13
1
0
Level4
SCARLETT WINE BAR & RESTAURANT2 Michelin Star Inspired Menu, over 150 Fine wines, imported cheese & cold cuts, daily specials and an amazing view over Bangkok skyline เชฟระดับ 2 ดาว มิชลิน ให้กำเนิดแรงบันดาลใจเมนูอาหารแสนอร่อย ควบคู่กับไวน์กว่า 150 ชนิด ควบคู่กับชีสและของทานแกล้มนำเข้า เมนูพิเศษประจำวัน เคล้าบรรยากาศ วิวเส้นขอบฟ้าแบบพาโนรามาของมหานครเมืองหลวง กรุงเทพ ณ ถนนสีลมไวน์บาร์และห้องอาหารสการ์เล็ต สไตล์บิสโทร ที่มีต้นกำเนิดที่ โฮเต็ล จี กรุงปักกิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี บนชั้น 37 พร้อมระเบียงกว้างเปิดโล่งที่สามารถนั่งชมทัศนียภาพแบบพาโนราม
Read full review
SCARLETT WINE BAR & RESTAURANT

2 Michelin Star Inspired Menu, over 150 Fine wines, imported cheese & cold cuts,
daily specials and an amazing view over Bangkok skyline
เชฟระดับ 2 ดาว มิชลิน ให้กำเนิดแรงบันดาลใจเมนูอาหารแสนอร่อย ควบคู่กับไวน์กว่า 150 ชนิด
ควบคู่กับชีสและของทานแกล้มนำเข้า เมนูพิเศษประจำวัน เคล้าบรรยากาศ วิวเส้นขอบฟ้าแบบ
พาโนรามาของมหานครเมืองหลวง กรุงเทพ ณ ถนนสีลม

ไวน์บาร์และห้องอาหารสการ์เล็ต สไตล์บิสโทร ที่มีต้นกำเนิดที่ โฮเต็ล จี กรุงปักกิ่ง เป็นส่วนหนึ่ง
ของโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี บนชั้น 37 พร้อมระเบียงกว้างเปิดโล่งที่สามารถนั่งชมทัศนียภาพ
แบบพาโนรามาอันงดงาม ของกรุงเทพมหานคร ที่นี่ถือเป็นสถานที่สังสรรค์แห่งใหม่สำหรับ
นักบริหารรุ่นใหม่ เสิร์ฟไวน์, ชีส, โคลด์ คัท, และทาปาส พร้อมทั้งเมนูที่รังสรรค์โดยมานูเอล มาติเน่ซ์
เชฟระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว แห่งภัตตาคาร “เลอ คลอเร หลุยส์ที่ 13” ในกรุงปารีส

Scarlett wine bar & Restaurant เป็นร้านไวน์และอาหารนานาชาติในราคาที่จับต้องได้
สำหรับเป็นจุดนัดพบคนรักความสนุกสนานและผ่อนคลาย ด้วยขนาดพื้นที่ของร้านกว่า 400 ตารางเมตร
สามารถรองรับลูกค้าได้ 160 ที่ และอีก 40 ที่ ณ ระเบียงร้านอันแสนสวยงามซึ่งสามารถดื่มด่ำ
กับไวน์และอาหารไป ชื่นชมกับทรรศนียภาพของมุมสูงใจกลางกรุงเทพมหานคร สำหรับที่นั่งนั้น
มีทั้งบาร์เครื่องดื่ม โต๊ะไม้ หรือแม้กระทั่งโซฟาหนัง ให้เลือกนั่งได้ตามสไตล์ของคุณ
และทุกสุดสัปดาห์จะมี DJ สลับเปลี่ยนหมุนเวียนมาเปิดแผ่นเจ๋ง ๆ ให้ได้ฟังกัน เสริมกับบรรยากาศ
ที่ดีอย่างเหลือเชื่อ รวมทั้งกิจกรรมในทุก ๆ เดือน

ด้านอาหารแสนอร่อย ถูกทำอย่างพิถีพิถันในทุก ๆ เมนูที่สร้างสรรค์มาจากฝีมือของ
เชฟที่ปรึกษาเชฟมานูเอล มาร์ติเน่ซ์ (CHEF MANUEL MARTINEZ ) เจ้าของภัตตาคารเลอ
คลอเลส์ หลุยส์ที่ 13 ในกรุงปารีส กับฉายาคัมภีร์อาหารฝรั่งเศสระดับสูง ซึ่งเชฟมานูเอล
จะถนัดในเมนู กุ้งมังกร(ล็อบสเตอร์) ฟัวการส์ สแกลล็อป(หอยเชลล์) และเห็ดทรัฟเฟิลมาปรุง
อาหารคาว ส่วนของหวานนั้นเห็นทีจะไม่พ้น millefeuille (มิลเฟอร์ล) กับซอสเบอเบิ้นวนิลา
ความอร่อยนี้ มีดาวมิชลิน 2 ดวงเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดี

และในโอกาสอันดีนี้ต้องขอขอบคุณ openrice thailand และคุณเมย์ (เมลนีย์)
pr คนสวยแห่ง Pullman Hotel G Bangkok ที่เชิญชวนมาชิมด้วยครับ

สำหรับเมนูเด็ดที่จะมาแนะนำกันในวันนี้ ประกอบไปด้วย 6เมนูของคาว คือ

1. sardines en Boite (Spanish imported sardines, toast and salted butter) 410.-
ปลาซาร์ดีนนำเข้าจากสเปนรสเลิศ ชนิดที่ไม่คิดว่าปลาซาร์ดีนจะอร่อยได้ขนาดนี้
ทานคู่กับขนมปังทาเนยเค็ม โดยนำขนมปังทาเนยแล้ววางชิ้นปลาซาร์ดีนเมนูนี้แกล้มกับไวน์ขาว
ที่มีกลิ่นหอม ของผลฝรั่งได้กลมกล่อมทีเดียว เป็นจานเริ่มแรกของเมนูเด็ดที่น่าประทับใจครับ

2. 'Oeuf poche en Meurette (Egg poached in Pinot Noir) 360.-
ไข่ลวกในอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสด้วยเวลา 1 ชั่วโมง ในซอสไวน์แดงพิน็อตนัวร์
กลมกลืนด้วยไข่ลวกที่ทำมาได้สวยและไม่มีที่ติด ด้วยไข่ลวกที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมงด้วย
อุณหภูมิ 60 องศา เป็นอะไรที่ทำให้คนทำอาหารไม่บ่อยอย่างผมประหลาดใจ
เพราะไข่แดงก็เป็นไข่ลวกที่ไม่คาว ไข่ขาวก็เป็นวุ้น ๆ ไม่สุก
เสริฟมาบนซอสไวน์แดงกลมกล่อมพร้อมวางด้วยแพนเชตต้าแฮม (แฮมแห้งรสเลิศ)
ทานเข้ากันมากด้วยไข่ที่นุ่มนวลกับซอสที่เข้มข้น คอนทราสต์กันแบบลงตัวครับเมนูนี้

3. Saint-Jacques d'Hokkaido (Grilled Scallops, truffle dressing) 550.-
แปลเป็นไทยได้ประมาณว่า หอยเชลล์ฮอกไกโดตัวใหญ่อวบอ้วนย่างพอสุกราดซอสเห็ดทรัฟเฟิล
เป็นอีกเมนูที่บ่งบอกได้อย่างดีว่า อาหารของเชฟมานูเอลนั้นเยี่ยมยอดขนาดไหน
ด้วยการย่างหอยเชลล์ได้สุกแบบผิว ๆ แต่ล้ำเลิศในเท็กซ์เจอร์ที่สัมผัสไปในแต่ละครั้งที่เคี้ยว
ผนวกกับซอสเห็นทรัพเฟิลที่อร่อยมาก ๆ แม้จะทานซอสเปล่า ๆ ก็ยังอร่อย นำมากระชับรสชาติ
ของหอยเชลล์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ ไม่พลาดที่เมนูนี้ต้องจิบไวน์ขาวเย็น ๆ ตามด้วยครับ

4. Quenell de brochet gratinee (River Pike fish dumpling, Chadonnay sauce) 760.-
ภาษาไทยจะเรียกว่าอะไรดีครับ น่าจะลูกชิ้นปลาไพค์ล่ะนะ 555 แต่ลูกชิ้นปลาไพค์นี้พิเศษตรงที่ว่า
เนื้อปลาไพค์จากแม่น้ำอันเย็นเฉียบ นำมาทำลูกชิ้นได้อารมณ์เหมือนไข่ตุ๋นครับ เนื้อเนียน เบา
ราดซอสไวน์ขาวที่ผสมกับครีมสด แล้วอบไฟบนอีกที เพื่อให้หน้าเกรียมสวยงามน่าทาน
ทานแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และแถมยังมีการทำให้ประหลาดใจด้วยชั้นซอสที่ก้นชามด้วย
เห็ดสับละเอียดไว้ตัด รสอีกชั้นกันอีกด้วย ก็เหมาะทานกับไวน์ขาวอย่างยิ่งยวดอีก 1 เมนูครับ

