นักรีวิวร้านอาหาร

วันหยุดสุปสัปดาห์ เมื่อฟื้นตัวจากการนอนหลับพักผ่อน
ก็ต้องหาอะไรลองกระเพาะเป็นธรรมดา หลังจากทานอาหารเสร็จ
ช่วงบ่ายก็เลยออกไปหาเค้กทาน จึงเลือกร้านเค้กเล็กๆแถวๆบ้านญาติค่ะ

ขับรถไปเส้นรามคำแหงสักพัก ก็จะเจอป้ายใหญ่ๆด้านบนตึก เขียนว่า "ลานเค้ก"
เมื่อเจอก็ให้รีบกลับรถทันทีค่ะ เมื่อถึงร้านสามารถเลี้ยวเข้าไปจะมีที่จอดให้ค่ะ

ลานเค้ก จะเป็นร้านขนมเค้กและเครื่องดื่มเล็กๆ น่ารักๆ ตอนไปคนยังไม่เยอะเท่าไหร่
แต่ถ้ามาตอนดึกๆคนจะเริ่มเยอะค่ะ
ก็มีเมนูตั้งแต่ชา กาแฟ ไปจนถึงสมูทตี้ ส่วนตัวชอบทาน ลิ้นจี้สมูทตี้ค่ะ อร่อยดี
นอกจากนั้นก็จะมีขายของเล็กๆน้ยๆค่ะ อย่างตอนไปจะมีอูคูเลเล่วางขายเป็นมุมเล็กๆค่ะ

ส่วนเค้กวันนี้เลือกเป็น โอริโอ้เค้ก จะเป็นเค้กเนื้อบัตเตอร์ แทรกชั้นครีมผสมโอริโอ้เล็กน้อย
แล้วด้านบนก็โรยโอริโอ้บดละเอียด อีก 1 ชั้นค่ะ รสชาติ อยู่ในระดับปานกลางค่ะ คือไม่ได้โดดเด่นมากชิ้นถัดไป ก็เป็น สตอเบอร์รี่เครปเค้ก เครปบางๆแทรกชั้นมากับครีมสีขาว ถูกร้านด้วยซอสสตอเบอร์รี่ค่ะ
รสชาติก็รับได้ค่ะ ก็แต่ไม่โดดเด่นเช่นกันโดยสรุป
รสชาติ : กลางๆค่ะ แต่น้ำอร่อยดีค่ะเมื่อเทียบกับราคา
สถานที่ : น่ารัก คนไม่พลุกพล่านดีค่ะ ช่วงกลางวัน แต่แดดอาจส่องหากนั่งโต๊ะริมค่ะ
การบริการ : โอเคค่ะ
ความสะอาด : ก็โอเคเช่นกันค่ะ คือทั่วๆไป
ราคา : ราคาสมเหตุสมผลกับรสชาติค่ะ คือไม่มากเกินไป เด็กๆนักเรียนนักศึกษามาทานกำลังน่ารักค่ะ

ด้วยความอยากไม่เคยสิ้นสุดจริงๆ วันนี้เกิดอยากทานเป็ดปักกิ่ง
แล้วก็เลยมีญาติๆแนะนำมา ที่ร้าน Great Shanghai
สถานที่ตั้งอยู่ติดห้างเอ็มโพเรียม แถวสุขุมวิท สามารถเดินทางมาโดยรถไฟฟ้าได้นะคะ ลงสถานี พร้อมพงษ์ค่ะ
ร้าน Great Shanghai เป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่ ที่มี่มานาน สถานที่จึงอาจดูเก่าไปสักนิดค่ะ
แต่รสชาติอาหารยังรสเลิศเหมือนเดิมค่ะ ภายในร้านชั้นล่างจะเป็นโต๊ะเล็กๆ มีจานหมุนตรงกลาง เหมือนโต๊ะจีนทั่วๆไปค่ะ
ส่วนชั้น2 จะเป็นห้องส่วนตัวค่ะ นั่งได้ประมาณ 10 คนค่ะ

