Read full review
2012-07-21
233 views
ผึ้งน้อยและผองเพื่อนพากันไปทานซูชิมาหมาดๆที่ร้าน Only You Sushi ค่ะ (ชื่อร้านหวานแหวว ทำให้นึกถึงเพลงสมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มยังสาวเลยทีเดียว)ร้านนี้ตั้งอยู่ใน Nara Place ซอยนราธิวาส24 ผึ้งน้อยมาจากทางพระราม3 ก็เลี้ยวเข้าถนนนราธิวาส ตรงมาจะเจอกับซอย 24 ที่เป็นซอยทางลัดไปยังซอยสาธุประดิษฐ์19ได้ เลี้ยวเข้าซอยมาก็ตรงยาวเลยค่ะ กะไม่ถูกเหมือนกันว่ากี่ร้อยเมตร แต่เอาเป็นว่าคอยสังเกตฝั่งซ้ายมือไว้ค่ะ พอเห็นเริ่มมีโซนรวมร้านอาหารเริ่มจาก Starbuck , Chalie’s Brown,.. ก็ถัดมาอีกตึกเดียวจะเห็น Max Value สีชมพูสดเตะตา ก็เลี้ยวเข้าไปหาที่จอดรถเลยค่ะ ร้าน Only You Sushi ก็อยู่ติดๆกับ Max Value นั่นล่ะค่ะหน้าร้านขนาดก
หน้าร้านขนาดกว้าง 1 ห้องไม่มากไม่มาย ผลักประตูเข้าไปก็จะพบกับเคาน์เตอร์ปรุงอาหารสด เช่นทำซูชิ สลัด แม้แต่หั่นแบ่งปลาสำหรับย่าง เห็นเนื้อปลาชิ้นสวยๆแล้วเล่นเอาอยากทานเลย ส่วนขั้นตอนการทอดย่างเค้าจะเข้าไปทำในครัวค่ะ
ลึกเข้าไปก็เป็นบาร์แอลกอฮอล์ ที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์ไม่มีนะคะ จะเป็นโต๊ะเดี่ยวๆเก้าอี้เบาะสีแดงแปร๊ดจัดเรียงกันเป็นรูปตัว L อยู่รอบๆเคาน์เตอร์แทน (เห็นว่ามีที่นั่งชั้น 2 ด้วยแต่ไม่ได้ขึ้นไปค่ะ นั่งทานกันชั้นล่าง)
ผนังร้านเป็นแผ่นลอนๆๆๆแบบสังกะสีแต่มีลวดลายอาร์ทๆ เพิ่มลูกเล่นด้วยหลอดไฟเปลี่ยนสีที่ด้านล่าง เครื่องดื่มชาเขียวร้อนและเย็นเป็นเซอร์วิสของทางร้านค่ะ เติมได้ตลอด รสชาแม้ไม่เข้มข้นมากแต่สีสวยมากๆเลย
พอออร์เดอร์อาหารไปปุ๊บ ของที่ได้มาก่อนเลยคือวาซาบิอย่างที่เห็นในภาพ
หน้าตาไม่เคยเห็นมาก่อน
จาการสอบถามพนักงานจึงได้ทราบว่าเจ้าสิ่งนี้ก็คือ วาซาบิสดนั่นเอง (เฮ...เดาถูก)
ผึ้งน้อยปลื้มวาซาบิสดมาๆเลย นอกจากจะได้ความรู้สึกแปลกใหม่แล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าได้ทานวาซาบิจริงๆ รสก็สุดยอดมากๆค่ะ ทานมากไปก็ขึ้นถึงคิ้วให้น้ำตาไหลกันเลย
เมนูแรก จัดมาเบาๆด้วย Only You Salad (280 บาท) ผักสดๆกับเดรสซื่งโชยุรสชาดกลมกล่อม แต่งเครื่องหน้าด้วยอะโวคาโดและซาชิมิหั่นทรงลูกเต๋า ทั้งแซลม่อน มากุโร่ และทาโกะ โรนหน้ามาด้วยเกล็ดแป้งเทมปุระและหัวแรดิชหั่นฝอย ทุกอย่างทานเข้ากันดีมากๆ (เมนูนี้นี้พี่โอแพ้น้องสมรค่ะ น้องสมรเนื้อหวานสดกว่า ชนะไป)
เสียดายแค่ว่าจานเล็กไปหน่อยค่ะ ทานไม่สะใจ (แหม..ตั้ง 280 บาทนี่น้าาาา)
ถัดมาที่น้องหนอนตัวใหญ่ที่ทางร้านตั้งชื่อไว้อย่างหรว่ามังกร...แต่ผึ้งน้อยเรียกน้องหนอนค่ะ
Brown Dragon (500 บาท) ร้านนี้มีน้องหนอนอยู่ 4 แบบ 4 สี ซึ่งทั้ง 4 แบบจะมีลำตัวที่เหมือนกันหมดคือข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้งเทมปุระ ต่างกันที่หน้าที่ห่มมาด้านบนค่ะ
