วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-08-20
27 วิว
หลังจากที่ห่างหายไปนานกับการทานของหวานอร่อยๆ ผึ้งน้อยก็ได้ชักชวนเพื่อนกินสายแข็งไปหาของอร่อยทานกันที่ถนนข้าวสาร แม้จะใกล้ถิ่นเก่าสมัยเป็นนักเรียนมัธยมก็ไม่ค่อยจะได้เดินถนนข้าวสารซักเท่าไหร่ สรุปว่าการไปครั้งนี้ได้ฟีลแปลกใหม่จริงจังร้านเป้าหมายคราวนี้คือ The Fabulous ร้านขนมเค้กแสนสวยที่ผึ้งน้อยเคยเห็นในอินเตอร์เน็ท...มาคราวนี้จะได้สัมผัสของจริงกันล่ะค่ะจอดรถในวัดชนะสงคราม (ค่าบำรุงวัดชั่วโมงละ 10 บาท หาที่จอดค่อนข้างยากและถนนในวันแคบมาก มีจุดวัดใจหลายจุด ขับรถไม่แข็งไม่แนะนำให้จอดที่นี่ค่ะ) จากนั้นก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะถึงถนนข้าวสารอย่างง่ายดายเดินเข้ามาจากปากทางแค่ไม่เท่าไหร่ สังเกตมหกรรมป้ายทางทิศ 2 นาฬิกา (พูด
ร้านเป้าหมายคราวนี้คือ The Fabulous ร้านขนมเค้กแสนสวยที่ผึ้งน้อยเคยเห็นในอินเตอร์เน็ท...มาคราวนี้จะได้สัมผัสของจริงกันล่ะค่ะ
จอดรถในวัดชนะสงคราม (ค่าบำรุงวัดชั่วโมงละ 10 บาท หาที่จอดค่อนข้างยากและถนนในวันแคบมาก มีจุดวัดใจหลายจุด ขับรถไม่แข็งไม่แนะนำให้จอดที่นี่ค่ะ) จากนั้นก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะถึงถนนข้าวสารอย่างง่ายดาย
เดินเข้ามาจากปากทางแค่ไม่เท่าไหร่ สังเกตมหกรรมป้ายทางทิศ 2 นาฬิกา (พูดง่ายๆว่ามองเฉียงขึ้นไปทางขวามือนั่นแหละค่ะ ^^ พอดีว่าภาพนี้ถ่ายตอนเดินเลยป้ายมาทางหน้าซอยแล้วเลยจะเหมือนว่าป้ายอยู่ทางซ้ายมือ) อาศัยมองหาป้ายร้าน “ต้มยำกุ้ง” จะง่ายสุดเพราะป้ายใหญ่เด่นชัดกว่าป้ายร้าน The Fabulous ค่ะ (ป้ายร้านเป้าหมายเราก็อยู่ถัดลงมาด้านล่าง แต่มองไม่ค่อยเห็น)
เดินผ่านซอกเล็กๆเข้ามาจะพบกับเว้งกว้างที่รายล้อมด้วยร้านอาหาร แต่ตัวตึกที่สะดุดตาที่สุดก็ขอยกให้กับตึกสไตล์ยุโรปทางด้านซ้ายมือที่ตกแต่งภายนอกให้ดูเป็นตึกไม้สีเข้ม ตัดกับเถาใบเมเปิ้ลสีส้มและสีแดง ด้านหน้ายังมีสวนย่อมเล็กที่ประดับประดาด้วยดอกไม้และนกน้อย
ด้านซ้ายของตัวอาคารเป็นทางเข้าตัวร้าน ผ่านหุ้นกระป๋องที่ทำจากถึงกาแฟ illy เลียบกำแพงสีสดทางซ้าย ตรงไปยังประตูเข้าตัวร้านทางขวามือ มีที่นั่ง Outdoor แบบเรียบๆสำหรับลูกค้าที่สูบบุหรี่แต่ไม่น่าจะเน้นเท่าไหร่เพราะมีแค่โต๊ะเดียว ...มีน้องแมวน่ารักเป็นรีเซฟชั่นขาจรด้วย ^^ภายนอกงดงาม ภายในตระการตา จะว่าแบบนี้ก็คงไม่ผิดนัก เพราะทันทีที่ก้าวผ่านประตูเข้ามา ก็จะพบกับสารพัดมุมสวยๆสไตล์คลาสสิกในบรรยากาศเย็นตาที่ตกแต่งต่างๆกันไปแต่เข้ากันได้อย่างลงตัว พื้นเล่นระดับด้วยบันไดเตี้ยๆช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับแต่ละโต๊ะ
ส่วนของชั้น 2 ที่ยังไม่เปิดบริการในตอนนี้ แต่ผึ้งน้อยขอขึ้นไปดูก็สวยงามไม่แพ้กัน
มาดูเมนูกันเลยค่ะ …เมนูก็ตั้งใจออกแบบมาอย่างดี เข้ากับร้านมากๆถึงจะมีไม่เยอะแต่ก็น่าทานทั้งนั้น ราคาบางตัวจะแอบแรงนิดแต่ถือว่าเป็นค่าบรรยากาศงามๆค่ะ
สองเมนูแรกนี้เลือกมาจากตู้โชว์เค้ก ส่วนพวกเมนูที่มีลูกเล่นหรือต้องใช้เวลาก็ออร์เดอร์เอาจากเมนูค่ะBanoffee (100 บาท)
Tiramisu (100 บาท)