เมื่อมาถึงร้าน บอกจำนวนคน พนักงานก็เดินนำขึ้นชั้น 2 เลยค่ะ
จะมีส่วนที่เป็นโต๊ะอาหาร และส่วนที่เป็นโซฟาสำหรับนั่งเล่นค่ะ
โดยรวมห้องกว้างขวางดีค่ะ แต่แอบโทรมไปนิดนึง

อาหารวันนี้เลือกสั่งเป็นชุดอาหารจีนค่ะ ด้วยความที่ขี้เกียจจะเลือก

จานแรกที่มาถึง จะเป็นออเดิร์ฟ จะไม่เหมือนอื่นที่รวมมาในจานเดียวแล้วแยกหลุม
แต่ร้านนี้ จะแยกมาอย่างละจาน ประกอบไปด้วย กระเพาะปลาผัดแห้ง สลัดกุ้งทอด ขนมปังหน้ากุ้ง
แล้วก็อะไรสักอย่างคล้ายๆเส้นเซี่ยงไฮ้ผัดค่ะ เสิร์ฟพร้อมผักเครื่องเคียงจานต่อไปเป็น กุ้งกระจก ส่วนตัวชอบมาก เหมาะสำหรับคนไม่ชอบผักอย่างเรา
เป็นกุ้งเด้งๆผัดเนยมา จานใหญ่มาก กินกันจนเลี่ยนกันไปข้างหนึ่งเลยค่ะ และต่อกันมาเลย ขาหมู กับหมั่นโถวว ส่วนตัวจานนี้ ก็โอเคค่ะ แต่อยากให้รสชาติเข้มข้นกว่านี้อีกสักนิดค่ะ
แต่หมั่นโถวนุ่มอร่อยดีค่ะแล้วจานไฮไลท์ ที่รอคอยก็มาถึง เป็ดปักกิ่ง เท่าที่เคยทานมา ที่นี่อร่อยสุดแล้วค่ะ
เป็ดปักกิ่ง เสร็จพร้อม ผักและแป้งค่ะ ส่วนเนื้อเป็ด ทางร้านก็นำไปผัดพริกไทยดำ กับทอดกระเทียมมาให้ค่ะนอกจากนี้อาหารในเซตยังมี ผัดผักรวม โซบะหมู และอื่นๆอีกค่ะ
เซตเมนูนี้กินกัน 10 คน อิ่มมากค่ะ ทานไม่หมด ห่อกลับด้วยค่ะ นำมาทานที่บ้านต่อ เสียดายยย
สำหรับใครที่เป็นคอโต๊ะจีน อย่าพลาด Great Shanghai นะคะ

สรุป
รสชาติ : อร่อยสมดั่งที่หวังไว้ค่ะ
บรรยากาศ : ห้องอาหารจุคนได้ไม่มากกำลังดีค่ะ แต่ติดที่ค่อนข้างโทรมไปสักนิด
การบริการ : พนักงานทุกคนดูแลดี น่ารักค่ะ
ราคา : ราคาค่อนข้างสูงสักหน่อยค่ะ แต่ถ้าชอบทานก็พอคุ้มที่จะแลกค่ะ

วันนี้ด้วยความคิดถึงตอนไปเทีี่ยวญี่ปุ่น อยากจะทานซูชิอร่อยๆ เลยค้นหาร้านที่มีความสดใกล้เคียงที่สุด
ร้าน Sushi Masa สถานที่ตั้งอยู่แถวราชเทวี สามารถเดินจากรถไฟฟ้ามาได้ ลงรถไฟฟ้าแล้วตรงเข้าซอยมาเลยค่ะ
ต้องบอกว่าเป็นร้านที่พี่สาวชอบมาก และบอกให้พามาอีกหลายๆครั้งมาก
โดยปกติ จะเป็นคนไม่ชอบทานซูชิ เพราะเป็นคนกลัวของไม่สุกค่ะ แต่ทุกคนในครอบครัวอยากทานก็เลยพามา
ส่วนตัวจะกินประเภทที่เนื้อกริลมาค่ะ รอ่อยไปอีกแบบ อิอิ

บรรยากาศภายในร้าน เป็นร้านเล็กๆ มีประเภทให้นั่งเป็นเคาน์เตอร์เห็นวิธีการทำ หรือจะเลือกนั่งเป็นโต๊ะเล็กๆสำหรับครอบครัวก็ได้ค่ะ

เมื่อมาถึงร้าน ทุกคนก็คว้าเมนูแล้วสั่งกันทันที
จานแรกที่มาถึง ก็คือ แซลมอนโลว์
เรียกได้ว่าแซลมอนห่อข้าวมาแหละค่ะ เป็นแซลมอนที่ผ่านการลนไฟที่ผิวนิดหน่อย ด้านในสอดไส้ไข่หวาน
มีหยอดมายองเนสด้านบนเล็กน้อย เพิ่มความสวยงามและไข่ปลาแซลมอนค่ะ

จานต่อไปคุณแม่ขอแบบรวมๆกันมาเลยค่ะ เพราะบอกว่าลายตามากไม่รู้จะสั่งอะไรดี
คุณแม่ก็เลยเลือกสั่ง ซูชิรวม ที่ต้องของบอกว่า รวมจริงๆค่ะ มีมาหลายปลาด้วยกัน ตั้งแต่ปลาโอ ไข่หวาน
ปลาไหลย่าง ปลาหมึก ฯลฯ มีทั้งแบบโปะหน้าข้าว และแบบห่อสาหร่าย ทั้งแบบดิบและกริล สมใจคุณแม่ค่ะ

และจานเด็ดที่เราขอแนะนำ ซูชิปลาไหลย่าง ด้านในสอดไส้หลายๆอย่าง มีแตงกวาด้วยค่ะ (ไม่ชอบแตงกวา T_T)
แต่ปลาไหลย่างมากสุกกำลังดีมากๆค่ะ ไม่แห้งจนเกินไป น้ำราดก็รสชาติเยี่ยมค่ะ ปลามปลื่ม

ต้องขอบอกว่าซูชิจะมีหลายราคานะคะ ขึ้นอยุ่กับปลาแต่ละชนิด และส่วนของปลาด้วยค่ะ
อย่างที่รู้กันว่า หากเป็นปลาโอ ในส่วนของ โอโทโร่ ก็จะแพงขึ้นไปอีกค่ะ

ถ้าใครที่ชอบรับประทานซูชิอร่อยๆ ต้องขอบอกว่า อย่าพลาด ซูชิมาซา นะคะ
เป็นร้านซูชิอีกที่ที่อร่อยไม่แพ้เจ้าแรกๆของไทยเลยค่ะ

สรุป
รสชาติ : อร่อยและถูกปากมากกกกกก
บรรยากาศ : เล็กๆ อบอุ่นดีค่ะ แต่คนอาจเยอะ ควรโทรจองก่อนค่ะ
การบริการ : พนักงานทุกคนดูแลในระดับโอเคค่ะ
ราคา : ถ้าเทียบราคากับรสชาติอาหารแล้ว อาหารสดค่ะ ขอบอกว่าโอเคเลย ถือว่ายังอยู่ในระดับที่รับได้

วันนี้เป็นวันดีอีกวันหนึ่ง เนื่องจากการสอบวิชาสุดท้ายสำหรับชีวิตนักศึกษาได้จบลงแล้ว เย้!!
เป็นธรรมดาของชีวิตวัยเด็กที่ สอบเสร็จแล้วต้องฉลอง
ทีนี้ก็ได้เวลาเลือกสถานที่กันแล้ว คิดไปคิดมา ไม่ต้องไปไหนไกล
มาตกลงกันที่ สยาม พารากอน เพราะเป็นทางผ่านกลับบ้านของเกือบทุกๆคน แถมยังติดรถไฟฟ้าอีกด้วย

มาถึงก็คิดหนักอีก จะไปฉลองร้านไหนกันดีหละเนี่ย คิดไปคิดมา เพื่อนๆบางคนก็ต้องกลับไปทานข้าวกับที่บ้าน
เลยมาจบที่ร้านขนม ทานให้พอระคายท้องไปบ้างกันดีกว่า

