงเย็นหลังเลิกงานรถค่อนข้างติดนะคะแถวนั้นไปดูกันว่าที่นี่มีอาหารอะไรน่าสนใจกันบ้าง อ่อ...ที่นี่เค้าเคยมีห้องอาหารที่ชื่อว่า บอง วี วอง ด้วยนะคะ แต่เค้าเปลี่ยนห้องนั้นเป็นห้องจัดเลี้ยงแล้ว ก็เลยเกิดเป็นห้องตวันนานี่แทนค่ะ อาหารแบบเดียวกันกับบอง วี วองเมื่อก่อนเลย…

วันนี้มากันที่ร้านขายน้ำแข็งไสที่มาจากเกาหลีใต้ ร้านซอลบิง เพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ ต้องลองสักหน่อย ไปกันเลยที่สยามสแควร์ ซอย 11 มีตั้ง 4 ชั้นแน่ะ เค้าว่าเป็นร้านออริจินัลของเกาหลี แถมมีหลายสาขาเลยล่ะ ส่วนตัวแล้วยังไม่เคยกินร้านนี้ที่เกาหลีค่ะ ดีใจที่ได้กินสักที แล้วก็ไม่ต้องไปไกลด้วย แต่ในเรื่องราคาก็ต้องบอกเลยค่ะว่าราคาสู๊ง...สูง ต้องใจกล้าหอที่จะมากิน แล้วก็ต้องพาเพื่อนมากินหลายคนหน่อย เพราะถ้วยมันใหญ่ (ขอเรียกว่าชามดีกว่า)บรรยากาศร้านชั้น 3 ค่ะ ขึ้นไปดูแต่เรานั่งชั้น 2 ค่ะ ชั้น 2 จะสว่างเพราะมีส่วนที่เป็นกระจกหน้าต่าง รับแสงจากข้างนอก แถมยังไม่ต้องเดินไกลด้วย เด๋วต้องไปรับขนมอีกครั้งอันนี้ก็ชั้น 3 ร้านใหญ่มาก ต้องรีบถ่ายก่อนคนเยอะค่ะ ชั้นนี้ถ้าต้องการส่วนตัวหน่อยก็มานี่เลยขนมหวานตัวอย่างในตู้โชว์ น่ากินทั้งนั้นเลย ถ้าอ่านเมนูแล้วไม่รู้ว่าหน้าตาอาหารเป็นอย่างไรดูนี่เลยค่ะ ไม่ได้มีแต่น้ำแข็งไสนะ มีของคาวด้วย อย่างเมนูต็อกชีสอะไรเนี่ย ยังไม่ได้ลอง แต่ก็น่ากินทีเดียวเชียวแหละ (คราวหน้าๆนะ)รายชื่ออาหาร ขนม เครื่องดื่ม พร้อมราคา ดูได้ที่บอร์ดนี้เลยค่ะ เลือกได้แล้วก็สั่งอาหาร จ่ายเงิน แล้วไปหาที่นั่งถ้าอาหารที่สั่งเสร็จแล้วค่อยลงมารับทีชั้น 1 อีกครั้ง ชั้น 1 เนี่ยไม่มีที่นั่งนะคะ เอาไว้สั่งอาหารอย่างเดียว ที่นั่งจะอยู่ชั้น 2 กับ 3 นี่คือสิ่งที่ต้องสั่งค่ะ เมนูยอดฮิตจากเกาหลี เมนูที่โปรโมทและแนะนำ เมล่อนบิงซู มันมี 2 แบบ เลยขอจัดแบบที่แพงที่สุด 555 โยเกิร์ตเมล่อน เดี๋ยวมาลองด้วยกันนะคะพอสั่งขนมเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นชั้นบนหาที่นั่งตามสบาย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ชั้น ส่วนชั้น 4 จะเป็นห้องน้ำแล้วค่ะพอสั่งขนมแล้วก็จะได้รับเจ้าเครื่องนี้ค่ะ เห็นหลายคนเรียกว่าเพจ ถ้าขนมหวานทำเสร็จเครื่องนี่จะสั่น เราก็เดินลงมารับขนมที่ชั้น 1 ได้เลยซอลบิงโยเกิร์ตเมล่อน 395 บาท เรียกว่าแพงสุดเลยก็ว่าได้ค่าส่วนรสชาตินั้นก็ตามราคาค่ะ คืออร่อยมากกกกกกกกก ทั้งน้ำแข็ง เมล่อน โยเกิร์ต ชีส โอ๊ย!!! ดีงามถ่ายให้เห็นกันชัดๆอีกนิดส์ค่ะ มันดีงามจริงๆนะเออ  เนื้อเมล่อนเค้าจะแช่เย็นมาแล้วค่ะ เนื้อเป็นเกล็ดน้ำแข็งเลยแต่ที่เยียมกว่าคือข้างในเมล่อนนั่นค่ะ อร่อยทุกอย่างจริงๆเนื้อน้ำแข็งไสของร้านซอลบิงเนี่ยไม่เหมือนที่อื่นเลยค่ะ มันร่วนและละลายช้า เป็ดเม็ดๆแบบในรูปเนี่ยเลยค่ะเราเติมนมข้นได้เรื่อยๆเลยนะ เพราะเค้ามีเคาท์เตอร์นมข้นและน้ำดื่มให้เราบริการตัวเองได้ค่ะซอลบิงมะม่วงพรีเมี่ยม 320 บาทมาแบบชามโต๊โต มีทั้งมะม่วง ครีมสด ชีสเค้ก แผ่นช็อกโกแลต จัดเต็มมากคร่าข้างในยังสอดไส้ด้วยมะม่วงอีกนะนั่น ส่วนตัวแล้วชอบเมนูแรกมากกว่าค่ะ มันฟินตรงชีสและโยเกิร์ตมากอ่าพอกินชามนั้นแล้ว อันนี้ก็เลยดร็อปลงไปนิดส์ แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันนางชอบมะม่วงชามนี้มากค่ะ เพราะนางไม่กินเมล่อน ว่าแล้วเพื่อนเราก็จ้วงก่อนเลยค่ะ ถ่ายรูปยังมิทันเสร็จ 555 นางกินยันคำสุดท้าย ของโปรดเค้าล่ะจริงๆแล้วอยากชิมมากกว่านี้นะคะ เพราะน่ากินหลาเมนูมากเลย แต่เรามา 3 คน กิน 2 ชาม อิ่มมากและหนาวด้วยค่ะถ้ามีโอกาสต้องมาซ้ำครั้งหน้าแน่นอน สมแล้วที่เป็นออริจินัลของร้านปิงซูจากประเทศเกาหลี...