5
0
0
เบอร์โทร.
02-003-6266
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:00 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 22:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
1 ปี 1 ครั้งกับโปรโมชั่นประจำปีของร้านซึ่งปีนี้ตกช่วงกินเจพอดี แต่เนื่องด้วยครอบครัวเราไม่มีใครกินเจสักคนเลยมาฉลองที่นี่กันค่ะร้านสาขานี้ดูหรูหรากว่าสาขาอื่นๆ โต๊ะกลมแบบโต๊ะจีน พนักงานใส่กี่เพ้า ทุกอย่างดูแดงและทองเมนูบางส่วนค่ะเครื่องดื่ม ชาเย็นรีฟิวกับน้ำเปล่าเป็ดย่างโฟร์ซีซั่น 1 ตัว สั่งข้าวเปล่าต่างหาก ข้าวนุ่มอร่อย เป็ดเนื้อหนารสเข้ม น้ำราดออกรสหวานเค็ม กินคู่กับพริกดอง กับพริกเผาอร่อยเด็ดค่ะ ส่วนซอสพริกนี่จัดว่าธรรมดาไปนิดเกี๊ยวกุ้งราดซอสน้ำแดง อันนี้มาผิดจากในรูปเมนูมาก จากรูปเกี๊ยวชิ้นใหญ่ในซอสขลุกขลิก กลายมาเป็นเกี๊ยวตัวเล็กในชามแบบชามก๋วยเตี๋ยว น้ำซอสท่วมเหมือนน้ำแกงได้ไงเนี่ย แต่รสชาติอร่อยดีอยู่ค่ะ เกี๊ยวกุ้งล้วนเด้งๆในซอสรสเผ็ดร้อนนิดๆกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี ให้สามผ่านค่ะร้านมีของหวานด้วยแต่พวกเราเริ่มเลี่ยนเป็ดแล้วค่ะ เลยย้ายร้านไปร้านอื่นต่อดีกว่าค่ะ
อ่านต่อ
Four Seasons ...ร้านอาหารจีนชื่อดังจาก London เจ้าของสูตรเป็ดย่างที่เคยได้รับการยกย่องจากนิตยสารFinancial Times ว่าเป็น “The best roast duck in the world” นั้น ตอนนี้ไม่ต้องบินไปไกลถึงลอนดอนก็มีมาเปิดสาขาในกรุงเทพฯให้ได้ลองกันง่ายๆแล้ว ได้จังหวะฤกษ์งามยามดี คนไม่แน่น คิวไม่ยาว ก็เลยขอมาลองพิสูจน์รสชาติเป็ดย่างร้านในตำนานนี้ดูซักทีที่สาขา EmQuartier นี่เองค่ะ**-บรรยากาศ-**ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ของอาคาร Helix ห้าง EmQuartier มีจุดสังเกตที่เด่นชัดที่สุดคือบรรดาเป็ดย่างที่แขวนโชว์ให้เห็นผ่านกระจกหน้าร้าน ภายในร้านนั้นกว้างขวางใหญ่โต ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์ภัตตาคารจีนแต่ก็แฝงความโก้หรูแบบโมเดิร์นไว้อย่างลงตัว โดยมีทั้งบริเวณ outdoor และ indoor ให้เลือกนั่งกันตามชอบค่ะ**-เมนูที่ได้ลอง-**● เป็ดย่างโฟร์ซีซั่น (ทั้งตัว 1,220 บาท / ครึ่งตัว 670 บาท / จาน 390 บาท)ว่ากันว่าเป็ดย่างสไตล์ของโฟร์ซีซั่นนี้ Chef Seppi Renggli ซึ่งเป็นผู้คิดค้นสูตรขึ้นนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูเป็ดปักกิ่งนั่นเอง จึงได้คิดค้นกรรมวิธีย่างเป็ดที่ทำให้ได้ความอร่อยจากเนื้อเป็ดหนาๆนุ่มฉ่ำผสมผสานกับหนังเป็ดกรอบๆออกรสหวานเล็กน้อยสไตล์เดียวกับเป็ดปักกิ่ง โดยมีการนำเป็ดไปผ่านกระบวนการ dehydrate ให้หนังด้านนอกแห้ง แล้วนำไปหมักกับเครื่องเทศและสมุนไพรผสมกับน้ำส้มสายชูและ Maltose Syrup ตามสูตรเฉพาะของทางร้าน ส่วนเตาที่ใช้ย่างก็ต้องเป็นแบบพิเศษที่ให้ความร้อนได้สม่ำเสมอเท่ากันทั่วทั้งตัวเป็ด ซับซ้อนไม่ใช่เล่นเลยล่ะ..