น้องหนอนมังกรน้ำตาลตัวนี้ห่มตัวมาด้วยอูนางิ (ปลาไหล) เลยค่าตัวแพงกว่าเพื่อน
ในจานมีน้ำซอสที่เป็นสลัดเดรสซิ่งราดมากับซอสเทริยากิ จิ้มซอสที่มีแล้วทานกับวาซาบิสด..สุดยอดมากๆ
สิ่งที่ช็อควงการที่สุด (ในแง่ของความสุดยอดนะคะ) คือไส้กุ้งเทมปุระข้างในค่ะ เทมปุระสามารถคงความกรอบไว้ได้อย่างเหลือเชื่อตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย
น้องหนอนน่ารัก อิอิ ชิ้นสุดท้ายค่ะ ถัดมาขอลองกันที่ซูชิในรูปแบบของ Gunkan Sushi (ซูชิที่พันด้วยสาหร่ายรอบข้าวแล้วหยอดหน้าด้วยของสด)
Spicy Maguro (50 บาท / 1 คำ) และ Spicy Salmon (40 บาท / 1 คำ) ของผึ้งน้อยเป็น Spicy Maguro ค่ะ รสชาติโดยรวมโอเค แต่หน้าน้อยไปหน่อย ยังรู้สึกว่าหน้าใหญ่ยักษ์ของ Honmono Sushi ยังติดตาอยู่ค่ะ 555
คุณเพื่อนบอกว่า Spicy Salmon เนื้อหวานอร่อยมากๆค่ะ
ตามมาด้วยน้องหนอนอีก 1 ตัวอวบๆที่มีลำตัวสารพัดสี
Rainbow (350 บาท) ตัวนี้มี 3 สี ประกอบด้วยสีเขียวที่ห่มด้วยอะโวคาโด สีแดงจากมากุโร่ และสีส้มสดใสจากแซลม่อน
เดรสซิ่งที่ราดมาก็ประมาณเทาร์ซันไอร์แลนด์ผสมเอบิโกะ (ไข่กุ้ง) แต่งด้วยซอสเทริยากิเล็กน้อย เดรสซิ่งค่อนข้างหวานนะค่ะ แตะหน่อยๆแล้วปาดวาซาบิสดก็กำลังดีเลย
ปลาแซลม่อนกับอะโวคาโดอร่อยดีค่ะ มีความสดใหม่ มากุโร่จะอ่อนกว่าเพื่อนทั้งด้านความสดและความเข้มข้นของรสชาด ส่วนซุปเปอร์กุ้งเทมปุระก็ยังกรอบจนคำสุดท้ายเช่นเคยค่ะ ประทับใจสุดๆ
นอกจากน้องหนอน 2 ตัวนี้แล้วก็มีอีก 2 ตัวคือ Red Dragon ที่ห่มทั้งตัวด้วยกุ้งต้ม ได้เป็นน้องหนอนสีส้มหน้าตาน่ารัก กับน้องหนอนแก้วสีเขียว Caterpillar ที่ห่มด้วยอะโวคาโดล้วนๆ ทั้ง 2 เมนูนี้ราคาเท่ากันคือ 350 บาทค่ะ (แต่ผึ้งน้อยกับผองเพื่อนเริ่มอืดแล้วค่ะ ไปต่อไม่ไหว)
ตบท้ายด้วยเมนูสุดปลื้มที่แม้จะอืดก็อยากทาน
Ebi Tenpura (250 บาท) กุ้งเทมปุระ 5 ตัว โรยด้วยผงสาหร่ายเพิ่มสีสันให้ยิ่งน่าทาน
เนื้อกุ้งหวานสด แป้งกรอบไม่ผิดหวังจริงๆ (แม้แต่กุ้งเทมปุระ ผึ้งน้อยก็ยังทานกับวาซาบิสดค่ะ ชอบจริงจัง)
สรุปความประทับใจท่วมท้นในวันนี้
บรรยากาศ – การจัดแต่งที่แปลกตากับการเล่นสีของไฟก็ดูเข้ากับอาหารที่ออกไปทางสมัยใหม่กึ่งฟิวชั่น แม้ทางเดินในร้านจะแคบไปซักนิดก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคมากมายอะไร
การบริการ – ประทับใจมากๆ เหมือนคุณเจ้าของร้านจะมาดูแลเองด้วย (รึเปล่านะ..ไม่ใช่ก็หุ้นส่วนล่ะ) พนักงานคอยดูแลทั้งเก็บจาน เติมน้ำ แถมยังเปลี่ยนจานที่เราใช้เลอะให้ด้วย เป็นการบริการที่เหมือนระดับโรงแรมแต่ให้คว่ามรู้สึกกันเองไปพร้อมๆกัน
รสชาติอาหาร – แม้ความสดของปลาจะไม่ถึงขั้นเทพ แต่ก็ยังอยู่ในระดับมาตรฐาน มีความคุ้มค่าในระดับนึง พูดง่ายๆว่ามาอีกแน่ๆ (ถ้าเนื้อปลาชิ้นใหญ่ขึ้นจะมาบ่อยๆ 555 ) กุ้งเทมปุระทอดได้เทพเว่อร์ ไม่เคยทานเทมปุระที่ไหนที่ที่กรอบได้นานขนาดนี้มาก่อนค่ะ ขอยกนิ้วให้เลย
Post