Video
Read full review
2012-12-08
461 views
วันที่ ๕ ธันวา เป็นวันพ่อ และก็เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากคุณพ่อไม่อยู่แล้ว..ก็เลยขอพาคุณแม่ไปทานอาหารข้างนอกกันค่ะ วันก่อนไปเดินเมกกาบางนามาเห็นว่าถ้าขึ้นทางกาญจนาภิเษกไปจากทางบ้านแถวประชาอุทิศก็ไม่ไกล เพราะลงทางด่วนก็ถึงเมกกาบางนาเลย เดินทางสะดวกดีค่ะ เสียค่าทางด่วนกาญจนาฯไปกลับก็ 80 บาท คุณแม่บอกว่าอยากลองทางเป็ดย่างของ Four Seasons สักหน่อย เพราะอยากลองเป็ดย่างที่ขึ้นชื่อว่า "อร่อยที่สุดในโลก"สักครั้งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นวันพ่อ..และทุกคนเต็มใจจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทานอาหารดีๆ ดังนั้นห้างใหม่และใหญ่อย่างเมกกาบางนาจึงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน รถยนต์ต่อคิวกันเข้าลานจอดรถเต็มไปหมด..ทางเรานัดน้องสาวเอาไว้ที่ห้า
วันที่ ๕ ธันวา เป็นวันพ่อ และก็เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากคุณพ่อไม่อยู่แล้ว..ก็เลยขอพาคุณแม่ไปทานอาหารข้างนอกกันค่ะ วันก่อนไปเดินเมกกาบางนามาเห็นว่าถ้าขึ้นทางกาญจนาภิเษกไปจากทางบ้านแถวประชาอุทิศก็ไม่ไกล เพราะลงทางด่วนก็ถึงเมกกาบางนาเลย เดินทางสะดวกดีค่ะ เสียค่าทางด่วนกาญจนาฯไปกลับก็ 80 บาท
คุณแม่บอกว่าอยากลองทางเป็ดย่างของ Four Seasons สักหน่อย เพราะอยากลองเป็ดย่างที่ขึ้นชื่อว่า "อร่อยที่สุดในโลก"สักครั้ง
อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นวันพ่อ..และทุกคนเต็มใจจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทานอาหารดีๆ ดังนั้นห้างใหม่และใหญ่อย่างเมกกาบางนาจึงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน รถยนต์ต่อคิวกันเข้าลานจอดรถเต็มไปหมด..ทางเรานัดน้องสาวเอาไว้ที่ห้างนี้เลยรอกันค่ะ..เราไปถึงก่อน กว่าน้องเราจะมาถึงและหาที่จอดได้ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว เราเองไม่ทันได้คิดว่าคนจะเยอะเลยไม่ได้ไปจองคิวที่หน้าร้าน
ร้าน Four Seasons สาขานี้ค่อนข้างใหญ่ค่ะ กินเนื้อที่สองชั้นของตึกโซนอาหารด้านหน้า อยู่ใกล้กับโซน IKEA ร้านอยู่ติดกับหัวปลาหม้อไฟช่องนนทรีจูเนียร์ค่ะ ตอนแรกเดินเข้าห้างไปก่อนและค่อยเดินออกไปโซนอาหาร ปรากฏว่าชั้นบนไม่รับจองค่ะ..บอกว่าต้องลงมาจองโต๊ะที่ชั้นล่าง เราก็เดินลงมาจองข้างล่าง..ปรากฏว่า OH MY GODDDDDDD....สีเหลืองพรึ่บพรั่บนั่งเต็มไปหมด รอคิวเข้าร้านอาหาร..แต่ไหนๆ มาแล้วเราก็ไม่ย่อท้อค่ะ..เดินเข้าไปจองคิวพร้อมบอกเบอร์โทรศัพท์...โอววววววววว ได้คิวที่เท่าไหร่ไม่ทราบ..รู้แต่ว่าเขากำลังเรียกหน้าหนึ่งอยู่..แต่เราอยู่หน้าถัดไปแถมกลางหน้าอีกต่างหาก..ข้อเสียของการนั่งรอที่หน้าร้านก็คือ...ร้อนค่ะ..โซนนี้ไม่ได้อยู่ในห้าง ตรงจุดรอคิวอยู่ด้านนอก..แต่ดีสำหรับเด็กๆ ตรงที่มีสนามเด็กเล่นถึงสองจุดอยู่ด้านหน้าร้านพอดี.. เด็กๆ รอได้ไม่งอแงเนื่องจากมีของเล่นพร้อมทั้งมีน้ำพุสีๆ ให้ดูด้วยค่ะ
