นักรีวิวร้านอาหาร

ขอไม่พูดถึงเส้นทางการเดินทางและที่ตั้ง เพราะว่าไปแบบมีเจ้าถิ่นเมืองสุราษฎร์ธานีพาไปค่ะ (เราไม่คุ้นเลย) กับร้านเก่าแก่ของจังหวัดและเมนูชื่อแปลกที่คงหาที่ไหนไม่ได้อีก

แค่ชื่อร้าน "ยกเข่งโล้งโต้ง" ก็แปลกแล้ว เมนูของร้านชื่อยังแปลกกว่า .... "โล่งโต้ง" (40 บาท) ชื่อแปลกๆนี้ จริงๆแล้วมันคือเส้นหมี่น้ำใสธรรมดาๆนี่แหล่ะค่ะ ใส่กระดูกหมู ลูกชิ้นทอด เต้าหู้ เสิร์ฟมาพร้อมพวงเครื่องปรุง คราวนี้ก็ปรุงรสกันได้ตามชอบก่อนทานเลยค่ะ ส่วนอีกหนึ่งเมนูแปลกของร้าน "ผักบุ้งไต่ราว" (40 บาท) เมนูนี้ยังคงเป็นเส้นหมี่เช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือเครื่องที่ใส่มาเป็นผักบุ้งทอด กุ้งทอด และซอสสีแดงๆคล้ายที่ใส่ในเย็นตาโฟ แต่รสชาติจะออกเปรี้ยวๆหน่อย ส่วนตัวชามนี้ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ชอบทานเปรี้ยวอ่ะคะ หนึ่งในเครื่องปรุงรสที่เด่นๆเลยจะเป็นโถน้ำเชื่อมข้นเหนียว ที่มาจากการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว นำมาใส่เติมรสหวานแทนน้ำตาล จะทำให้ได้ความหอมของน้ำตาลมะพร้าวด้วย ถือว่าดีงามสำหรับทุกเมนูของร้านค่ะ ... โดยรวมรสชาติอาหารถือว่าโอเคนะคะ ได้ลองเมนูท้องถิ่นสักหน่อย ก็ถือว่าไปถึงจังหวัดแล้ว ^^ ในส่วนของตัวร้านเองเป็นห้องแถวริมถนน 2 คูหา ที่ค่อนข้างจะดูเก่าแก่ตามอายุของร้านได้เลย ไม่ได้สว่างมาก ไม่มีห้องแอร์ แต่ว่าจำนวนลูกค้าที่รออยู่หน้าร้านนี่เป็นที่น่าสนใจ และทำให้เราต้องลองมาตามรอยแน่นอน ... เพราะขนาดคนท้องถิ่นยังไปรอทานกันขนาดนี้ คนต่างถิ่นอย่างเราก็ต้องจัดด้วยเหมือนกันค่ะ 

หลับมาในรถ ตื่นมาก็หิว ... ผ่านตรงนี้เลยขอแวะตรงนี้เลยแล้วกัน ถือโอกาสแวะพักยืดเส้นยืดสายด้วย กับร้านผัดไทแบบโบราณที่ทางร้านติดป้ายไว้ว่าใส่ผักพื้นเมืองด้วย "ผักกระชับ" ผักสีเขียวๆ ที่ไม่ได้นำลงไปผัดด้วย แต่แค่โรยไว้บนผัดไทที่เสิร์ฟมา (แบบว่าสดๆมิมีการผ่านความร้อนแต่อย่างใด) ร้านเป็นแบบ open-air ชั้นเดียว กับโต๊ะเก้าอี้แบบสบายๆ  ... คนมาแวะกันเยอะพอสมควรนะคะ ผัดไทกุ้งสด (60 บาท) รสชาติใช้ได้เลยค่ะ กับผักกระชับที่โรยมาแบบสดๆ กลิ่นก็จะเขียวๆนิดนึง ทานพร้อมๆกับผัดไท รสชาติคล้ายทานกุยช่ายที่ไม่สุกนัก แต่ก็โอเคนะคะ แปลกๆดี .. ส่วนพี่ชายทานเกี๊ยวปลาผัดไท เห็นพี่ชายบอกว่าอร่อยค่ะ (แต่รูปไม่มีนะคะ ถ่ายไม่ทันคนกินอ่ะ) เป็นเกี๊ยวปลาตัวไม่ใหญ่นักผัดใส่ด้วยเต้าหู้และปรุงรสแบบผัดไทเลยค่ะ ป.ล.ทางร้านยังมีร้านขายของฝาก และมีก๋วยเตี๋ยว กาแฟ ให้เลือกทานกันได้อีกนะคะ 

หนึ่งร้านดังของหัวหินถ้าให้หลายคนแนะนำ คิดว่าคงต้องมีชื่อร้าน "แม่เก็บ" ติดลิสต์อยู่แน่นอน ... ร้านขนมหวานชื่อดัง อยู่หน้าปากซอยหัวหิน 94 จอดรถกันได้ริมถนนหรือว่าจะเข้าไปในซอยก็ได้ค่ะ ร้านนี้ไม่มีที่นั่งทานในร้านนะคะ เน้นซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝากเป็นหลัก 

