วิดีโอ
เดิน 1-นาที จาก สถานี BTS อโศก ทางออก 1
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
095-365-8842
02-108-0947 (104)
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ครอบครัว ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
10:00 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
10:00 - 22:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
วันนี้จะพาไปกินบุฟเฟต์ (อีกแล้ว 555) แต่เป็นบุฟเฟต์อาหารไทยกันบ้างนะคะ ซึ่งเป็นร้านบุฟเฟต์ในเครือสีฟ้าค่ะ กับร้าน BlueSpice นั่นเองงงง โดยพีอาร์ทางร้านเป็นคนเชิญไปนะคะ ซึ่งร้านนี้ก็จะอยู่ที่ชั้นหก ของเทอร์มินัล 21 นะคะสำหรับท่านใดที่ขับรถมา ก็จอดที่อาคารจอดรถด้านหลังนะคะ เราว่าซองจอดที่นี่แคบง่ะ (เราจอดชั้น 1) ขนาดจอดแบบให้ซ้ายขวาเหลือเท่ากันพอดี ยังต้องตะแคงตัวออกเลย ฮือๆ ส่วนบัตรจอดรถสามารถนำไปสแกนได้นะคะ แต่ก็มีจำนวนชั่วโมงอยู่ว่าได้กี่ชั่วโมงค่ะขึ้นไปที่ชั้นหก ร้านนี้จะอยู่ตรงโซนด้านหน้าฝั่งถนนสุขุมวิท ใกล้กับบันไดเลื่อนด้านหน้าห้างนะคะ โซนเดียวกับแมนฮัตตันฟิชมาร์เก็ตอะค่ะดูจากหน้าร้าน ตอนแรกเหมือนจะเป็นร้านเล็กๆ เลยค่ะ แต่พอเดินเข้าไปข้างใน โหหห กว้างมากเลย โซนด้านในจะเชื่อมกับรร.เซนเตอร์พอยท์ด้วยนะคะ ถ้าท่านใดพักรร.ก็สามารถกดมาที่ชั้น 5 เพื่อมาที่ห้องอาหารนี้ได้เช่นกันค่ะ สำหรับราคาจะเป็น 520 บาทเน็ตนะคะ นั่งรับประทานได้ 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ แต่ที่จริงเค้าก็ไม่ได้ฟิกซ์มากหรอกค่ะ ถ้าห้องอาหารยังเปิดอยู่ก็นั่งได้ตลอด สำหรับเวลาในการรับประทานอาหารนะคะ รายละเอียดก็ตามนี้เลยฮับจันทร์ถึงศุกร์มื้อกลางวัน 12.00-14.30 น. (ราคา 485 บาทต่อคน)มื้อเย็น 18.00-22.00 น. (ราคา 520 บาทต่อคน)เสาร์ อาทิตย์และวันหยุดAll Day Buffet 12.00-22.00 น. (ราคา 520 บาทต่อคน)สำหรับกรณีที่ไปกันเยอะๆ ตอนนี้มีโปรโมชั่นคือ Hot Table อร่อยยกโต๊ะ (จำกัด 4 ท่านต่อโต๊ะ) ราคา 1560 บาทเน็ต (ตกคนละ 390 บาทเองค่ะ) ทุกวัน ทุกช่วงเวลา โปรฯ นี้ถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้เท่านั้นนะคะโทร. 