Read full review
2016-03-30
277 views
สำหรับวันนี้ก็จะมารีวิวบุุฟเฟท์ดินเนอร์ ณ ห้องอาหารเฟลเวอร์ โรงแรมเรเนซองส์ราชประสงค์กันนะคะ โดยเป็นการพาไปของเว็บโอเพิ่นไรซ์นั่นเองหละฮับ เป็นงาน Openrice Party ครั้งที่ 44 ค่ะ ซึ่งเราก็ไปในฐานะบล็อกเกอร์ (หรือ Elite User หว่าไม่แน่ใจ 555) หละนะคะ แถมไปคราวนี้นอกจาก อ้น ชื่น ที่เจอกันบ่อยๆ แล้ว น้องเหมียวก็ไปด้วยค่ะ เกือบครบเซ็ตกันเลยทีเดียวคำเตือน เนื่องด้วยไลน์อาหารที่นี่ค่อนข้างเยอะตามสไตล์ของบุฟเฟท์ดินเนอร์ของโรงแรม 5 ดาว แม้จะรวมรูปแล้ว รูปก็ยังเยอะอยู่นะคะ เพราะงั้นโหลดนานนนนนนะคะ แหะๆวันนั้นเราเอารถไปค่ะ ก็ไปตาม google map เช่นเคย แล้วก็ไปจอดรถที่ที่จอดรถของโรงแรมค่ะ มีบัตรจอดรถซึ่งต้องใช้ใ
คำเตือน เนื่องด้วยไลน์อาหารที่นี่ค่อนข้างเยอะตามสไตล์ของบุฟเฟท์ดินเนอร์ของโรงแรม 5 ดาว แม้จะรวมรูปแล้ว รูปก็ยังเยอะอยู่นะคะ เพราะงั้นโหลดนานนนนนนะคะ แหะๆ
วันนั้นเราเอารถไปค่ะ ก็ไปตาม google map เช่นเคย แล้วก็ไปจอดรถที่ที่จอดรถของโรงแรมค่ะ มีบัตรจอดรถซึ่งต้องใช้ในการสแกนเพื่อผ่านเข้าออก (ไม้กั้น) และต้องนำไปสแกนที่ห้องอาหารเพื่อไม่ให้เสียค่าจอดด้วยนะคะ ไปถึงตอนแรกเรากดลิฟท์ไปที่เฟลเวอร์ก่อนค่ะ ปรากฏว่าหนึ่งทุ่มแล้วเค้ายังไม่ลงมา เลยขึ้นไปที่ชั้นที่ทำกิจกรรมใหม่ เค้ากะลังเริ่มทำ (หลังจากที่เชฟสาธิตให้ดู..ซึ่งข้าพเจ้ามาไม่ทันง่ะนะ) กันเลยค่ะ เลยเก็บภาพมาฝากนะคะ จะเป็นการแล่แซลมอน แล้วก็เอามาจัดจาน แต่งจานด้วยเครื่องปรุงรสและอื่นๆ ก่อนจะให้กินฝีมือตัวเองค่ะ รูปขวามือนี่คือที่เชฟจัดให้เป็นตัวอย่างให้ดูนะคะ เชฟเองก็คอยเดินทั่วๆ ในทุกๆ โต๊ะเพื่อคอยดูและแนะนำเพิ่มเติมค่ะ น่ารักมากๆ อ้ะ เชฟชาวต่างชาตินี่ชื่อคุณ Jose M. Ruiz นะคะ ซึ่งเนื่องจากอิชั้นมาไม่ทัน ก็เลยขอเอาการสอนของเชฟมาจากน้องเหมียว nanareview ดังนี้ค่ะ
เชฟสอนทีละขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
1. การจับมีด แล้วผ่าปลาแซลมอนสด
2. แล่ปลาให้บางที่สุด แล้ววางบนจานตามสไตล์ที่คิดว่าจะตกแต่ง
3. ตกแต่งด้วยซอส 4 แบบ เลือกได้ mix ได้
แล้วตกแต่งด้วยคาร์เวียและผักต่างๆ
มาชมผลงานแต่ละท่านกันนะฮับ แบบว่าหลากหลายหลากสไตล์มากๆ ส่วนข้าพเจ้าไม่ได้ทำฮ่ะ เพราะไม่ได้มาฟังตั้งแต่แรก อีกอย่าง..กลัวทำของเค้าเสีย ฮา หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม ก็พากันไปที่ห้องอาหาร Flavors ซึ่งอยู่ที่ชั้น M ค่ะ
