เติมความฟินให้ชีวิตด้วย “Jousen” บุฟเฟต์ยากินิกุสุดหรูในราคาสุดคุ้ม
2013-11-21

หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ก็ถึงเวลาเติมพลังในมื้อเย็น ซึ่งช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายอย่างนี้ ขอเพิ่มความฟินให้กับชีวิตด้วยบุฟเฟต์ …แต่แค่นั้นยังฟินไม่พอหรอกค่ะ ถ้าจะให้ความฟินกระจายไปทั่วกระพุ้งแก้มแล้วล่ะก็ ต้องเป็นบุฟเฟต์ยากินิกุต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น “โจเซน” (Jousen Yakiniku & Bar) เท่านั้น เพราะที่นี่คัดสรรมาเฉพาะวัตถุดิบชั้นดี พรั่งพร้อมด้วยเมนูอันหลากหลาย ตามความหมายของโจเซนที่ว่า คัดสรรอย่างดีที่สุด

 

 

เมนูหลากหลายให้เลือกอย่างละลานตา

 

เพื่อให้ชาวออฟฟิศมาอิ่มอร่อยได้ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น Jousen Yakiniku & Bar สาขา 2 จึงขยับเข้าใกล้ใจกลางเมืองมาอยู่ที่แหล่ง Shopping Mall แห่งใหม่ย่านชิดลม ซึ่งการเดินทางง่ายมากๆ ด้วย BTS สถานีชิดลม ทางออกที่ 4 แล้วเดินเข้าทางเชื่อมไปยัง Mercurry Ville จากนั้นมุ่งหน้าไปที่ชั้น 2 ก็จะเห็นร้านขนาดใหญ่น่านั่ง ตั้งตระหง่านอยู่

 

 

Jousen Yakiniku & Bar ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 Mercurry Ville

 

 

ภายในร้านโปร่งสบาย การตกแต่งเป็นสไตล์คลาสสิก เน้นโทนสีดำ ตัดกับสีไม้อ่อนๆ แซมด้วยสีเขียว

 

 

อีกหนึ่งความสเปเชียลของที่นี่คือ มีมุมที่นั่งให้เลือกหลายมุมตามความต้องการ อย่างโซนตรงกลางเหมาะกับการพาเพื่อนกลุ่มใหญ่มาเลี้ยงฉลอง ก็จะได้ซีมซับบรรยากาศความสนุกอย่างทั่วถึง

 

 

มุมนี้เหมาะกับการสังสรรค์เฮฮา พลางชมวิวริมหน้าต่างไปด้วย

 

 

มุมส่วนตัวยกให้กับบริเวณนี้ค่ะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเจรจาธุรกิจ หรือปาร์ตี้สังสรรค์หลังปิดโปรเจกต์

 

Jousen Yakiniku & Bar นอกจากเสิร์ฟความอร่อยระดับพรีเมียมแล้ว ยังเสิร์ฟความสนุกยิ่งขึ้นในยามค่ำคืน เมื่อแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ลาลับไปหลังตึกสูง แสงสีในเมืองเริ่มกระจ่างชัด ไฟในร้านจะเริ่มหรี่ลงเป็นช่วงเวลาดินเนอร์ปาร์ตี้

 

 

อิมพอร์ตสาเกและเบียร์ดังจากญี่ปุ่นมาเอาใจนักดื่ม

 

ถึงเวลาเปิดเมนูสั่งความอร่อยให้มาเสิร์ฟกันแล้ว Jousen Yakiniku & Bar แบบฉบับยากินิกุต้นตำรับจากญี่ปุ่น นำเสนอ Buffet ในราคา 489 บาท หรือยกระดับอีกขั้นด้วยเมนูสุดพิเศษในแบบ Premium ในราคา 689 บาท หากยังไม่จุใจจะสั่งเมนูเด็ดในส่วนของ A-La-Carte มาเพิ่มความฟินก็ได้นะคะ ซึ่งในแต่ละเมนูได้ลงรายละเอียดของปริมาณพลังงาน แคลเซียม และวิตามิน A ให้สาวๆ ได้คำนวณแคลอรี่ได้ด้วย (มันเก๋ตรงนี้!)

 

เลือกที่นั่งได้แล้วก็ขอดับร้อนก่อนเลยด้วยเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นชาเขียวเย็น Iced Green Tea (Buffet) และชานมเย็น Milk Tea (Buffet)

 

 

ส่วนมื้อนี้ขอเริ่มต้นด้วยความชุ่มฉ่ำของเนื้อบริสเกต Brisket (Buffet) ลายไขมันแทรกสวยงาม ให้รสสัมผัสชุ่มฉ่ำชวนเคลิบเคลิ้ม

 

 

เพียงวางลงบนเตาย่าง ไขมันจากเนื้อบริสเกตจะละลายลงเตาถ่าน เพิ่มความหอมกรุ่น กระตุ้นต่อมรับรสก่อนเปิดรับสัมผัสของเนื้อขั้นเทพ

 

