Video
Read full review
2018-04-10
294 views
วันนี้จะพาไปกินอีกร้านที่มีหลากหลายโลเคชั่นนะคะ และเป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่กับสาขานี้นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปกินเลยค่ะกับร้านที่แต่เดิมมีชื่อว่า Brasserie by Water Library แต่กำลังจะเปลี่ยนเป็น Water Library สาขาเดอะคริสตัล เลียบทางด่วนรามอินทรานะคะ เลยขอรีวิวในชื่อใหม่ที่จะเปลี่ยนนี้เลยแล้วกันเนาะ แฮร่...สำหรับพิกัดของเดอะคริสตัล เลียบด่วนรามอินทรา ถ้าไปจากทางพระรามเก้า ก็วิ่งเลียบด่วนฯ ไป จนเลยเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ไปสักราวเกือบกิโลก็จะเจอเดอะคริสตัลอยู่ทางซ้ายมือค่ะ สามารถใช้กูเกิ้ลแม็พได้นะคะ ที่จอดรถหายากหน่อยแหละค่ะ แหะๆ แต่ข้อดีคือ จอดฟรีนะคะตัวร้านอาหารวอเตอร์ไลบรารี่จะอยู่ตรงโซนที่เรียกว่า Veranda
สำหรับพิกัดของเดอะคริสตัล เลียบด่วนรามอินทรา ถ้าไปจากทางพระรามเก้า ก็วิ่งเลียบด่วนฯ ไป จนเลยเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ไปสักราวเกือบกิโลก็จะเจอเดอะคริสตัลอยู่ทางซ้ายมือค่ะ สามารถใช้กูเกิ้ลแม็พได้นะคะ ที่จอดรถหายากหน่อยแหละค่ะ แหะๆ แต่ข้อดีคือ จอดฟรีนะคะ
ตัวร้านอาหารวอเตอร์ไลบรารี่จะอยู่ตรงโซนที่เรียกว่า Veranda ค่ะ (ที่เป็นแนวห้างที่ขายของ) ร้านอยู่ที่ชั้นสองนะคะ ขึ้นบันไดเลื่อนไปมองไปทางซ้ายมือค่ะ
บรรยากาศภายในร้านค่ะ ร้านนี้ก็จะขึ้นชื่อในลักษณะของร้านที่เป็น Fine Dining หละนะคะ แต่ถ้าใครไม่เคยรู้จักมาก่อนมองภายนอกอาจจะเหมือนร้านดื่ม แต่ที่จริงเขาขายอาหารด้วยนะคะ ร้านจะเป็นห้องแอร์ทั้งหมด แต่จะมีส่วนที่เป็นในร้านกับตรงชานที่เป็นเรือนกระจก ซึ่งที่จริงตรงเรือนกระจกนี่ช่วงบ่ายๆ ไม่ควรนั่งเท่าไหร่ เพราะจะร้อนกว่าค่ะ แต่ถ้าชอบถ่ายรูปอาหาร แสงข้างนอกก็จะดีกว่าเช่นกัน
menu ของทางร้านค่ะ ราคาจะค่อนข้างสูง แต่ของที่ได้นี่บอกเลยว่าคุณภาพและปริมาณตามราคาเลยค่ะ
อันดับแรก ขนมปังและเนยโยเกิร์ตมาก่อนเลยค่ะ เนยไม่เลี่ยนดีนะคะ ให้รสเบาๆ ขนมปังเปลือกกรอบมาก เนื้อในนุ่มเหนียวแต่เนื้อจะโปร่งๆ หน่อยค่ะ กินเตรียมลิ้นสำหรับรับรสอาหารอื่นๆ นะคะ
จากนั้นจานแรกก็มาก่อนเลยค่ะ ลาบเนื้อวากิวย่างและไข่แดงออนเซ็น 1490++ บาท
ปริมาณบิ๊กเบิ้มมาก เรากินกันสองคนคือไม่หมดค่ะ ที่จริงจานนี้สี่คนน่าจะกำลังดี