หุหุหุ...ชั้นไม่ต้องไปกินไกลละ…

ขอบคุณทางร้านที่ให้โอกาสได้เข้าไปทำเวิร์คช็อปชาและการจับคู่ชากับขนมค่ะกิจกรรมวันนั้นเป็นไปอย่างสนุกสนานและได้ความรู้อีกด้วยเพื่อนๆร่วมกิจกรรมทุกท่านก็น่ารักเป็นอย่างยิ่ง ประทับใจมากๆค่ะเวิร์คช็อป Afternoon tea by Simply W เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงประวัติความเป็นมาของร้านถ้าใครยังจำแบรนด์ Whittard of shellsea ได้ล่ะก็ นั่นล่ะค่ะ เค้าเปลี่ียนชื่อมาชาที่เราได้ดูวิธีการชงและได้ชิมรสชาติ ได้แก่ ชาร้อน Earl Grey กลิ่นหอมมากค่ะเป็นชาดำ tea master บอกว่ารสชาติของชาเป็นเรื่องของรสนิยมการดื่มค่ะ ดังนั้นไม่มีผิดไม่มีถูกนะคะ บางคนชอบชารสขม แต่บางคนชอบชารสอ่อน ก็แล้วแต่ชอบเลย จะเพิ่มนมหรือน้ำตาลก็ได้นะ แต่เราขอชิมแบบออริจินัลเลยทีเดียวชาตัวแรกนี้ทางร้านเลือกจับคู่กับขนมแบบอบ พวกเบเกอรี่ พาย ไส้คาวค่ะ เสิร์ฟมา 3 ชิ้น ได้แก่พายผัก - ไส้ผักอร่อยมากค่ะ ให้ความรู้สึกไม่เหมือนผัก ทานง่าย ใครไม่ชอบกินผักขอให้ลองพายไส้กรอก - ตอนแรกคิดว่าเป็นไส้กรอกธรรมดา แต่โอ๊ะ...ไส้กรอกในพายอร่อยมากค่ะ กินหมดง่ายๆเลยครัวซองต์ใส่แฮม - ครัวซองต์เนื้อดี ผกสด แฮมอร่อย มีมายองเนสเพิ่มรสชาติด้วยรู้สึกว่าชาตัวแรกนี้เหมาะจริงๆที่จะกินกับขนมแบบไส้คาว ด้วยความที่ชามีกลิ่นที่ค่อนข้างแรง แต่พอกินกับของคาว อืม...เข้ากันดีแฮะชาตัวที่ 2 English Breakfast เป็นชาที่ผสมระหว่างชาเคนย่า ซีลอน และอัสสัม ที่สุดของชาทั้งนั้นเลยค่ะทางร้านจับคู่ชาตัวนี้กับ ขนมเค้กหวานๆที่เรียกว่า Opera Cake โอเปร่า เค้ก - บอกก่อนว่าเค้กที่นี่เราว่าไม่หวานมากนะ คนที่ไม่ชอบกินหวานมากต้องชอบค่ะ โอเปร่าเค้กนี่เข้มข้นรสช็อกโกแลตมาก แอบมีกลิ่นกาแฟเบาๆ หลายคนกินไม่หมดชิ้น เพราะให้มาชิ้นใหญ่คนละ 1 ชิ้น แต่เรากินหมดคนเดียวจ้า 555 อร่อยมากกกกกกชาตัวสุดท้าย เป็นชาชงสำเร็จรูป ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Instant Tea ร้านบอกว่าหลายคนซื้อไปเพราะชงสะดวก มีรสชาติให้เลือก วันนี้เราได้ชิม Pink Lemonade เป็นชาที่มีรสแบบชามะนาว แต่เก๋ที่มีสีชมพูตามชื่อ เค้าว่ามันสกัดมาจากชาดำนะ เหมาะจะกินเป็นชาเย็น ชงเสร็จใส่น้ำแข็งเหมาะกะอากาศบ้านเราสุดๆชานี้เสิร์ฟพร้อมกับ ทาร์ต สตรอเบอร์รี่ รสชาติไม่หวานมาก สตรอเบอร์รี่เปรี้ยวหวาน สด อร่อยมากเช่นกันค่ะชิ้นนี้สิ้นสุดกับกิจกรรมเวิร์คช็อปในครั้งนี้ ได้ความรู้เรื่องชาแล้วยังได้กินของอร่อยอีกต่างหาก บอกตัวเองไว้แล้วว่าต้องมาร้านนี้อีกให้ได้ เพราะมีเค้กน่ากินอีกหลายตัวที่อยากกิน 555 เครื่องดื่มช็อกโกแลตก็ยังไม่ได้ลอง ต้องจัดซะหน่อยละค่ะสุดท้ายแล้วขอใส่ภาพเครื่องดื่มที่ได้ลองก่อนเริ่มกิจกรรมมาให้ดูหน่อยค่ะ นอกจากชาเค้าก็มีกาแฟ ช็อกโกแลตด้วยค่ะ…

