Read full review
2013-09-06
20 views
สวัสดีค่ะวันนี้จะเป็นการพาไปหม่ำอาหารในโรงแรมกันอีกครั้งนะคะ ซึ่งไปครั้งนี้ก็เป็นการเชิญไปของเว็บโอเพิ่นไรซ์ไทยแลนด์ (อีกแล้ว อิอิ) ค่ะ ซึ่ง OpenRice (Thailand) ก็เป็นเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลและแนะนำร้านอาหาร ที่ปัจจุบันมีให้บริการใน 8 ประเทศทั่วเอเชียได้แก่ ไทย, ฮ่องกง, สิงค์โปร, จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซียและอินเดียนะคะเราเองเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วทำไมไม่เปิดให้ฟากฝั่งประเทศทางยุโรปหรือตะวันตกอื่นๆ บ้างหว่า ก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้ทางผู้ก่อตั้งอยากจะให้พื้นฐานทางเอเชียแน่นหนาแข็งแรงซะก่อนค่ะ ส่วนการไปเปิดตัวในฝั่งตะวันตกนั้นจะทำแน่ๆ ค่ะ แต่ต้องรอให้พร้อมกว่านี้ก่อนนั่นเองเอาหละค่ะ สำหรับการไปกินวันนั้นนะคะ เป็นกา
วันนี้จะเป็นการพาไปหม่ำอาหารในโรงแรมกันอีกครั้งนะคะ ซึ่งไปครั้งนี้ก็เป็นการเชิญไปของเว็บโอเพิ่นไรซ์ไทยแลนด์ (อีกแล้ว อิอิ) ค่ะ ซึ่ง OpenRice (Thailand) ก็เป็นเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลและแนะนำร้านอาหาร ที่ปัจจุบันมีให้บริการใน 8 ประเทศทั่วเอเชียได้แก่ ไทย, ฮ่องกง, สิงค์โปร, จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซียและอินเดียนะคะ
เราเองเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วทำไมไม่เปิดให้ฟากฝั่งประเทศทางยุโรปหรือตะวันตกอื่นๆ บ้างหว่า ก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้ทางผู้ก่อตั้งอยากจะให้พื้นฐานทางเอเชียแน่นหนาแข็งแรงซะก่อนค่ะ ส่วนการไปเปิดตัวในฝั่งตะวันตกนั้นจะทำแน่ๆ ค่ะ แต่ต้องรอให้พร้อมกว่านี้ก่อนนั่นเอง
ลักษณะการกินของวันนั้นจะเป็น Taste and Share Plates ค่ะ คือทางห้องอาหารจะจัดอาหารมา แล้วก็มาแชร์กันจานหนึ่งประมาณ 2-3 ท่านหละค่ะ
ลักษณะของอาหารที่นี่จะเป็นสไตล์ fusion food นะคะ เป็นอาหารแบบร่วมสมัย ซึ่งจะให้รสชาติดั้งเดิมผสมผสานกับสมัยใหม่ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ ส่วนจะฟิวชั่นแค่ไหนอย่างไร เดี๋ยวจะว่ากันต่อในลำดับต่อไปนะฮ้าบบ
เราขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นแปดก่อนค่ะ เปิดเข้าไปก็จะเจอกับชั้นวางไวน์ต่างๆ ตามภาพก่อนเลย ชอบมากๆ อ้ะ สวยเก๋ซ้า.. แอร๊ยส์
