มั่นใจแค่ไหนว่าคุณคือกูรูนักชิมอาหารญี่ปุ่น ตัวจริง ถ้าคุณยังไม่ได้ทำความรู้จักกับ ประเภทซูชิ ต่างๆ เหล่านี้ได้ครบทั้งหมด!
อาหารญี่ปุ่นกลายเป็นอาหารยอดนิยมตลอดกาลสำหรับนักชิมชาวไทยไปเสียแล้วค่ะ แทบจะพูดได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “ซูชิ หรือ ข้าวปั้น” เมนูยอดนิยมในร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งเล็กใหญ่ และเนื่องจากอาหารประเภทซูชินั้นมีพัฒนาการมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเฮย์อัน (ราวปี ค.ศ. 927) ด้วยพัฒนาการที่ยาวนานและความสร้างสรรค์ของเชฟในยุคสมัยต่างๆ สั่งสมมา เมนูซูชิที่เราพบเห็นกันทั่วไปในปัจจุบันจึงมีความหลากหลายอย่างมาก วันนี้ OpenRice จะพาเพื่อนนักชิมไปทำความรู้จักซูชิประเภทต่างๆ กันให้ลึกซึ้งขึ้นอีกสักนิด ให้สมกับความเป็นกูรูนักกินของพวกเรา (^0^)//
นาเระซูชิ (Nare Sushi)
นาเระซูชิถือเป็นต้นกำเนิดของซูชิทั้งมวล โดยเป็นการนำปลา ข้าวสวย และเกลือมาหมักจนเกิดข้าวหมักและปลารสเปรี้ยว ซึ่งวิธีการหมักปลาเช่นนี้ ว่ากันว่าได้รับอิทธิพลมาจากอาหารบริเวณลุ่มน้ำโขงเรานี่เอง (ใกล้เคียงกับปลาส้ม) ปัจจุบัน นาเระซูชิที่ยังพบเห็นอยู่ ได้แก่ ฟุนะซูชิ ซึ่งจะใช้ปลาฟุนะหมักกับข้าว แม้จะมีกลิ่นเหม็นมาก แต่ถือเป็นอาหารหรู ราคาแพงไปแล้วในปัจจุบัน
นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)
ซูชิที่พวกเราคุ้นเคยกันมากที่สุด ใช้ข้าวผสมกับน้ำส้มสายชูปั้นเป็นก้อนรีแล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน อาจป้ายวาซาบิไว้ที่เนื้อปลาเพื่อเพิ่มรสชาติ หัวใจหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับนิกิริซูชิที่ดี ปริมาณข้าว รสชาติข้าว วาซาบิหรือซอสต่างๆ และปริมาณเนื้อปลาต้องสมดุลกัน เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด ถือเป็นศาสตร์การปรุงอาหารที่ต้องฝึกฝนอย่างยาวนาน
มากิซูชิ (Maki Sushi)
มากิซูชิ หรือ ข้าวปั้นห่อสาหร่ายที่หลายคนติดอกติดใจ หรือเรียกอีกชื่อว่าซูชิโรล ถือเป็นซูชิสไตล์ใหม่จากการเผยแพร่วัฒนธรรมการกินซูชิสู่สหรัฐอเมริกาจนทำให้เกิดการปรับปรุงรูปแบบซูชิให้เข้ากับชาวตะวันตก วิธีการม้วนมากิซูชินั้น จะมีทั้งที่สาหร่ายอยู่ด้านนอกและสาหร่ายอยู่ด้านใน ซูชิโรลที่ฮ็อทฮิตที่สุดหนีไม่พ้น แคลิฟอเนียโรล
เตมากิซูชิ (Temaki Sushi)
ซูชิประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกับมากิซูชิ แต่จะต่างกันตรงที่เชฟจะห่อข้าวซูชิและไส้ต่างๆ ด้วยสาหร่ายกรอบให้เป็นรูปกรวย เพื่อให้ถือรับประทานได้ง่าย เป็นที่มาของคำว่า Temaki (Te แปลว่า มือ) และในภาษาอังกฤษจะเรียกมากิชนิดนี้ว่า Hand Roll หรือซูชิโรลมือถือนั่นเอง
กุงกังซูชิ (Gunkan Sushi)
ซูชิที่ใช้สาหร่ายพันรอบข้าวแล้วโปะหน้าซูชิต่างๆ ไว้ด้านบน กุงกังซูชิเกิดขึ้นจากความต้องการทำซูชิจากวัตถุดิบแบบใหม่ๆ อย่างไข่กุ้ง อิคุระ หรือไข่หอยเม่น ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่เป็นชิ้น ไม่เกาะเป็นก้อน ทำให้ต้องใช้สาหร่ายในการช่วยพยุงเอาไว้ สำหรับคำว่า กุงกัง นั้นหมายถึงเรือรบ เนื่องจากหน้าตาของซูชิแบบนี้ดูคล้ายเรือรบนั่นเอง
ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)
ซูชิประเภทนี้ชาวไทยรู้จักกันในนาม “ข้าวหน้าปลาดิบ” แต่อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นปลาดิบก็ได้ หัวใจสำคัญคือการใช้ข้าวซูชิ หรือข้าวสวยคลุกน้ำส้มใส่ชามไว้ แล้วเลือกท้อปปิ้งด้วยเนื้อปลาชนิดต่างๆ หลากหลายประเภทตามแต่พื้นที่ ไข่หวาน อะโวคาโด หรือผักต่างๆ ตามชอบ
โอชิซูชิ (Oshi Sushi)
ซูชิกดในแบบคันไซ ซึ่งจะนำเอาข้าวซูชิและปลาดิบเรียงลงในกล่องแล้วกดทับให้แน่น หน้าตาโอจิซูชิอาจดูคล้ายกับนิกิริซูชิ แต่จะต่างกันที่กรรมวิธีการทำ ที่จะใช้การกดข้าวให้แน่นแทนการปั้น ซูชิจะมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม เพราะเกิดจากการอัดเป็นแท่งยาวแล้วถูกตัดแบ่งให้เป็นชิ้นพอดีคำ
อินาริ (Inari Sushi)
อินาริซูชิหรือซูชิเต้าหู้หวาน เป็นการนำข้าวซูชิปรุงรสมายัดลงในเต้าหู้ทอดที่มีลักษณะเป็นถุง ชื่ออินารินั้นตั้งตามชื่อของเทพอินาริในตำนานของญี่ปุ่นที่มีความเชื่อกันว่าโปรดปรานเต้าหู้ทอดเป็นที่สุด
รู้จักซูชิแบบต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว คราวหน้าไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่น ก็สามารถสั่งเมนูต่างๆ ได้อย่างเข้าใจและไม่ขัดเขินแล้วนะพวกเรา... ^_<
อยากให้ลองลิ้มซูชิขั้นเทพ