นักรีวิวร้านอาหาร

วันนี้ขับรถพาพี่สาวมาเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้า ไกลถึงเซ็นทรัลบางนา
มาถึงก่อนเวลาพอสมควร เลยแวะหาอะไรกินซะหน่อย
เข้าประตูมา เจอฮะจิบังร้านแรก ก็เลยเลือกร้านนี้เลยละกันฮะจิบัง หรือร้านราเมงหมายเลข8 ที่ทุกคนรู้จักกันดี
การตกแต่งก็เหมือนกันในทุกสาขา โต๊ะไม้ และภาพเขียนด้วยอักษรญี่ปุ่น

บนโต๊ะจะวางเมนูไว้ให้เลือกสรร ทั้งยังมีเครื่องปรุงต่างๆให้เพิ่มเติม
ให้เป็นรสชาติที่แต่ละคนชอบ
ทั้ง น้ำส้ม น้ำตาล พริก น้ำมันพริกเผาและน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่าค่ะที่เลือกวันนี้เป็นเมนูออริจินัลของร้าน และถูกที่สุดค่ะ
ฮะจังเมน ราเมงก้อนนึงถูกวางลงบนน้ำซุปโชยุ
ด้านบนประกอบด้วยเนื้อหมูชาบู1ชิ้น หน่อไม้ ต้นหอมและสาหร่ายค่ะ
ชอบกินเมนูนี้เพราะคล่องคอดี แล้วก็ขี้เกียจเคี้ยวเนื้อหมูเยอะ
แค่ชิ้นเดียวก็พออิ่มในราคาประหยัดแล้วค่ะ

ได้เวลาทานข้าวกลางวันทีไร ก็ได้เวลานั่งคิดแล้วว่าวันนี้จะกินร้านอะไรดี
แต่ก็กิดความรู้สึกมาว่าอยากทานร้านยาโยอิ หลังจากที่ไม่ได้ทานมานานมากๆ
เนื่องจากโฆษณาเป็นเหตุ เพราะยาโยอิตอนนี้มีเมนูโทจิ ที่เป็นคล้ายๆมาเป็นหม้อๆ
นอกจากโฆษณาตามทีวีแล้ว ในอินสตาแกรมของดาราหลายๆคนก็ลงด้วย
สุดท้ายเราก็ตกหลุมโฆษณาและเกิดความอยากกินจนได้ค่ะ

ชุดแรกที่มาถึงเป็น คัตสึโทจิ คล้ายๆ ข้าวหน้าหมูทอด (คัตสึด้ง)ค่ะ
เพียงแค่แยกหมูและไข่ที่ราดหน้ามาใส่หม้อ ทำให้ได้ซดน้ำด้วยค่ะ
ในหม้อจะมีต้นหอม หมูทอด ไข่และเต้าหู้ค่ะ

ชุดที่สอง เป็นบูตะโทจิ ก็คล้ายๆ ชุดแรกแหละค่ะ เพียงแค่เปลี่ยนเป็นเนื้อหมูชาบู
เพื่อลดแคลอรี่หากใครลดความอ้วน จะได้ไม่ต้องทานของทอดค่ะ

ส่วนน้ำ วันนี้สั่งเป็นชาเขียวค่ะ รสชาติอาจจะจืดๆเหมือนน้ำเปล่าแต่ก็ดีที่เติมได้ตลอดค่ะ
สำหรับการทานอาหารวันนี้ถือว่าคุ้มสุดๆค่ะชุดในโฆษณา ปกติทานยาโยอิแล้วจะรู้สึกเฉยๆ
แต่ครั้งนี้รู้สึกว่ารสชาติคุ้มกับราคาที่จ่ายไปค่ะ

