อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2013-02-18
108 วิว
เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานกับ Openrice ในกิจกรรม “ก๊วนชวนกิน ครั้งที่ 8” ครั้งนี้ต้องขอบอกว่าตื่นเต้นกว่าครั้งแรกอีก เพราะได้ร้านอาหารที่อยากไปมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปลองสักครั้งเพราะอยู่ไกลไปหน่อย และร้านที่จะมารีวิวในวันนี้คือ “The Glass House Beachfront Restaurant & Bar” โดยทั้งนี้ทีมงานก็เต็มที่สุดๆ ทั้งรับ-ส่งฟรี ต้อนรับ ประสานงาน เป็นกิจกรรมที่ประทับใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มไปเลยค่ะ เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. โดยใช้เส้นมอเตอร์เวย์ไปสู่พัทยาใต้ ระหว่างทางจะผ่านตลาดน้ำสี่ภาคทางซ้ายมือ จากนั้นไม่ไกลให้เริ่มสังเกตปั๊มเชลล์ทางขวามือก่อนถึงโรงแรมแอม-บาสเดอร์ จะเห็นป้ายสีฟ้าให
ขอบอกว่าตื่นเต้นกว่าครั้งแรกอีก เพราะได้ร้านอาหารที่อยากไปมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปลอง
สักครั้งเพราะอยู่ไกลไปหน่อย และร้านที่จะมารีวิวในวันนี้คือ “The Glass House Beachfront Restaurant
& Bar” โดยทั้งนี้ทีมงานก็เต็มที่สุดๆ ทั้งรับ-ส่งฟรี ต้อนรับ ประสานงาน เป็นกิจกรรมที่ประทับใจตั้งแต่
ยังไม่ได้เริ่มไปเลยค่ะ
เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. โดยใช้เส้นมอเตอร์เวย์ไปสู่พัทยาใต้ ระหว่างทาง
จะผ่านตลาดน้ำสี่ภาคทางซ้ายมือ จากนั้นไม่ไกลให้เริ่มสังเกตปั๊มเชลล์ทางขวามือก่อนถึงโรงแรมแอม-
บาสเดอร์ จะเห็นป้ายสีฟ้าใหญ่บอกทางไปร้าน ให้ทำการกลับรถ ซึ่งซอยทางเข้าร้านอาหารจะอยู่ตรงข้าม
โรงละครอลังการ และจะมีป้ายบอกร้านเป็นระยะ ทางเข้าจะลึกหน่อย เนื่องจากมีการปรับปรุงถนนค่ะ
ทางทีมงานเลือกเวลาได้ลงตัวมากๆ ค่ะ เดินทางออกจากกรุงเทพฯ 15.30 น. มาถึงร้านประมาณ
17.30 น. เป็นเวลาที่แดดกำลังสวย และพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่เสียเที่ยวเลยจริงๆ
กับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อมาถึงด้านหน้าทางเข้าร้านจะแบ่งเป็นโซนที่จอดรถ ซึ่งรองรับรถได้พอสมควร และมีห้องน้ำอยู่ด้านนอก
ก่อนเข้าร้านอาหาร ตกแต่งได้น่ารัก สวยงาม สะอาดตา มีแม่บ้านประจำจุด เลยไม่ต้องกังวลเรื่องความ
สะอาด โดยขออธิบายตามเบอร์รูปเลยนะคะ 1 : ด้านหน้าทางเข้า จะมีป้ายบอกไปยังที่จอดรถ
ซึ่งป้ายก็มีสองแบบ แบบสวยงาม และแบบป้ายที่มองเห็นได้ชัด
