ร้านอาหารญี่ปุ่น Fillets
กลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามอง และถ้าอยากรู้ว่าที่นี่ใช้ของดีแค่ไหน หรือเชฟฝีมือฉกาจเพียงใด ก็ต้องลองเมนูตามใจเชฟอย่าง Omakase Course เพราะเป็นเมนูที่เชฟคัดสรรมาอย่างดี ส่วนOmakase Course
ที่ OpenRice ได้ลองนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร จะมีเมนูอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย
Modern Japanese Comfort
ร้านอาหารญี่ปุ่น Fillets ที่ชั้น 3 The Portico Langsuan ซอยหลังสวน เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม แล้วเดินเข้าซอยหลังสวนไปประมาณ 150 เมตร ก็จะพบกับโครงการเดอะปอร์ติโก หลังสวน เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 3 ให้สังเกตประตูไม้ที่คล้ายกับบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณ
ผสมผสานการตกแต่งได้อย่างน่าหลงใหล
ร้าน Fillets ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ โดยดึงเอารูปแบบบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณมาผสมผสานความเป็นโมเดิร์น มีทั้งคานไม้เก่าๆ มุมที่นั่งแบบญี่ปุ่น ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ที่ดูทันสมัย โซนบาร์ที่เพิ่มความเก๋ไก๋ บ่งบอกสไตล์ของร้านได้อย่างชัดเจน
อาหารญี่ปุ่นที่มีจุดเริ่มต้นจากการเข้าใจวัตถุดิบ
สิ่งสำคัญของการทำอาหารอย่างหนึ่ง คือการเข้าใจวัตถุดิบ ซึ่งเกิดได้จากพรสวรรค์และการฝึกฝน โดยเชฟ Randy ได้สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารญี่ปุ่นมาตั้งแต่อยู่อเมริกา ทั้งยังเคยฝึกงานและทำงานกับเชฟญี่ปุ่นชื่อดัง รวมถึงเชฟกระทะเหล็ก Masaharu Morimoto มาแล้ว โดยเชฟ Randy ให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบอย่าง "ถูกที่ ถูกเวลา" คือการเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลจากแหล่งที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ของจากญี่ปุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการดึงรสชาติที่แท้จริงจากวัตถุดิบออกมาอีกด้วย เช่นปลาบางชนิดที่ต้องบ่ม หมัก หรือดอง จึงจะอร่อยที่สุด เรื่องอุณหภูมิในการประกอบอาหาร ความแน่นของข้าว ปริมาณของโชยุที่ใช้ ใส่ใจถึงขนาดปลูกผักเองที่เชียงใหม่ เพื่อนำมาตกแต่งเมนูอาหารให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น เช่น ดอกกุยช่ายและต้นกล้าอ่อนของผักชี สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ก็จะจำแนกง่ายๆ ตามประเภท อาทิ ซาชิมิและซูชิแบบ Traditional เพราะอยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับจริงๆ ส่วนโรลและเมนูอื่นๆ ทางร้านพยายามสร้างสรรค์เมนูใหม่ให้น่าสนใจ สับเปลี่ยนเพิ่มเติมเมนูอยู่บ่อยๆ ไม่ให้ลูกค้าเบื่อ ไม่เพียงแต่เมนูอาหารที่โดดเด่น ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มน่าสนใจเช่นกัน รังสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มอย่างคุณปิง (โรจนัสถ์ เจริญศรี) ที่ผ่านการทำงานในร้านอาหารชื่อดังจาก Washington D.C. ทั้งยังเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานของเชฟ Randy เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจกลับมาเมืองไทยจึงตกลงเปิดร้าน Fillets ร่วมกัน เพราะอยากแบ่งปันความอร่อยให้คนไทยได้ลิ้มลอง
Omakase Course
Omakase เป็นคอร์สอาหารญี่ปุ่น ที่สามารถพิสูจน์ความสดและมีคุณภาพของวัตถุดิบ รวมทั้งฝีมือของเชฟได้อย่างดี โดยร้าน Fillets มีทั้งคอร์สเล็ก (4,000 บาท) เสิร์ฟตั้งแต่เวลา 18.00 น. - 20.00 น. และคอร์สใหญ่ 15 คำขึ้นไป (6,000 บาท) ซึ่งจะต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า เพราะแต่ละรอบจะเสิร์ฟเพียง 6 ที่เท่านั้น สำหรับวัตถุดิบและเมนูในแต่ละครั้งจะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยเลือกจากความสดใหม่ วัตถุดิบหายาก เพื่อให้ลูกค้าได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น
เมนูแรกที่เชฟนำมาวางตรงหน้าคือ Sashimi เป็นซาชิมิปลากะพง อาหารเรียกน้ำย่อยที่ใน 1 เมนู มีถึง 2 รสชาติ มีทั้งปลากะพงระดับน้ำปกติ ที่ผ่านการรมควันรสชาติจะมีความเค็มนิดๆ เข้ากันได้ดีกับเนื้อปลา ส่วนปลากะพงน้ำลึก เชฟจะห่อด้วยใบซากุระ ทำให้มีกลิ่นหอม ทั้งยังมีรสชาติที่อ่อนกว่าตัวแรก
ร้านนี้ยังพิเศษด้วยการเสิร์ฟ Iri Sake ให้ทานคู่กับ Sashimi ซึ่งเป็นวิธีการดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นในสมัยโบราณนับร้อยปีมาแล้ว ที่เลือกนำสาเกต้มบ๊วยดองมาทานกับปลาดิบ โดย Iri Sake จะให้ความนุ่มนวลกว่าโชยุ
ต่อมาเป็นเมนู Signature Appetizer ชื่อว่า Toro Truffle Caviar นุ่มนวลด้วย Chu toro กรุ่นกลิ่น Black Truffle และได้รสชาติจาก Osetra Caviar เป็น 1 คำที่เลอค่าละมุนลิ้นมากๆ
เริ่มเข้าสู่เมนูซูชิด้วย Shiro Ika ปลาหมึกขาวปรุงรสด้วยเกลือและมะนาว ซูชิรสเบาๆ เป็นการเริ่มต้น เด่นด้วยกลิ่นพิเศษของมะนาวญี่ปุ่นหรือมะนาวสึดาชิ ที่ให้กลิ่นหอมจางๆ คล้ายกับมะกรูดของไทย
ต่อด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล Isaki รสสัมผัสหนึบขึ้นมาอีกนิด ได้กลิ่นหอมจากการ Burn หนังปลา ทานแล้วได้รสที่กลมกล่อม
แล้วจึงเสิร์ฟ Kanpachi ซึ่งได้รสสัมผัสของความแน่นหนึบขึ้นมาอีกหน่อย
มาถึง Toki Zake แซลมอนจากฮอกไกโดที่หาได้ยาก โดยทางร้าน Fillets นิยมการเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมากกว่าในฟาร์ม ซึ่งปลาตามธรรมชาติว่าหายากแล้ว แซลมอนชนิดนี้ยิ่งหายากขึ้นไปอีก เพราะเป็นปลาตามธรรมชาติจากฮอกไกโดที่ว่ายไปไกลถึงรัสเซียแล้วกลับมายังฮอกไกโดอีกครั้ง โดยเป็นแซลมอนประจำฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น (ประมาณพฤษภาคมถึงกลางเดือนกรกฎาคม) จึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 2,000 บาท รสชาติของแซลมอนนั้นละมุน นุ่มกว่าแซลมอนชั้นดีทั่วไป เคี้ยวแล้วเพลิดเพลินละลายในปาก
เมนูต่อไป Hamachi ปลาทูฤดูใบไม้ผลิที่ว่ายในน้ำวนมาตลอด จึงตัวใหญ่กว่าปกติและมีเนื้อแน่น เชฟเสิร์ฟมาพร้อมกับต้นหอมและขิงสับ ได้รสจัดขึ้นหน่อย กลิ่นของขิงเด่นขึ้นมาเพิ่มความสดชื่น
ต่อด้วย Hon Mauro Akami ทูน่าเนื้อแดง ที่ให้รสจัดจ้านขึ้นด้วยซอสสูตรเฉพาะ
ละมุนลิ้นขึ้นไปอีกกับ Chu Toro หวานๆ มันนุ่มๆ เคี้ยวแล้วฟิน
มาถึงไข่หอยเม่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเด่นของร้านเพราะที่นี่มี Uni อยู่หลายชนิด โดยชิ้นนี้เป็น Nama Uni เกรดดีจากฮอกไกโด นวลเนียนลื่นละมุนไร้ซึ่งความคาว ทำให้กินง่ายมากๆ
ตามมาด้วย Botan Ebi ที่ทางร้านเลือก Shiro Ebi จากน่านน้ำชิซึโอกะ หอมกลิ่นเลมอนอ่อนๆ ทานกับเนื้อกุ้งหวานๆ
สุดท้ายก่อนจะท้ายสุด Castera Tamako ไข่หวานเลิศรส สัมผัสหนุบหนับ รสชาติคล้ายคัสตาร์ดที่เนื้อแน่นกว่า ความหวานทำออกมาได้กำลังดี
ปิดท้ายด้วย Tiramisu Mochi โมจิแป้งหนุบสอดไส้ทีรามิสุเข้มข้น นำมาจากร้าน ChikaLicious Dessert
ขอบอกเลยว่าร้านอาหารญี่ปุ่น Fillets ไม่ได้เก๋แค่ Omakase แต่ยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยและน่าทานอีกเพียบ ใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นชั้นดี หรือต้องการสัมผัสรสมือจากเชฟที่เข้าใจวัตถุดิบต้องไปลองให้ได้ โดยร้านนี้จะเปิดให้บริการเป็น 2 รอบมีทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ สำรองที่นั่งสำหรับ Omakase Course และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-652-2607 เข้าไปดูเรื่องราวอัพเดตของร้านได้ที่เฟซบุ๊คนี้ค่ะ https://www.facebook.com/filletsbangkok