วังก์วิเวการาม
ที่มีพระอุโบสถหลังเก่าจมอยู่ใต้น้ำ จึงได้ชื่อว่าวัดใต้น้ำ สังขละบุรี
ทริปนี้นอกจากพาไปชมวัดแล้ว ยังพาไปอิ่มอร่อยกันที่ร้านศรีแดงอีกด้วย ที่จังหวัดกาญจนบุรีนี้มีครบทั้งที่กินและที่เที่ยว เหมาะอย่างยิ่งที่จะพาครอบครัวมาเปิดหูเปิดตา
วัดวังก์วิเวการาม หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดใต้น้ำ สังขละบุรี
พระอุโบสถหลังเก่า วัดวังก์วิเวการาม ในช่วงน้ำลด
ในปี 2496 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างวัดวังก์วิเวการาม ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ช่วงแรกชาวบ้านเรียกวัดวังก์วิเวการามว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ บริเวณนั้นเรียกว่า สามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3 สาย ไหลบรรจบกัน ประกอบด้วย แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี และในปี 2505 กรมการศาสนาอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คืออำเภอวังกะ-สังขละบุรี
พระอุโบสถหลังเก่า วัดวังก์วิเวการาม หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดใต้น้ำ สังขละบุรี
ต่อมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯได้สร้างเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ แล้วน้ำในเขื่อนได้เข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่า รวมไปถึงวัดวังก์วิเวการามเก่า จึงได้ย้ายวัดวังก์วิเวการามมาอยู่บนเนินเขาในปัจจุบัน และในปี 2546 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดให้พระอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ (Unseen Thailand) พระอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำจึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดใต้น้ำ สังขละบุรี หรือเมืองบาดาล
วัดวังก์วิเวการาม หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดใต้น้ำ สังขละบุรี
เจดีย์พุทธคยาจำลอง อยู่ภายในบริเวณวัดวังก์วิเวการาม
ที่ตั้งปัจจุบัน วัดวังก์วิเวการาม อยู่เลยจากตัวอำเภอสังขละบุรี ประมาณ 6 กิโลเมตร ภายในวัดยังเป็นที่ตั้งประดิษฐานสังขารของพระราชอุดมมงคลฯ หลวงพ่ออุตตมะ บรรจุในปราสาทเก้ายอดรูปแบบสถาปัตยกรรมมอญ บริเวณวัดประกอบด้วย วิหารพระหินอ่อน อุโบสถ และเจดีย์พุทธคยาจำลอง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งคือ สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกสร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ
สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ
ทั้งนี้ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา กิจกรรม การแสดงต่างๆ เช่น การแข่งขันชกมวยคาดเชือก การรำแบบมอญ และการรำตงของชาวกะเหรี่ยง ภายในจะได้พบกับผู้คนที่แต่งกายตามแบบวัฒนธรรมของชาวไทยรามัญ จัดเตรียมสำรับอาหารทูนบนศีรษะไปถวายพระสงฆ์ที่วัด
วัดใต้น้ำ สังขละบุรี Unseen Thailand ที่คนไทยต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง
ตามต่อความอร่อยที่ร้านศรีแดง>> Unseen Thailand กับวัดใต้น้ำ สังขละบุรี แล้วไปอิ่มอร่อยกันต่อที่ร้านศรีแดง (ที่ชิม)
เครดิต: th.aectourismthai.com, tiewpakklang.com และ thai-tour.com