Banoffee จัดว่าอร่อยกลมกล่อมเลยทีเดียวเพราะมีความหวานที่ไม่มากเกินไปลนเลี่ยน ครีมเนื้อเนียนรสเบาๆทานง่าย ติดตรงที่ว่ากล้วยออกจะดิบไปซักหน่อยเลยขาดความหวานหอมตามธรรมชาติอันเป็นจุดเด่นของกล้วยไปTiramisu ตัวนี้รสค่อนข้างอ่อน มีรสเหล้าคาลัวร์เล็กน้อยมากจนแทบไม่รู้สึก แต่น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบรสชาดเบาๆค่ะ มีช้อนไม้มาให้ใช้ต่างหากด้วย (ช้อนที่ได้ตอนแรกเป็นช้อนโลหะด้ามย้าวยาววววว เหมาะกับโต๊ะเตี้ยๆเป็นอย่างมากเพราะไม่ต้องก้มเยอะ ^^)
ถัดมาเป็นเมนูสุดโปรดที่ไม่ว่าจะไปร้านไหนก็ต้องขอลอง
Chocolate Satin (140 บาท)
ซึ่งเมนูนี้ก็คือ Choc Lava นั่นเองค่ะ เสิร์ฟคู่กับวิปปิ้งครีม อัลมอนด์สไลซ์ แอปเปิล และไอศครีมวานิลา (น่าเสียดายที่มีไอศครีมรสเดียว เพราะปกติผึ้งน้อยไม่นิยมทานวานิลาซักเท่าไหร่) เห็นชอคโกแลตเยิ้มๆแล้วใจละลาย รสที่ไม่หวานเกินไปกับเนื้อเค้กทีนุ่มกำลังดี ให้ต่ออีก 3 จานก็ยังไหวค่ะ
ทางด้านถั่วอัลมอนด์สไลซ์ก็ใส่ให้มาเต็มที่ เป็นที่ปลาบปลื้มของคุณเพื่อนที่รักถั่วเป็นชีวิตจิตใจยิ่งนัก
ทีแรกว่าจะออร์เดอร์เมนูแนะนำของทางร้าน แต่ปรากฏว่าของหมด สุดท้ายเลยวนกลับมาจัดเมนูนี้อีกรอบค่ะ สรุปว่าเฉพาะ Chocolate Satin อย่างเดียวก็ 2 จานเข้าไปแล้วค่ะ (วันนี้มากัน 3 กระเพาะเองน้าาาา)
ที่แรกทางร้านแนะนำเมนูโทสต์ให้ค่ะ แต่วันนี้พวกเราตั้งใจว่าจะไปทานพิซซ่ากันต่อเลยยังไม่ได้ลองโทสต์ เอาไว้โอกาสหน้าจะมาลองใหม่ให้ครบค่ะ ^^
เมนูสุดท้ายของครั้งนี้ Affogato (120 บาท)
รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายๆไอศครีมพาเฟ่ต์ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ต่างกันนักเพราะส่วนประกอบของถ้ายนี้คือ ไอศครีมวานิลา กับกาแฟเอสเปรสโซ่ ที่ท๊อปด้วยวิปปิ้งครีม อัลมอนด์และแอปเปิลปกติกาแฟโฟลตที่เคยทานจะใช้กาแฟเย็นซึ่งหวานอยู่แล้วมาทานกับไอศครีมที่หวานอีกจนเป็นความหวานที่ชวนให้ค่าน้ำตาลในเลือดพุ่งกระฉูด แต่พอมาเป็นกาแฟเข้มกับไอศครีมแล้ว นอกจากความเข้มของกาแฟตัดกับรสหวานของไอศครีม ในขณะเดียวกันก็ทานด้วยกันได้อย่างอร่อยลงตัว
หลังจากอิ่มอร่อยกับของหวานเป็นที่เรียบร้อย ทางร้านก็มาสอบถามความเห็นกันตรงๆเลยไม่ต้องผ่านใบสอบถาม ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าของร้านเองหรือจะเป็นผู้จัดการร้านที่มาคุย ท้ายสุดก็แนะนำว่ามีร้านสาขาอยู่ที่เซ็นทรัลบางนาด้วย (แต่โดยส่วนตัวแล้วผึ้งน้อยอยากมาร้านนี้มากกว่าเพราะบรรยากาศสุดงามนี้ล่ะค่ะ ^^)
สรุปความปลาบปลื้มในวันนี้กันก่อนจะไปต่อที่ร้านพิซซ่านะคะ ^^
บรรยากาศ – สวยงามอย่างที่ได้บรรยายไปตอนต้นค่ะ แต่บรรยายไปคงไม่เท่ามาสัมผัสเองแน่ๆ อ้อ...สำหรับคนที่มองหาที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ร้านนี้เหมาะอย่างยิ่งค่ะ
การบริการ – จัดว่าเป็นบริการที่น่ารักและน่าประทับใจค่ะ ถ้าไม่นับเรื่องที่ไม่ค่อยเก็บจานกลับไป (ปกติเค้าคงไม่ออร์เดอร์กันเยอะขนาดจานเต็มโต๊ะอย่างก๊วนผึ้งน้อยล่ะมั้ง 555)
รสชาด – เป็นของหวานที่ไม่หวานเว่อร์ เป็นความหวานที่ทานง่าย และไม่หนักจนเกินไป ผึ้งน้อยกลับมาทานอีกแน่ๆ (มีแววจะตัวกลมเป็นหมูแล้วสิ ^^’)
โพสต์