เมนูเนื้อของ "โจเซน" นั้นขนทัพเนื้อมาให้คนไทยลองลิ้มชิมรสกันเพียบ ยกมาตั้งแต่ราชาแห่งเนื้อ “มัตสึซากะ Matsusaka Beef” (A-La-Carte) ราชินีแห่งเนื้อ “โกเบ Kobe Beef” (A-La-Carte) และเนื้อชั้นดี “โอมิ Omi Beef” (A-La-Carte) เนื้อที่ในอดีต ถูกเสิร์ฟให้กับโชกุนหรือข้าราชการระดับผู้ใหญ่รับประทานเท่านั้น

 

 

เนื้อโอมิ ลวดลายไขมันแทรกอย่างสวยงาม

 

 

ย่างเพียงไม่นานก็จะได้เนื้อโอมิ แสนฉ่ำนุ่ม แทบละลายในปาก

 

ใครที่ชอบรสชาติของเนื้อหมูขอแนะนำ หมูหมักซอสโจเซ็น Pork in Jousen Sauce (Buffet) หมูหมักเนื้อนุ่มชุ่มซอส และหมูหมักไห Pickled Pork in Pot (Buffet)

 

 

เนื้อหมูนุ่มๆ ราดด้วยซอสโจเซน รสเข้มข้นอร่อยลงตัวไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม แล้วยังหอมหวานด้วยเครื่องปรุงของซอสสูตรพิเศษ

 

 

หมูหมักไห เสิร์ฟมาในไหใบเล็กน่ารัก เนื้อหมูนุ่มละมุนลิ้น

 

ส่วนคนที่ชอบรสชาติของเนื้อแกะ ต้องปลาบปลื้มกับจานนี้แน่ๆ เมนูเนื้อแกะ Lamb (Buffet) ที่อิมพอร์ตมาจากนิวซีแลนด์

 

 

อีกหนึ่งความเก๋ของที่นี่ คือการปักธงบอกสัญชาติของวัตถุดิบ หรือชนิดของเนื้อที่มาเสิร์ฟ อย่างเมนูนี้การันตีความอร่อยด้วย เนื้อแกะนิวซีแลนด์

 

โจเซน ยังมีเมนูซีฟู้ดสุดหรูมาให้เลือกด้วยนะคะ ปูซุไว Hokkaido Zuwai Crab (Premium) และหอยเชลล์ US Scallop (A-La-Carte 250 บาท) และปลาหมึกโดสุอิกะจากฮอกไกโด Hokkaido Dosu Squid (Buffet)

 

 

ซีฟู้ดรสชาติสดใหม่พร้อมเสิร์ฟ

 

 

ปูซุไว ของดีจากฮอกไกโดเนื้อแน่นรสหวานจะทานทันที หรือเพิ่มความหอมด้วยการย่างบนเตา แต่ไม่ควรเกิน 1 นาที อร่อยเลิศยิ่งขึ้น

 

 

หอยเชลล์ US ตัวโต ให้รสหวานเด้งตามธรรมชาติ ใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดไปนิด แค่นี้ก็เด็ดสุดๆ

 

 

ปลาหมึกโดสุอิกะ ซีฟู้ดสุดหรูอิมพอร์ตมาจากฮอกไกโด 

 

ใส่เพิ่มเมนูผักเพื่อสุขภาพลงไปด้วยก็ดีนะคะ แนะนำ ฟักทองญี่ปุ่น Pumpkin (Buffet) เห็ดชิเมจิ Hon-Shimeji (Buffet) พริกหวานเขียว Bell Pepper (Buffet) และเห็ดออรินจิ King Oyster Mushroom (Buffet)

 

 

ผักสดเสิร์ฟมาในตะกร้าใบจิ๋ว

 

 

เห็ดออรินจิย่างเนื้อหวานแน่น

 

 

ถึงเวลาอร่อยแล้วสิ

 

ไม่ได้มีแค่เมนูปิ้งย่างเท่านั้น แต่โจเซนยังโดดเด่นด้วยเมนูซูชิและซาชิมิ ที่คัดสรรมาอย่างดี คงความสดใหม่ รสชาติระดับพรีเมียมให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

 

 

อะกามิ ซาชิมิ Red Tuna Sashimi (Premium) สัมผัสรสธรรมชาติของทูน่า

 

 

มากุโรสลัดซอสวะฟู Tuna Salad with Japanese Style Dressing (A-La-Carte 100 บาท) ซอสวะฟูรสเปรี้ยวชูรสหวานจากทูน่า

 

 

โอโทโร่ ซาชิมิ Otoro Sashimi (A-La-Carte 800 บาท) เนื้อหวานมันนุ่มสุดๆ

 

 

ซาชิมิรวม Assorted Sashimi (Premium) ขนทัพวัตถุดิบชั้นดีมาทำซาชิมิรสเยี่ยม

 

โจเซน ยังมีซูชิสุดหรู “โกเบ ซูชิ” Kobe Beef (A-La-Carte 200 บาท/คำ) มาเอาใจบีฟเลิฟเวอร์ด้วยนะ

