บุฟเฟ่ต์ยังคงเป็นอาหารยอดนิยมตลอดกาลสำหรับนักชิมชาวไทย ไม่ว่าจะออกเดท ปาร์ตี้ เลี้ยงรุ่น รวมญาติ ก็สังสรรค์กันได้ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ทั้งสิ้น เรียกว่ากินกันได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส จริงๆ แต่วันนี้ด้วยเทรนด์เกาหลีฟีเวอร์ ก็เลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปชิมบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ที่เกิดจากความรักในประเทศเกาหลีของ 2 หุ้นส่วนสาวไทย และอีกหนึ่งหนุ่มชาวเกาหลีที่มาตกหลุมรักสาวไทย จนทำให้เกิดร้านอาหารเกาหลีราคาเบาๆ เอาใจคนไทยนามว่า Salang (ซาลัง แปลว่า “รัก”) ขึ้น

พร้อมกันหรือยังกับความอิ่มอร่อยแบบจัดเต็มที่ Salang

โลโก้ที่ทุกคนคุ้นเคย

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเสียงของร้านบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลีนาม Salang มาพอสมควร และน่าจะคุ้นเคยกับร้านสาขาพญาไทกันมาแล้ว แต่วันนี้ได้รับเชิญให้มาร่วมพิสูจน์ความอร่อยที่สาขาบางจากค่ะ สาขานี้เพิ่งเปิดใหม่ สดๆ ซิงๆ ให้บริการมาได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น โลเคชั่นค่อนข้างสะดวก อยู่ในซอยสุขุมวิท 93 ใกล้กับ BTS บางจากนิดเดียวเท่านั้น เดินเข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ถัดจากเอ.อาร์.อพาร์ทเม้นต์

เห็นหน้าร้านแบบนี้ แสดงว่ามาถึงแล้วจ้า

มาถึงร้านขนาด 3 คูหา แม้จะกว้างขวางขึ้นกว่าร้านเก่า (ที่หลายคนร่ำลือว่าต้องรอคิวนานมาก) แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์และบรรยากาศแบบเดิมไม่ผิดเพี้ยน ด้วยลายเพ้นต์ดอกทานตะวันดอกโต คล้ายกับร้าน Coffee Prince ณ กรุงโซล ที่คุณเจี๊ยบหนึ่งในหุ้นส่วนบอกว่ามาจากความประทับใจส่วนตัว Salang สาขานี้มีบริการถึง 21 โต๊ะ เรื่องรอคิวจึงหายห่วง

บรรยากาศอันกว้างขวางยิ่งขึ้นภายในร้านสาขาใหม่

แต่ภาพเพ้นต์ทานตะวันดอกโตยังคงอยู่นะจ๊ะ

แอบมีโคมไฟเก๋ๆ ประดับอยู่ด้วย ดูเป็นการตกแต่งแบบ DIY

ร้าน Salang ให้บริการอาหารเกาหลีแบบปิ้งย่าง มีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ A La Carte และเมนูแบบเซ็ทอาหารจานเดียวง่ายๆ สำหรับรับประทานช่วงกลางวัน ซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่น้อย

บะหมี่ดำ (90 บาท) เมนูเด็ดอีกหนึ่งเมนูสำหรับอาหารแบบ A La Carte

ซาลังราเมน (100 บาท) มีท้อปปิ้งสุดจี๊ดอย่างชีสด้วย

สำหรับเมนูบุฟเฟ่ต์ในราคา 330 บาทเน็ตต่อคนนั้น เรียกได้ว่าถูกสตางค์และถูกปากชาวไทยแน่นอนค่ะ เพราะแม้ราคาจะไม่ถึง 400 บาท แต่ก็มีเนื้อหมักคุณภาพดี รวมอยู่ถึง 3 รายการ ทั้งเนื้อสัน เนื้อติดมัน และเนื้อลาย (ที่ดิฉันถูกใจเป็นพิเศษ)

