Read full review
2016-01-22
818 views
หลังจากได้บัตรเงินสดของร้าน Harrods Tea Room จากสยามพารากอนมาก็ตั้งหน้าตั้งตาใจจดจ่ออยู่ว่าจะไปเมื่อไหร่ดี แล้วก็มีโอกาสได้ไปกินซะทีขอบอกก่อนว่าบัตรเงินสดนี้ได้จากการโพสต์รูปช้างที่มาตั้งอยู่ภายในห้างพารากอนเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการเล่นผ่านอินสตาแกรมของตัวเองแล้วติดแฮชแท็คค่ะ ผู้ที่สามารถโพสต์ได้เร็วที่สุดและถูกต้องตามกติกาที่กำหนด 10 ท่านแรกของแต่ละรอบจะได้รางวัลไปเลยคร่าาา ของเราตามเล่นรอบแรกไม่ทัน รอบสองก็ยังไม่ทัน มาทันรอบสาม เย้! ร้าน Harrods Tea Room ตั้งยู่ที่ชั้น G หรือชั้นที่เป็นโซนของอาหารนั่นแหละค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับธนาคารกสิกรไทย ร้านนี้หาได้ไม่ยาก จะเห็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่กว่าคนตั้งอยู่หน้าร้าน มั่นใจว่าทุกคนที่มาเ
ขอบอกก่อนว่าบัตรเงินสดนี้ได้จากการโพสต์รูปช้างที่มาตั้งอยู่ภายในห้างพารากอนเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการเล่นผ่านอินสตาแกรมของตัวเองแล้วติดแฮชแท็คค่ะ ผู้ที่สามารถโพสต์ได้เร็วที่สุดและถูกต้องตามกติกาที่กำหนด 10 ท่านแรกของแต่ละรอบจะได้รางวัลไปเลยคร่าาา ของเราตามเล่นรอบแรกไม่ทัน รอบสองก็ยังไม่ทัน มาทันรอบสาม เย้!
ร้าน Harrods Tea Room ตั้งยู่ที่ชั้น G หรือชั้นที่เป็นโซนของอาหารนั่นแหละค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับธนาคารกสิกรไทย ร้านนี้หาได้ไม่ยาก จะเห็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่กว่าคนตั้งอยู่หน้าร้าน มั่นใจว่าทุกคนที่มาเดินพารากอนต้องแวะถ่ายรูปกับน้องหมีเหล่านี้ค่ะ อิอิ ที่ร้านจะมีสองชั้นซึ่งมีที่นั่งทั้งชั้นบนและชั้นล่างค่ะ พนักงานที่นี่แต่งตัวเรียบร้อยมากค่ะ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวมีสูทแขนกุ้ดสีดำคลุม ดูสุภาพมากๆเลยค่ะ
วันนั้นที่ไปคนในห้างและในร้านค่อนข้างเยอะ แต่ยังพอมีที่นั่งเหลือบ้าง เราเลยได้ไปนั่งที่ชั้นบนของร้านริมขอบบันไดเลยค่ะ มุมดี ได้นั่งมองข้างล่าง มองคนกิน มองคนเดิน มองอาหารที่พนักงานยกขึ้นมาเสิร์ฟ มองของหวานที่ตั้งอยู่ในตู้ โอ๊ย!!! แค่เห็นยังฟินเลยค่ะ
เมื่อนั่งแล้วพนักงานเอาเมนูมาให้ดู แล้วก็ปล่อยให้เราเลือกได้ตามซาบายยย เราก็เลือกไปถ่ายรูปเล่นไป 555
สักพักก็จะนำขนมปังอะไรสีกอย่างมาเสิร์ฟพร้อมกับเนยจืด กินเล่นๆ ก็เพลินดีอร่อยดีค่ะ
เลือกทานของคาวก่อนก็แล้วกันแล้วค่อยปิดด้วยของหวาน เมนูที่เราเลือกคือ Deluxe fish fillet & chips คือ ปลาค็อดชุบแป้งหมักเบียร์ทอดในสไตล์ของแฮร์รอดส์เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอด ซอสมะเขือเทศ ทาทาร์ซอส ถั่วบดและน้ำส้มสายชูข้าวมอลต์ จานนี้ราคา 490 บาท ปลามาแบบชิ้นเบอเริ่มวางอยู่บนในฝรั่งทอด เนื้อปลามาเน้นๆ เต็มๆคำ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ ส่วนมันฝรั่งทอดก็มาเนื้อๆ ถึงแม้ไม่กรอบแต่อร่อยมากกกกกกก จิ้มกับซอสอาหย่อย โดยเฉพาะทาทาร์ซอส อร่อยมากกกกกก ชอบที่สุด ซอยมะเขือเทศก็ธรรรมดา แต่ที่แปลกคือ ถั่วบดและน้ำส้มสายชูข้าวมอลต์ ถั่วบดน่าจะเป็นถั่วลันเตา ไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไหร่แต่อร่อยค่ะ กินเพลินๆคู่กับเนื้อปลา ฟินค่ะ! ส่วนน้ำส้มสายชูข้าวมอลต์ นี่แปลกๆสำหรับเรา กลิ่นจะออกคล้ายๆเหล้า แต่พอจิ้มแล้วก็ได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบค่ะ แอบเห็นโต๊ะข้างๆ เอาเอาซอสพวกนี้มาผสมกันหมดเลย น่าจะอร่อยดีนะคะ ไม่ทันเห็นก่อนจะได้มาทำบ้าง อิอิ