02-1080947-8 ต่อ 104เป็นห้องอาหารที่มีห้องน้ำอยู่ในตัวด้วยนะเอ้า มาดูไลน์อาหารกันค่ะ ตรงโซนด้านหน้าจะมีแค่สองไลน์ก่อนนะคะ ก็จะเป็นไลน์เมี่ยงคำ (ไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่เลยค่ะ) กับสลัดนะคะจากนั้นก็ไปที่โต๊ะกันก่อนค่ะ วันนั้นเราได้นั่งด้านใน ฝั่งที่จะเห็นถนนอโศกน่ะค่ะ บนโต๊ะจะมีเบอร์โต๊ะสำหรับกรณีที่เราจะเอาไปให้ตามสเตชั่นต่างๆ ทำอาหารให้นะคะไปดูที่ไลน์อาหารหลักกันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรบ้างนะคะzone แรกจะเป็นพวกซูชิทั้งหลายค่ะ มีให้เลือกหลายอย่างอยู่นะคะส่วนใครที่ชอบซีฟู้ด หรือโปรดกับแซลม่อนซาชิมิ (ซึ่งขอบอกว่าแซลม่อนซาชิมิที่นี่เด็ดนะคะ ชิ้นหนาใหญ่ ถ้าชอบแซ่บก็กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดของที่นี่ซึ่งรสชาติดีมากค่ะ) ก็ที่หัวไลน์ตรงกลางนี้เลยนะคะต่อไปเป็นพวกเมนูอาหารอื่นๆ ที่ไลน์นะคะ ก็ได้แก่ ยำไก่ยอ น้ำพริกพร้อมผักสดและของแนม (วันนั้นมีสามน้ำพริกค่ะ คือ หลนเต้าเจี้ยว น้ำพริกลงเรือ และน้ำพริกกุ้งสด) ตัวพวกเมนูต่างๆ นี่ก็มีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะคะ เพราะฉะนั้นถ้ามาสองครั้งอาจจะเจอเมนูไม่เหมือนกันค่ะ ส่วนที่หัวของไลน์กลางอีกฝั่งจะเป็นสลัดนะคะ ซึ่งเก๋ตรงที่มีที่ให้คลุกเองด้วยค่ะ อิอิ ถัดจากสลัดก็จะเป็นพิซซ่าและติ่มซำนะคะต่อไปมาดูรอบนอกกันบ้างค่ะ เป็นอาหารคาวก่อนแล้วกันเนาะคะข้าวจะมีทั้งข้าวกล้องและข้าวสวย อาหารวันนั้นก็จะมีผักกาดขาวเจี๋ยนเห็ดหอม หมูผัดขิง หัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ๊ว ปอเปี๊ยะทอด ไก่ห่อใบเตย ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน ไก่เหล้าแดง ไข่เจียวหมูสับ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายค่ะก่อนจะไปดูของหวาน ขอพาไปดูตามสเตชั่นต่างๆ ก่อนแล้วกันนะคะสเตชั่นแรกเป็นส้มตำ (ที่ตำเองได้ด้วยนะเอ้า) แล้วก็ข้าวเหนียวหมูย่างค่ะต่อไปเป็นสเตชั่นชาบูค่ะ โดยเราสามารถเลือกวัตถุดิบแล้วให้พ่อครัวทำให้นะคะ (อย่าลืมเอาเบอร์ที่โต๊ะไปให้นะคะ)สเตชั่นต่อไปนี่เป็นรวมมิตร พร้อมอาหารอีกสองอย่างคือ ไก่ผัดซอสบาร์บีคิว กับผักสามสีอบชีสค่ะ ส่วนสเตชั่นนี่ก็รับทำทั้งเสต็กแซลมอน หมู ไก่ ผัดไทย และพาสต้าต่างๆ นะคะ สั่งได้ตรงนี้หมดเลยฮับใกล้ๆ กันจะเป็นไลน์ขนมปังและซุปเห็ดค่ะสำหรับเครื่องดื่ม ก็รวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้วค่ะ ละลานตา มีให้เลือกทั้งร้อนและเย็นเลย ตัวเย็นนี่ชาเย็นอร่อยมากนะคะ หรือถ้าใครชอบแนวน้ำสมุนไพร น้ำมะตูมก็ดีค่ะ น้ำเก็กฮวยกับตะไคร้ก็มีนะคะได้เวลาไปดูไลน์ของหวานกันบ้างแล้วค่าาา มีทั้งแบบไทยและเวสเทิร์นเลยนะคะส่วนแรกจะเป็นพวกเครื่องเคราที่สามารถจะกินแบบน้ำแข็งไส หรือใส่เป็นเครื่องของไอศกรีมก็ได้นะคะ ตอนแรกเป็นกะทิกับช็อกโกแลต