更多
2014-10-28
102 瀏覽
ขนมหวาน 3 คอร์สของร้าน Chikalicious ถือเป็นไฮไลท์เลยค่ะ โดยจะเริ่มจาก Amuse ขนมหวานเรียกน้ำย่อย ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟมาเองค่ะเป็นเซอร์ไพรส์, Choice of dessert ขนมหวานจานหลัก มีให้เลือก 1 อย่าง จาก 5 เมนู และสุดท้าย Petits Fours เป็นขนมหวานของขนมหวานค่ะเก๋มาก จะเป็นขนมชิ้นเล็กๆ3 อย่างที่ทางร้านจัดมาให้ เป็นการปิดท้ายมื้อขนมหวาน รวม 1 คอร์ส 400 บาทค่ะ ถือว่าราคาสูงอยู่เหมือนกันแต่ถ้านึกถึงว่าเราได้นั่งดูการทำขนมสดๆบนบาร์แล้วล่ะก็ ถือว่าคุ้มมากค่ะ เชฟค่อยๆทำทีละจาน ได้เห็นวิธีการตัก การตกแต่งจาน ความพิถีพิถันแล้วประทับใจมากเลย แนะนำว่าให้นั่งตรงบาร์กลางร้าน จะได้เห็นบรรยากาศร้านทั้งหมด เห็นเชฟด้วยม
เมนูขนมหวานจานหลักในเมนูมีให้เลือกตั้ง 5 อย่าง ให้เลือกแค่อย่างเดียว แอบเลือกไม่ถูก อยากกินทั้งหมดเลย ซึ่งจริงๆแล้วเราก็สั่งเพิ่มเมนูอื่นๆได้นะคะถ้าอยากกินทุกจาน โดย 2 เมนูแรกเป็นเมนูเด็ดของร้าน ส่วนอีก 3 เมนูทางร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งทั้ง 5 อย่างนี้ ได้แก่ Fromage Blanc Island "Cheese Cake" ชีสเค้กสีขาวเนื้อฟูเบา ราดด้วยครีมซอสสีขาวของร้าน รสชาติไม่หวานมาก ได้รสชาติของชีสเต็มๆ เสิร์ฟมาเย็นๆ บนชามน้ำแข็ง จานนี้ถือเป็นจานแนะนำ ซึ่งมาแล้วต้องชิม เราเลยไม่พลาดค่ะ Warm Chocolate Tart ทาร์ตช็อกโกแลตอุ่นๆ เสิร์ฟกับไอศครีมพริกไทยสีชมพู และซอสไวน์แดง นี่ก็เป็นอีกเมนูที่เป็นจานแนะนำค่ะ ทาร์ตช็อกโกแลตเค้าจะอบมาให้ก่อนเสิร์ฟ ดังนั้นจึงเยิ้มมากๆ ไอติมที่ทำจากพริกไทยสีชมพูอันนี้อร่อยและเราชอบที่สุดเลยค่ะ มันมีกลิ่นหอมของพริกไทยที่เด่นมากแต่มีรสหวาน กินกับทาร์ตและซอสไวน์แดงแล้วเข้ากันมากเลย ซอสเป็นรสเปรี้ยวอมหวานค่ะ เซอร์เบท์รสเบซิล(โหระพา) เสิร์ฟมาในซุปมะพร้าว และวุ้นแมงลัก จานนี้รสอ่อนๆค่ะ ไม่หวาน กลิ่นเบซิลจางๆ ตัวซุปคล้ายๆกะทิเพราะทำจากมะพร้าวแต่ใสกว่า ไม่เลี่ยนค่ะ เพิ่มความสดชื่นได้ไม่น้อย แต่สำหรับเรายังไม่โดดเด่นโดนใจเท่าไหร่ พันนาคอตต้าน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟกับเซอร์เบท์ แอปเปิ้ล โรยด้วยถั่วพิสตาชิโอ จานนี้เชฟให้กินทั้ง 3 อย่างรวมกันในคำเดียวค่ะ เข้ากันมากๆ จากนั้นเราก็ลองชิมรสชาติทีละอย่างดู พันนาคอตต้าหวานอ่อนๆ เนื้อเนียน ซอร์เบท์แอปเปิ้ลหวานเปรี้ยวและหอมค่ะ ส่วนถั่วเนี่ยกรุบกรอบ จานนี้กินแล้วก็สนุกไม่เบาค่ะ ขนมหวานทั้งหมดทั้งมวลในวันนี้เรากินกับชาร้อน เราเลือกเป็นชา Gold Moscato 160 บาท เสิร์ฟมาเป็นกาและแก้ว แก้วที่นี่น่ารักมากๆเลย ชอบๆ ลูกแพร์ตุ๋นราดซอสชาบายอนกลิ่นเหล้าลูกแพร์ เสิร์ฟกับไอศครีมน้ำผึ้ง-ใบไทม์ ข้างล่างลูกแพร์รองด้วยคาไทฟี่กรอบๆ จานนี้เป็นเมนูใหม่ และเป็นอีกจานที่เราว่ากินสนุก ลูกแพร์ตุ๋นไม่หวานมาก กินกับซอสซึ่งส่วนนี้จะอุ่นๆ กินกับไอติมเย็นๆที่หอมมาก และคาไทฟี่กรอบๆยิ่งเข้ากันสุดๆ จานนี้ก็ชอบและประทับใจมากเช่นกัน สุดท้ายคือขนมหวานของขนมหวาน Petits Fours ขนม 3 ชิ้นเล็กๆเสิร์ฟมาพร้อมกัน
ชิ้นที่ 1 มาร์ชเมลโลมะพร้าว เป็นมาร์ชเมลโลที่นุ่มมากเลยค่ะ ไม่หวานมาก ด้านนอกเป็นเกล็ดมะพร้าว
ชิ้นที่ 2 เป็นแมคคาเดเมียช็อกโกแลต อันนี้อร่อยค่ะ เพราะเป็นการรวมตัวของความอร่อย 2 อย่าง ดาร์คช็อกโกแลต และถั่วแมคคาเดเมีย
ชิ้นที่ 3 เค้กกล้วยท็อปด้วยวิปครีมและถั่ววอลนัท รสชาติที่คุ้นเคยของค้กกล้วยหอม แต่พอวิปด้วยครีมและวอลนัทก็อร่อยเข้ากันไปอีกแบบหนึ่ง นอกจากนี้ในเมนูยังมีขนมอย่างหนึ่งที่น่าลองมากๆๆๆๆค่ะ เรียกชื่อว่า Jack Daniel’s Bread Pudding 145 บาท เสิร์ฟอุ่นๆทานกับไอศครีมวานิลลาโฮมเมดของทางร้าน เป็นเบรดพุดดิ้งที่อร่อย ไม่แฉะหรือแห้งเกินไปค่ะ ด้านบนโรยดวยอะไรสักอย่างที่กรุบกรอบ กินแล้วได้หลากหลายสัมผัส แถมไม่เน้นรสหวานเกินไปด้วยค่ะ ก่อนทานก็ราดซอสสีขาวๆลงไปก่อน ทุกอย่างลงตัวมาก เห็นว่าเป็นเมนูที่ลูกค้าหลายคนติดใจด้วยล่ะค่ะ ไม่ผิดหวังเลย อีกเมนูขนมที่ร้านบอกว่าเป็นต้นตำรับ คือ โดซองต์ (Doughssant) ชิ้นละ 95 บาท ที่ร้านมีให้เลือก 6 รสค่ะ โดยมีรสประจำ 5 รส ส่วนอีก 1 รสจะเปลี่ยนไปทุกเดือน ที่เรากินที่ร้านเป็น โดซองต์บรูเล่ โดซองต์ไส้ครีมหวานๆหอมๆ โรยน้ำตาลแล้วก็เบิร์นค่ะ เชฟทำให้ดูต่อหน้าเลย น่ากินสุดๆ ยังมีรสชาติอื่นๆที่นำกลับมาชิม ได้แก่ ชาเขียว โอรีโอ นูเทลล่า และรสชาติใหม่ของเดือนนี้คือ รสมันหวานค่ะ เราชื่นชอบในความกรอบนอกนุ่มในของโดซองต์ที่นี่ค่ะ ทุกชิ้นมีไส้ด้านในและไส้ค่อนข้างเยอะด้วยค่ะ เราชอบ
張貼