5. Cote d'agneau rotie au beurre pomme fondante
(Roasted rack of lamb, butter braised potatoes) 990.-
เมนูนี้เป็นการนำซี่โครงแกะมาย่างด้วยไฟกำลังพอดีและเนื้อหัวไหล่แกะตุ๋น นุ่ม ๆ วางซ้อนกัน
ราดซอสสูตรเฉพาะ เสริฟพร้อมกับมันก้อนรสเนย เป็นอีกเมนูที่เหมาะสำหรับคนไม่ทานเนื้อครับ
เนื้อแกะไม่มีกลิ่นเหม็นสาปแต่มีกลิ่นหอมเฉพาะของแกะและเครื่องเทศที่เข้า กันอย่างดี
เนื้อแกะทั้ง 2 แบบนั้นได้รสสัมผัสที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทานเดี่ยว ๆ ก็อร่อย
แต่ถ้าทานคู่กันยิ่งอร่อยขึ้นครับ เหมาะเป็นอาหารจานหลักทานคู่กับไวน์แดงเยี่ยม ๆ
อีก 1 จานเลยครับ

6. Combinaison de Filet et de joue boeuf
(Pan seared beef tenderloin, 12 hours braised beef cheek) 1,200.-
จานเด็ดจานสุดท้ายของอาหารคาวที่เชฟมานูเอล นำเสนอในวันนี้ เป็นจานสำหรับคนรักเนื้อ
มีทเลิฟเวอร์อย่างผมมาก ๆ ด้วยเนื้อวากิวจากออสเตรเลียชั้นยอดอันแสนนุ่มถึง 2 ส่วน
โดยส่วนสันในนั้นนำมาทำให้สุกด้วยการผ่านความร้อนกับกระทะแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ วางซ้อนกัน
กับเนื้อส่วนแก้มวัวตุ๋นนาน 12 ชั่วโมง แต่วันนี้พิเศษกว่าตรงที่เชฟมานูเอล ตุ๋นนานกว่าเดิมเป็น
16 ชั่วโมง ทำให้เนื้อแก้มที่นุ่มยิ่งนุ่มละลายในปากมากกว่าเดิม ส่วนสันในนั้นก็นุ่มด้วยตัวเอง
อย่างไม่แพ้กันเลย เพียงแต่รสสัมผัสของทั้ง 2 ส่วนที่แตกต่างกันนั้น
ทำให้ผมเพลิดเพลินกับการทานเมนูนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเชฟมานูเอลได้บอกเคล็ดลับ
ในการทานเมนูนี้ คือการนำทั้ง 2 ส่วนที่แตกต่างกันนั้น เคี้ยวพร้อมกัน ยิ่งทำให้ความสนุกสนาน
ในการทานเมนูนี้นั้นมีอย่างไม่รู้จบเลยทีเดียว แนะนำครับให้ทานเมนูนี้คู่กับไวน์แดงที่มีบอดี้เยอะ ๆ
จะเข้ากันมากครับ

ด้านของหวานนั้น คุณเมย์ ได้รีเควสให้เชฟมานูเอล จัดมาถึง 5 เมนูด้วยกันเลยครับ

1. Grand Marnier 'Souffle' 250.-
ซูเฟล่เนื้อเนียนนุ่ม หอมไข่และครีม อบมาฟู ๆ และโรยด้วยไอซ์ซิ่ง เมนุนี้ไม่หวานและไม่จืดไป
กำลังเหมาะสำหรับสาว ๆ และทานคู่กับไวน์หวาน หรือค็อกเทลนุ่ม ๆ เข้ากั๊นเข้ากันครับ

2. Granny Smith Apple Tart 250.-
แอปเปิ้ลทาร์ตแป้งกรอบบางกับแอปเปิ้ลฝานแผ่ไปทั่วแผ่นแป้งทาร์ต ราดไซรัป
เสริฟพร้อมกับไอศกรีมวนิลา เป็นเมนูที่มีมาทั้งความ หอม หวาน กรอบ อร่อย
ประสานกับความเย็นของไอศกรีมวนิลาได้อย่างลงตัว