และแน่นอน ร้านขนมสุดฮิตจึงเป็นผู้ได้รับเลือก "After you"
ร้านขนมหวาน สไตล์ญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยความที่ร้านน่ารัก และรสชาติก็ถูกปากหลายๆคน ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค
แต่ต้องขอบอกว่าจะทานกัน ก็ต่อเมื่อไม่มีคิวต่อกันยาวเหยียด วัยรุ่นใจร้อน ไม่ค่อยจะรอ 55555

วันนี้เพื่อนคนนึงอยากทานมากๆ ก็เลยโอเคไปก็ได้
เพราะจะทานขนมร้านนี้ต้องทำใจว่า ทานเสร็จต้องลุก ห้ามอ้อยอิ่ง
เพราะจะมีสายตานับสิบคอยจ้อง ภาวนาให้เราลุกอยู่

เริ่มเดินเข้ามา ก็ให้เพื่อนไปจองโต๊ะ และเราก็เดินไปสั่งขนม (แอบเล็งไว้ตอนต่อคิวแล้ว)
ว่าแล้วก็สั่งขนมเบอร์หนึ่งของร้อน คือโทสต์ แต่โทสต์ก็มีหลายแบบอีก
เพื่อนอยากกินชาเขียว แต่เราเป็นคนไม่กินชาเขียว ก็เลยสรุปที่
โทสต์ กับซอสช็อคโกแลต และสตอเบอร์รี่ แต่ขอพนักงานเปลี่ยนเป็นไอศกรีมชาเขียวให้ 1 ลูก
ซึ่งต้องเพิ่มเงินกันตามระเบียบ อีกหลาย10 บาทเลยทีเดียว T_Tอีกเมนูก็คือบราวนี่ร้อนๆเสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมวนิลา จานนี้เข้มข้นดี เลยชอบสั่งทุกครั้ง
เมื่อสั่งอาหารจานเงินเรียบร้อยก็มานั่งรอที่โต๊ะ จะมีพนักงานมาเสิร์ฟพอมาโต๊ะ ก็จะมีพนักงานนำถาดมือส้อมมาให้พอดีกับจำนวนคน พร้อมกับน้ำผึ้ง
สักพักขนมก็มา ก็ขอไปจ้วงก่อนหละค่ะ เพราะเดี๋ยวกินไม่ทันเพื่อน

**เคล็ดลับของเราเวลาขนมมาเสิร์ฟ จะรีบตักไอศกรีมออกจากบนขนมซะก่อน (ต้องหลังเพื่อนๆถ่ายรูปเสร็จซะก่อนนะ เดี๋ยวโดนตีหัว)
เพราะเมื่อไอศกรีมละลายจะทำให้ขนมไม่กรอบ เดี๋ยวไม่อร่อย อิอิ

โดยสรุป
รสชาติ : อร่อยดีค่ะ เมื่อเทียบกับโทสต์ร้านอื่นๆ
สถานที่ : การตกแต่งน่ารัก แต่ติดตรงที่ร้านค่อนข้างเล็ก ค่อนข้างจะอึดอัด และมีสายตาหลายๆคู่จ้องมองค่ะ
การบริการ : ดีค่ะ แต่ติดที่พนักงานชอบจ้องทันทีที่เราทานเสร็จ บางทีแค่สักครู่ก็มาเก็บ รู้สึกเหมือนโดนไล่ค่ะ
ความสะอาด : อยู่ในระดับโอเคเลยค่ะ
ราคา : ก็ค่อนข้างสูงนิดนึง เมื่อเทียบกับขนมปัง แต่ก็ให้ราคาเรื่องการตกแต่งและความอร่อย ก็พอเหมาะสมค่ะ

ปกติแล้ววันธรรมดาจะเป็นวันที่ทุกคนเหนื่อยจากการทำงาน จึงน้อยมากที่จะรวมตัวหมู่ญาติ
วันนี้ขณะที่กำลังกลับบ้าน คุณญาติก็โทรมาชวนรับประทานอาหาร
เนื่องจากไม่ได้เจอกันนาน แล้ววันศุกร์พอดี รถค่อนข้างติด คุณพี่พนักงานใหม่ป้ายแดง
เลยใจดีเลี้ยงข้าวน้องๆ เลยนัดกันที่สถานที่แถวๆทางผ่านกลับบ้าน
สุดท้ายมาลงตัวที่ เมเจอร์ รัชโยธิน