วันนี้มีนัดกับกลุ่มเพื่อนเก่าที่เซนทรัลพระราม 9 ร้านอาหารที่เราตกลงกันได้นั้นก็คือ Saboten ตั้งอยู่ชั้น 7 แอบอยู่ในซอกหลืบเล็กน้อย แต่ร้านโอ่โถง กว้างขวาง ไม่หนาแน่นเกินไปค่ะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มา ก็เลยใช้เวลาสำรวจเมนูอาหารอยู่นานพอควรเลยค่ะ ส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์ทอดๆสักเท่าไหร่ แต่เพื่อนบอกว่าอร่อยก็ตามใจค่ะ ถือว่าได้ลองของใหม่ดูสักที เมนูที่เราสั่ง คือ ชุดสันนอกกลาง Loin Katsu Set 280 บาทก่อนเริ่มมื้อ เค้าจะเสิร์ฟงามาให้เราได้บดเอง ผสมซอสเองตามชอบเลยค่ะ สนุกสนานดี ระหว่างรออาหารก็ไม่น่าเบื่อด้วย แถมได้กินกะหล่ำปลีฝอยกับน้ำสลัดงาระหว่างรอนี่มันดีจริงๆ รู้สึกว่าถ้าต้องจ่ายค่าบริการอย่างนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ ส่วนเนื้อหมูทงคัตสึ ทอดมาดีเลยค่ะ กรอบนอก นุ่มใน ไม่เหนียว จิ้มซอสแล้วทานกับข้าวสวยที่เป็นข้าวญี่ปุ่น ทั้งหอม ทั้งนุ่ม สุดยอดเลย ไม่ผิดหวัง ถ้าเลี่ยนก็กินผักดองแกล้ม แล้วก็ซดซุปตาม เราเติมซุปไปหลายรอบมากค่ะ 555 อร่อยยังมีเมนูอื่นๆที่เพื่อนสั่งด้วย ได้แก่ชุดสันนอกหัวไชเท้า Grated Radish Loin Katsu Set 310 บาท เป็นอีกเมนูที่เราเกือบสั่ง มันน่าสนใจมาก หัวไชเท้าให้ความรู้สึกสดชื่นดีค่ะ แต่เพื่อนที่สั่งดันไม่ชอบหัวไชเท้า เลยเสร็จเรา ชุดข้าวแกงกะหรี่สันนอก Loin Katsu Curry 290 บาทชุดข้าวแกงกะหรี่สันใน Tenderloin Katsu Curry 280 บาทจำไม่ได้ว่าในรูปนี่เป็นเมนูสันนอกหรือสันในค่ะ กลิ่นแกงกะหรี่หอมน่ากินมากเลย ราคาสันในสันนอกต่างกันเล็กน้อยนะคะ ชุดข้าวแกงกะหรี่แซลมอนกุ้ง Salmon Katsu and Shrimp Katsu Curry 300 บาทจานนี้น่ากินมากๆและอลังการมากๆค่ะ ทั้งกุ้งทอด และแซลมอนทอด เพื่อนที่สั่งปลื้มมากเลย เครื่องดื่มสั่งเป็นชาเขียวร้อน ชาเขียวเย็น ไม่คิดเงินค่ะ ปิดมื้ออาหารด้วยไอศกรีมชาเขียวคนละลูก (อยู่ในเซ็ทเมนู) เริ่ดค่ะ ***ในชุดอาหารมีข้าวสวย ซุป กะหล่ำปลี ฟรี! เติมไม่อั้นด้วยค่ะ บริการดีมากด้วย ประทับใจ***ราคาอาหารในเมนูยังไม่บวกค่าบริการ 10% และ vat7% นะคะ…

มื้อเย็นวันนี้ขอมาสวยๆกับเมนูสลัดที่ร้านโจรสลัด เอ้ย! โจนส์ สลัด สาขาเอสพลานาด ชั้น 1 ค่ะมากัน 2 คน สั่งสลัด 2 จาน น้ำแร่ 1 ขวด คนเยอะมากค่ะ แต่เรารอโต๊ะไม่นาน ลูกค้าท่านอื่นกินเสร็จก็ลุกค่ะ ไม่นั่งแช่ ถือว่าดี :)วิธีการสั่งอาหารร้านนี้คือ สั่งและจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ก่อน ไม่ว่าจะนั่งทานที่ร้านหรือสั่งกลับบ้าน เนื่องจากเป็นครั้งแรกของเรา เลยเลือกหยิบกระดาษเมนูมาติ๊กที่โต๊ะ แล้วค่อยไปยื่นที่เคาน์เตอร์ จ่ายเงิน แล้วได้คิวมาตั้งที่โต๊ะ จากนั้นรอ...