ตอนหลังช็อกโกแลตหมดก็เปลี่ยนเป็นวานิลลาค่ะต่อไปเป็นเวสเทิร์นกันบ้างค่ะ ก็มีทั้งเค้ก และมูสหละนะคะขนมไทยๆ ก็มีทั้งวุ้น ลูกชุบ ทองหยิบ ฯลฯ รวมทั้งสาคูเปียกก็มีนะคะนอกจากนั้นยังมีเครื่องทำแพนเค้กด้วยนะคะส่วนสายสุขภาพก็มีผลไม้ให้ค่าาาก่อนจะไปดูว่าวันนั้นเราได้ชิมอะไรบ้าง เอาที่เพื่อนร่วมโต๊ะได้ชิมมาแปะก่อนแล้วกันนะคะ จะได้เห็นหน้าตา บางเมนูนี่ก็คือทางห้องอาหารเซ็ตอัพมาให้นะฮับมาดูกันค่ะว่าวันนั้นได้กินอะไรกันไปบ้างนะคะแซลม่อนซาชิมิ อย่างที่บอกว่าเป็นของเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ที่หลายรีวิวก็แนะนำว่าห้ามพลาดค่ะ ที่นี่จะเป็นชิ้นหนาๆ ใหญ่ๆ เลย ซึ่งถ้าใครชอบสายแซ่บก็แนะนำให้กินโดยการราดน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบชุ่มๆ นะคะ มันฟินมากกกกก / ส่วนเสต็กแซลม่อนก็ดีงามค่ะ ทำค่อนข้างสุกน่ะนะ แต่เนื้อไม่แห้ง (ที่จริงสั่งแบบสุกน้อยกว่านี้ก็น่าจะได้ค่ะ แต่เราไม่ได้สั่งแหะๆ) / ลาบแซลม่อนนี่คือดีงามมาก รสชาติจัดจ้านค่ะ อร่อยเลยแหละ / เมี่ยงแซลม่อน แปลกดีนะคะ เราไม่เคยกินเมี่ยงใส่แซลมอนมาก่อน ซึ่งเราว่าไม่ใส่แซลม่อนก็ยังอร่อยค่ะ แต่ถ้าใครชอบก็ใส่หละนะคะของหวานเราลองไอศกรีมกับขนมไทยค่ะ ขนมไทยที่นี่ไม่เด่นมากนะคะ ไม่ว้าวแต่ก็ไม่แย่ แต่ไอศกรีมนี่คือดีงามมากอ้ะ อร่อยทั้งสองตัวเลยค่ะ ตัวกะทิมีเนื้อมะพร้าวอยู่ด้วยนะคะ ช็อกโกแลตก็เข้มข้นเลยแหละ ส่วนผลไม้นี่โอเคนะคะ สับปะรดไม่เปรี้ยว ดีอยู่ค่ะสรุปสำหรับที่นี่นะคะกับราคา 520 net บุฟเฟต์มีตัวเลือกขนาดนี้เราว่าคุ้มอยู่ง่ะ แล้วการอยู่ในห้างก็ทำให้สะดวกเรื่องการเดินทาง (มีที่จอดรถสำหรับคนเอารถไป และมี BTS สำหรับคนที่ไม่เอารถไป) ด้วยน่ะค่ะ ตัวร้านกว้างขวางที่นั่งเยอะ (ผิดกับภาพที่เห็นจากหน้าร้านโดยสิ้นเชิง 555) และกับเวลา 2.30 ชั่วโมงนี่ (แถมไม่ได้สตริ๊คเวลาอีก) เราถือว่าคุ้มหละค่ะ ถ้าใครอยากหาบุฟเฟต์แนวๆ นี้กิน ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่หนึ่งนะคะ
อ่านต่อ
มีโอกาสมาทานอาหารที่ร้าน bluspine แห่งนี้ค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่บน terminal 21 ชั้น 5 เป็นแบบบุฟเฟ่ต์โดยเรามาทานมื้อกลางวันค่ะ ไม่ได้จองมาก่อนเลยได้นั่งด้านใน ไม่เห็นวิวค่ะ แต่ก็ไม่อะไรเพราะไม่ได้จองก่อนเอง 😂 อาหารที่นี่มีหลากหลายมากค่ะ ทั้งอาหารไทย เช่น น้ำพริกผักสด แกงต่างๆที่ชอบที่สุดคือ พล่าแซลมอนค่ะ อร่อยมาก เราเดินไปตักหลายรอบมาก อิอิ แนะนำเลยค่ะ แซ่บ จัดจ้าน อาหารจีนพวกติ่มซำ ขนมกุ่ยช่าย อันนี้แข็งไปหน่อยค่ะ อาหารญี่ปุ่น พวกซูชิ ซาซึมิต่างๆ คำใหญ่ดี แซลมอนสดค่ะ มีซุ้มสปาเกตตี้พิซว่าด้วยแต่ไม่ได้ลอง อันนี้ทำกันสดๆเลยค่ะ โดยรวมชอบค่ะ พนักงานบริการโอเค เก็บจานเร็ว อ่อ! ลืมบอกโซนขนมหวานถูกใจมากค่ะ มูสเค้กอร่อยมาก มีขนมไทยด้วยหลากหลายมากค่ะ