และอีกเมนูสั่งเป็น Garlic chili tiger prawns & rice เป็นกุ้งลายเสือผัดกระเทียมและพริก เสิร์ฟกับข้าวมันปู จานนี้ราคา 390 บาท จานนี้เหมือนอาหารไทยที่มีข้าวและกับข้าว แต่กุ้งลายเสือผัดกระเทียมและพริกนั้น รสชาติไม่ได้ถูกปากคนไทยค่ะ ออกค่อนข้างจืดสำหรับคนไทยมาก และยิ่งเสิร์ฟมากินกับข้าวนี่ยิ่งจืดเลยค่ะ กุ้งสดมากกกกกก ส่วนข้าวที่เสิร์ฟมาเป็นข้าวมันปู นุ่มกำลังดี อร่อยค่ะ กินเล่นยังอร่อยเลยค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มก็สั่งเป็น Chunky malt vream granite เป็นมอลต์และช็อกโกแลตปั่นสูตรพิเศษ ราคา 190 บาท มาเสิร์ฟในแก้วที่คล้ายๆ แก้วไวน์แก้วเบ้อเริ่มเลย ด้านล่างเป็นมอลต์ ด้านบนเป็นช็อกโกแลตปั่น บนสุดเป็นวิปครีม มีช็อกโกแลต Harrods แผ่นเล็กๆ อยู่ 1 แผ่นและคิทแคทเสียบ 2 ข้าง ข้างละ 1 อัน รสชาติอร่อยไม่หวานจนเกินไป เข้มข้นและกลมกล่อม วิปครีมหอม มัน แต่ไม่เลี่ยน กินแล้วฟิน!!! แต่สำหรับคนที่ชอบกินหวานอย่างเราต้องกินทันทีเพราะหากทิ้งไว้รอจนกินข้างเสร็จแล้วค่อยกินรสจะจืดไปทันทีค่ะ เพราะฉะนั้นต้องรีบกินอย่างฟินๆ ค่ะ 555
และ Harrods signature fruits tea - very berry เป็นชาผลไม้สูตรเฉพาะของแฮร์รอดส์ที่จะใส่น้ำแข็งก้อนกลมใหญ่ 1 ก้อนที่ทำมาจากชา เพื่อให้รสชาติเข้มข้นมากขึ้นค่ะ แต่ที่จริงน้ำแข็งก้อนนี้ก็ไม่ค่อยช่วยอะไรมากหรอกค่ะเพราะมันไม่ละลายเลย!!! เห็นบางโต๊ะดูดน้ำหมดแก้วน้ำแข็งก้อนนี้ยังอยู่เป็นก้อนเบ้อเริ่มอยู่เลยค่ะ 555 แต่ของเรากินแล้วมันเปรี้ยวมากกกกกก อร่อยก็อร่อยอยู่นะคะ แต่เปรี้ยวไป เลยตั้งทิ้งให้มันละลายสักหน่อย แถมใส่น้ำตาลก้อนที่อยู่บนโต๊ะลงอีกสองก้อน ตั้งทิ้งไว้ รอกินข้างเสร็จแล้วมากิน อร่อยเลยค่ะ ทั้งเข้มข้น กลมกล่อม เปรี้ยวนำหวานตาม เย็นๆ ชื่นจายยยยย
จบเมนูที่นั่งทานที่ร้านค่ะ เหลือส่วนของหวานที่หิ้วกลับมาบ้านกินต่อเพราะแค่นั้นที่กินไปอิ่มมาก อิ่มจริงๆ และตัวบัตรนี้ก็ต้องใช่เพียงครั้งเดียว หากเหลือก็คือจบ แหมมมม จบไป ก็เสียดายแย่สิคะ เลยสั่งของหวานหิ้วกลับบ้านดีฟ่าาาาา
สั่งมาได้ตั้งหลายอย่างทั้ง Tiramisu, panna cotta, Two Tone Brownie และ Cheese cake blueberry
แต่เราพลาดไปอย่างนึงคือลืมไปว่าเราไม่มีตู้เย็น ซื้อมากินต่อที่บ้านแต่มันละลายค่ะ
Tiramisu เข้มข้นกาแฟ นุ่มเนื้อครีมได้ความเป็น tiramisu แท้ อร่อยดีค่ะ
panna cotta เปรี้ยวหวานลงตัว เนื้อ panna cotta หวานนุ่มลิ้น กินคู่กับเนื้อและครีมเบอร์รี่ที่เปรี้ยวจัด เข้ากันพอดี เมนูนี้ปลื้มมากกกกกกก
Two Tone Brownie ช็อกโกแลตเข้มข้น หวานพอดี มีเกล็ดช็อกโกแลตอยู่ด้วย ตัวนี้ถ้าเอามาอุ่นด้วยไมโครเวฟยิ่งฟินเลยค่ะ เนื้อนุ่มแทนละลายในปากและเกล็ดช็อกโกแลตละลายได้มาเป็นช็อกโกแลตเยิ้มๆ ฟินค่ะ!!!
และ Cheese cake blueberry เมนูนี่ก็ปลื้ม เนื้อชีสเค้กหวานลงตัว เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น ราดด้วยซอสบลูเบอร์รี่ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น กลมกล่อมลงตัวพอดีค่ะ
บอกเลยมื้อนี้ฟินฝุดๆ พอดีทางพนักงานบอกว่าบิลจะตัดที่ราคา 2,000 บาทไม่ได้ เลยแยกเป็น 2 บิล บิลละ 1,000 บาท มื้อนี่เราจ่ายเพิ่มไป 36 บาท ดีงามมมมมมม
Post