คนที่ไปด้วยซึ่งชอบฟังเพลงมากบอกว่าที่นี่เปิดเพลงดี (ส่วนอิชั้นพวกที่ฟังเพลงแต่อีซี่ๆ นี่ หูไม่กระดิกค่ะ แหะๆ)
เสียดายอย่างยิ่งที่วันนั้นเชฟสุดหล่อมือเจ็บเลยอดเจอ (นั่นน่ะประเด็นหลักที่มาเลยนะ ไม่ใช่แล้วเจ๊ )
แล้วครัวนี่การระบายอากาศทำระบบมาดีค่ะ ไม่มีกลิ่นอาหารใดๆ มาระคายจมูกแต่อย่างใดเลย ปลื้ม ณ จุดนี้นะคะ
จานนี้มีชื่อยาวๆ ตามท้องเรื่อง (ไม่ใช่แระ ) ว่า Asparagus And Parma Ham / poached egg, salted egg “salsa” and truffle cream / ราคา 195 บาท ค่ะ
ขอเรียกง่ายๆ ว่าแอสพารากัสพาร์ม่าแฮมแล้วกันนะคะ
ตัวนี้นี่แอสพารากัสกริลล์มาดีค่ะ กัดคำแรกนี่หอมขึ้นจมูกเลย ซอสที่มาด้วยอมเปรี้ยวหน่อยๆ ค่ะ ช่วยชูรสโดยรวมของจานนี้ได้ดีค่ะ ตัวพาร์ม่าแฮม เราว่าเค็มไปนิดหนึ่งค่ะ แต่นุ่มดีค่ะ อันนี้คือรสชาติตอนกินแยกๆ แต่ละอย่างนะคะ
พอกินรวมกันทั้งแฮมและแอสพารากัสแล้ว รสส่งกันดีค่ะ เป็นจานเปิดที่ยังไม่หวือหวามาก แต่ก็กระตุ้นน้ำย่อยให้เตรียมกินเมนูต่อๆ ไปได้ดีค่ะ
ป.ล. แต่รูปที่เห็นนี่ถ่ายมาตอนยังไม่ราดซอสนะคะ แหะๆ
แก้วแรกนี่เป็นของคนอื่น (เพราะเรางดแอลกอฮอล์อยู่) เป็นไวน์ขาวนะคะ
ซึ่งก็อยู่ในโปรโมชั่นที่ทางห้องอาหารมีอยู่คือ 990++ อาหาร 5 จาน + ไวน์ 1 ขวดค่ะ โดยเลือกได้ว่าจะเอา Sparkling wine White wine หรือ Red wine ค่ะ
รสชาติของเซ็กซี่เกิร์ลนะคะ หวานอมเปรี้ยว หอม ดื่มแล้วสดชื่นดีค่ะ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์นะคะ
Tuna Rare / Siamese mushroom salad, chili, ground rice, kaffir lime and lemongrass vinaigrette / ราคา 295 บาท
ถ้าหน้าตาครบสูตรของทูน่าแรร์ ก็จะประมาณนี้ค่ะ (แต่ถ้าไปกินเองก็จะไม่มีธงแบบนี้หรอกนะคะ อันนี้ทางโอเพิ่นไรซ์ฯ เอามาเอง แหะๆ) จานนี้จะถูกราดด้วยซอสส้มและขิง รวมทั้งซอสตะไคร้ด้วยนะคะ
สำหรับรสชาตินะคะ
ตัวเห็ดยำข้างล่างรสชาติเข้มข้นและหอมดีค่ะ เราชอบนะคะ ทูน่าเนื้อแน่นและสดไม่คาวค่ะ
กินด้วยกันแล้วโออยู่ค่ะจานนี้ ถ้าใครชอบทูน่าน่าจะโปรดนะคะ
มันฝรั่งทอดเนื้อหนาดีค่ะ ไม่แน่นเกิน กำลังดีสำหรับการเคี้ยวและรสสัมผัสที่ได้รับค่ะ จุ่มกินกับน้ำข้าวซอยแบบชุ่มๆ อร่อยเลยหละค่ะ เข้ากันดีแบบงงว่าเข้ากันได้ไง ฮา
ตัวหอยที่มา ตรงเอ็นเด้งดีค่ะ สดดีไม่เสียชื่อนะคะ แต่สำหรับการกินเราชอบแบบตอนก่อนบีบมะนาวมากกว่าค่ะ เราว่าพอบีบมะนาวไปแล้วมันเสียรสโดยรวมของมันอ้ะ แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะคะ แหะๆ