จะเห็นว่ามีการโหวตได้รางวัลทั้งจากทริปแอดไวเซอร์เอย อะไรเอยด้วยนะคะ ภายในห้องอาหารค่ะ มีที่นั่งมากพอสมควรทีเดียวนะคะ ส่วนบรรดาไลน์อาหารก็จะอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องอาหารค่ะ เข้าไปในห้องอาหารจะอยู่ทางซ้ายมือทั้งหมด ตามภาพเลยนะคะ อันนี้จะเป็นเคาน์เตอร์ใกล้ประตูเข้าออกห้องอาหารที่สุดค่ะ เดี๋ยวค่อยมาเก็บภาพละเอียดๆ อีกทีแล้วกันเนาะ มาดูโซนแรกที่เป็นพวกโคลด์คัท ชีส และขนมปังกันก่อนค่ะ มีให้เลือกหลากหลายพอควรเลยค่ะ โซนนี้จะเป็นพวกพาสต้าค่ะ มีทั้งเส้นและซอสให้เลือกตามภาพเลยนะคะ ต่อไปเป็นฮอทดิชค่ะ จะอยู่ใกล้ๆ กับไลน์โคลท์คัทและพาสต้าเลย ไปดูกันว่ามีอะไรให้กินกันบ้างเนาะ เมนูก็มีต้มยำซีฟู้ด แพนงหมู เนื้อผัดซอสพริกไทยดำ ผัดผักรวมกุ้งค่ะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นหมูแดงกับเป็ดย่างนะคะ ส้มตำก็มี แถมมีให้ตำเพิ่มได้เองอีกด้วยค่ะถ้าชอบเผ็ดหรือรสจัดจ้านมาก ตอนแรกเล็งอันนี้ไว้เหมือนกัน แต่พอกินอย่างอื่นไปก็ลืม แหะๆ ติดกับส้มตำก็จะเป็นอาหารแนวแซ่บๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นยำซีฟู้ด ลาบเนื้อ ยำส้มโอกับกุ้ง (แอร๊ยส์ พอมาทำรีวิวก็นึกออก พลาดการชิมเมนูนี้ไปได้อย่างไร) รวมทั้งน้ำพริกหนุ่มกับน้ำพริกปลาย่างและผักสดด้วยค่ะ ต่อไปเป็นโซนที่อยู่ติดกับผนังห้องตรงนี้บ้างนะคะ ไปดูว่ามีอะไรให้กินกันค่ะ สำหรับท่านใดที่มองหาฟัวร์กราส์ ที่นี่มีเชฟทำให้ร้อนๆ เลยค่ะ พร้อมเครื่องเคียงต่างๆ และซอสสำหรับราดสามแบบ นอกนั้นก็มีแซลมอนอบ ผักรวมและมันฝรั่งอบ รวมทั้งสตูว์เนื้อด้วยนะคะ ใครเป็นสัตว์กินเนื้อก็มุมนี้เลยค่ะ มีให้เลือกทั้งวัว หมู แซลมอนนะคะ ใกล้ๆ กันก็มีซีฟู้ดชุบแป้งทอด ปลาแซลมอนนึ่งมะนาว ซีฟู้ดผัดผงกะหรี่ ปูอบวุ้นเส้น และปิดท้ายด้วยแซลมอนตัวใหญ่ๆ อีกสามตัวอวบอ้วนมากๆ ถัดไปเป็นมุมกริลล์ร้อนค่ะ ซึ่งก็มีหลายวัตถุดิบให้เลือกตามภาพนะคะ ต่อไปเป็นอาหารอินเดียกันบ้างนะคะ มี fish tikka / vegetable navratan karma / rajmah masala / basmati rice ค่ะ สุดมุมต่อจากอาหารอินเดียก็จะเป็นหมวดซีฟู้ดแล้วนะคะ ซึ่งก็มีทั้งปู หอยแมลงภู่ หอยนางรมค่ะ (เห็นอ้นบอกว่ามีหอยทั้งหมดสามแหล่งนะคะ) ถัดไปเป็นอาหารญี่ปุ่นและสลัดค่ะ สลัดที่นี่เค้ามีอ่างให้คลุกสลัดเองด้วยนะคะ ถัดจากอ่างก็จะเป็นหมวดของหวานแล้วค่ะ
ไอศกรีมมีทั้งหมดสี่รสชาติ คือ กาแฟ มะพร้าว ส่วนซอร์เบต์ก็จะมีแอปเปิ้ลกับส้มค่ะ และมีท็อปปิ้ง ซอส รวมทั้งโคนให้ด้วยค่ะ ทาร์ตผลไม้ที่ตั้งบนชั้นที่มีตัวอักษร R (ที่น่าจะเป็นตัวแทนโลโก้รร.หละนะคะ) หมวดขนมฝรั่งค่ะ หน้าตาดีหลายเมนูเลยยย ผลไม้ ทาร์ตและเค้กฮับบบบ ปิดท้ายด้วยขนมไทยๆ แบบหวานเย็น บัวลอยและข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ มาดูกันว่าเรากินอะไรกันบ้างในมื้อนั้นนะคะ
