Read full review
2011-06-10
113 views
ร้านอาหารใต้ในกรุงเทพฯ มีอยู่หลายร้าน ส่วนมากจะเป็นร้านข้าวแกง แต่มีไม่มากนักที่เป็นร้านนั่งสบายๆ บรรยากาศดี เหมือนนั่งกินอยู่ที่บ้านที่สำคัญ ร้านคั่วกลิ้ง ผักสด เขาทำอาหารจานต่อจาน เพื่อความสดใหม่ พร้อมกลิ่นหอมทะลุออกมาจากในครัว เป็นต้นว่ากลิ่นเครื่องแกงใต้นั้น หากได้มาเตะจมูกของเราแล้วน้ำย่อยก็จะเริ่มหลั่ง กระเพาะก็เริ่มทำงาน จนเราแทบจะรอให้อาหารมาเสิร์ฟถึงโต๊ะไม่ไหวเลยทีเดีบวสะตอผัดกุ้ง บางคนอาจจะเรียกว่า กุ้งผัดสะตอ ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะเรียกแต่ที่สังเกตมา คนใต้จริงๆมักจะเรียกว่าสะตอผัดกุ้ง ซึ่งร้านนี้ก็เขียนในเมนูว่าแบบนั้น แต่ก็เอาน่ะ ขอให้รสชาติออกมาโอเป็นใช้ได้ ... ที่นี่เขาใช้สะตอพันธุ์ภาคใต้ซึ่งให้รสสัมผัสกรอบกรุบ และมีกลิ่นอันเป็
ส่วนมากจะเป็นร้านข้าวแกง แต่มีไม่มากนักที่เป็นร้านนั่งสบายๆ บรรยากาศดี เหมือนนั่งกินอยู่ที่บ้าน
ที่สำคัญ ร้านคั่วกลิ้ง ผักสด เขาทำอาหารจานต่อจาน เพื่อความสดใหม่
พร้อมกลิ่นหอมทะลุออกมาจากในครัว เป็นต้นว่ากลิ่นเครื่องแกงใต้นั้น หากได้มาเตะจมูกของเราแล้ว
น้ำย่อยก็จะเริ่มหลั่ง กระเพาะก็เริ่มทำงาน จนเราแทบจะรอให้อาหารมาเสิร์ฟถึงโต๊ะไม่ไหวเลยทีเดีบว
สะตอผัดกุ้ง บางคนอาจจะเรียกว่า กุ้งผัดสะตอ ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะเรียก
แต่ที่สังเกตมา คนใต้จริงๆมักจะเรียกว่าสะตอผัดกุ้ง ซึ่งร้านนี้ก็เขียนในเมนูว่าแบบนั้น
แต่ก็เอาน่ะ ขอให้รสชาติออกมาโอเป็นใช้ได้ ... ที่นี่เขาใช้สะตอพันธุ์ภาคใต้ซึ่งให้รสสัมผัสกรอบกรุบ
และมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ของสะตอชัดเจน มีให้เลือกสองแบบ คือ แบบผัดกะปิ และผัดพริกแกงเขียว
ที่ผมลองทานเป็นแบบผัดกะปิ รสชาติออกแนว 4 รส เค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ดนิดๆ กลมกล่อมใช้ได้
ต่อไปเป็นแกงเหลืองปลากระพง รสชาติเข้มข้นแบบชาวใต้แท้ๆ ใครกินเผ็ดมากไม่ได้ แนะนำให้เตรียมเครื่องแก้เผ็ดไว้ใกล้มือ
หรือจะบอกให้ทางร้านลดความเผ็ดลงให้ก็ย่อมได้ ที่นี่แกงเหลืองเขาไม่ได้ใส่หน่อไม้ แต่ใส่เป็นยอดมะพร้าว
รสชาติใกล้เคียงกับที่เคยกินแถบนครศรีฯ แต่แถบนั้นเขาจะนิยมใส่สับปะรดลงไปด้วย ก็จะมีรสแฝงแน่นขึ้นไปตามลำดับ
แต่ผมก็ขอชมเชยว่าร้านนี้ทำแกงเหลืิองได้อร่อย จนอยากซื้อกลับไป แช่ตู้เย็นเอาไว้ เผื่อเวลาดึกๆ อยากกินของรสจัดๆขึ้นมา
ดาวเด่นอีกดวงที่ผมชอบมาก นั่นก็คือแกงปูใส่ใบชะพลู
เนื้อปูขาวเป็นก้อนๆ คัดเฉพาะเนื้อกรรเชียงอวบแน่นชิ้นโต ใส่มาให้เป็นจำนวนมาก
รสชาติออกแนวแกงคั่วกะทิแบบปักษ์ใต้ มีรสเผ็ดและซ่อนรสหวานหอมของน้ำตาลมะพร้าว
โดดเด่นด้วยกลิ่นของใบชะพลู กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเส้นหมี่ขาวที่ทางร้านเคียงมาให้ด้วย
อร่อยเด็ดจริงหนอ
อีกเมนูยอดนิยมที่คนนิยมสั่งกันก็คือ ใบเหลียงผัดไข่
ผัดมาหอมกระเทียมหน่อยๆ ใบเหลียงเคี้ยวเพลิน มีความมันนิดๆอยู่ในตัว
คั่วกลิ้งกระดูกอ่อน เมนูที่เป็นชื่อของร้านซะด้วย
กินเข้าไปคำแรก ผมกลับรู้สึกถึงแกงแพนงผัดแบบแห้ง เพราะผมว่ามันขาดกลิ่นของตะไคร้,ขมิ้น
และพริกไทยอ่อนไปหน่อย แต่ถ้าไม่คิดมาก มันก็อร่อยนะ
อาจจะเป็นเพราะว่าผมเคยเจอคั่วกลิ้งในดวงใจมาก่อนหน้านี้
เลยอาจทำให้คั่วกลิ้งของร้านนี้ดูเด็กเกินไปสักนิดนึง
ร้านนี้มีขนาดร้านค่อนข้างเล็ก กะเอาด้วยสายตาไม่น่าจะจุได้เกิน 30 ที่นั่ง
เปิดเป็นช่วงเวลา 11.00-14.00 และตอนเย็น 17.00-21.00
ดังนั้นควรทำการสำรองที่นั่ง หรือไปถึงร้านตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความผิดหวัง
Post