มาต่อกันที่จานต่อไปนะคะกับ Fun-Guy (flatbreads) / Shiitake mushroom, red onion, mozzarella , truffle oil / ราคา 245 บาท ค่ะ
ฟันกายนี่ ตัวนี้ริมของเบรดกรอบ ข้างในยังนุ่มค่ะ (ทำได้ไงฟระ) ตัวทรัฟเฟิลชุ่มฉ่ำ หอมหวน (จริงๆ) มาก กินคำแรกไม่เท่าไหร่นะคะ แต่พอกินไปๆ กลับอร่อยขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เป็นจานที่เรียกว่า อร่อยพิศ (เหมือนสวยพิศ ฮา) ไม่ใช่อร่อยผาดๆ น่ะค่ะ ไม่โดนในคำแรก แต่ยิ่งกินยิ่งอร่อยค่ะ
จานนี้คือ Chessert / blue cheesecake, green apple, black olive, crispy prosciutto, orange sherbet / ราคา 165 บาท ค่ะ
มาว่ากันถึงรสชาติ ตอนแรกที่ทราบว่าเมนูนี้มีทั้ง blue cheesecake, green apple, black olive, crispy prosciutto, orange sherbet ก็ยังงงๆ อยู่ว่ามันจะออกมาในแนวไหนนะคะ มีทั้งคาว ทั้งหวานปนกันแถมมีบลูชีสอีก เอ่อ...
แต่พอได้กินแล้วเฮ้ย อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ (แต่ถ้าคนไม่ชอบบลูชีส อาจจะไม่ชอบนะคะ เพราะกลิ่นนี่มาเต็ม จัดเต็มมากๆ) ส่วนแฮมกรอบที่ใส่มาก็เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ
ถ้าเอาแยกรสชาติ เชอเบทส้มรสชัดเจนดีและมีกลิ่นหอมของส้มด้วย ช็อกโกแลตพอจุ่มชีสกินแล้วเข้ากันดีนะคะ แต่มีช็อกโกแลตแค่อันเดียว ถ้าจะแชร์กันก็คงต้องแย่งกันหน่อยหละค่ะ (ฮา) แล้วตัวชีสนี่ก็ช่วยผสานรสระหว่างคาว-หวานได้ดีด้วยค่ะ
จะมีถูกหักคะแนนไปก็ตรงแบล็คโอลีฟหรือมะกอกดำนี่แหละค่ะ มันเค็มโดดออกมาน่ะค่ะ โดยความเห็นเรามันไม่เข้าอ้ะ ไม่งั้นจานนี้นอกจากความคิดสร้างสรรค์แล้วเรื่องรสชาติจะเต็มมาก
มันเป็นความอร่อยแบบไม่ใช่อร่อยมาตรฐานทั่วไปน่ะค่ะ แปลกแต่อร่อย ใครอยากลองของแปลก รสชาติไม่เหมือนใครต้องลองนะคะ
Coffee Cake / salted caramel cream, chocolate, banana, hazelnut / ราคา 165 บาท
จานนี้ประกอบไปด้วยกล้วย ไอติม เค้ก และข้าวโพดคั่วค่ะ (แต่ตามชื่อที่เค้าให้มามีฮาเซลนัทด้วย ไหงตรูไม่ได้กินเบยยย)
ตัวนี้หลายคนชอบนะคะ เราว่ากินง่ายกว่าตัวแรก แต่ความโดดเด่นและแปลกเราก็ว่าไม่เท่าจานแรกค่ะ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง
เราว่า..ข้าวโพดคั่วใส่มาก็เก๋ดี แต่เรากลับรู้สึกว่ามันไม่เข้ากับอันอื่นยังไงไม่รู้อะค่ะ แต่มันช่วยสร้างรสสัมผัสในการเคี้ยวดีนะคะ แต่เห็นคนอื่นเค้าปลื้มกันอยู่ค่ะ
Post