นักรีวิวร้านอาหาร

หากจะพูดถึงร้านไอศกรีมที่หลายๆคนนึกถึง ว่ามีร้านอะไรบ้าง
ฮาเก้นดาส คงเป็น 1 ในตัวเลือกของหลายๆคนแน่นอน
เพราะคุณภาพของไอศกรีมที่ไม่เป็นรองใคร เนื้อไอศกรีมนุ่มละมุน
และผลิตจากส่วนผสมที่มีคุณภาพ ที่แน่นอนว่าแลกมาด้วยราคาสูง

วันนี้เนื่องจากอยากพาคุรแม่มาทานไอศกรีม แล้วมีรูปไอศกรีมชุดนี้ โปรโมตอยู่ด้านหน้าร้าน
คุณนายแม่เลยอยากทานขึ้นมา ว่าแล้วก็พากันเดินเข้าไป
มองหาที่นั่งสำหรับ 5 คน ได้เรียบร้อยแล้วก็จัดการนั่งลง

มาถึงก็ไม่รีรอค่ะ สั่งเมนูด้านหน้าร้านเลย เป็นชุดฟองดู
ซึ่งมาทีไรก็สั่งเซตนี้ เนื่องจากว่าไม่ต้องเลือกอะไรกันมาก แล้วทุกคนก็ได้กินในแบบที่ชอบ
เพราะมีหลายรส และท้อปปิ้งหลายแบบ
อีกเหตุผลคือ จะได้คิดราคาง่ายๆค่ะ 5555 จานเดียวก็กระเป๋าเงินจะฉีกแล้วค่ะ

รอสักพักไอศกรีมก็มาเสิร์ฟค่ะ ไอศกรีมเสิร์ฟคู่กับช็อคโกแลตฟองดู
และมีท้อปปิ้งจำพวกผลไม้หลากหลายชนิด และขนมต่างๆค่ะไอศกรีมถูกจัดเรียงมาส่วนงาม รู้สึกว่าหลังๆมานี้ลูกจะเล็กลงจากแต่ก่อนด้วยนะคะ
สามารถเลือกรสไอศกรีมได้ แต่พนักงานจะบอกว่า ไอศกรีมจะไม่แข็งมาก เนื่องจากเพิ่งตักไม่ได้แช่เย็นไว้
อาจจะไม่แข็งเท่าลุกที่ตักไว้ ตามรสชาติที่กำหนดไว้ค่ะ
แต่เราก็ยังเลือกรสชาติเองอยู่ดีค่ะ เนื่องจากค่อนข้างถูกปากกว่าค่ะ อิอิ

แต่ไม่ว่าอย่างไร ไอศกรีมที่นี้ก็ต้องยอมรับว่าอร่อยทุกรสจริงๆค่ะ ขนาดมีรสที่ส่วนตัวไม่คุ้นบ้าง ก็ยังอร่อยค่ะ

โดยสรุป
รสชาติ : อร่อยมากถึงมากที่สุด
ความสะอาด : ค่อนข้างมาก เนื่องจากร้านระดับนี้ไม่ค่อยปล่อยให้ไม่สะอาดอยู่แล้วค่ะ
พนักงาน : ok ค่ะ ยิ้มแย้มปกติ
ราคา : ค่อนข้างสูง แต่ก็ได้ไอศกรีมที่อร่อยมากๆค่ะ
สถานที่ : ทั่วๆไปค่ะ แต่สงบดีเพราะคนน้อย แต่สายตาอาจรำคาญคนที่เดินผ่านไปมาค่ะ

วันนี้เราอยากจะพามาที่ร้านอาหารเก่าแก่ ที่มีมานานกว่า 50 ปีแล้ว นั้นคือ
ร้านอาหารขวัญจิตร สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ไม่ไกลจากสี่แยกเกษตรนัก
ต้องบอกว่าเป็นร้านโปรดตั้งแต่สมัยเด็กๆ แต่ก่อนจะให้คุณแม่ซื้อไส้กรอกกลับมาทานที่บ้าน
(แต่ก่อนยังไม่เป็นร้านอาหารค่ะ) คราวนี้มีความยินดีจะพาทุกท่านมาชมการรีวิวของร้าน
เพราะเนื่องจากวันนี้ครอบครัวของเราได้มารวมตัวกันฉลองที่พี่ชายตัวดีเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศและพอดีกับที่มาฉลองวันเกิดของพี่สาวพร้อมกัน ถือว่าเป็นวิธีประหยัดงบประมาณไปในตัวอย่างดีเลยค่ะ 55555