อย่างเดียวค่ะจ่ายเงินเสร็จ พนักงานมาเสิร์ฟน้ำและวางอุปกรณ์การกินให้ค่ะ โต๊ะที่เรานั่งตั้งอยู่หน้าร้าน เด่นเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่หวั่น 555อันนี้เป็นเมนูอาหารให้ติ๊กค่ะ มี2หน้า จะเลือกใส่ผักเองก็ได้ ซึ่งเค้าให้เลือก 2 ไซส์ M 69 บาท เลือกผักได้ 3 อย่าง  L 79 บาท เลือกผักได้ 5 อย่างทุกขนาดจะมีผักสลัดให้อยู่แล้ว ส่วนน้ำสลัดถ้าเป็นแบบพิเศษ บางอย่างต้องจ่ายเพิ่มนะคะ หรือจะเลือกเพิ่มเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบอื่นๆได้ตามชอบเมนูด้านนี้เป็นสลัดที่ทางร้านจัดเป็นเมนูให้เราเลือกได้เลยค่ะ ไม่ต้องเลือกเองคิดเอง ที่เห็นคนชอบสั่งเห็นจะเป็นแซลมอนแซ่บ น่ากินค่ะ แต่วันนี้อยากลองแบบเบสิคๆดูจานนี้ของเราเอง ไซส์ L---79 บาทใส่ฟักทอง มะเขือเทศ ต้นอ่อนทานตะวัน กะหล่ำม่วง ไข่ต้ม น้ำสลัดครีมพริกไทยดำ เสิร์ฟมาจานใหญ่ สีสันสวยงาม อาจเป็นเพราะผักที่เราเลือกมันสีสวยด้วยแหละค่ะ จริงๆตอนแรกสั่งผักร็อกเกต แต่ร็อกเกตหมด สะเทือนใจ! เลยเลือกเป็นมะเขือเทศแทนจานนี้ของพี่สาวที่ไปด้วยกัน ไซส์ L---79 บาท ผัก5อย่าง เพิ่มอกไก่ +29 บาท น้ำสลัดเป็นซีอิ๊วญี่ปุ่น ไก่นุ่มดีน๊า...เราแอบชิมมาเล็กน้อยเบ็ดเสร็จมื้อนี้ 2 คน 207 บาท มีน้ำแร่อีก 20 บาท (ไม่มีค่า Service charge ไม่มีค่า Vat เพิ่มเติม)…

ตามไปกินของอร่อยแถวทองหล่อ Nihonmura Mall แหล่งรวมร้านอาหารญี่ปุ่นขิงจริง เพราะทุกชั้นมีร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ก็อาจจะมีร้านอาหารชาติอื่นๆแซมอยู่บ้างนะคะร้านเซนเรียวอยู่ที่ชั้น 1 เลยค่ะ เดินเข้าไปปุ๊บ อยู่ซ้ายมือ มีคิวอยู่เล็กน้อย เราไปไม่ได้จองค่ะ แต่ว่าไปเร็วประมาณ 5 โมงครึ่ง ใช้เวลารอคิวให้เป็นประโยชน์ โดยการเดิมชมทั่วทุกชั้น แล้วคิวเราก็มาถึงวันนี้จะมากินตามโปรเด็ด ซูชิแซลมอนลนไฟ 3 คำ/ 35 บาท แต่ตอนนี้สั่งได้ไม่เกินท่านละ 2 เซ็ทแล้วนะคะส่วนเมนูอื่นๆก็สั่งบ้างค่ะ แม้ไม่ได้มีโปร ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่คุณภาพอาหารวันนี้ดีมากเลยค่ะไปดูกันเลยว่าที่เราสั่งไปมีอะไรบ้าง ราคา รสชาติ เป็นอย่างไร นั่งรถไฟฟ้าลงสถานีทองหล่อ แล้วนั่งพี่วินมาที่ทองหล่อ 13 สะดวกสุดๆภายในชั้น 1 Nihonmura Mallเครื่องดื่มเป็นแบบรีฟิวค่ะ วันนี้สั่งชาเขียวทั้งร้อนทั้งเย็น แก้วละ 40 บาทแซลมอน ซาชิมิ 140 บาทเสิร์ฟมาแบบ 3 ชิ้น โตๆเลยค่ะ มีเลมอนฝานบางๆ เนื้อแซลมอนสด อร่อยมากคร่า ไม่ผิดหวังเนื้อแซลมอนให้ดูเน้นๆเลยค่ะ สด นุ่ม กินกับวาซาบิ ขิงดอง และสาหร่ายสด ดีงามหอยเชลล์ ซาชิมิ 140 บาทบอกก่อนเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้กินเนื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่นแบบสดๆ พี่ที่ไปด้วยกันแนะนำให้ลองค่ะหอยอร่อย เนื้อหวาน น้ำตาไหลที่สุด อยากกินอีกเนื้อหอยเชลล์สดๆ กินเปล่าๆก่อนสักคำ ลิ้มรสความหวานจากธรรมชาติ แล้วค่อยลองกินกับขิงดอง วาซาบิ โชยุ สุดยอดไปเลยไข่หวานย่างเซนเรียว 80 บาท1 จานมี 2 ชิ้น ไข่หวานย่าง ประทับตราชื่อร้าน เป็นอีกเมนูขึ้นหน้าขึ้นตาของร้าน กินแล้วก็ไม่ผิดหวังอีกเช่นกันไข่หวานย่างเนื้อหนา นุ่ม หวานนิดๆ อร่อยติดใจเลยค่ะ ซูชิแซลมอนลนไฟ 35 บาท/เซท (จำกัดคนละ 2 เซ็ท)3คำ 3 รสชาติ อร่อยทุกรสชาติ...พูดเลย ไม่ว่าจะต้นหอมซอย ต้นหอมซอยคลุกซอส หรือมายองเนส คุ้มค่าคุ้มราคาสรุป มื้อนี้คุ้มค่าสมความตั้งใจที่มากินถึงที่ร้านค่ะ อีกหนึ่งความประทับใจคือการค้นพบความอร่อยใหม่ในชีวิต เนื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่นสดๆ มันอร่อยหวานอย่างนี้นี่เอง…