2 : ห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือด้านนอกก่อนเข้าร้านอาหาร ตกแต่งได้น่ารัก สวยงาม
3 : ด้านในห้องน้ำยิ่งตกแต่งได้สวย หรู กว้างน่าใช้ มีประมาณ 6-7 ห้อง และมีแม่บ้านคอยดูแลความสะอาด
4 : บ่อน้ำสัตว์ทะเล แหล่งวัตถุดิบมื้อสำคัญในวันนี้
5 : ถัดจากทางขึ้นเข้าร้านด้านซ้ายมือจะเจอมุมตุ๊กตานางฟ้า กามเทพ ที่ใช้ตกแต่งสถานที่เล็กๆ น่ารัก ระหว่างรอทานอาหาร เราก็ใช้เวลาสำรวจสถานที่ และเพลิดเพลินกับวิวตรงหน้าให้สาแก่ใจ บรรยากาศภายใน
ร้าน เมื่อเดินเข้าไปจะเจอห้องที่เป็นกระจก สัญลักษณ์ของร้าน ตั้งเด่นอยู่อย่างสวยงามด้านในเป็นที่สำหรับ
ทานของหวานค่ะ ที่นี่ขายแต่เมนูไอศครีม แต่ไม่ได้ขายเค้กค่ะ ส่วนด้านนอกก็เป็น Openair รับลมทะเล
โดยมีให้เลือกนั่งหลายมุมตั้งแต่ด้านบนยาวไปถึงชายหาดกันเลยทีเดียว หากคนไม่เยอะและรักในการถ่ายรูป
ขอแนะนำว่าต้องถ่ายหลายๆมุม เพราะแต่ละมุมก็มีการตกแต่ง น่ารักแตกต่างกันไป ซึ่งตอนที่ไปมีทีมงานกำลัง
ถ่าย Pre-wedding ด้วย โรแมนติคจริงๆ ยิ่งใกล้พระอาทิตย์ตกแล้ว ทั้งวิว บรรยากาศ เสียงคลื่น นี่ขนาดยังไม่
ได้ชิมอาหารนะคะ ความลงตัวเกิน 50% ไปแล้ว เป็นโชคดีจริงๆ ที่ได้เก็บภาพบรรยากาศทั้งช่วงเย็นและหัวค่ำ สวยไม่แพ้กันเลย เพราะถ้าช่วงเย็นก็ได้วิวทะเล
ท้องฟ้า พระอาทิตย์ตก ส่วนกลางคืนจะเป็นวิวแสงไฟ กับสไตล์การตกแต่งร้านที่ลงตัว เล่ามาตั้งเยอะยังไม่เห็น
หน้าอาหารในวันนี้เลย
เริ่มหิวแล้ว เรามาดูกันว่าอาหารในวันนี้จะทำให้ฟินยิ่งขึ้นหรือเปล่า
เริ่มด้วยเมนูแนะนำ บรรยายเรียงตามภาพค่ะ หมึกไข่ทอดกระเทียมพริกไทย 250- : ปลาหมึกสด
และตัวใหญ่มาก รสชาดอร่อย แต่กระเทียมขมไปนิดหน่อย ไม่มากค่ะ
กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย 250- : รสชาดปกติ ยังไม่เข้มข้นเท่าไร ถ้าออกรสพริกไทยกว่านี้จะดีมากค่ะ
ลาบปลาแซลมอนสด 250- : ปกติเคยกินแต่ยำแซลมอน แต่เจอเมนูนี้ก็แปลกดี รสชาดลาบอ่อนไปหน่อย
หรือว่าเราไม่คุ้นกับการที่เอาแซลมอนมาทำหรือเปล่า ทำให้รสชาดยังไม่ถูกปากเท่าไร
หอยจ้อเนื้อปูกับทอดมันปลากราย ราคาหอยจ๊อต่างหากแพงเหมือนกันค่ะ พอดีทางร้านจัดเป็นชุดมาให้เลย
ไม่ทราบราคาที่แท้จริง : แต่หอยจ๊อนี่รู้สึกได้ถึงเนื้อปูจริงๆ อร่อย ทอดมันก็อร่อย ไม่อมน้ำมัน จิ้มกับน้ำจิ้ม
หวานลงตัวสุดๆ รวมทะเลผัดมันกุ้ง 220-: อาหารทะเลสดค่ะ แต่รสชาดยังไม่เข้มข้นเท่าไร