มาถึงก็ตกลงกันว่าจะทานร้านไหนดี สุดท้ายก็มาลงที่ร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน
เนื่องจากตอนแรกจะทานอีกร้านที่มีลักษณะเดียวกัน แต่ทานบ่อยแล้วเลยอยากเปลี่ยนมั่งค่ะ
Wine Society อยู่ด้านมุมของอเวนิว ฝั่งติดถนน
ถ้าคนที่เดินอเวนิวไม่สังเกตไปอีกฝั่งก็คงไม่เห็น แต่ถ้าขับรถผ่านก็จะเห็นได้ง่ายค่ะ

ตอนมาที่ร้าน ค่อนข้างมือแล้ว ร้านจะออกแนวมืดๆ ไฟสลัวๆ เหมาะแก่การนัดเพื่อนฝูงมาดื่มไวน์กันค่ะ
ว่าแล้วก็ได้เวลาสั่งอาหาร ให้ท้องน้อยๆ วันนี้มีอาหารที่เป็นราคาโปรโมชั่นลดราคา บางอย่างด้วยค่ะ โชคดีมากๆเลย

คุณพี่ก็เลยจัดมาซะ 1 จาน ได้มาเป็น สเต็กหมู คล้ายๆพอร์คชอปค่ะ เสิร์ฟกับซอสแอปเปิ้ล
ส่วนตัวลองชิ้มแล้วรู้สึกว่าซอสแปลกมากและไม่ถูกปากเลยค่ะ จึงต้องขอซอสมะเขือเทศจากพนักงานมาทาน
ส่วนของเสต็กรสชาติใช้ได้ค่ะ เนื้อหมูก็หนากำลังดี ไม่บางเหมือนร้านเสต็กราคาประหยัดทั่วไปจากต่อมาเป็นของพี่ชายสั่ง สปาเก็ตตี้หมึกดำ น่าจะผัดกับน้ำมันมะกอกใส่ซีฟู้ดค่ะ
น่าตาน่าทานเชียว แต่คุณพี่ชายไม่ปลื้มค่ะ บอกว่ารสชาติค่อนข้างจืดจากนั้นก็ถึงคิวของดิฉัน ก็เลือกจานโปรด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า อาหารง่ายๆ ที่ร้านประเภทนี้มักมีค่ะ
โดยส่วนตัวประทับใจจานนี้นะคะ รู้สึกว่ารสชาติออกมาถูกปาก ได้กลิ่นของชีสและไข่ รวมถึงความกรุบกรอบของเบคอนทอด
แต่ขัดใจนิดหน่อยจาก ไข่ดาวที่โปะมาด้านบน เนื่องจากคาโบนาร่านั้นใส่ไข่อยู่แล้ว เมื่อโปะไข่มาอีกเลยอาจทำให้เลี่ยนไป
แต่หากใครชอบทานไข่ ก็น่าจะถูกใจค่ะเมื่อทุกคนมีจานหลักของตนเอง ก็ได้เวลาของทานเล่น สำหรับมื้อนี้จัดมาเป็น
ปลาหมึกชุปแป้งทอด เสิร์ฟกับซอสครีมค่ะ จานนี้อร่อยดีค่ะ แป้งที่คลุกมากับปลากหมึกไม่หนาจนเกินไป แล้วมีการคลุกพริกเกลือมานิดนึงด้วยค่ะโดยสรุป
รสชาติ ,, อยู่ในระดับรับได้ค่ะ คือทั่วๆไป ไม่ได้อร่อยถึงขั้นต้องกลับมาทาน แต่ก็โอเคค่ะ
สถานที่ ,, สวยค่ะ เหมาะมากับกลุ่มเพื่อนหรือคนรัก ไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยรุ่นค่ะ
บริการ ,, ดีค่ะ พนักงานเอาใจใส่ดี
ความสะอาด ,, โอเคค่ะ
ราคา ,, ราคาโดยรวมโอเคเลยค่ะ ไม่สูงเกินไปสำหรับร้านอาหารในระดับเดียวกัน