เปิดเตาเตรียมปิ้งกันดีกว่า

เนื้อสัน ชิ้นใหญ่ เนื้อเน้นๆ

เนื้อติดมัน เพิ่มความชุ่มฉ่ำขึ้นมาอีกนิด

เนื้อลาย สวรรค์ของคนรักเนื้อ

สำหรับคนไม่ทานเนื้อ ก็ยังมีทางเลือกอีกหลากหลาย ทั้ง สันในหมู สันคอหมู เบคอน (สุดโปรด) เนื้อไก่ ซึ่งต้องบอกว่ารสชาติของเนื้อหมักทุกแบบเข้าได้ดีกับน้ำจิ้มโคชูจังสูตรเด็ดที่ทางร้านผสมขึ้นมาเองเพื่อเอาใจนักชิมชาวไทยค่ะ สามารถเพิ่มรสชาติได้ตามชอบเพราะมีพริกกระเทียมตั้งบริการไว้ที่โต๊ะแล้ว แถมทางร้านยังใส่ใจใช้ถ่านคุณภาพดี ไฟแรงอยู่ทนอยู่นาน ทำให้ความอร่อยชุ่มฉ่ำของเนื้อยังคงอยู่ จุดนี้กรี๊ดสุดๆ ค่ะ

สันคอหมูนุ่มๆ

สันในหมูรสเข้ม

เบคอนสุดโปรด

น้ำจิ้มรสชาติเข้ากับซอสหมักเนื้อได้ดีค่ะ

ไม่เสียอารมณ์กับการปิ้งแน่นอน เพราะใช้ถ่านอย่างดี

แต่ก่อนที่จะจุกไปกับเนื้อๆ ทั้งหลาย ในบุฟเฟ่ต์ยังมีจานเครื่องเคียง ที่ถือว่า “ใจดี” กว่าหลายร้าน เพราะเสิร์ฟทั้งข้าวยำเกาหลี สลัด กิมจิ ซุปกิมจิ และบะหมี่ซารังที่ถือเป็น Signature ของร้านซึ่งเป็นบะหมี่เกาหลีในซุปกิมจิ ใส่เต้าหู้และปูอัด แต่ที่โดนใจจริงๆ เห็นจะเป็นเห็ดออรินจิที่หอมหวานอร่อยทานตัดเลี่ยนจากเนื้อสัตว์ได้ดี และผักกาดแก้วที่ใช้ห่อเนื้อก็สดกรอบ ไม่มีรสขมหรือเหม็นแบบผักกาดหอมที่หลายร้านชอบใช้

ข้าวยำเกาหลี จานเด็ดโดนใจหลายคน

บะหมี่ซารัง Signature ของร้าน

ซดน้ำกันสักหน่อย กับ ซุปกิมจิ

สลัด เอาไว้แก้เลี่ยนระหว่างทานเนื้อย่าง

กิมจิ รสชาติเข้มข้นกำลังดี ไม่เปรี้ยวไป ไม่เผ็ดเกิน สูตรต้นตำรับเกาหลีแท้

เห็ดออรินจิก้านโต หอมหวานอร่อย

ผักกาดแก้วสดกรอบ

นำผักมาห่อทานคู่กับเนื้อย่าง กิมจิ กระเทียม เหยาะน้ำจิ้ม ได้อารมณ์เหมือนอยู่ที่เกาหลี

สำหรับเครื่องดื่มที่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์นั้นก็มีชาข้าวหอมๆ ให้ดื่มฟรีกัน และตบท้ายด้วยของหวานเป็นน้ำแข็งไสถั่วแดง เนื้อถั่วแดงเข้มข้นหนึบหนับแต่ไม่หวานไป ใช้ได้ค่ะ

ขนมหวานล้างปาก

โดยรวมแล้ว คิดว่าร้าน Salang น่าจะเป็นที่ถูกใจเพื่อนนักชิมผู้พิศมัยความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดีค่ะ พนักงานบริการอย่างเอาใจใส่ แถมบางครั้งคุณเจี๊ยบเจ้าของร้านยังมาปิ้งเนื้อให้ลูกค้าทานด้วย รสชาติเนื้อหมักที่เสิร์ฟ คุณภาพดี มีความนุ่ม รสชาติเข้มข้น ทานคู่กับผักกาดแก้ว กิมจิ และน้ำจิ้มแล้วเข้ากันได้ดีมาก (แม้จะแอบเสียใจที่ไม่มีเนื้อแบบไม่หมักให้ทานเลย) แถมเครื่องเคียงอย่างข้าวยำ หรือซุปกิมจิก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ด้วยราคาเพียง 330 บาท และโลเคชั่นไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ขอทายว่าอีกไม่นานร้านสาขานี้คงแน่นไม่แพ้สาขาแรก ดังนั้นชาว OpenRice รีบไปลองกันนะจ๊ะ

จัดเต็มสไตล์เกาหลีกับรสชาติที่ชาวไทยคุ้นเคย ได้ที่ Salang

รายละเอียดบุฟเฟ่ต์และเบอร์ติดต่อ