3. Rum Baba 250.-
เมนูแสนสนุกซุกซน กับความน่ารักของรูปลักษณ์ของตัวขนมปังที่ชุ่มในโถแก้วที่เต็มไปด้วยเหล้ารัม !!!
คุณอ่านไม่ผิดครับ ของหวานจานนี้ ทำให้หลายคนลืมไวน์และแอลกอฮอล์ต่าง ๆ ที่ได้ลิ้มรสมา
เหมาะสำหรับปลุกสติสัมปชัญญะให้ตื่น หรือไม่ก็ทำให้คุณน็อคสลบคาโต๊ะได้เฉกเช่นเดียวกัน
ขนมปังที่ชุ่มฉ่ำเหล้ารัมนั้น หวานต้นมีติดขมปลายนิด ๆ เสริฟแบบเย็น ๆ เป็นอีกอย่างที่ทำให้ชื่นใจได้
แทนที่จะดื่มแล้วเมา จะกลายเป็นว่าทานขนมแล้วเมาด้วยเมนูนี้ก็เป็นได้ครับ

4. Mille Feulle 'Grands Augustins' 250.-
มิลเฟอร์ลกรอบ ๆ บาง ๆ สอดไส้ครีม ราดด้วยเบอร์เบิ้นวนิลา อีก 1 ของหวานที่ผสม
แอลกอฮอล์ลงไป แต่เบาบางให้กลิ่นหอมของวนิลาและเบอร์เบิ้น เป็นอีกเมนูที่เชฟมานูเอล
ทำได้อย่างอร่อยและลงตัว สวยงาม สมกับที่เป็นเมนูของหวานที่เชฟมานูเอลถนัดครับ
เมนุนี้ สาว ๆ และหนุ่ม ๆ หลายคนน่าจะชอบและหลงรักได้ไม่ยากเลยครับ

5. Chocolate Fondant 280.-
ช็อกโกแล็ตลาวา กับไอศกรีมวนิลา เค้กช็อกโกแล็ต ไส้ช็อกโกแล็ตเหลว เมื่อผ่าเค้กแล้ว
ตัวช็อกโกแล็ตเหลวจะไหลเยิ้มออกมา ทำให้คนทานได้สนุกสนานกับการมอง เหมือนกับ
ลาวาไหลออกจากภูเขาไฟยังไงยังงั้น ช็อคโกแล็ตรสเข้มข้น เบรครสชาติด้วยไอศกรีมวนิลาเบา ๆ
ทำให้ของหวานเมนูนี้อร่อยมากยิ่งขึ้นครับ

ทั้งหมดเป็นเมนูที่เชฟมานูเอล บรรจงสรรค์สร้างออกมาให้ได้ลิ้มชิมรสชาติของฝีมือเชฟมิชลิน
2 ดาว ทุกเมนูล้วนแล้วแต่สร้างความประทับใจและเพิ่มเติมจินตนการในการทำ
และทานอาหารของผมขึ้นอีกมากเลยล่ะครับ

ประกอบกับบรรยากาศของร้าน ที่สวยงาม ไวน์รสดี ดนตรีเพราะ วิวพาโนรามา น่าจะทำให้
ร้าน Scarlett wine bar and Restaurant แห่งนี้ เป็นที่ติดอกติดใจสำหรับหนุ่มสาวทุกวัย
ได้อย่างไม่ยากเลยล่ะครับ

ท้ายนี้ผมได้แนบรายละเอียดห้องอาหารแบบเป็นทางการมาให้ด้วยครับ

ที่ตั้ง : ชั้น 37 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี

เวลาเปิดบริการ : ทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 18.00 - 01.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

ผู้ออกแบบ และ ผู้สร้างสรรค์ : บริษัท พี 49 ดีไซน์แอนด์แอสโซซิเอท จำกัด
(P49 Design & Associates Co.,Ltd.) และ จีซีพี ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (GCP Hospitality)