วันนี้มาทานปิ้งๆย่างๆ เนื่องจากเพื่อนๆอยากทานบุฟเฟ่ต์
แต่บุฟเฟ่ต์ร้านอื่นๆคนค่อนข้างเยอะ เลยได้มาร้านนี่ โดยส่วนตัวไม่ค่อยอยาก ค่อนข้างอิ่ม
แต่เพื่อนอยากเราก็โอเคค่ะ

มาถึงโต๊ะตักน้ำ ตักผักแกล้งก่อนลองค่ะ จานนั้นจึงตักน้ำจิ้มซึ่งมีให้เลือกถึงสามแบบ
มีคล้ายๆสุกี้ นำจิ้มโซลกริล และน้ำจิ้มบาร์บีคิวค่ะ ส่วนตัวชอบอย่างหลังสุดใส่พริกมะนาวสักหน่อยโอเคเลยค่ะมานั่งโต๊ะก็เริ่มมองหาเนื้อสัตว์มาลง ส่วนตัวคิดว่าเนื้อสัตว์ค่อนข้างไม่สดแล้วอะค่ะ เลยไม่ค่อยตัก
ต้องนั่เล็งว่าจานไหนสีสวยถึงหยิบค่ะ จึงเลี่ยงไปเน้นที่ชอบเป็นเห็ดเข็มทองซะมากกว่า พอหยิบได้ตามใจแล้วก็เริ่มปิ้งๆย่างๆกันเลยค่ะนอกจากนี้ทางร้านยังมี ชุดเนื้อพิเศษ ทางร้านจะมีให้เลือกตอนรอคิวเลยว่าจะรับเป็นชุดเนื้อ หรอืชุดหมูค่ะ จะให้โต๊ะละจานเท่านั้น
โดยส่วนตัวเนื้อร่อยดีค่ะ ดีกว่าบนสายพานเยอะเลย แต่ขอติเนื้อที่เป็นหมูติดมันคล้ายๆเบคอน มันเยอะมากๆ
ไม่สามารถทานได้เลย คือทิ้งหมดเลยค่ะ แถมมันยังเหลืองมาก ไม่น่าทานเลยค่ะ
เนื้อที่เป็นเนื้อลูกเต๋าอร่อยดีค่ะ มีสองชิ้น แต่ทานได้ชิ้นเดียว อีกชิ้นมันปาเข้าไปครั้งก้อนแล้วค่ะโดยส่วนตัวคิดว่าเฉยๆมากๆค่ะ ทานครั้งเดียวพอ ที่ชอบสุดกลับเป็นแกงกะหรีไม่คิดว่ารสชาติจะเข้มข้นอร่อยค่ะ
แต่น่าจะเคี่ยวเนื้อให้นุ่มกว่านี้สักหน่อยค่ะ เนื้อค่อนข้างหนียว เลยต้องมาลวกเนื้อหมูใส่แทนค่ะ

ทานครั้งเดียวพอ นอกจากว่ามีใครอยากทานมาก ชวนมากก็พอจะมาเป็นเพื่อนได้ค่ะ แต่หากให้เลือกคงไม่มา
เพราะราคา net ที่ 329 พอๆกับร้านชาบูอื่นๆ แต่เนื้อไม่ดีเท่าไรกินร้านอื่นน่าจะโอเคกว่าค่ะ

วันนี้วันครอบครัว ต้องมากินร้านอาหารสำหรับครอบครัว ที่อยู่กับคนไทยมานานค่ะ
MK สุกี้ ชอบกินเพราะเป็นอาหารต้มค่ะ จะได้ไม่อ้วน (หากไม่รับประทานแป้งเยอะนะคะ)