บรรยากาศภายในร้าน ก็แล้วแต่ความชอบของลูกค้า เพราะจะมีทั้งโซนด้านในห้องแอร์ สำหรับคนกลัวยุงและอากาศร้อน แต่ก็จะอึดอัดเล็กน้อยในวันที่แขกเยอะค่ะ ส่วนใครที่ต้องการรับบรรยากาศแบบโรแมนติกใต้แสงเทียนทางร้านก็มีโต๊ะจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยเช่นกันคะ

เมื่อมาถึงร้าน ทุกคนก็คว้าเมนูแล้วสั่งกันทันที รู้สึกตัวอีกทีอาหารมากมายก็ถูกวางเรียงอยู่บนโต๊ะซะแล้ว
จานแรกที่มาถึง จานเด็ดของร้านที่ขาดไม่ได้จริงๆ เมนูที่ใครๆหาโอกาสมาลิ้มลอง ก็คือ ไส้กรอกขวัญจิตร ไส้กรอกเนื้อแน่น ไม่ได้มีแต่แป้งแน่นอนค่ะ รับประกัน มีให้เลือกทั้ง ไส้กรอกเนื้อและหมู
ทางร้านจะทำการสอบถามทุกครั้งว่ารับประทานเนื้อได้ไหม?จานต่อไปคุณพ่อก็ขอลิ้มลองซุปเพิ่มความคล่องคอในการกิน คุณพ่อก็เลยเลือกสั่ง ซุปข้นกุ้ง ที่ต้องของบอกว่า กุ้งเป็นกุ้ง และเข้มข้นมากจริงๆค่ะ และจานเด็ดที่เราขอแนะนำมาทานกี่ครั้งก็ขาดไม่ได้ สปาเก็ตตี้ครีมปูอบชีส จานนี้เส้นสปาเก็ตตี้เส้นเล็กเหนี่ยวนุ่ม ผัดซอสครีมสูตรเด็ดของร้าน พร้อมผัดเข้ากับเนื้อปู เสร็จแล้วนำไปโรยชีสด้านหน้า แลเข้าเตาอบ น่าทานมากจริงๆ เห็นกี่ทีก็น้ำลายจะไหลจากนั้นอาหารอีกหลายจานก็ถูกเสิร์ฟตามกันมา ทั้งซุปเห็ด สเต็กหมูพริกไทยดำ ขาหมูเยอรมัน ฯลฯ
ต้องขอบอกว่ารสชาติระดับโรงแรมจริงๆ อร่อยทุกอย่างจริงๆค่ะนอกจากนั้นทางร้านยังมีเค้ก และไอศกรีมให้เลือกทานตบท้ายด้วยค่ะ

แต่เนื่องจากคุณพี่ชายตัวดีอร่อยมาก หลังจากทานขนมหวานเสร็จก็ขอคุณพ่อสั่งไส้กรอกขวัญจิตรทานอีกหนึ่งจานพร้อมหอบกลับบ้านไปด้วย

ถ้าใครที่ชอบรับประทานอาหารประเภทนี้ ต้องขอบอกว่าพลาดไม่ได้เลยจริงๆค่ะ เด็ดมากกก
ขอแนะนำจริงๆ ถ้ามาแล้วจะต้องอยากกลับมาอีกอย่างแน่นอน ยังไงก็อย่าลืมแวะมาชิมกันนะคะ


สรุป
รสชาติ : อร่อยและถูกปากมากกกกกก
บรรยากาศ : โรแมนติกดีค่ะ แต่ถ้าอยากถ่ายภาพแสงอาจจะมึดและสลัวไปสักหน่อยค่ะ
การบริการ : พนักงานทุกคนให้ความสนใจกับลูกค้ามาก และจะเข้ามาทันทีที่เราต้องการค่ะ
ราคา : ถ้าเทียบราคากับรสชาติอาหารแล้ว ขอบอกว่าโอเคเลยค่ะ ถือว่ายังอยู่ในระดับที่รับได้
เพราะวันนั้นสั่งไปเยอะมากจริงๆ แต่ก็ไม่แพงอย่างที่คิดไว้

วันนี้มาเดินเที่ยวสยามอีกแล้วค่ะ อิอิ ทำเป็นเด็กสยามเลย
เดินไปเดินมา หมดเงินช้อปปิ้งแล้ว ก็ต้องหาอะไรกินซะหน่อยก่อนกลับ

เลือกเป็นราเมง กลางสยาม ชื่อ Chabuton เป็นราเมงจากญี่ปุ่น
สูตรของผู้เข้าแข่งขันทีวีแชมป์เปี้ยน ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 5
ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมติดถนนใหญ่เลยค่ะ ติดกับร้านเปปเปอร์ลันช์