ดี ไซน์คอนเซ็ปต์ : ในแบบโวค (VOGUE) และนิวยอร์ค สไตล์ บนพื้นที่รวมกว่า
400 ตารางเมตร สามารถรองรับแขกได้ 160 ท่าน รวมทั้งส่วนในห้องปรับอากาศและ
ส่วนระเบียงกว้างเปิดโล่งสำหรับ 40 ท่าน สามารถชื่นชมทัศนียภาพสุดกว้างไกลแบบ
พาโนรามาใจกลางกรุงเทพ
ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เลือกที่นั่งได้หลากอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น นั่งตามแนวบาร์เครื่องดื่ม
หรือโต๊ะไม้ทรงสูง หรือเล้าจน์ที่มีโซฟาหนังหรือแบบวินเทจ มีครัวเปิดโชว์การปรุงอาหาร
ตู้เก็บแสดงไวน์ รวมถึงห้องส่วนตัว ที่รองรับได้ 15 ที่นั่ง

เอ็กเซ็คคิวทีฟเชฟ : มร. ซีลวา ควอเย่ – ชาวฝรั่งเศส

เชฟที่ปรึกษา : มร.มานูเอล มาร์ติเน่ซ์ (เชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว)

เชฟเจ้าของ ภัตตาคารเลอ คลอเลส์ หลุยส์ที่ 13 ในกรุงปารีส

เมนู อาหาร : เนยแข็งนำเข้าจากต่างประเทศ อาหารเนื้อตัดเย็น หรือ“โคลด์คัท”
ทาปาสแบบร้อนและเย็น อาหารยุโรปรสเลิศต้นตำรับโดยเชฟมานูเอล มาร์ติเน่ซ์ เชฟมิชลินสตาร์
ระดับ 2 ดาว ชาวฝรั่งเศส และยังมีอาหารทะเลให้เลือก เพื่อแสดงการปรุงให้เห็นกันสดๆ ในครัวเปิด
ด้วยลีลาเชฟมือฉมัง

ไวน์ และ เครื่องดื่ม : - ไวน์มากกว่า 150 ชนิด

- ไวน์เสิร์ฟเป็นแก้ว 10 ชนิด ซึ่งจะหมุนเวียน ทุกสัปดาห์

- เครื่องดื่มมาตรฐาน และ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ระดับพรีเมี่ยม

- โฮมเมดค็อกเทล 20 ชนิด อาทิ “Pandanus Aqueduct – ธาราหอมเตย”

“Sparkle and Fade – ประกายไฟสลาย” ฯลฯ

ปาร์ตี้และความบันเทิง: - เพลงจังหวะ ดีพเฮาส์ และ เลาจน์มิวสิค

- ดีเจ ทุกวันศุกร์-เสาร์

- ธีมปาร์ตี้ “จี-เซสชั่น G-Session” ทุกวันเสาร์แรกของเดือน

รับบัตรเครดิต : อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, มาสเตอร์การ์ด, วีซ่า, ไดเนอร์คลับ

บัตรสมาชิก : รับเฉพาะบัตรสมาชิก สการ์เล็ต

ส่วนลด 10% ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นไวน์) สำหรับบัตรแอดแวนเทจ พลัส

ที่ จอดรถ : โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี ติดต่อสอบถาม
และสำรองที่โต๊ะ : โทร. 0 2238 1991 หรืออีเมล์ H316-FB2@accor.com
เฟซบุ๊ค : www.facebook.com/ScarlettWineBarBangkok
112 views
0 likes
0 comments
77 views
0 likes
0 comments
80 views
0 likes
0 comments
121 views
0 likes
0 comments
76 views
0 likes
0 comments
85 views
0 likes
0 comments
69 views
0 likes
0 comments
82 views
0 likes
0 comments
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
Post
DETAILED RATING
Taste
Decor
Service
Hygiene
Value
Date of Visit
2012-04-26
Spending Per Head
฿1,500 (Dinner)
Recommended Dishes
  • sardines en Boite (Spanish imported sardines
  • toast and salted butter)
  • 'Oeuf poche en Meurette (Egg poached in Pinot Noir)
  • Saint-Jacques d'Hokkaido (Grilled Scallops
  • truffle dressing)
  • Quenell de brochet gratinee (River Pike fish dumpling
  • Chadonnay sauce)
  • Cote d'agneau rotie au beurre pomme fondante (Roasted rack of lamb
  • butter braised potatoes)
  • Combinaison de Filet et de joue boeuf (Pan seared beef tenderloin
  • 12 hours braised beef cheek)
  • Grand Marnier 'Souffle'
  • Granny Smith Apple Tart
  • Rum Baba
  • Mille Feulle 'Grands Augustins'
  • Chocolate Fondant