ครั้งนี้เราสั่งแบบเป็นจานไป เป็ดย่างเสิร์ฟมาอุ่นๆ ราดน้ำซอสที่มีรสของซีอิ๊วแฝงอยู่ รสชาติค่อนข้างติดหวานปนเค็ม แต่ก็อร่อยแบบเป็นเอกลักษณ์ดี คือไม่เหมือนที่อื่นน่ะค่ะ เนื้อเป็ดของที่นี่ทั้งหนา-นุ่ม-และแน่น ส่วนหนังเป็ดนั้นด้านนอกจะแห้งกรอบคล้ายเป็ดปักกิ่ง แต่ด้านในก็ยังเป็นชั้นของหนังหนาๆฉ่ำๆให้เห็นอยู่ เมนูนี้ทางร้านเน้นว่าต้องทานตอนอุ่นๆร้อนๆนี่ล่ะถึงจะฟินที่สุด เพราะถ้าทิ้งไว้นานโดนซอส โดนอากาศ หนังเป็ดด้านนอกจะหายกรอบทำให้หมดอร่อยนะคะ สำหรับเครื่องจิ้มที่เคียงมาจะเป็นน้ำมันพริกคล้ายๆน้ำพริกเผา ให้รสเผ็ดที่สมดุลกันดีกับความหวานของเป็ดค่ะ จานนี้บอกได้เลยว่าเอร็ดอร่อยดีงามสมกับชื่อเสียง ..สำหรับเราแล้วชอบมากๆค่ะ ฟินเลยยย... แต่ต้องเตือนนิดว่าถ้าใครเป็นคนไม่ทานรสหวาน ไม่ชอบหนังเป็ดที่ยังเป็นชั้นหนาๆ หรือคุ้นเคยกับเป็ดย่างสไตล์ที่ย่างหนังแห้งสนิทลีบติดไปกับเนื้อ ก็อาจจะบ่นว่าเป็ดของที่นี่เลี่ยนได้นะ● ซุปใสทะเลรวม (ราคา 170 บาท) –เมนูนี้สั่งไปเพราะอยากให้มื้อนี้มีซุปไว้จิบคล่องๆคอบ้าง ตอนจะสั่งแอบนึกสงสัยว่าทำไมราคามันดูเป็นมิตรกว่าเมนูอื่นๆมากมาย พอมาเสิร์ฟเลยถึงบางอ้อ เพราะมันมาเป็นถ้วยเล็กๆแบบกะให้กินคนเดียว ไม่ได้จะให้แชร์กันน่ะค่ะ รสชาติน้ำซุปของที่นี่นั้นกลมกล่อมถูกใจจริงๆ กุ้ง-ปลาหมึก-หอยเชลล์ที่ใส่มาให้ก็สดอร่อย ปลื้มเลย..● กุ้งสดราดซอสรสเผ็ด (ราคา 480 บาท) – จานนี้เป็นอะไรที่ทานลำบากไม่ใช่น้อย เพราะกุ้งที่ให้มาจะตัวกลางๆไม่ใหญ่มาก และมีเปลือกติดมาแบบครบถ้วนหัวจรดหางทุกตัว ซอสผัดจะมีรสเผ็ดแนวๆเดียวกับน้ำพริกเผา ผัดรวนมาทั้งกุ้ง พริกหยวก และพริกแห้ง ในแง่รสชาติเราว่ายังไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ คือมีเผ็ดนำ (แต่ไม่เผ็ดมากแบบอาหารไทยนะคะ) เค็มตามมาห่างๆ โดยรวมคือพอใช้ได้ แต่ไม่โดดเด่นเท่าสองเมนูแรกน่ะค่ะ**-การบริการ-**การบริการที่นี่เป็นไปแบบเรียบง่ายว่องไวสไตล์ร้านอาหารจีนทั่วไป พนักงานก็ทำงานตามขั้นตอนตามหน้าที่แบบไม่คิดเยอะ อย่างเราไปถึงมีวางจาน-ถ้วย-ตะเกียบให้ตามสเต็ป พอสั่งเมนูกุ้งสดราดซอสเผ็ดซึ่งเสิร์ฟมาแบบไม่แกะเปลือกกุ้งก็ไม่ได้มีการเอาช้อนส้อมมาให้ (เพราะมันไม่ได้อยู่ในขั้นตอนทำงานปกติของเค้ามั้ง) แต่พอขอก็รีบไปหยิบมาให้ไม่อิดออด หน้าไม่บึ้ง ไม่หงุดหงิด กิริยาวาจาสุภาพดีตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้แสดง service mind ใดๆให้ประทับใจเป็นพิเศษ จัดว่ากลางๆไม่มีอะไรให้ติดใจค่ะโดยรวมแล้วกับการมาลองครั้งนี้เมนูห้ามพลาดแบบเป็ดย่างนั้นทำออกมาได้ดีสมราคาทีเดียว บรรยากาศในร้านก็โอ่โถงนั่งสบาย จะมาทานกันเป็นคู่ หรือจัดมื้อใหญ่กันทั้งครอบครัวก็เหมาะ ถ้าใครยังไม่ได้ลองก็น่าแวะมาชิมรสชาติเป็ดย่างสูตรของร้านระดับตำนานนี้ดูซักมื้อนะคะ
อ่านต่อ
Four Seasons ร้านอาหารจีนชื่อดังจากกรุงลอนดอนที่ผมเชื่อว่าพอพูดชื่อปุ๊ป สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือเป็ดย่างอันเลื่องชื่อที่หลายๆคนนั้นใฝ่ฝันและอยากจะไปลองทานมันดูสักครั้งว่ามันอร่อยขนาดนั้นเลยจริงหรือเปล่า จริงๆแล้วร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เป็ดย่างครับ เพราะว่าร้านนี้นั้นเป็นร้านอาหารจีนที่มีเมนูให้เลือกสั่งทานเยอะมาก ทุกเมนูจากที่ผมเคยได้ลองทานมานั้นก็อร่อยถูกปากไม่แพ้กับเป็ดเลยเช่นกันครับผมเองเคยทานร้านนี้ตั้งแต่สมัยอยู่ลอนดอน ติดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทานจนไปลอนดอนกี่ครั้ง หรือเพื่อนมาเที่ยวกี่ครั้งก็ต้องพามาทานที่ร้านนี้ให้ได้ และสิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันเลยก็คือ เป็ดมันอร่อยสมชื่อจริงๆครับ ขนาดผมซึ่งเป็นคนที่ถ้ามีใครมาบอกว่าอร่อย ผมก็จะตั้งความหวังไว้สูงก่อนทาน แล้วก็มักจะผิดหวังอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับเป็ดร้านนี้ต่อให้ตั้งความหวังไว้สูงแค่ไหน ยังไงมันก็อร่อยยิ่งกว่าที่คาดไว้จริงๆครับสารภาพเลยครับว่าตั้งแต่ร้านนี้มาเปิดสาขาที่เมืองไทยเมื่อสี่ปีก่อน ผมนั้นไม่เคยเข้าไปลองทานดูเลย ทั้งๆที่มีหลายคนนั้นบอกว่ามาเหมือนเป๊ะ อร่อยเท่าเทียม สูสี ทานเสร็จต้องบอกเลยว่าเหมือนมาก ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงครับ แค่ได้กินเป็ดของทางร้านวันนี้ก็หลับฝันดีแล้วครับ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ของห้าง EmQuartier อยู่ติดกับร้าน Le Dalat อยู่หน้าบันไดเลื่อนพอดี ขึ้นมาแล้วเจอร้านนี้ทันทีครับ ร้านอยู่ในตึก Helix Quartier ตึกด้านซ้ายมือฝั่งที่ด้านล่างเป็นร้าน Prada ครับวิธีการเดินทางมายังห้างนี้มาได้หลายวิธีครับไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีพร้อมพงษ์แล้วเดินทางเชื่อมเข้ามายังห้างได้เลย