อาหารเช้า เป็นสิ่งที่ใครต่อใครคอยพร่ำบอกอยู่เสมอว่าให้รับประทาน เนื่องจากมีความสำคัญต่อร่างกายและสำคัญกว่าทุกมื้อ เคยสงสัยไหมว่าช่วงเวลาระหว่างอาหารเช้ากับอาหารกลางวันนั้น ห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง จะรอรับประทานตอนเที่ยงเลยทีเดียวไม่ได้หรือ? จะได้หรือไม่ได้นั้น ลองมาดูกันก่อนว่า เมื่อคืนก่อนนอนนั้นเรารับประทานอาหารค่ำกันไปตอนกี่โมง และตลอดระยะเวลาที่เรานอนหลับจนถึงเช้า อย่างน้อยๆก็ 8 ชั่วโมงที่ท้องเราจะว่าง ดังนั้น เมื่อตื่นมาในตอนเช้าระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ และขณะที่ลุกขึ้นเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ เราจะรู้สึกหิว เนื่องจากสมองสั่งให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมา เพราะร่างกายต้องการพลังงาน หากเรายังไม่เติมพลังงานให้กับร่างกาย หรือยังไม่กินอาหารเช้า ร่างกายต้องไปดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ที่สะสมไว้ในตับ ซึ่งร่างกายเก็บเป็นเสบียงไว้ใช้ในยามจำเป็น นำมาใช้เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ และถ้าหากไม่รับประทานอาหารเช้าอย่างต่อเนื่อง พลังงานส่วนนี้จะถูกใช้จนหมดไปเพราะไม่มีใหม่มาเติม ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารและทำให้ซูบผอม และแน่นอนที่จะมีผลต่อสุขภาพ
การกินอาหารเช้ายังช่วยป้องกันโรคหัวใจ และน้ำตาลในเลือดสูง ลดอาการอ่อนเพลีย ซึ่งหากไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้สมองได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้ไม่กระปรี้กระเปร่า เฉื่อยชา และขาดความคล่องแคล่วว่องไว ความจำไม่ดี และยังทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานต่ำกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนได้ เพราะเรารับประทานอาหารครั้งสุดท้ายมื้อเย็น กว่าจะไปรับประทานอีกครั้งคือมื้อกลางวัน เมื่อถึงเวลาทำให้หิวมากกว่าปกติ และจะรับประทานเกินความต้องการของร่างกาย ถ้าหากผู้ใดที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ จะทำให้กระเพาะไม่แข็งแรง ระบบขับถ่ายไม่ปกติ ตัวและกล้ามเนื้อเหลว ผิวเหี่ยวคล้ำ แก่เร็ว ชอบมีอาการปวดหัวปวดเข่า ความสามารถในการจำลดลง ถึงขั้นอาจเป็นอัลไซเมอร์ได้ ที่สำคัญภูมิต้านทานของร่างกายจะลดลงด้วย
เมื่อทราบเช่นนี้แล้วเราควรหันมาใส่ใจกับการรับประทานอาหารเช้า เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในทุกๆด้าน ทั้งร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา ให้พร้อมกับกิจกรรม การทำงาน หรือการศึกษาในแต่ละวัน หากเวลาไม่มากเราสามารถหาเมนูง่ายๆ เช่น อาหารที่มีแคลเซียมสูง นม โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง หรือธัญพืชเสริมแคลเซียม น้ำส้มเสริมแคลเซียม ซึ่งช่วยในการเผาผลาญไขมัน และลดการสะสมไขมันในร่างกาย เช่น นม หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จำพวกธัญพืชไม่ขัดสีและผลไม้ ซึ่งดีที่สุดสำหรับอาหารเช้า เพราะจะค่อยๆ ปลดปล่อยกลูโคสให้กับสมองโดยใช้เวลานานขึ้นในการย่อยและดูดซึม นอกจากนี้ห้ามลืมโปรตีนที่ช่วยในการเสริมสร้างสมองง่ายๆ แค่ไข่ไก่วันละหนึ่งฟองเท่านั้น!