 

 

เนื้อโกเบนุ่มสมคำร่ำลือ ยิ่งทานกับข้าวซูชิ รสชาติละมุนลิ้นละลายในปาก

 

ส่วนเมนูเคียงจานหลักที่ไม่ลองไม่ได้แล้ว และยังเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นกับแกล้ม ขอเริ่มต้นที่ทาโกะวาซาบิ Raw Octopus in Wasabi Sause (A-La-Carte 100 บาท)

 

 

ปลาหมึกกรุบๆ เข้ากับซอสวาซาบิที่ช่วยลดกลิ่นคาวได้ดี

 

 

มาที่ Snack เคี้ยวเพลินปูอัดห่อสาหร่ายทอด Deep Fried Crabstick Rolled in Seaweed (A-La-Carte 70 บาท) ทอดมาได้กรุบกรอบ เคี้ยวเล่นๆ แต่อร่อยจริงๆ

 

 

ต่อด้วยเมนูเบาๆ เอาใจสาวๆ สลัดเต้าหู้โรยคะทซึโอะบุชิ Tofu Salad with Dried Bonito (A-La-Carte 70 บาท) เต้าหู้เนื้อนุ่มเนียนราดด้วยซอสหอมหวานและเพิ่มรสชาติด้วยปลาแห้ง

 

 

เพิ่มความหวานมันให้มื้อนี้ด้วย Snack เก๋ๆ มันเทศทอดชีส Deep fried Sweet Potato with Cheese (A-La-Carte 70 บาท) มันเทศทอดเนื้อนิ่มหวานเพิ่มความเค็มอีกนิดด้วยชีสเยิ้มๆ ทานเพลินจนเบรกไม่อยู่

 

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ โจเซน คือบรรดาเทมปุระที่จัดมาเต็มในไลน์บุฟเฟต์ หลากหลายเมนูจนเลือกไม่ถูก

 

 

เอาใจคนชอบกุ้งเทมปุระ Prawn Tempura (Buffet) จัดมาเต็มจาน

 

 

เมนูสุดฟินยกให้ ไข่แดงเทมปุระ Yolk Tempura (Buffet) เสิร์ฟมาบนหมี่ทอดกรอบ

 

 

วิธีทานต้องเจาะไข่แดง แล้วโรยผงชาเขียวสามรส ปรุงรสไข่แดงให้เข้มข้นขึ้น ไข่แดงเยิ้มๆ ไหลลงบนเส้นหมี่ทอดกรอบ ตักเข้าปากไปพร้อมกัน ทานทันทีเมื่อเสิร์ฟจะได้รสชาติที่ดีที่สุด

 

ส่วนเมนูของหวานก็มีเพียบ หากชอบความหอมหวานสดชื่นแล้วล่ะก็ต้อง ไอศกรีมชาเขียว Green Tea Ice Cream (Buffet) เสิร์ฟมากับชุดบุฟเฟต์

 

 

 

ไอศกรีมชาเขียวรสเข้ม ทานกับถั่วแดงกวนเนื้อละเอียดและคอร์นเฟลก

 

 

ใครอยากลิ้มลองของหวานสไตล์ญี่ปุ่นต้องไม่พลาด โมจิ Mochi (Buffet) เสิร์ฟมาถึง 4 รสชาติ คัสตาร์ด สตอร์เบอรี่ งาดำ และชาเขียว

 

 

คนที่ชอบความเด้งๆ ของเนื้อพุดดิ้ง ต้องลองพุดดิ้งเมล่อน Melon Pudding (A-La-Carte 70 บาท) เสิร์ฟกับคาราเมล ได้ทั้งกลิ่นของเมล่อนและคาราเมล ช่วยให้เมนูนี้นุ่มนวลหอมอร่อย

 

หากกำลังมองหาความครบครันของมื้อบุฟเฟต์แสนอร่อยในบรรยากาศสบายๆ ไม่ควรพลาด Jousen Yakiniku & Bar และพิเศษสุดๆ สำหรับเดือนพฤศจิกายน โจเซนใจดีแจกโปรโมชั่นสุดคุ้มลด 25% (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) เพียงถ่ายภาพอาหารหรือภาพบรรยากาศในร้าน แชร์ลงใน Fanpage Facebook https://www.facebook.com/JousenYakiniku

หรือ IG ใส่ Hashtag #Jousen แล้วแสดงแก่พนักงาน รับไปเลยส่วนลด 25% (1 แชร์/ส่วนลด 1 ท่าน) ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/JousenYakiniku

 

 

 

Jousen Yakiniku & Bar สถานที่ Hang Out สุดชิคใจกลางกรุง ไม่ไปไม่ได้แล้ว

รวมร้านอาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อ
คีย์เวิร์ด
บุฟเฟต์ยากินิกุ
โจเซน
Jousen Yakiniku & Bar
OpenRice TH Editor
ข้อมูลร้านอาหาร