หรือไม่ก็ขับรถมาก็สะดวกเช่นกัน เพราะตัวห้างมีที่จอดรถแบบ Automatic ไว้ให้ลูกค้าลองเล่นของใหม่กันด้วย จอดได้สะดวกสบายครับร้านนี้ตั้งอยู่ในโซน Helix Quartier ดังนั้นการันตีได้ในเรื่องของบรรยากาศครับว่าดีแน่นอน ร้านนี้ตกแต่งได้สวยกว่าร้านที่ลอนดอนด้วยซ้ำ ฮ่าๆ หรูหรา ด้านในมีที่นั่งค่อนข้างเยอะเลยครับ มีทั้งด้านในร้าน (ติดแอร์) แล้วก็ด้านนอก (outdoor) ที่สามารถชมวิวย่านสุขุมวิทจากมุมสูงได้เลย แต่ละโต๊ะนั้นมีอุปกรณ์ในการทานวางไว้ให้พร้อม ขาดตกอะไรไปก็ขอจากพนักงานได้เลยครับลูกค้าที่มาทานในร้านไม่ค่อยเยอะเท่าไรครับ คงเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาด้วย แต่ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดละก็รับรองแน่นร้านแน่ๆครับ การบริการของพนักงานนั้นทำได้สุภาพสมกับความเป็นร้านหรูเลยครับ พนักงานเอาใจใส่ลูกค้าดีมาก ตั้งแต่การมารับออเดอร์ มีการบอกถึงโปรโมชั่น แล้วก็คอยสอบถามอาหารอยู่ตลอดว่าโอเคหรือไม่ อาหารนั้นก็มาเสิร์ฟไม่ช้ามากเกินไปด้วยครับ ถือว่าประทับใจมากๆครับร้านนี้เป็นร้านอาหารจีนที่มีเมนูชูโรงเป็ดย่าง เค้าบอกกันว่าใครเข้ามาถึงร้านนี้แล้วไม่ได้สั่งเป็ดย่างทานนั้นถือว่ายังไม่ได้มาทานถึงร้านนี้ครับRoast Duck (1,220 บาท)- เป็ดย่างของทางร้านนั้นหนังกรอบ เนื้อนุ่มมากครับ น้ำราดนั้นมาแบบเค็มๆเหมือนทานที่ลอนดอนเป๊ะๆจริงจัง ต่างกันอย่างเดียวก็ตรงที่เนื้อเป็ดที่นี่มันไม่ได้ชุ่มฉ่ำมันเยิ้มเหมือนที่ลอนดอนสักเท่าไร ที่นั่นนี่เค้าเลี้ยงเป็ดอยู่ในฟาร์มปิด อากาศบ้านเค้าดี เป็ดเลยตัวใหญ่อวบ หนังก็จะเต็มไปด้วยไขมันที่เยอะกว่า ย่างมากรอบๆนี่อร่อยสุดยอดไปเลยครับ สำหรับที่นี่ความมันอาจจะไม่เท่า แต่ส่วนอื่นบอกได้เลยว่าเหมือนเป๊ะถูกต้องทุกประการ ความอร่อยนั้นให้เต็มสิบเลยครับ (5/5)Deep Fried Squid (280 บาท)- เมนูนี้เป็นปลาหมึกคั่วพริกเกลือ อีกหนึ่งเมนูที่ไปทานที่ลอนดอนแล้วต้องสั่ง ทางร้านที่นี่ทำออกมาได้อร่อยเช่นกันครับ ปลาหมึกนั้นทอดมาร้อนๆ นำไปผัดกับพริกและเกลือออกมากลมกล่อม เผ็ดๆเค็มๆมันๆ ทานแล้วกรุบๆเพลินๆครับ (4/5)Pineapple Fried Rice (280 บาท)- เมนูนี้เป็นข้าวอบสัปปะรด ทางร้านเสิร์ฟมาในสัปปะรดลูกโต เปิดฝาออกมาดูน่าทานมากๆครับ ข้าวอบของทางร้านนั้นใส่มาให้ทั้งเนื้อไก่ สัปปะรด แครอท เม็ดมะม่วง แล้วก็ถั่ว ทางร้านใช้วิธีการอบข้าวตัวนี้มา รสชาติมันเลยค่อนข้างจะแตกต่างกับข้าวผัดสัปปะรดแบบไทยๆที่เราเคยทานมาอยู่พอสมควรครับ ผมได้ลองทานแล้วเลยยังรู้สึกค่อนข้างเฉยๆกับเมนูนี้ครับ ถือว่าเอาข้าวมาทานกับเป็ดย่างได้อร่อยไปอีกแบบนึงครับ (3/5) หลังจากทานเสร็จต้องบอกเลยว่าอร่อยฟินมากๆครับ รสชาติดี เหมือนทานที่ลอนดอน ถ้าชอบเป็ดย่างละก็ ทานเป็ดร้านนี้รับรองว่าลืมเป็ดที่เคยทานมาทั้งหมดแน่นอนครับ