อ่านต่อ
blue spice ร้านอาหารบนโรงแรม grande centre point hotel ที่terminal 21 สามารถเดินทางสะดวก มาด้วยรถไฟฟ้าลงสถานี terminal21 ตั้งอยุ่บนห้างชั้น 5 ร้านอาหารใหญ่ จัดโต๊ะดูโปร่ง โล่งสบาย อาหารมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ มีกุ้ง แซลม่อน และหอยแมลงภู่ ขนมหวานมีทั้งขนมไทย เค้ก แพนเค้ก ไอศกรีม และเมื่อเป็นมื้อเย็นจะมี chocolate fondue ด้วย แต่ถ้าจ่ายราคาเต็มหัวละ 720 บาท ถือว่าไม่คุ้มกับไลน์อาหาร แต่ร้านนี้มีโปร 1แถม1 และโปรบัตรเครดิตบ่อย
อ่านต่อ
Blue Spice เป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของห้าง Terminal 21 ติดกับร้าน Jeffer หรือก็คือใกล้กับรูปปั้นรางวัลออสก้าค่ะ การเดินทางมาได้ไม่ยากด้วยการนั่งรถไฟฟ้าลงสถานีอโศก หรือนั่ง MRT ลงสถานีสุขุมวิท ซึ่งสถานีทั้งสองอยู่ใกล้กับห้างมากๆ เลยค่ะ ...ร้านนี้เป็นร้านในเครือของสีฟ้า เป็นร้านอาหารที่จัดให้มีบุฟเฟต์ในวันธรรมดาวันละสองรอบก็คือมื้อเที่ยงเวลา 12.00 -14.30 น. และมื้อค่ำเวลา 18.00 - 22.00 น. ส่วนกรณีวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดจะเปิดยาวตั้งแต่เที่ยงจนถึงสี่ทุ่มราคาบุฟเฟต์แตกต่างกันตามช่วงเวลา บุฟเฟ่ต์กลางวันราคา 465 บาทเน็ท ส่วนมื้อค่ำราคาจะแพงกว่านิดหน่อย คือ 495 บาทเน็ท และช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนทางร้านกำลังจัดโปรโมชั่น “Hot Table อร่อยยกโต๊ะ” จำกัด 4 คนต่อโต๊ะ ในราคา 1,440 บาทเน็ททุกวัน ทุกช่วงเวลาอยู่ด้วยค่ะ อันนี้แนะนำให้โทรศัพท์จองโต๊ะก่อนนะคะ ยิ่งเป็นวันหยุดแล้วคนค่อนข้างเยอะมากเลยค่ะเรามาลองร้านนี้สองครั้งแล้วค่ะ โทรศัพท์จองโต๊ะก่อนทั้งสองครั้ง ซึ่งทางร้านก็จะจัดโต๊ะริมหน้าต่างที่เห็นวิวสุขุมวิทแบบกว้างไกลไว้ให้ เรียกว่าบรรยากาศดีเลยทีเดียวสำหรับไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันที่เรามาทั้งสองครั้งนั้น อาหารไทย อาหารอิตาเลียนและเมนูขนมจะแตกต่างกันค่ะ ส่วนเมนูปลาแซลม่อนดิบ ปูอัด พิซซ่า ขนมจีบและบรรดาขนมปังยังเหมือนเดิมสเตชั่นอาหารไทย...