ราเมงที่นี่จะไม่ได้มีเมนูหลากหลายค่ะ หลักๆจะมีน้ำซุป 2 แบบ
คือ เมนูที่ 1,2,3 จะเป็นราเมงจากน้ำซุปกระดูกหมูสูตรเข้มข้น
เมนูที่ 4,5,6 จะเป็นราเมงจากน้ำซุปกระดูกหมูรสขาติกลมกล่อม

ส่วนเครื่อง เมนูที่ 1,4 จะมีหมูชาชู 1 ชิ้น หากเป็นเมนูที่ 3,6 จะมีชาชู 3 ชิ้นค่ะราคาก็จะแพงขึ้น
ส่วนเมนูที่ 2,5 จะเป็นชาชู 1 ชิ้นพร้อมด้วยหมูผัดซอสเผ็ดค่ะ

นอกจากนี้จะมีน้ำซุปโชยุ อีกหนึ่งเมนูค่ะ

ทุกชามสามารถเพิ่มเครื่องได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นต้นหอม หมูสับผัดซอส หมูชาชู ฯลฯ
แล้วหลักๆจะมี 2 ขนาดค่ะ เล็กและใหญ่ ส่วนตัว ทานชามเล็กก็อิ่มแล้วค่ะ
บนโต๊ะจะมีเครื่องปรุงให้นะคะ หากใครชอบรสจัดก็สามารถเพิ่มพริกและพริกไทยได้ค่ะ
ส่วนอีกสองขวดเป็นน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่าค่ะ ควรนำสีดำผสมกับน้ำส้มสายชูนะคะเวลาจะทานเดี๋ยวนี้ทางร้านมีเมนูใหม่ๆ มาเพิ่มอีกเยอะแยะเลยค่ะ น่าทานเหมือนกัน แต่ส่วนตัวยังคุ้นชินแต่ราเมงแบบดั้งเดิม
เลยเลือกทานแบบเดิมค่ะ เป็น เบอร์ 5 ราเมงซูปกระดูกหมูรสชาติกลมกล่อมพร้อมหมูสับผัดพริกค่ะ
อร่อยมากๆอิอิ ใครชอบราเมงห้ามพลาดร้านนี้นะคะ ส่วนตัวว่าอร่อยใกล้เคียงกับตอนไปทานที่ญี่ปุ่นที่สุดแล้วค่ะ

วันนี้เดินทางมาซื้อของ ขนมที่เจ๊เล้ง ทุกครั้งที่มาก็จะแวะทานข้าวตรงข้ามเจ๊เล้งค่ะ
การเดินทางก็เลี้ยวเข้ามาทางจอดรถเจ๊เล๊งเลยค่ะ มองไปทางซ้ายมีจะเจอป้ายร้านและคนยืนรอ
ชื่อร้าน อาหารปักษ์ใต้พี่ตุ่ม หาดใหญ่

ร้านจะเป็นร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ รสจัดค่อนไปทางเผ็ด ทางร้านจะทำพริกแกงเองทุกชนิด
สำหรับใครชอบอาหารรสจัดไม่ควรพลาดนะคะ

เมื่อนั่งทานที่ร้าน(หรือสั่งกลับบ้าน) ทางร้านจะนำจานผักมาวางไว้ให้แกล้มค่ะ
เพราะเนื่องจากกับข้าวส่วนใหญ่มีรสค่อนข้างจัด เอาผักไว้ทานแก้เผ็ดค่ะ มีทั้งแตงกว่า ถั่วงอก ฯลฯ
อีกอย่างทางร้านมีเมนูขนมจีนด้วยค่ะ ผักสดไว้ทานกับขนมจีนก็ได้ไปถึงทางร้านจะยืนกระดาษให้จดค่ะ เพราะคนจะเยอะมากโดยเฉพาะตอนเที่ยง หากทานที่ร้านควรบอกพนักงานนะคะ
เขาจะได้ตักให้ก่อน หากไม่รู้จักกับข้าวอันไนห ให้ถามพนักงานได้ค่ะ
วันนี้เลือกเป็นข้าวแกงสองอย่างเป็นพะโล้และแกงคั่วไก่ค่ะ รสชาติจะได้ไม่เผ็ดอย่างเดียว เข้มขันมากๆทั้งสองจานค่ะ
ถูกใจ แต่หากเป็นคุณผู้ชายมาทานอาจจะไม่อิ่มได้นะคะ ต้องสั่งกับข้าวเพิ่มค่ะทางร้านมีบริการตักใส่ถุงกลับบ้าน ราคาเริ่มจะจะอยู่ที่ ถุงละ 50.- บาทค่ะ
หากใครกำลังทานข้าวแล้วต้องหารสั่งกลับบ้าน กรุณาสั่งระหว่างทานเลยนะคะ เพราะเห็นที่ร้านมีป้ายแปะไว้
ว่าจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาค่ะ เพราะช่วงกลางวันคนเยอะวุ่นวายเล็กน้อยค่ะ