รสชาติจัดจ้านมากกกกกก เวอร์วัง เนื้อนิ่มอร่อย มีความนวลมันนิดๆ ของไข่มาช่วยให้ละมุนขึ้นนิด แต่ก็ยังอร่อยมาก งงเลยว่าร้านนี้ทำอาหารรสชาตินี้ได้ด้วยอ้ะ (อาจจะเพราะที่นี่เป็นเชฟต้นค่ะ) ถูกจริตคนรักอาหารไทยอย่างเรามาก ดีงามค่ะ
อีกหนึ่งเมนูแซ่บเกินคาดค่ะ
สปาเก็ตตี้ซอสแกงปูและไข่คน 690++ บาท
ตัวนี้คือแบบ...แกงปูของทางใต้เลยค่ะ แต่แทนที่จะกินกับเส้นหมี่แบบที่เราคุ้นเคย เอามากินกับสปาเก็ตตี้แทน แซ่บเวอร์วังมากๆ 555 ขนาดมีไข่คนมาช่วยทำให้ละมุนขึ้น ก็ยังแซ่บอยู่ เส้นลวกมาดีมาก อัลดันเต้เลยค่ะ รสชาติทั่วถึงเส้นมากๆ ค่ะ เป็นอีกจานที่ดีงาม และปริมาณ...สำหรับหญิงสาว ควรสั่งมาแล้วเอามาจอยกันค่ะ ถ้ากินคนเดียว อิชั้นว่าจะมิสามารถกินอย่างอื่นเพิ่มต่อได้นะคะ เยอะเกิ๊น (ปริมาณฝาหรั่งกินจริงๆ ค่ะ ร้านนี้)
ต่อไปเป็นเสต็กพอร์คช็อป เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วและมันเทศอบ 580++ บาท
ตัวนี้เสิร์ฟมาสองแบบคือแบบเป็นชิ้นกับให้หั่นมานะคะ (แจ้งพนักงานได้ค่ะ)
ตัวที่เป็นชิ้นใหญ่ ทำมาสุกไปนิด (แต่เรากินแบบหั่น ซึ่งโอเคอยู่ค่ะ) ที่จริงเรากินจานนี้เป็นจานแรก เพราะประเมินแล้วรสน่าจะอ่อนสุด ซึ่ง...คิดถูกค่ะ 555 คนอื่นที่กินจานอื่นก่อนแล้วค่อยมากินจานนี้บอกว่าจานนี้อ่อน แต่ของเราโอเคเลยนะคะ
แล้วน้ำจิ้มแจ่วนี่รสดีมาก มีรสเปรี้ยวละมุนหน่อยของมะขามเปียกด้วย (เดี๋ยวนี้บางร้านไม่ใส่น้ำมะขามเปียกง่ะ) ทำให้ได้กลิ่นและรสที่กำลังดีสำหรับน้ำจิ้มแจ่วค่ะ จิ้มเพลินมาก อร่อย ถ้าสั่งมาพร้อมจานอื่น ก็เชียร์ให้กินจานนี้ก่อนนะคะ
แล้วมันอบนี่ ตัวมันม่วงอร้อยอร่อยค่ะ เนื้อแน่น หวานนิดๆ แบบที่เราชอบเลยอ้ะ ลืมถามว่ามันของไทยหรือของญี่ปุ่นหรือของนำเข้าหรือเปล่า
ซี่โครงแกะย่างซอสกะเพรา และฮอกกี้มันฝรั่ง 990++ บาท
ตัวนี้แกะทำมาไม่สุกเกินไปค่ะ นิ่ม กลิ่นสาบไม่แรง กำลังดีให้มีความเป็นแกะนะคะ แล้วโคตะระเข้ากับซอสกะเพราซึ่งทำมาเข้มข้นมว้ากกกก อร่อยอีกแล้ว (บล็อกเกอร์จากอีกเพจหนึ่งให้คะแนนจานนี้เยอะสุดค่ะ 555)
เรียกว่าสี่จานหลักที่ได้กินนี่ เราถูกจริตหมดนะคะ รสชาติดีจริงๆ เป็นการใช้วัตถุดิบแล้วเอามาผสมผสานกับความเป็นไทยได้ดีเลยค่ะ เข้ากันและอร่อยมากๆ (เคยกินบางที่แบบ...สร้างสรรค์นะ เก๋นะ แต่รสชาติไม่โอนี่ก็ไม่ไหวนะคะ)
โดยทั้งหมดนี้เรากินแกล้มไวน์ตัวนี้นะคะ เลยได้ความรู้จากคุณโอ๊ตว่า เจ้าของร้านนี่เป็นคนเครซี่เรื่องไวน์มาก แบบไปตระเวนชิมนี่ชอบตัวไหน เหมาทั้งล็อตทั้งไร่ค่ะ 555 ตอนแรกที่ดูขาไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอชิม โอเคเลยค่ะ ดื่มง่าย เป็นไวน์เบาๆ คลีนๆ รสดี เหมาะสำหรับอาหารที่เป็นเนื้อแดงทั้งมวลในวันนี้นะคะ