มาถึงร้านซั่งหลงเปาสาขาสีลม ตั้งอยู่หน้าท็อปส์ เหมือนว่าจะมีที่นั่งอยู่นิดนึงค่ะ เราเลยขอซื้อกลับบ้านดีกว่าสะดวกกว่าวันนี้จะมาลองซาลาเปาแบบย่าง ไส้คาว หรือที่เรียกว่า "สุ่ย เจียน เปา" เคยกินแต่ที่จีน เป็นแบบหมั่นโถว(ไม่มีไส้) อร่อยมาก อยากมาลองชิมที่ไทยดูบ้างซิว่าจะรสชาติเป็นยังไง :) ซื้อแบบกลับบ้านก็จะใส่กล่องมาแบบนี้เลยค่ะ อัดแน่น 4 ลูกเต็มกล่องเรียกว่าปิดไม่มิดนะคะ ลูก สุ่ยเจียนเปา ค่อนข้างใหญ่เลยล่ะเลือกซื้อไส้หมูสับไข่เค็มมา 2 ลูก และไส้แปลกๆมาอีกอย่างละลูกค่ะสุ่ย เจียน เปา ไส้หมูสับไข่เค็ม ลูกละ 25 บาท ไส้แน่นดีค่ะ แต่เราว่ารสชาติไม่ได้เข้มข้นมาก แป้งที่ผสมผสานระหว่างย่างและนึ่งมันไม่ค่อยฟูค่ะ เหนียวไปหน่อยอาจจะเป็นเพราะเราซื้อกลับบ้านด้วย มันเลยแฉะๆจากไอร้อนสุ่ย เจียน เปา ไส้ไก่เชียงฮาย ลูกละ 25 บาทแป้งข้างนอกสีดำ น่าจะมาจากงาดำ ไส้เยอะเหมือนเดิม แต่รสชาติยังไม่ค่อยเข้ากับซาลาเปาเท่าไหร่ เราว่าไส้นี้เค้าอยากนำไส้แบบไทยๆมาผสมผสานความเป็นจีน ก็แปลกดีนะ เผ็ดนิดๆ แต่ไม่ถึงกับโดนสุ่ย เจียน เปา ไส้มีตบอล โทมาโทลูกละ 25 บาทอันนี้มีให้เห็นด้านล่างของสุ่ยเจียนเปาด้วยค่ะ ข้างล่างเป็นแบบย่าง เกรียมๆนิดนึง ส่วนด้านบนเป็นเหมือยซาลาเปานึ่ง ซึ่งเป็นความพิเศษของสุ่ยเจียนเปานั่นเองค่ะส่วนแป้งด้านนอกเป็นสีออกส้มๆ สวยดีน่ากิน แต่ยังไม่ปังเท่าไหร่สรุป โดยรวมของสุ่ยเจียนเปาไส้คาว ความน่าสนใจคือน่าสนใจมากค่ะ ด้วยกรรมวิธีการทำที่แปลกกว่าซาลาเปาทั่วไป แต่เรื่องรสชาติเราว่าพอใช้นะ ไม่ถึงกับอร่อยเว่อร์จนอยากกินอีก และเนื่องจากแป้งกะไส้ที่แน่นทำให้กินลูกเดียวก็อิ่มแล้วค่ะ ความดีงามของร้านนี้คือ สุ่ยเจียนเปาไส้ลาวาที่เราเคยรีวิวไว้ก่อนหน้านี้ อันนั้นคืออร่อยค่ะ ไส้คัสตาร์ดเยิ้มมาก แนะนำ!…

แวะมากินอาหารเช้าที่เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 1 ร้านนี้ปกติกินแต่เค้ก วันนี้ขอลองเซทเมนูอาหารเช้าซะหน่อย ในเซทประกอบด้วย Egg Benedict และ Hot Latte รวม 185 บาทEgg Benedict อิงลิชมัฟฟินกรอบนิดๆ เบคอนทอด ไข่ดาวน้ำ และซอสฮอลันเดส อร่อยเข้ากัน แต่ถ้ามีผักเพิ่มอีกหน่อยจะดีมากทีเดียว ร้านนี้เสิร์ฟไข่1ฟอง อิ่มแบบกำลังดีค่ะHot Latte กาแฟลาเต้ร้อน ลายหมีน้อย เติมความหวานด้วยน้ำตาลเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมคุกกี้ 1 ชิ้น กาแฟหอมแก้วโต ใช้ได้เลย นั่งประจำโต๊ะ Egg Benedict อร่อยอยากกินอีก กาแฟลาเต้ร้อน เห็นแล้วไม่กล้ากินหมี มื้อเช้าพร้อม มื้อนี้สำคัญกับสุขภาพนะคะ ดื่มหมดแก้ว หมีหายเกลี้ยง ประทับใจกับอาหารมื้อนี้ค่ะ ส่วนราคายังไม่รวม vat & service charge นะคะ เตรียมใจมาได้เลยค่า :)…

วันนี้อยากมาแนะนำเค้กชิ้นโปรดอีกชิ้นหนึ่งที่เราโปรดปรานเป็นที่สุด จากร้าน Mr. Jones Orphanage Milk Bar ปกติจะซื้อกลับบ้านค่ะ แต่ถ้าทานที่ร้านจะได้บรรยากาศมากเลยล่ะ เค้กที่ซื้อมาในวันนี้นั่นก็คือ Red Velvet cake ราคา 120 บาท++ (เค้าคิดค่าชาร์ตเพิ่มเติมราคาเลยขึ้นเป็น 128 บาทค่ะ) เค้กชนิดนี้เป็นเค้กสีแดง รสช็อกโกแลต สลับชั้นด้วยครีมชีสรสเข้มข้นแสนอร่อย ถูกใจคนชอบกินครีมชีสอย่างเราเอามากๆเลยค่า เปิดกล่องออกมาหน้าเค้กแอบเละนิดนึง แต่ว่าไม่กระเทือนต่อรสชาติค่ะ 555  ครีมชีสรสเปรี้ยวเล็กๆ เข้ากันกับเนื้อเค้กฟูนุ่มรสชาติหวาน เค้กยังคงเนื้อที่ฉ่ำเอาไว้อยู่เลยค่ะ สำหรับเราแล้ว Red Velvet cake ที่นี่ยังคงเป็นที่หนึ่งในดวงใจค่ะ เพราะเราชิมมาหลายร้านแล้ว ยังไม่มีที่ไหนที่โดนใจเราเท่าของร้านนี้เลย แต่เรายังไม่ลดความพยายามที่จะหาเร้ดเวลเวทเจ้าอร่อยอื่นๆอีกแน่นอน ถ้ามีจะมาบอกนะคะ…