อ่านต่อ
ได้ข่าวมานานละว่ามีร้านเป็ดย่าง Four Seasons จากลอนดอนมาเปิดสาขาที่เมืองไทย แต่ว่าก็ไม่เคยได้ไปกินซะที เพราะรู้สึกว่าราคาแพงเหลือเกิน จากที่อ่านๆ รีวิวของหลายๆ คนมา คราวที่แวะมาเดินเล่นที่ EmQuartier เห็นว่ามาเปิดสาขาที่นี่ก็เลยลองแวะชิมดูหน่อยละกันไหนๆ มาร้านเป็ดย่างทั้งทีก็ต้องสั่งเป็ดสิ เป็ดที่นี่มีให้เลือกตั้งแต่เป็นจานๆละ 390 บาทครึ่งตัว 670 บาทและทั้งตัว 1,220 บาท หลังจากดูราคาแล้ว ก็ตัดสินใจว่า เอาแค่มาชิมก็พอ เลยสั่งแบบเป็นจานมาพวกติ่มซำก็มี ราคาเริ่มต้นที่ 130 บาท เอิ่ม !!! จะแพงไปไหนเนี่ย ผ่านละกันอาวุธพร้อมผ้าเย็นสำหรับเช็ดมือบรรดาน้ำจิ้มทั้งหลายแหล่ชาจีนเย็นๆ มาแล้วจ้า หอมดีทีเดียวมาแล้วเป็ดย่าง Four Seasons จานเล็ก เนื้อเป็ดนุ่มอร่อยดีทีเดียว หนังเป็ดก็อร่อยราดหน้ากุ้งคะน้าฮ่องกง เป็นเส้นใหญ่ใส่ไข่ กุ้งก็ตัวใหญ่ทีเดียว รสชาติก็กลมกล่อม อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเลยทีเดียวสรุปรสชาติ อร่อยดีทีเดียว สมคำร่ำลือราคา แพงเลย ไม่รวม Vat และ SC บริการ ดีทีเดียว
อ่านต่อ
เป็ดย่างโฟร์ซีซัน มีต้นกำเนิดจากร้านเล็ก ๆ ในย่าน Queensway, London ประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.1990 ที่ได้รับการันตีจาก Financial Times ว่าเป็นเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดในโลก เป็ดที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ตัวเป็ดจะทำให้แห้งก่อนผ่านการหมักด้วยเครื่องเทศและสมุนไพร ผ่านการย่างด้วยเตาพิเศษที่ทำให้หนังเป็ดกรอบและเป็นสีทองเราเคยลองชิมเป็ดย่างโฟร์ซีซันครั้งแรกในย่านลอนดอน เป็ดย่างอร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ ติดใจ จนเมื่อมีสาขาในเมืองไทย จึงได้มาลองที่สาขา The Emquatier ซึ่งอยู่ส่วนอาคาร Helix ชั้น 7 สำหรับสาขานี้ตกแต่งแบบสไตล์จีน เพดานสูงโปร่ง เลือกสั่งเมนูเด็ดของร้านเป็ดย่างครึ่งตัว (670 บาท) เป็ดย่างหนังกรอบ เนื้อหนานุ่ม น้ำราดออกเค็มรสชาติกลมกล่อมขนมปังหน้ากุ้ง (170 บาท) ขนมปังราดหน้ากุ้งทอดกรอบ โรยดวยเกล็ดขนมปัง หอมกลิ่นกุ้งคะน้าผัดน้ำมันหอย (210 บาท) ผักคะน้าสดกรอบ ราดด้วยซอสน้ำมันหอยรสเข้ม หมี่ซั่ว (260 บาท) หมี่ผัดกับกุ้ง ปลาหมึก หอยเชลล์ สด หอม อร่อยดี
อ่านต่อ