ร้านนี้มีขนมไทยหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหม้อแกงเผือก ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน (มีให้เลือกทั้งแบบถั่วและเผือก) ข้าวฟ่างกวน ข้าวเหนียวกวน กาละแม ขนมชั้น วุ้นสังขยา โอ้ย!! นี่แค่ส่วนหนึ่งเองนะคะ ยังมีให้เลือกกันอีกเพียบ แถมเดี๋ยวนี้มีพวกขนมแพ็คสำเร็จที่น่าจะเป็นจากที่อื่นมาฝากขายในร้านด้วย (ปลาหมึกอบแห้งปรุงรส ทองม้วน ปลากรอบ ขนมปังไส้สับปะรด กลีบลำดวน ขนมผิงโบราณ บลา บลา บลา ... เราก็แค่เลือกหยิบใส่ตะกร้าแล้วนำไปจ่ายตังค์ได้เลยค่ะ 

เดินกันได้รอบร้านจ่ายตังค์ทีเดียว ... ราคาขนมหวานส่วนใหญ่ถาดละ 50-60 บาท แต่ก็มีราคาอื่นปะปนอยู่ด้วย แต่ทางร้านจะติดราคาสินค้าไว้ทุกอย่างนะคะ ให้เราได้เลือกตัดสินใจก่อนจะหยิบและไม่ต้องห่วงว่าจะโดนโกงราคาค่ะ 

ย้ำกันสักนิด ร้านนี้ไม่มีสาขานะคะ ถ้าเจอใครบอกว่าเป็นสาขาของแม่เก็บ อย่าได้เชื่อเด็ดขาด ... แล้วก็ขอโทษสำหรับรูปนะคะ แบบว่าคนเยอะอ่ะ เลยเกรงใจไม่กล้าถ่ายรูปแบบจริงจังอ่ะคะ  รีบซื้อแล้วรีบไปดีกว่า 

ระหว่างเส้นทางมุ่งสู่จังหวัดตราด เลยได้ผ่านจังหวัดจันทบุรี แล้วได้เวลาอาหารพอดี เลยขอแวะทานอะไรง่ายๆสักนิด ... ได้ผ่านร้านนี้พอดีเลยขอแวะพักท้องสักหน่อย (แบบว่าไม่คุ้นเคยพื้นที่ มิสามารถอธิบายเส้นทางได้จริงๆนะคะ) "ลูกแม่แจ่ม" ร้านง่ายๆสไตล์ริมทาง เป็นแค่เพียงโครงสร้างชั้นเดียวที่ไม่มีห้องแอร์นะคะ ช่วงกลางวันแทบจะไม่ได้ใช้ไฟฟ้าใดๆเลย เพราะว่าใช้แสงสว่างธรรมชาติล้วนๆ ... แต่ถึงจะเพียงร้านที่ดูง่ายๆ แต่ก็เห็นลูกค้าเข้าร้านกันแทบตลอด น่าจะมีทั้งคนพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่ผ่านเส้นทางนี้เหมือนๆกันกับเรา อาหารของทางร้านมีให้เลือกหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น หมูสะเต๊ะ ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ก๋วยเตี๋ยวเครื่องในหมู เรียกว่าร้านเดียวมีให้เลือกทานเพียบ ... ส่วนจานของเราสาวลีนขนาดนี้จะพลาดได้ยังไงกับ "ข้าวขาหมูหนังล้วน" สั่งหนังล้วนจริงๆค่ะ แต่ได้มาแบบมีติดเนื้อนิดหน่อย ก็พอหยวนได้อยู่ น้ำราดให้มาค่อนข้างน้อย แต่รสชาติถือว่าผ่าน ไม่เค็มจัด และไม่หวานโดด ราคามิตรภาพที่จานละ 35 บาทค่ะ อิ่มแบบประหยัดมากด้านการบริการก็ถือว่ามาตรฐานกับร้านอาหารสไตล์ริมทางง่ายๆแบบนี้ เพราะว่าเป็นลูกหลานของทางร้านดูแลกันเอง ยิ้มแย้ม และแนะนำอาหารเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมื้อต่างถิ่นที่โอเคเลยค่ะ 

แม้จะเป็นเส้นทางมุ่งสู่ทางใต้ของประเทศไทย เราก็ต้องไม่พลาดกาแฟแบรนด์โปรดที่ช่วยเพิ่มคาเฟอีนให้กับกระแสเลือดของเรา .... ออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าถนนพระราม 2 ตรงดิ่งแบบยาวๆเลยค่ะ ถึงช่วงจังหวัดสมุทรสาครแล้ว จะเจอกับ community mall ที่ใหญ่ที่สุดของย่านนั้น Porto Chino ที่จะมีร้านกาแฟนางเงือกร้านนี้ตั้งอยู่ 

สาขานี้เป็นสาขาแรกของประเทศไทยเลยที่มี Drive-Thru ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปหาที่จอดรถ และเดินตากแดดลงไปเพื่อซื้อกาแฟ แค่ขับรถเข้าไปในเลนของ Drive-Thru แล้วก็ส่งเสียงสั่งออเดอร์กันได้เลยค่ะ จากนั้นก็เคลื่อนรถไปจุดรับกาแฟ แล้วไปชำระเงินตรงนั้นเลย ... ใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ รอไม่นาน ไม่มีการบวกราคาค่าบริการเพิ่มแต่อย่างใดค่ะ 

ถือว่าเป็นการบริการที่ดีสำหรับเส้นทางหลวงที่จะมุ่งตรงไปสู่อีกหลายจังหวัด ... คนเดินทางหลายคนก็คงปลื้มแบบที่เราชอบเหมือนกันนะ (คิดเองเออเองนะคะ) บ๊ายบาย ไว้เจอกันใหม่ถ้าเราเดินทางลงใต้อีกน๊า