วันนี้ได้มีโอกาสเดินเล่นแก้ร้อนที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว
หลังจากเดินไปสักพัก ก็เริ่มอยากหาอะไรทานเล่นแล้วค่ะ แถมยังได้นั่งพักด้วย

เลยเลือกมาทานไอศกรีม แก้ร้อน เพิ่มความสดชื่น ที่ร้าน "Freshy Freeze"
ร้านไอศกรีมทำสด (คล้ายไอศกรีมผัด) ตั้งอยู่ชั้น 3 ค่ะ
หากเดินผ่านไปมาจะเห็นมีพนักงานคอยยื่นเมนูเชิญชวน และด้านข้างจะมี เตาผัดไอศกรีมเอาไว้ทำไอศกรีมค่ะ

การตกแต่งร้าน ทางร้านตกแต่งให้เหมือนร้านค้าจากต่างประเทศค่ะ ที่เป็นโต๊ะเก้าอี้ทรงสูง อาจลำบากเล็กน้อยหากต้องปีนขึ้นไปนั่งค่ะ
แล้วก็จะมีโตะแบบความสูงปกติอีกเล็กน้อยค่ะ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า โต๊ะเยอะไปสำหรับพื้นที่ ทำให้อึดอัดเล็กน้อยค่ะ

มาถึงก็เลือกไอศกรีมที่ต้องการ วันนี้เลือกเป็นสตอเบอร์รี่เชอร์เบตค่ะ
เลือกแบบใส่ สตอเบอร์รี่ด้วย เพิ่มเงินอีก 30 บาทค่ะ
เวลาสั่งต้องดูราคาดีๆนะคะ ราคาเมนูแถวบนคือ ราคาเฉพาะเนื้อไอศกรีม ไม่รวม toppings ค่ะ
ส่วนราคาด้านล่างจะเป็นราคาที่รวมท้อปปิ้งแล้ว หรือจะเลือกท้อปปิ้งเองก็ได้ค่ะ
ส่วนราคาด้านซ้ายจะเป็นไซส์เล็ก และด้านขวาจะเป็นไซส์ใหญ่ค่ะ

ส่วนตัวชอบเชอร์เบตสตอเบอร์รี่ที่สุด กินทุกครั้งเลยค่ะ เพราะรสชาติเปรี้ยวดี และเนื้อไอศกรีมเนียนสุดๆ
ทานแล้วรู้สึกว่าคุ้มค่ากับราคาและไอศกรีมที่เพิ่งทำใหม่ค่ะ หากเป็นพวกรสนมเคยลองทานแล้วก็ไม่ต่างจากที่อื่นมากนักค่ะให้ความรู้เรื่องไอศกรีมกันซะหน่อย ไอศกรีมโดยปกติจะเทส่วนผสม แล้วนำไปใส่เครื่องปั่นให้ไอศกรีมฟูขึ้นและแข็งตัว
การนำลงเครื่องปั่นทำให้ไอศกรีมฟูขึ้นได้ค่ะ ตั้งแต่ 2-7 เท่า
โดยปกติแล้วจากส่วนผสม 1 ส่วน ประมาณ 7 เท่าเลยค่ะ ด้วยเหตุนี้ราคาของไอศกรีมจึงแตกต่างกันค่ะ
สำหรับร้านนี้ เป็นไอศกรีมที่ทำจากการผัดลงบนกะทะน้ำแข็งทำให้ได้ไอศกรีม 1ส่วนต่อ 1ส่วน จึงได้ไอศกรีมที่เนื้อเนียนนุ่มอร่อยค่ะ
ทั้งนี้ราคาก็เลยอาจจะสูงขึ้นไปสักหน่อยค่ะ นานๆทานทีก็โอเคค่ะ

เมื่อเราสั่งเสร็จพนักงานจะนำไปผัดใหม่ ถ้วยต่อถ้วยแล้วนำมาเสิร์ฟค่ะ สามารถชมการผัดได้ที่ด้านข้างค่ะ

ใครที่เดินผ่านไปผ่านมา ลองทานดูนะคะ แล้วจะรู้ถึงความต่างของไอศกรีมทำสดกับไอศกรีมทั่วๆไปค่ะ