มาดูวิธีการทานสุกี้ของครอบครัวกันค่ะ
หม้อสุกี้ถูกใส่อาหารลงไปก่อน โดยเฉพาะ ชุดผักรวมชุดเล็กค่ะ จะมีตั้งแต่แครอท ผักบุ้ง
กะหล่ำปลี เตาหู้ จนไปถึงเห็ดเข็มทองค่ะ เทลงไปทั้งจานเลย เพื่อความอร่อยของน้ำสุด
จากนั้น ถึงตีไข่และใส่ลงไปค่ะอาหารหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ จะถูกแยกมาเป็น คอนโดค่ะ เริ่มจากหมูนุ่ม
วิธีทานคือจะแบ่งไข่ใส่ลงไปในหมูนุ่ม เวลาทานไข่จะเคลือบเนื้อหมู อร่อยมากๆค่ะ
นอกจากนี้ ยังมี กุ้ง ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวกุ้ง ปลาหมึก วุ้นเส้น และอื่นๆอีกค่ะบะหมี่หยก สั่งมากินกับเป็ดย่าง (ปกติชอบสั่งบะหมี่ผักมากกว่าค่ะ ได้สารอาหารเยอะกว่าแต่น้องไม่ชอบ)
หากใครไม่ทราบลองสั่งทานได้นะคะ ไม่มีรรสชาติผักหรือเหม็นเลยค่ะ หากใครไม่ชอบผักก็ทานได้ค่ะ
ในภาพคือขนาด 1 ก้อน ค่ะ ปกติหากไม่บอกจำนวนทางร้านจะให้มา 2 ก้อนค่ะ
แต่ครั้งนี้สั่งเพราะน้องกินคนเดียวค่ะ บะหมี่จะถูกโรยด้วยกระเทียมเพิ่มความหอมค่ะสุดท้ายเป็นเป็ดย่าง วันนี้สั่งแค่เป็ดย่างจานเล็กค่ะ หอมเหมือนเดิม
และรสชาติน้ำเป็ดอร่อยเหมือนเดิม แต่ติดตรงที่วันนี้เนื้อเป็ดค่อนข้างเละไปหน่อยค่ะ
ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร วันนี้กินกันไปโดยเฉลี่ยคนละ 500 แคลอรี่ค่ะ สงสัยไปเยอะตรงหนังเป็ด ฮือออ
แต่ก็ชอบสุกี้อยู่ดี คราวหลังต้องนำบัตรส่วนลดจากการดูหนังเรื่องหนึ่งมาใช้แล้วค่ะ ลดตั้ง100

วันนี้นั่งรถมาถึง แทบทองหล่อ เพื่อมารับประทานอาหารกับครอบครัวค่ะ
การเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ค่ะ ทางร้านมีที่จอดรถอยู่ด้านใต้ร้านค่ะ

Royal kitchen เป็นร้านอาหารจีน เป็นคล้ายๆภัตตาคารเลยค่ะ
มาถึงจะมีที่นั่งรอ สำหรับเรียกคิว ส่วนหากจองไว้ไปถึงก็เข้าไปรับประทานได้เลยค่ะ

วันนี้เราสั่งอาหารไม่ค่อยเยอะ เนื่องจากอาหารจานใหญ่มากๆกลัวทานไม่หมด
มาดูอาหารจานเด็ดของวันนี้กันเลยค่ะ

จานแรกเป็น ออเดิร์ฟร้อน จานใหญ่มากๆ กว่า 13 นิ้วค่ะ
ประกอบไปด้วย ไก่แช่เหล้า ซี่โครงหมู กระเพาะปลาผัดแห้งและผักน้ำมันหอยค่ะ
กินกันจนพุงจะแแตกเลยค่ะ แค่จานเดียวจานต่อไปเป็น เป็ดปักกิ่งค่ะ เป็ดปักกิ่งถูกหั่นแยกมาบนจาน แล้วมีแผ่นแป้งนึ่ง
และผักมาค่ะ หนังเป็ดกรบกำลังดีอร่อยมากๆค่ะ
ส่วนเนื้อเป็ดวันนี้สั่งเป็ดทอดกระเทียมไปค่ะ ใครผ่านมาแถวๆทอหล่อ หรือนึกอยากทานอาหารจีน อย่าลืมร้านนี้นะคะ