ผ่านไปชั่วโมงกว่า...เราถึงได้โต๊ะ ได้โต๊ะชั้นบนหมายเลข 202 ค่ะ...พอเดินขึ้นไปถึงก็เห็นพนักงานเช็ดโต๊ะเก็บกวาดโต๊ะอยู่...พอเรียบร้อยเราก็เข้าไปนั่ง..ภายในร้านแต่งสีออกโทนแดงค่ะ...จุดเด่นอยู่ที่โคมไฟสี่เหลี่ยมใหญ่ ดูสวยดีค่ะ..แถมยังมีห้องพิเศษแยกนั่งได้อีกต่างหาก เด็กๆ สนุกสนานกันดีค่ะ..มีเก้าอี้เด็กให้นั่งด้วย...เนื่องจากคนเยอะเราก็เลยไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ถึงเรื่องการบริการ...ที่ออกจะขาดไปสักหน่อย มานั่งตั้งนานเก็บโต๊ะเสร็จจานชามก็ไม่ให้สักทีต้องตาม เราพาลูกคนเล็กไปเข้าห้องน้ำกลับมาสั่งอาหารกันเสร็จไปหมดแล้วค่ะ
จานหลักที่ขาดไม่ได้แน่นอน..เป็ดย่างลือชื่อค่ะ...ไปกันผู้ใหญ่ห้าเด็กสองสั่งครึ่งตัวเลยค่ะ...หกร้อยบาท...ราคาแพงเอาการอยู่ สอบถามได้ว่าถ้าเป็ดย่างส่งตรงจากอังกฤษตัวล่ะ 2100 ++ !!! ไม่แบ่งขาย แต่ถ้าเป็นเป็ดไทยตัวละ 1200++ แบ่งขายเป็นจานกับแบบครึ่งตัว แต่สูตรเดียวกับอังกฤษ (เลยราคาเท่าาที่อังกฤษด้วยหรือเปล่า) ตอนมาส่ง..บริกรผู้ชายถือจานมาไม่ดีเลยค่ะ..ธรรมดาน่าจะใส่ถาดมาให้..แต่นี่ถือมาแถมตอนวางบนโต๊ะหัวแม่มือจิ้มลงไปในน้ำซี้อิ้วเป็ดด้วยค่ะ น้องเราโวยวายใหญ่ แต่ก็ไม่ได้มีการขอโทษอะไร วางเสร็จก็เดินไปเลย...ผ่านไปสักพักเราก็ถามว่า..เป็ดนี่ไม่มีน้ำจิ้มมาให้เหรอ...ถึงได้น้ำจิ้มมาสองชุด..เซ็งตั้งแต่จานแรกเลยค่ะ แถมสั่งชาร้อนสามแก้ว..ได้ชาเย็น เราสั่งเปลี่ยน ถามว่าจะเปลี่ยนกี่แก้ว น้องเราเลยย้อนว่า จดผิดกี่แก้วก็เปลี่ยนเท่านั้นแหละค่ะ..ดูในใบสั่งด้วยแล้วกัน
เป็ดย่างที่นี่รสชาติก็เข้มข้นเข้าถึงเนื้อดี..แต่รสชาติจะออกหวานหน่อย..ธรรมดาร้านอาหารจีนในไทยที่ไปกินเป็ดย่างจะออกรสเค็มกว่านี้..อาจจะเพราะว่า Four Seasons เป็นร้านอาหารจีนที่กำเนิดในลอนดอน รสชาติจึงปรับไปตามยุโรป ส่วนเราที่เป็นประเทศพี่น้องกับจีนอยู่แล้วจึงรู้สึกถึงความแตกต่างนิดหน่อย ร้านอาหารจีนในไทยก็มีหลายแบบหลายสไตล์ รวมทั้งเป็ดย่างด้วย...เราว่าเฉยๆ ค่ะจานถัดไปเป็นเต้าหู้มาโบ หรือเต้าหูเผ็ด เราสั่งเป็นหมูสับค่ะ เพราะแฟนน้องสาวไม่ทานเนื้อ
แกงจืดกังป๋วยผักรวม กังป๋วยคือเอ็นหอยเชลล์ตากแห้งค่ะ...ลองนึกถึงหอยตัวใหญ่ๆ เวลาดึงเนื้อออกจากเปลือกจะมีแกนติดอยู่กับเปลือกนิดนึง ก็แซะตรงนั้นมาตากแห้งค่ะ..หรือบางที่ใช้หอยเชลล์ทั้งตัวตากแห้งเลยก็ได้ เวลาใช้ต้มน้ำซุปจะอร่อยมากค่ะ..ธรรมดาที่บ้านเราก็ชอบซื้อมาใส่น้ำแกงเวลาต้มเองอยู่แล้ว..ซื้อทางใต้โลละสามพันกว่าบาท ก็ไม่ใช่ของดีเท่าไหร่ ของดีเคยไปซื้อที่ฮ่องกงกลับมาโลละหมื่นกว่าบาทก็เคยลองแล้ว.. แต่ก็ลองครั้งเดียวพอค่ะ..ของแพงรู้สึกว่าทานแล้วก็ถ่าย เลยขอนานๆ ครั้งก็พอรู้รสชาติ รสชาติน้ำซุปก็ใช้ไ้ด้ค่ะ..ผักใส่มาหลายชนิด มีทั้งแครอท ข้าวโพดอ่อน บร็อคโคลี่ เห็ด ฯลฯ แต่น้ำซุปขุ่นไปหน่อยค่ะ ไม่แน่ใจว่าตั้งใจหรือเปล่า..แต่บ้านเราชอบกินน้ำซุปใสค่ะ