ปลากระพงทอดราดน้ำปลา 420- : ปลากระพงตัวใหญ่ ตกแต่งสวยงาม ทอดมาเนื้อเหลือทอง กรอบ
ทานพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ถ้าไม่มีกุ้ง ปูละก็ งานนี้ก็พระเอกแน่นอน แนะนำค่ะ
ต้มยำกุ้งน้ำข้น 400-: กุ้งในชามตัวโตมาก เพิ่งเห็นราคาแพงเอาเรื่องเหมือนกัน แต่รสชาดเข้มข้นสุดยอด
แนะนำค่ะ
ปีกไก่ทอด : ปีกไก่เหลืองทอง กรอบ อร่อย จิ้มกับซอสพริกยิ่งอร่อย กุ้งแม่น้ำเผา ขีดละ 85- : กุ้งตัวโตมาก จัดเรียงมาอย่างสวยงาม น้ำลายไหล น่าทาน เนื้อเน้นๆ
มันกุ้งเต็มหัว ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เด็ดสุด
กรรเชียงปูนึ่ง ขีดละ 120- : แกะมาให้พร้อมสรรพ สะดวกทาน อร่อยดี สุดบรรยาย
ไก่ผัดมะม่วง : รสชาดธรรมดา
ผัดยอดมะระหวานไฟแดง 100- : จานนี้เห็นหน้าตาธรรมดาแต่ว่าอร่อยมาก รสชาดเข้มข้น ผลไม้รวม : ผลไม้หวานกรอบ เสิร์ฟก่อนจะรับมือกับของหวานที่หน้าตาน่าลิ้มลองสุดๆ
บานาน่าฟรอสติ้งไอศครีมวนิลา : เมนูนี้กรี๊ดมาก อร่อยเว่อร์ แป้งกรอบนุ่มห่อกล้วย ทานกับไอศครีม
ลดละมุน พร้อมวิปครีม สุดยอด
ช็อกโกแลตฟองดองไอศครีมวนิลา : อร่อยเหมือนกัน ไม่หวานจนเกินไป ลงตัวทั้งรสชาด หน้าตา
ความหอมละมุน
สรุปโดยภาพรวม
บรรยากาศ : ร้านอาหารติดทะเล ตกแต่งน่ารัก เป็นอะไรที่ลงตัวสุด ถ้าทำงานเหนื่อยๆ แล้วอยาก
พักผ่อนพร้อมทานอาหารต้องที่นี่เลย มีหลายมุมให้เลือกตามความชอบใจ อยากเก็บภาพสวยงามที่อยู่ตรงหน้า
รสชาด : อาหารทะเลสดมาก ส่วนใหญ่รสชาดอร่อย มีแค่บางเมนูที่ต้องปรับปรุง
บริการ : พนักงานยิ้มแย้ม เอาใจใส่ คอยสอบถามให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา มีเปลี่ยนจานให้
เวลาที่มีเศษอาหารเยอะๆ เหมือนที่โรงแรมเลย
ราคา : สูงบางเมนู แต่ส่วนใหญ่ก็เทียบเท่ากับร้านอื่นๆ ทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับบรรยากาศก็คุ้มนะคะ ปิดท้ายกับภาพกิจกรรมในวันนี้สักหน่อย เป็นความประทับใจอีกครั้งที่น่าจดจำไปบอกต่อกับคนอื่นจริงๆ
ว่าทีมงาน openrice น่ารักและเต็มที่สุดๆ ในภาพเป็นการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมกิจกรรมถึงร้านอาหารและ
เว็บไซด์เล็กๆ น้อยๆ บนฉากหลังที่สวยงาม
กับภาพเอกลักษณ์ของชาว openrice ที่ขะมักเขม้นถ่ายรูปอาหารมารีวิวให้ทุกคนได้ชมมากกว่าการชิมอาหาร
สะอีก ดูแล้วน่ารักมากๆ พร้อมกับถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกความทรงจำในครั้งนี้ ให้ทุกคนได้จดจำไว้ต่อไป
ขอบคุณกิจกรรมดีดีจาก openrice ค่ะ
โพสต์