มุมนี้แนะนำมากๆ ค่ะ เราว่าที่นี่ทำอาหารไทยได้ดี วัตถุดิบคุณภาพดีมากพอสมควรเลยค่ะ ที่ประทับใจเห็นจะเป็นแกงซี่โครง คือไม่รู้ว่าแกงอะไร แต่อร่อยม๊ากกกกกค่ะ ฮ่าๆ และเมี่ยงคำปลาแซลม่อนค่ะ ปลาแซลม่อนทอดกรอบนำมาห่อกับใบชะพลูและเครื่องเมี่ยงคำ ดีงามสุดๆ แต่สเตชั่นตรงนี้เมนูอื่นๆ เราชิมอย่างละนิดละหน่อยนะคะ กลัวอิ่ม ฮ่าๆสเตชั่นอาหารอิตาเลียน ครั้งแรกไปเจอลาซานญ่าค่ะ รสชาติโอเค แต่ที่ชอบมากกว่าก็คือพิซซ่า เค้าจะทำสองหน้า และมีเครื่องปรุงพวกซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ออริกาโน่ และพริกไว้ให้เคียงกันตรงสเตชั่น และบริเวณติดกันเป็นขนมจีบและฮะเก๋าค่ะ ขนมจีบนี่แป้งเยอะไปหน่อยค่ะ ไม่ปลื้ม นอกนั้นยังมีบรรดาเกี๊ยวซ่าและอาหารจีนอื่นๆ อยู่ใกล้กัน มีอาหารที่ให้แม่ครัวทำให้ด้วยค่ะ อ่ะ ลืมบอกไปค่ะ ตรงนี้มีมุมพาสต้าด้วยตัดไปยังมุมสลัด มุมขนมปังและชีส ขอสารภาพว่าไม่ได้แตะเลยค่ะ เพราะเรามีมุมที่น่าสนใจกว่ารอเราอยู่ นั่นก็คือมุมกุ้งต้ม ปูอัด ซูชิ แซลม่อนซาซิมิ ตรงนี้น่าสนใจสุดๆ และผู้คนก็มารุมล้อมบริเวณนี้ตลอดเวลาค่ะ แซลม่อนสดดี ส่วนกุ้งก็เนื้อแน่นและสด เนื้อหวานดีค่ะ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านใช้ได้ อยากจะแนะนำว่าใครมากินอาหารที่นี่ให้นำเอาทิชชู่เปียกมาด้วยค่ะ เผื่อแกะกุ้งแล้วมือเลอะ ฮ่าๆ ...แต่อันที่จริงแล้วในนี้มีห้องน้ำในตัวเลยนะคะ มือเลอะปุ๊บ เข้าห้องน้ำไปล้างได้เลยโดยไม่ต้องออกนอกห้องอาหารเลยค่ะถัดไปก็จะเป็นสเตชั่นของหวาน อันนี้เรียกว่าละลานตาค่ะ ของหวานตกแต่งสวยงามเรียงรายกันตามความยาวของโต๊ะ ทั้งเค้ก ขนมไทยเป็นชิ้น ขนมไทยแบบน้ำๆ ไอศกรีม และแพนเค้กแบบใช้เครื่องอัตโนมัติทำ โดยส่วนตัวแล้วชอบไอศกรีมของที่นี่ค่ะ ส่วนขนมหวานยังรสชาติเฉยๆ ...แพนเค้กที่นี่เค้าให้ทำเอง โดยแค่กดๆ เครื่องแล้วรอให้แพนเค้กออกมาค่ะ สนุกดี ได้แพนเค้กแล้วไปตักไอศกรีมมากินคู่กันนี่เข้ากันดีเลยแหละ ...ข้างเครื่องแพนเค้กจะมีบรรดาผลไม้วางเรียงรายไว้ให้ตักด้วยค่ะสำหรับน้ำดื่ม น้ำดื่มของที่นี่เน้นน้ำสมุนไพรค่ะ มีทั้งกระเจี๊ยบ มะตูม ตะไคร้ น้ำเปล่า ชาจีน กาแฟให้เลือกดื่มได้ตามใจชอบ ราคาค่าน้ำรวมไว้ในบุฟเฟ่ต์แล้วค่ะ นับว่าคุ้มเลยทีเดียวสำหรับเราแล้วร้านนี้เป็นร้านที่เหมาะจะมานั่งกินอาหารจริงจังค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินอาหารไทยเพราะเค้าทำได้รสชาติค่อนข้างจัดจ้าน และคนที่ชอบกินปลาแซลม่อน แซลม่อนที่นี่สดดีและอร่อยค่ะ ส่วนเรื่องการบริการ พนักงานบริการรวดเร็วดีค่ะ เผลอแป๊บเดียว แก้ว จานนี่ถูกเก็บเรียบตลอดๆ
อ่านต่อ