เริ่มต้นด้วยการแสดงตนเป็นสัตว์กินเนื้อ ฮาาา ฟัวร์กราส์ เนื้อแกะและเนื้อวัวย่าง แป้งนานพร้อมแกงสองชนิดค่ะ ส่วนมุมขวาล่างเป็นเนื้อเทนเดอร์ลอย สตูว์เนื้อ หมูแดง,เป็ดย่าง และแซลมอนนึ่งมะนาวค่ะ สำหรับตัวย่างๆ แกะแทบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ย่างแบบมีเดียมมาข้างนอกเกรียมนิดๆ ชอบนะคะ ตัวเนื้อโออยู่ค่ะ หอมดี น้ำจิ้มแจ่วรสชาติดีค่ะ สตูว์เนื้อ แข็งไปหน่อยง่าา แต่หอมมากเลยค่ะ เทนเดอลอย ตัวเนื้อมันจืดค่ะ แต่ซอสคู่ค่อนข้างชูรสได้ดีเลยแหละ ฟัวร์กราส์นี่อร่อยนะคะ ทำมาเกรียมนิดๆ หอม สำหรับเราชอบของที่นี่มากกว่าแกรนด์มิลเลนเนียมฮิลตันนะคะ
ส่วนตัวอาหารอินเดีย เราชอบตัวแกงผักมากกว่าตัวแกงถั่วแดงนะคะ รสชาติอร่อยกว่า (สำหรับเรา) ส่วนหมูแดงกับเป็ดย่าง ก็โอเคค่ะ ทั่วไป ไม่ได้เด่นไปจากที่อื่น ส่วนแซลมอนนึ่งมะนาว เราชอบรสจัดกว่านี้อีกหน่อยค่ะ
ส่วนนี่เป็นบรรดาของที่คนอื่นๆ กินกันค่ะ ถ่ายมาให้ดูหน้าตากันแบบชัดๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ แฮ่...
อันนี้คือสุดมากค่ะ ของน้องอ้น สั่งฟัวร์กราส์ทีเดียวสิบชิ้น ตอนโพสต์เฟส น้องบุ๊งมาพูดถึงฟัวร์กราส์ เราเลยบอ มาถึงของหวานกันบ้าง (ค่ะ ของคาวอิชั้นกินแค่สี่จานนั้นแหละค่ะ แหะๆ) เรากินข้าวเหนียวมะม่วงกับไอติมนะคะ ตัวข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวโอเคค่ะ มูนมากำลังดีเลย แต่มะม่วงก็..เราชอบอกร่องมากกว่าน่ะนะคะ แต่ก็โอเคค่ะ มะม่วงก็หวานดี ส่วนไอศกรีม เนื่องจากเราถามพนักงานว่ารสไหนฮิตๆ ชอบๆ กัน พนักงานแนะนำซอร์เบท์ทั้งสองตัวเราเลยสั่งมาค่ะ เฮ้ยย อร่อยทั้งคู่เลย เห็นหลายคนก็ปลื้มซอร์เบท์แอปเปิ้ลนะคะ แต่ถ้าเทียบสองตัวนี้เราชอบตัวส้มมากกว่าค่ะ หอมดีอ้ะ ชอบๆ ส่วนอันนี้เป็นของหวานของท่านอื่นๆ ค่ะ ปิดท้ายงานวันนั้นด้วยภาพหมู่ของพวกเราค่าา
สรุปสำหรับดินเนอร์บุฟเฟท์ ณ ห้องอาหารนี้นะคะ โดยส่วนตัวเราค่อนข้างชอบนะคะ ที่จริงก่อนไปกินที่นี่ซื้อเวาเชอร์ไว้แล้วด้วยแหละ 555 เพราะมันมีโปรลดอยู่ เลยรีบช้อน ได้ราคาพันต้นๆ เอง ซึ่งที่นี่วัตถุดิบใช้ค่อนข้างดีนะคะ อาหารก็หลากหลายพอควร ชอบสุดคือฟัวร์กราส์แหละ (คนชอบฟัวร์กราส์ มากินให้เต็มที่ก็คุ้มราคาแล้วค่ะ หุๆ)
ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่คิดจะไปกินบุฟเฟท์ดินเนอร์ที่นี่กันนะคะ
Post