จานถัดไป เป็นกุ้งทอดเคลือบไข่เค็ม จานนี้ลอง Photo Hunt เทียบกับรีวิวแรกของร้านนี้ดูนะคะ...ว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง...ราคา 480++ เท่ากัน แต่จานของเราทำไมเหมือนผัดเสร็จก็ใส่ๆ ลงในจานให้ลูกค้ากินเลย...เข้าใจค่ะว่าคนเยอะ..แต่ทางร้านควรจะจัดการให้ลูกค้าทุกคนได้อะไรเท่าเทียมกัน..เพราะลูกค้าทุกคนต่างมาด้วยความหวังว่าอยากได้กินของดีของอร่อยนะคะ คุณทำเหมือนไม่ตั้งใจมาให้ลูกค้า..ของประดับตกแต่งอะไรก็ไม่มี..เรียกได้ว่าโล้นๆ ร้านเล็กๆ แถวบ้านยังจัดจานมาดีกว่านี้เลยค่ะ
จานสุดท้าย คือปลาทอดราดเมล็ดสนสามรสค่ะ...เมล็ดสนจะเป็นเมล็ดเล็กๆ คล้ายเม็ดทานตะวันแต่หนากว่า มันกว่า ..อืม..ปลาทอดได้กรอบอร่อยดีค่ะ..จานนี้สีสันสวยงามอยู่แล้ว เลยไม่ต้องตกแต่งอ่ะไร น้ำราดรสชาติออกหวานนำ (ซึ่งบ้านเราไม่ชอบ) แต่ไม่เผ็ดค่ะ..ลูกสาวคนเล็กกินได้..ชอบทีเดียวค่ะ
กว่าจะกินข้าวเที่ยงเสร็จก็สี่โมงกว่า เรียกพนักงานมาเก็บเงิน ปรากฏว่าสามพันกว่าบาท....ใบเสร็จแรกมาน้องสาวหยิบดูปรากฏว่ามีค่าผ้าเย็น 7 มาด้วย น้องสาวเราบอกว่า ผ้าเย็นไม่ได้เลยสักผืนนะคะ พนักงานทำหน้าเหนื่อยๆ ขึ้นเสียงนิดหน่อย บอกว่าเดี๋ยวเอาบิลมาให้ใหม่ค่ะ...น้องสาวเราก็เซ็ง พอบิลมาใหม่เราก็เห็นข้อผิดพลาดอีก..แต่น้องเราเริ่มเซ็งเลยบอกให้จ่ายๆ ไปก่อน...เสร็จสิ้นทั้งหมด สามพันกว่าบาท ค่ะ-- จุดที่ผิดพลาดที่เห็นทีหลังคือ...ชาเย็นที่เราเปลี่ยนเป็นชาร้อน..ในใบเสร็จเป็นชาเย็นอยู่ ซึ่งชาเย็นจะแพงกว่าชาร้อนแก้วละ 5 บาท
-- เต้าหู้ผัดหมู -- สั่งเป็นหมู แต่ในใบเสร็จเขียน Beef ซึ่งเราไม่รู้ว่าราคาหมูกับเนื้อนี่เท่ากันหรือเปล่า...แต่เท่าที่กินของเราเป็นหมู
สุดท้าย..เราอยากให้ทางร้านทำใบเสร็จให้มีภาษาไทยกำกับด้วย..ซึ่งจะดูโปร่งใสกว่าหรือเปล่าคะ ราคาอาหารของร้านคุณก็ใช่ย่อยอยู่...ข้าวเปล่าถ้วยละ 25 บาท++ บะหมี่จานละ 50 บาท++ ทีแรกเราเข้าใจว่าจะกินอิ่ม..แต่นี่ไม่อิ่มค่ะ.. ไม่เคยไปร้านอาหารที่ไหนจ่ายสามพันกว่าบาทแล้วทานไม่อิ่มค่ะ...อย่างน้อยเราก็ถือว่าได้มาลอง Four Seasons ที่เมืองไทยแล้ว ครั้งเดียวก็พอค่ะ..
ปลา.เราเคยไปทานเป็ดร้านนี้ที่ลอนดอนมาแล้ว แต่ก็ทานหลายปีมาแล้ว ตอนไปก็สั่งแค่ข้าวหน้าเป็ดมาลอง ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย ที่อังกฤษเราไม่ต่อว่าเรื่องบริการ เพราะค่าแรงที่นั่นแพงเลยไม่ติดใจอะไร ส่วนใหญ่จะบริการตัวเองกันซะมาก...แต่ที่นี่เมืองไทย...ขอเถอะคะ...ถ้าไม่ปรับปรุงจะแย่นะคะ เพราะร้านมีให้เลือกเยอะแยะ....
Post