หมดคาวแล้วววว ได้เวลาหวานกันค่าาา
ช็อกโกแลตฟองดอง เสิร์ฟมาพร้อมคาราเมลน้ำปลาสูตรพิเศษ และไอศกรีมวานิลา 290++ บาท
ตัวนี้ที่เก๋คือตัวครีมคาราเมลสูตรน้ำปลานี่แหละค่ะ ได้กลิ่นน้ำปลาอวลแบบเบาๆ นะ ไม่ได้แรงมากค่ะ ให้ความเค็มนิดๆ คนละแบบกับเค็มเกลือ
ตัวช็อกโกแลตฟองดองคือดี ช็อกโกแลตเข้มข้นมากๆ แต่ไม่ขมนะคะ ไอศกรีมวานิลาก็มาช่วยทำให้รสทั้งมวลละมุนขึ้น กินด้วยกันสามอย่างคือพอดีมากค่ะ อร่อยนะคะ
ของหวานตัวที่สองค่ะ ครีมบูเล่มะพร้าวน้ำหอม เสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อนและถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล 290++ บาท
ตัวนี้เสิร์ฟมาในมะพร้าวเลยตามภาพนะคะ รสจะค่อนข้างละมุน อ่อนๆ ถ้าในบรรดาของหวานสามตัวนี่ ควรกินตัวนี้ตัวแรกค่ะ เพราะถ้ากินทีหลังตัวอื่น จะโดนกลบหมดนะคะ ชอบตัวถั่วลิสงเคลือบน้ำตาลมาก อร่อย นอสตราเจียมากๆ ค่ะ มันเป็นถั่วที่เราชอบกินที่สุดตอนเป็นเด็ก (เดี๋ยวนี้หากินย้ากยากอ้ะ)
Highlight สุดของมื้อค่ะ ไปนี่ไม่อยากให้พลาดสำหรับ Durian Lover นะคะ
ซูเฟล่ทุเรียนหมอนทอง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมข้าว 390++ บาท
ตอนมาเสิร์ฟว่าหอมทุเรียนแล้ว พอตักขึ้นมาเท่านั้นแหละ แม่คุณเอ๊ยยยย กลิ่นพุ่งอวลทันที อร่อยมากค่ะ ใครรักทุเรียนชอบเมนูนี้แน่นอน ยิ่งกินกับไอศกรีมข้าว (ที่มีเม็ดข้าวนิ่มกำลังดีอยู่ในไอติมด้วย) จะทำให้รสนวลกลมกล่อมยิ่งขึ้นนะคะ เชียร์สุดๆ สำหรับคนรักทุเรียนค่ะ นี่ยังอยากกินอีก 555
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ
สำหรับเมนูทั้งคาวหวานที่กำลังโปรโมท เราชอบทุกตัวเลย แต่จะมีที่ถูกจริตที่เชียร์สุดๆ อยู่ด้วยนะคะ (อันจะบอกต่อไปตามด้านล่าง) รสชาติที่ปรุงมานี่ไทยสุดๆ ไทยจนเซอร์ไพรซ์เราอ้ะ แซ่บโดนมาก (มิน่าคุณโอ๊ตถึงถามว่ากินเผ็ดได้ไหม 555) ถ้าใครสายแซ่บ แนะนำเลยนะคะ วัตถุดิบดี พนักงานบริการดีมาก ของหวานนี่ใครรักทุเรียนย้ำอีกทีว่าต้องโดนทุเรียนซูเฟล่นะคะ
เมนูแนะนำ : ลาบเนื้อวากิวย่างและไข่แดงออนเซ็น / สปาเก็ตตี้ซอสแกงปูและไข่คน / ซี่โครงแกะย่างซอสกะเพรา และฮอกกี้มันฝรั่ง / ซูเฟล่ทุเรียนหมอนทอง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมข้าว
Post
