Video
Read full review
2012-10-24
65 views
วันนี้งากับแม่มาทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้าน Aji อจิกันค่ะ ก่อนอื่นงาขออนุญาต openrice และเพื่อนๆขอแบ่งรีวิวร้านนี้ออกเป็น 2 ตอนนะคะ โดยรีวิววนี้เป็นรีวิวแรกค่ะร้านอจิ ที่งากับแม่มาทานอยู่ที่ Big C เอกมัยหรือสุขุมวิทย์ 63 นั่นเองค่ะ ถ้ามาจาก BTS แล้วจะเดินต่อเข้ามาสำหรับงาแล้วคิดว่าไม่ค่อยไกลซักเท่าไรค่ะ (300 เมตร) เพราะทุกวันนี้ก็เดินจนชินแล้ว ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีค่ะ ถ้าใครไม่ชอบเดินงาแนะนำให้มาต่อมอเตอร์ไซต์ หรือต่อด้วยรถเมล์ก็ได้ค่ะ เดินเข้ามาในซอยสุขุมวิทย์ 63 แป๊บเดียวก็เจอป้ายรถเมล์แล้วค่ะ สายรถเมล์ที่ผ่านเท่าที่เห็นคือสาย 72 และ 23 ผ่านป้ายรถเมล์นับป้ายที่ขึ้นด้วยประมาณ 3 ป้ายค่ะ แล้วมาลงที่ป้ายตรงข้ามเอกมัยซอย 4 ให้สังเกตข
ร้านอจิ ที่งากับแม่มาทานอยู่ที่ Big C เอกมัยหรือสุขุมวิทย์ 63 นั่นเองค่ะ ถ้ามาจาก BTS แล้วจะเดินต่อเข้ามาสำหรับงาแล้วคิดว่าไม่ค่อยไกลซักเท่าไรค่ะ (300 เมตร) เพราะทุกวันนี้ก็เดินจนชินแล้ว ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีค่ะ ถ้าใครไม่ชอบเดินงาแนะนำให้มาต่อมอเตอร์ไซต์ หรือต่อด้วยรถเมล์ก็ได้ค่ะ เดินเข้ามาในซอยสุขุมวิทย์ 63 แป๊บเดียวก็เจอป้ายรถเมล์แล้วค่ะ สายรถเมล์ที่ผ่านเท่าที่เห็นคือสาย 72 และ 23 ผ่านป้ายรถเมล์นับป้ายที่ขึ้นด้วยประมาณ 3 ป้ายค่ะ แล้วมาลงที่ป้ายตรงข้ามเอกมัยซอย 4 ให้สังเกตขวามือจะเห็นโรงแรม 999 แล้วค่อยลงนะคะ จากนั้นก็เดินมาที่ซอย 6 อีกนิดเดียวค่ะ พอมาถึงบิ๊กซีเอกมัย ให้มาขึ้นทางเลื่อนหรือลิฟท์ที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นอ๊อตโตยะ และร้านเจียงลูกชิ้นปลาขึ้นมาที่ชั้น 3 ค่ะ ถ้ามาด้วยลิฟท์เลี้ยวซ้ายถึงร้านเลยค่ะ
บรรยากาศหน้าร้านและในร้านเป็นสไตล์บ้านญี่ปุ่นค่ะ ประตูทางเข้าเป็นแบบอัตโนมัติ เข้ามาจะเจอเคาน์เตอร์ต้อนรับ บอกพนักงานว่ามา 2 ที่ เค้าก็พาเดินไปตามทางเดินที่ถูกบังคับให้เลี้ยวขวาจะเจอส่วนครัวก่อนค่ะ จากนั้นทางเดินก็บังคับให้เลี้ยวซ้ายอีกที ก็จะเจอโซนห้องอาหารค่ะ โดยมีทางเดินขั้นระหว่างกลาง ฝั่งซ้ายมือเป็นโซนโต๊ะญี่ปุ่นแบบนั่งพื้น ฝั่งขวาเป็นโซนนั่งหน้าเคาน์เตอร์ค่ะ ถ้าเดินต่อไปจะเป็นโซนห้องอาหารแบบโต๊ะเก้าอี้ค่ะ งากับแม่ได้นั่งโซนนี้ ทุกโต๊ะเป็นแบบนั่ง4 ที่ งากับแม่มากันแค่ 2 คนเลยรู้สึกว่าโต๊ะกว้างขวางดีค่ะ แต่ละโต๊ะจะมีพาทิชั่นกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว ร้านนี้จะขึ้นชื่อเรื่องชาบู เลยทำให้ทุกโต๊ะของทุกโซนจะมีเตาไฟฟ้าไว้สำหรับต้มด้วยค่ะ ภายในร้านไฟค่อนข้างสลัวๆเลยทำให้รูปที่ถ่ายแบบไม่ได้เปิดแฟลชไม่ค่อยชัดซักเท่าไรนะคะ
เครื่องดื่ม งากับแม่สั่งเป็นชาเขียวเย็นแบบรีฟิว และฟรีด้วยค่ะ รสชาติธรรมดาค่ะ คือจืดๆมีกลิ่นชา พนักงานมาเติมน้ำให้เรื่อยๆเลยค่ะ
มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันเลยนะคะ เป็นข้าวหน้าปลาไหลของแม่งาค่ะ เสริฟมาพร้อมเครื่องเคียง คือผักดอง ซุปมิโสะ และเครื่องปรุงค่ะ ราคา 280 บาทค่ะ
ซุปมิโสะของที่นี่งาว่ารสชาติเค็มๆแต่แม่งาบอกว่าไม่เค็ม (เอ๊ะยังไง) แต่รวมๆแล้วอร่อยค่ะ ในซุปมีสาหร่ายและเต้าหู้ญี่ปุ่นเสริฟมากำลังร้อนๆ ส่วนผักดอง รสชาติอ่อนๆจืดๆ ผักสดกรอบดีค่ะ
มาถึงข้าวหน้าปลาไหลกันบ้างนะคะ มาชามใหญ่เหมือนกันค่ะ โดยด้านบนมีปลาไหลเนื้ออวบๆไร้ก้าง ทานแล้วนุ่มลิ้นมีความมันจากเนื้อปลา เนื้อปลาที่หมักมามีรสชาติเค็มนำหวานนิดๆหอมกรุ่นด้วยกลินของโชยุ โปะมาบนไข่เจียวหั่นฝอยจืดๆและข้าวญี่ปุ่นค่ะ เมื่อทานรวมๆกันแล้วรสชาติอ่อนๆนุ่มๆค่ะ ถ้าทานคู่กับซีอิ้วที่ปรุงมาแบบ เค็มๆหวานๆแบบเข้มข้นและพริกไทยป่นที่เค้าให้มาด้วย ก็จะอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
แม่งาทานเสร็จแล้วอาหารของงายังไม่มาเลยค่ะ งาเลยสั่งของหวานมาให้แม่ระหว่างนังรอกันค่ะ เป็นไอศกรีมลิ้นจี่ ถ้วยขนาดกลางๆ รสชาติหวานมันและหอมกลิ่นลิ้นจี่ดีค่ะ ราคา 100 บาท 
ส่วนไอศรีมชาเขียวถ้วยนี้ เป็นของหวานฟรีจากทางร้านค่ะ รสชาติหวานๆเย็นๆอร่อยดีค่ะ**** มีต่ออีกรีวิวนะคะ****
Post