ฮาโหลๆ วันนี้ชนกขอมาส่งต่อความอร่อยให้พี่ๆ เพื่อนๆ ที่รักการทานอาหารกันเหมือนเดิมคะ แต่วันนี้มาในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์จ้า ต้องออกตัวก่อนเลยว่าห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ที่จัดได้ว่า ราคาเบา ทุกระดับเอื้อมถึงได้จริงๆห้องอาหารนี้มีนามว่า Blue Spice เครือเดียวกับ สีฟ้า See fah ที่มีสโลแกนว่า นึกถึงสีฟ้าเวลาหิว อิอิที่ตั้ง : ห้องอาหารนี้สามารถเข้าได้ 2 ทางนะค่ะ ตั้งอยู่ชั้น 5 ของ Terminal 21 เดินมาจากชั้น 5 ของห้างได้เลย จุดสังเกตคือ อยู่ติดกับร้านไก่ทอด Bonchon นะจ้ะ แต่หากท่านใดที่มาจากโรงแรม ก็กดลิฟท์จากชั้น Lobby ของโรงแรม Grand Centre Point ขึ้นมาชั้น 5 ได้เลยคะ ทั้ง 2 ฝั่ง จะมีพนักงานสาวสวย หน้าตาน่ารักคอยต้อนรับอย่างเป็นกันเองอยู่คะเวลาเปิด-ปิด ของห้องอาหาร : แบ่งเป็น 2 ช่วงนะค่ะวัน จ-ศLunch Buffet 12.00-14.30 น. ราคาอยู่ที่ท่านละ 465 บาทDinner Buffet 18.00-21.30 น. ราคาท่านละ 495 บาท Net นะจ้ะสำหรับวันเสาร์-อาทิตย์Lunch Buffet 12.00-14.30 น. และ Dinner Buffet 18.00-21.30 น. ราคาท่านละ 495 บาท Net นะจ้ะราคาทั้งสองรอบเท่ากันนะค่ะแนะนำว่าหากต้องการไปทานกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว จองโต๊ะก่อนจะดีมากคะ เพราะว่าทางร้านโต๊ะเต็มทั้งนั้นเลย เอิร์นไปถึงตอน18.10 นาที ซึ่งวันนั้นเป็นวันพุธด้วยคะ หันไปทางไหนก็มีแต่โต๊ะจองค่ะ ดีว่าไปคนเดียวเลยนั่งทานตรงไหนก็ได้คะ สำหรับเบอร์จองนะค่ะ 02-681-9000 ต่อ 4440ต้องบอกก่อนว่า ประทับใจตั้งแต่หน้าร้านเลย เพราะพนักงานต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พูดจาสุภาพไพเราะยิ้มแย้ม เดินเข้าในห้องอาหารพบกับความหรูดูดี เรียบง่าย ไม่ใหญ่มาก แต่วิวด้านข้างสวยคะ แต่อย่างที่กล่าวไปว่า ไม่ได้จองล่วงหน้า เพราะฉะนั้นนั่งอยู่มุมๆ เลยคะ มาพูดถึงไลน์อาหารกันดีกว่าคะเมื่อเดินเข้าไปจะพบ โซนของซาชิมิ จุดแรก เป็นแซลม่อน ปูอัด รวมถึง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และถัดไปจะเป็นมุมซูชิ เทมปุระรวม ส่วนอีกฝั่งจะเป็นจำพวกยำ และขนมปังชีส- มุมซ้ายมือใกล้เคียงกับโซนซาชิมิ เป็นอาหารไทยๆ กับข้าว ที่มีให้เลือกประมาณ 10 อย่างได้คะ หน้าตาน่ารับประทานทั้งนั้นเลย- ส่วนทางโซนมุมขวาติดกระจกเป็นโซนของ ของหวาน ที่มีตั้งแต่ขนมไทย ผลไม้ ไอศกรีม รวมถึงแพนเค้ก และเค้กที่หลากหลาย ให้เลือกแบบจุใจจริงๆ- ขยับเข้ามาทางโซนด้านในจะเป็นมุมพาสต้าคะ มีซอสให้เลือกเยอะมาก ๆ เลือกไม่ถูกเลยจะทานอะไรดี เพราะไม่ว่าจะเป็นซอสแบบไหนก็พาให้น้ำลายหกมาก- ส่วนด้านถัดเข้าไปข้างในจากพาสต้าเป็นมุมของชาบู มีเครื่องผักและเนื้อชนิดต่าง ๆ ให้ได้เลือกและนั่งรอทานอร่อยๆ ที่โต๊ะได้เลย มุมถัดไปนิ๊สนึงเป็นพิซซ่าเตาถ่าน หืมมม ต้องหยิบๆ รวมถึงติ่มซำ ในตู้เรียงรายให้เลือกรับประทานสำหรับวันนี้เอิร์นไปคนเดียวแต่ขอบอกทานเยอะมาก เพราะไม่มีเพื่อนคอยช่วยชิม 555 มาดูความรู้สึกแต่ละเมนูเลยดีกว่าคะ- Salmon Sashimi เมนูนี้จะถูกออกมาเรื่อย ๆ โดยใส่จานไว้ จานละ 3 ชิ้นหนาๆ โดยี่พนักงานจะคอยนำออกมา แต่อย่าหวังว่าจะได้วางนานนะค่ะ เพราะไม่ถึง 5 นาทีเจ้าแซลม่อนก็จะหายไปเหมือนโดดเสกคะ ต้องบอกเลยว่า ปลาที่นี่ชิ้นหนามาและสดใช้ได้เลย ทานไปไม่เยอะมากคะ เพราะหยิบไม่ทันที่พี่นำออกมาเติม แต่ต้องขอชื่นชมว่า มีการเดินออกมาเติมตลอด ไม่ให้ลูกค้ารอนาน- กุ้งต้ม ในส่วนของกุ้ง จัดว่าทานเยอะเลยคะ เพราว่ามีมาวางไว้ตลอดๆ กุ้งเนื้อหวาน อร่อย มากๆ หลงใหลเลยคะ ปอกง่าย- หอยแมลงภู่ตัวใหญ่สด ไม่มีกลิ่นคาว- พาสต้าเอิร์นลองสั่งพาสต้ารวมซอสฟักทอง เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเลี่ยนๆ คะ ส่วนอีกจานเอิร์นสั่งเส้นหมึกดำซอสบีทรูท เป็นอีกเมนูที่เหมาะมากสำหรับท่านที่ไม่ชอบทานอะไรที่มันๆ เลี่ยนๆ เมนูนี้ลองดูเป็นอีกตัวเลือกนึงนะค่ะ- พิซซ่า อร่อยยยอะ ขนาดตอนที่ท่านไม่ได้ร้อนมาก แป้งทำออกมาได้ดีเลยคะ กรอบ หอมชีส ถ้าร้อนกว่านี้จะดีมาก- ส่วนของอาหารไทย เลือกตักเป็นแกงส้มคะ รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดเกินไป รสออกเปรี้ยวๆ หวานๆ จัดว่าเป็นรสที่ชอบอยู่แล้วคะพอทานไปเรื่อยๆ เดินผ่านของหวานก็หลายรอบ อดใจไม่ไหว ก็จัดแพนเค้กเลย สำหรับที่นี่มีเครื่องอัตโนมัติ กดและรอเพียง 2 นาทีก็จะได้ แพนเค้กหอมกรุ่น พร้อมทอปปิ้งมากมายให้เลือกตักทานได้อย่างสบายใจการบริการ : ต้องบอกเลยว่า สิ่งที่ประทับใจมาก คือการบริการของที่นี่คะ มีการอบรมและคัดเลือกพนักงานมาอย่างดี บริการดีทุกคนจริงๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส คอยเก็บจานตลอด บริการดีกว่าโรงแรมหลาย ๆ ที่คะ โดยเมื่อเทียบกับราคาแล้วจัดว่า ที่นี่การบริการนี่ล้ำจริงคะ พนักงานน่ารัก ใส่ใจลูกค้าดีมากสรุป สำหรับร้านนี้เอิร์นว่าเป็นอีกร้านที่เหมาะที่จะนัดเพื่อนๆ มาทานข้าวเย็นเพราะว่าราคาถูกและ อาหารอร่อย บรรยากาศดี พนักงานน่ารัก หลายๆ อย่างค่อนข้างลงตัว เลยคะ ลองมองร้านนี้เป็นอีกตัวเลือกนะค่ะ รับรองไม่ผิดหวังคะ
อ่านต่อ