ถ้าหากพูดถึงพริก แน่นอนว่าทุกคนจะต้องนึกถึงรสชาติเผ็ดร้อนขึ้นมาเป็นอย่างแรก สำหรับบางคนที่เป็นสายแซ่บ ยิ่งเผ็ดเท่าไหร่ยิ่งดี แต่บางคนนี่แค่พริกเม็ดเดียวก็น้ำหูน้ำตาไหลร้องขอน้ำแทบไม่ทันแล้ว ทั้งที่กินส้มตำจานเดียวกัน แต่บางคนกลับนั่งกินสบาย ในขณะที่เพื่อนข้างๆ หันไปสั่งน้ำเปล่าเพิ่มอีกขวด ทำไมถึงเป็นแบบนั้น และถ้าแต่ละคนรู้สึกเผ็ดไม่เท่ากันแบบนี้ พริกที่เขาโฆษณากันว่าเผ็ดที่สุดในโลกจะน่าเชื่อถือได้ยังไง เราใช้หน่วยอะไรวัดระดับความเผ็ดกันแน่
www.lindos.bm/burning-love/
หน่วยวัดระดับความเผ็ดสากลมีชื่อเรียกว่า Scoville Scale (สโควิลล์ สเกล) ตั้งชื่อตามเภสัชกรชาวอเมริกันอย่าง Wilbur Scoville ผู้คิดค้นมันขึ้นมา การวัดระดับความเผ็ดวัดได้ 2 แบบ คือ วัดจากประสาทสัมผัส และ วัดด้วยเครื่องวัด
เอ๊ะ แล้วการวัดความเผ็ดจากประสาทสัมผัสนี่วัดกันยังไง จะต้องให้ผู้ทดสอบมานั่งเคี้ยวพริกทีละเม็ดๆ รึเปล่า นี่มันการวัดความเผ็ดหรือรายการทดสอบความกล้ากันแน่
โชคยังดีที่การวัดระดับความเผ็ดจากประสาทสัมผัสนี้ไม่ต้องเคี้ยวพริกโดยตรง แต่จะใช้วิธีนำพริกแห้งปริมาณเท่าๆ กันไปใส่ในแอลกอฮอล์เพื่อแยกเอาสาร แคปไซซิน ที่เป็นตัวสร้างความเผ็ดร้อนออกมา จากนั้นก็นำสารที่ได้ไปเจือจางด้วยน้ำผสมน้ำตาล แล้วจึงค่อยนำไปให้ผู้ทดสอบชิม หากยังรู้สึกว่าเผ็ดอยู่ก็ต้องเจือจางต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่รู้สึกถึงรสเผ็ดอีกต่อไป ยิ่งต้องเจือจางมากเท่าไร ก็ยิ่งแสดงว่ามีค่าสโควิลล์ (SHU) สูงเท่านั้น
แน่นอนว่าพอใช้วิธีนำไปให้คนชิม ผลที่ได้ก็ออกมาแตกต่างกัน เพราะคนเราแต่ละคนมีต่อมรับความเผ็ดร้อนไม่เท่ากัน จึงต้องมีวิธีวัดด้วยเครื่องอีกอย่างหนึ่งเพื่อให้ผลเที่ยงตรงขึ้น
การวัดระดับความเผ็ดด้วยเครื่องจะใช้ระบบ HPLC (High-performance liquid chromatography) ผลที่ได้จะไม่ใช่หน่วยสโควิลล์ แต่เป็นหน่วย ASTA แทน ซึ่ง 1 หน่วย ASTA เท่ากับ 16 หน่วยสโควิลล์
Capsella เครื่องวัดระดับความเผ็ดฝีมือคนไทย
www.bangkokbiznews.com
ถ้าโลกเรามีระบบวัดความเผ็ดที่แน่นอนแบบนี้แล้ว ตอนนี้พริกอะไรเผ็ดที่สุดในโลกล่ะ
คำตอบก็คือพริก Carolina Reaper ที่มีระดับความเผ็ดมหาศาลเทียบเท่ากับสเปรย์พริกไทย! โอย แค่นึกภาพก็แสบตาแสบจมูกแล้ว อย่าว่าแต่เข้าปากเลย
พริกที่เผ็ดที่สุดในโลก Carlina Reaper แค่เห็นหางแหลมๆก็รู้แล้วว่าแซ่บ
delectationoftomatoes.wordpress.com
ใช่ว่าพริกจะมีดีแค่รสเผ็ดอย่างเดียว แต่สารแคปไซซินในพริกยังช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง ขับเสมหะ กระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารสร้างความสุขอย่างเอ็นโดรฟิน (นี่ล่ะสาเหตุที่ทำให้หลายคนหยุดกินอะไรเผ็ดซี้ดสะใจไม่ได้) ช่วยในการไหลเวียนเลือดและการเผาผลาญ ป้องกันไม่ให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี นอกจากนี้พริกยังมีวิตามินซีและสารตั้งต้นของวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย
สำหรับใครที่กินเผ็ดมากไม่ได้แต่ใจยังรัก OpenRice ก็มีเคล็ดลับแก้เผ็ดมาบอกค่ะ จริงๆ แล้วความเผ็ดไม่ใช่รสชาติ แต่เป็น “ความระคายเคืองต่อผิวหนัง” สารในพริกที่ทำให้เกิดความระคายเคืองและแสบร้อนคือ แคปไซซิน ซึ่งไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายในไขมันและแอลกอฮอล์ ดังนั้นถ้าเกิดเราเผลอกินเผ็ดมากเกินไป ให้ดื่มนมหรือแอลกอฮอล์ตาม ก็จะหายเผ็ดได้ง่ายๆ กะทิเองใช้ได้ผลในกรณีนี้เช่นกัน ทีนี้ไม่ว่าจะกินเผ็ดเก่งหรือไม่เก่ง ทุกคนก็อิ่มอร่อยซี้ดซ้าดกับอาหารแซ่บได้ถ้วนหน้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปตะลุยกินเผ็ดกันได้ที่นี่เลยกับ รวมสุดยอดเมนูแซ่บทั่วไทย
Credit: wikipedia.org, www.foodnetworksolution.com,
www.lindos.bm/burning-love/, www.medicthai.com