แวะมาเพิ่มความสดชื่นที่ร้านไอติม Cream & Fudge Gold ชั้น 3สยามพารากอนค่ะ มาทำธุระแถวนี้เลยขอมานั่งพักแพร็บไอติมที่สั่งคือ Strawberry Honey Lemon ราคา 179 บาทค่ะเป็นไอติมซอเบทผัดเปรี้ยวหวาน อร่อยดี กินกับแผ่นวาฟเฟิลเข้ากันดีด้วย ใครที่ไม่ค่อยปลื้มกับไอติมครีมมี่ๆ แนะนำเมนูนี้เลยค่ะร้าน Cream & Fudge สาขานี้ ตั้งอยู่ในส่วนที่คนเดินไม่ค่อยพลุกพล่านมากนักค่ะ นั่งกินได้แบบสบายๆ ไม่เคอะเขินน้องพนักงานก็น่ารัก ถ้าอยากกินไอติมผัดๆแบบนี้ ต้องให้เวลาเค้าผัดหน่อยค่ะ จะไม่ใช่แบบสั่งปุ๊บได้ปั๊บ…

ขนมหวาน 3 คอร์สของร้าน Chikalicious ถือเป็นไฮไลท์เลยค่ะ โดยจะเริ่มจาก Amuse ขนมหวานเรียกน้ำย่อย ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟมาเองค่ะเป็นเซอร์ไพรส์, Choice of dessert ขนมหวานจานหลัก มีให้เลือก 1 อย่าง จาก 5 เมนู และสุดท้าย Petits Fours เป็นขนมหวานของขนมหวานค่ะเก๋มาก จะเป็นขนมชิ้นเล็กๆ3 อย่างที่ทางร้านจัดมาให้ เป็นการปิดท้ายมื้อขนมหวาน รวม 1 คอร์ส 400 บาทค่ะ ถือว่าราคาสูงอยู่เหมือนกันแต่ถ้านึกถึงว่าเราได้นั่งดูการทำขนมสดๆบนบาร์แล้วล่ะก็ ถือว่าคุ้มมากค่ะ เชฟค่อยๆทำทีละจาน ได้เห็นวิธีการตัก การตกแต่งจาน ความพิถีพิถันแล้วประทับใจมากเลย แนะนำว่าให้นั่งตรงบาร์กลางร้าน จะได้เห็นบรรยากาศร้านทั้งหมด เห็นเชฟด้วยมาดูขนมหวานที่เรากินในวันนี้กันค่ะ เริ่มต้นด้วย Amuse เชฟเสิร์ฟให้เราเป็นถ้วยแรก ข้างในคือ พันนาคอตต้ามะพร้าวกับไอศครีมน้อยหน่า เนื้อพันนาคอตต้าทั้งหอมทั้งเนียน อร่อยมาก ส่วนตัวชอบกินพันนาคอตต้าอยู่แล้ว ส่วนไอศครีมน้อยหน่าแปลกและดีมากค่ะ มีเนื้อน้อยหน่าและเข้ากันกับพันนาคอตต้ามาก เปิดตัวขนมเรียกน้ำย่อยด้วยความประทับใจเมนูขนมหวานจานหลักในเมนูมีให้เลือกตั้ง 5 อย่าง ให้เลือกแค่อย่างเดียว แอบเลือกไม่ถูก อยากกินทั้งหมดเลย ซึ่งจริงๆแล้วเราก็สั่งเพิ่มเมนูอื่นๆได้นะคะถ้าอยากกินทุกจาน โดย 2 เมนูแรกเป็นเมนูเด็ดของร้าน ส่วนอีก 3 เมนูทางร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งทั้ง 5 อย่างนี้ ได้แก่Fromage Blanc Island "Cheese Cake" ชีสเค้กสีขาวเนื้อฟูเบา ราดด้วยครีมซอสสีขาวของร้าน รสชาติไม่หวานมาก ได้รสชาติของชีสเต็มๆ เสิร์ฟมาเย็นๆ บนชามน้ำแข็ง จานนี้ถือเป็นจานแนะนำ ซึ่งมาแล้วต้องชิม เราเลยไม่พลาดค่ะWarm Chocolate Tart ทาร์ตช็อกโกแลตอุ่นๆ เสิร์ฟกับไอศครีมพริกไทยสีชมพู และซอสไวน์แดง นี่ก็เป็นอีกเมนูที่เป็นจานแนะนำค่ะ ทาร์ตช็อกโกแลตเค้าจะอบมาให้ก่อนเสิร์ฟ ดังนั้นจึงเยิ้มมากๆ ไอติมที่ทำจากพริกไทยสีชมพูอันนี้อร่อยและเราชอบที่สุดเลยค่ะ มันมีกลิ่นหอมของพริกไทยที่เด่นมากแต่มีรสหวาน กินกับทาร์ตและซอสไวน์แดงแล้วเข้ากันมากเลย ซอสเป็นรสเปรี้ยวอมหวานค่ะเซอร์เบท์รสเบซิล(โหระพา) เสิร์ฟมาในซุปมะพร้าว และวุ้นแมงลัก จานนี้รสอ่อนๆค่ะ ไม่หวาน กลิ่นเบซิลจางๆ ตัวซุปคล้ายๆกะทิเพราะทำจากมะพร้าวแต่ใสกว่า ไม่เลี่ยนค่ะ เพิ่มความสดชื่นได้ไม่น้อย แต่สำหรับเรายังไม่โดดเด่นโดนใจเท่าไหร่พันนาคอตต้าน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟกับเซอร์เบท์ แอปเปิ้ล โรยด้วยถั่วพิสตาชิโอ จานนี้เชฟให้กินทั้ง 3 อย่างรวมกันในคำเดียวค่ะ เข้ากันมากๆ จากนั้นเราก็ลองชิมรสชาติทีละอย่างดู พันนาคอตต้าหวานอ่อนๆ เนื้อเนียน ซอร์เบท์แอปเปิ้ลหวานเปรี้ยวและหอมค่ะ ส่วนถั่วเนี่ยกรุบกรอบ จานนี้กินแล้วก็สนุกไม่เบาค่ะขนมหวานทั้งหมดทั้งมวลในวันนี้เรากินกับชาร้อน เราเลือกเป็นชา Gold Moscato 160 บาท เสิร์ฟมาเป็นกาและแก้ว แก้วที่นี่น่ารักมากๆเลย ชอบๆลูกแพร์ตุ๋นราดซอสชาบายอนกลิ่นเหล้าลูกแพร์ เสิร์ฟกับไอศครีมน้ำผึ้ง-ใบไทม์ ข้างล่างลูกแพร์รองด้วยคาไทฟี่กรอบๆ จานนี้เป็นเมนูใหม่ และเป็นอีกจานที่เราว่ากินสนุก ลูกแพร์ตุ๋นไม่หวานมาก กินกับซอสซึ่งส่วนนี้จะอุ่นๆ กินกับไอติมเย็นๆที่หอมมาก และคาไทฟี่กรอบๆยิ่งเข้ากันสุดๆ จานนี้ก็ชอบและประทับใจมากเช่นกันสุดท้ายคือขนมหวานของขนมหวาน Petits Fours ขนม 3 ชิ้นเล็กๆเสิร์ฟมาพร้อมกันชิ้นที่ 1 มาร์ชเมลโลมะพร้าว เป็นมาร์ชเมลโลที่นุ่มมากเลยค่ะ ไม่หวานมาก ด้านนอกเป็นเกล็ดมะพร้าวชิ้นที่ 2 เป็นแมคคาเดเมียช็อกโกแลต อันนี้อร่อยค่ะ เพราะเป็นการรวมตัวของความอร่อย 2 อย่าง ดาร์คช็อกโกแลต และถั่วแมคคาเดเมียชิ้นที่ 3 เค้กกล้วยท็อปด้วยวิปครีมและถั่ววอลนัท รสชาติที่คุ้นเคยของค้กกล้วยหอม แต่พอวิปด้วยครีมและวอลนัทก็อร่อยเข้ากันไปอีกแบบหนึ่งนอกจากนี้ในเมนูยังมีขนมอย่างหนึ่งที่น่าลองมากๆๆๆๆค่ะ เรียกชื่อว่า Jack Daniel’s Bread Pudding 145 บาท เสิร์ฟอุ่นๆทานกับไอศครีมวานิลลาโฮมเมดของทางร้าน เป็นเบรดพุดดิ้งที่อร่อย ไม่แฉะหรือแห้งเกินไปค่ะ ด้านบนโรยดวยอะไรสักอย่างที่กรุบกรอบ กินแล้วได้หลากหลายสัมผัส แถมไม่เน้นรสหวานเกินไปด้วยค่ะ ก่อนทานก็ราดซอสสีขาวๆลงไปก่อน ทุกอย่างลงตัวมาก เห็นว่าเป็นเมนูที่ลูกค้าหลายคนติดใจด้วยล่ะค่ะ ไม่ผิดหวังเลยอีกเมนูขนมที่ร้านบอกว่าเป็นต้นตำรับ คือ โดซองต์ (Doughssant) ชิ้นละ 95 บาท ที่ร้านมีให้เลือก 6 รสค่ะ โดยมีรสประจำ 5 รส ส่วนอีก 1 รสจะเปลี่ยนไปทุกเดือน ที่เรากินที่ร้านเป็น โดซองต์บรูเล่ โดซองต์ไส้ครีมหวานๆหอมๆ โรยน้ำตาลแล้วก็เบิร์นค่ะ เชฟทำให้ดูต่อหน้าเลย น่ากินสุดๆ ยังมีรสชาติอื่นๆที่นำกลับมาชิม ได้แก่ ชาเขียว โอรีโอ นูเทลล่า และรสชาติใหม่ของเดือนนี้คือ รสมันหวานค่ะ เราชื่นชอบในความกรอบนอกนุ่มในของโดซองต์ที่นี่ค่ะ ทุกชิ้นมีไส้ด้านในและไส้ค่อนข้างเยอะด้วยค่ะ เราชอบ…

ได้ยินชิ่อร้านภักเบเกอรี่มาก็นานค่ะ แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ลองชิมขนมของร้านนี้สักที แต่โชคดีมากที่มีคนใจดีซื้อขนมจากร้านนี้มาฝากค่ะ ซื้อมาให้เยอะด้วยค่ะ แต่มีขนมประมาณ 3 ชนิดได้ มาดูกันว่าขนมที่ได้มามีอะไรบ้างเริ่มจากในกล่องก่อนนะคะ  :) คัสตาร์ดเค้ก ด้านบนของเค้กเป็นเนื้อคัสตาร์ดและคาราเมลหอมๆ ด้านล่างเป็นเค้กเนยนุ่มๆ รสชาติหวานแต่ไม่มาก เข้ากันสุดๆค่ะ เราชอบสคัสตาร์ดแบบนี้ เป็นสีน้ำตาลกำลังดี ดูน่ากิน และที่สำคัญคืออร่อยด้วย บราวนี่ ทางร้านเค้าห่อแร็บมาเป็นชิ้นๆค่ะ ป็นบราวนี่เนื้อแน่น เข้มข้นใช้ได้ ข้างในเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ คนที่ชอบกินบราวนี่หรือชอบกินช็อกโกแลตน่าจะชื่นชอบค่ะ คาราเมลคัสตาร์ด ของที่นี่ถ้วยใหญ่มาก ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ ส่วนตัวแล้วเราชอบกินคัสตาร์ดมากค่ะ ดังนั้นถ้วยนี้จึงฟินมาก แถมยังได้มาหลายถ้วย เนื้อคัสตาร์ดนุ่มแน่น คาราเมลก็หอมอร่อย ชอบมากๆค่ะเสียดายที่ครั้งนี้มีคนซื้อมาให้เราจึงไม่ทราบราคา เอาไว้คราวหน้า ถ้าไปซื้อเองเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ แต่โดยรวมแล้ว รสชาติของเบเกอรี่ร้านนี้เราให้ผ่านเลยล่ะ ดีงามจริงๆ  …

เห็นว่าช่วงนี้สเวนเซ่นส์เพิ่งมีโปรฯใหม่ ไอศครีมทุเรียน ซันเด เลยนึกถึงไอศครีมมะม่วงอกร่องยอดฮิต ที่เรากินเป็นประจำทุกปี เมื่อต้นปีก็ไปโดนมาเช่นกัน เรียกได้ว่าถ้าถึงหน้าร้อนเมื่อไหร่ต้องไปจัดไอติมมะม่วงซันเดให้ได้เลยMango Trio 169 บาทMango Trio 169 บาทถ้วยนี้ประกอบด้วยไอศครีมรสมะม่วง 3 ลูก ข้าวเหนียวใบเตยนุ่มอร่อย วิปครีม และลูกชุบรูปมะม่วง เค้าเสิร์ฟมาร้อมกับซอสที่เป็นเหมือนน้ำกะทิแต่ไม่ใช่น้ำกะทิค่ะ ถ้วยนี้กินด้วยกันกับเพื่อน 2 คนกำลังดีเลยค่ะ อร่อยเหมือนเดิมทุกครั้ง :)…

วันนี้ได้โอกาสนัดกับเพื่อนร่วมก๊วนมากินอาหารกันที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว คิดกันพักใหญ่ๆเลยค่ะว่าจะทานอะไรดี สรุปก็มาตกที่ร้าน Dakkalbi สำหรับเราเป็นครั้งแรกที่มาทานอาหารที่ร้านนี้ค่ะ แต่เพื่อนที่เคยมาทานแล้ว บอกว่าอะไรดีค่ะ เนื่องจากเราสั่งไม่ค่อยเป็น เพื่อนๆเลยจัดการสั่งให้ทั้งหมด เราเลยถ่ายภาพเมนูมาด้วยเล็กน้อย ทำให้บางเมนูเราไม่ทราบราคาอาหารต้องขออภัยค่ะร้านนี้เป็นอาหารเกาหลีแบบผัดกันสดๆต่อหน้าต่อตาค่ะ สั่งเลยว่าจะเป็นคาลบี้เนื้อ หมู ไก่ ทะเล ตามชอบ แล้วยังเลือท็อปปิ้งอื่นๆใส่ลงไปผัดได้ด้วยค่ะ โดยมีพนักงานเป็นคนทำให้ จากนั้นเราก็รับประทานกับผักกาดแก้วที่ให้มาเป็นกะละมัง 555นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่นๆที่สั่งมากินร่วมกัน ได้แก่ซุปกิมจิ 399 บาท มาในหม้อร้อนๆเลยค่ะ ซักพักพนักงานก็มาคีบๆ ตัดๆ ผักในหม้อ เพื่อให้เราทานกันง่ายขึ้น รสชาติถือว่าอร่อยเข้มข้นทีเดียวค่ะ ไม่เป็ดจนเกินไป เราว่าน่าจะเป็นรสชาติที่คนไทยชอบทานกันนะคะพิซซ่าเกาหลีซีฟู้ด (พาจอนหน้าซีฟู้ด) 150 บาท เสิร์ฟมาในกระทะร้อนเช่นกันค่ะ แต่ที่เราเคยกินของเกาหลี มันไม่ใช่แบบนี้นี่หน่า มันฟูไปหน่อย และไม่ค่อยได้รสชาติเกาหลีเท่าไหร่ ส่วนซอสที่ให้มาส่วนตัวเราว่ามันไม่เข้ากันน่ะค่ะ จานนี้เลยไม่ประทับใจเราซุปสาหร่าย ทางร้านเสิร์ฟมาให้ฟรีค่ะ ก็จืดๆแต่ซดคล่องคอดีเหมือนกันแฮะชุดไก่ผัดซอสคาลบี้ 275 บาท อันนี้ถือเป็นเมนูไฮไลท์ของโต๊ะในวันนี้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเราสามารถเลือกเนื้อได้ โต๊ะเราเลือกเป็นชุดเนื้อไก่ค่ะ ในกระทะมีทั้งเนื้อไก่ ซอส เห็ด ผัก มันฝรั่ง แป้งต็อกนอกจากนี้ยังสั่งเพิ่มเป็นข้าวสวย 50 บาท และเส้นรามยอน 60 บาทมาด้วยค่ะ ข้างบนก็จะราดซอสพริกเกาหลีและโรยสาหร่าย พนักงานจะนำมาผัดรวมกันในกระทะด้วยค่ะ อร่อยมาก...พูดเลย!…