更多
2015-09-04
1344 瀏覽
สวัสดีค่าาสำหรับวันนี้ก็จะพาไปบล็อกเกอร์ปาร์ตี้กันอีกครั้งนะคะ แต่เจ้าภาพรอบนี้เปลี่ยนจากคุณอ้น มาเป็นน้องเหมียว ณ nanareview.com แทนค่ะ ซึ่งปาร์ตี้รอบนี้จัดที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาแจ้งวัฒนะนี่เป็นสาขาน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาเนี่ยเองหละค่ะ (แต่ขอบอกว่า ถึงจะเปิดแค่ไม่กี่วัน (เราไปวันที่ 22 สิงหาค่ะ) แต่โดยรวมถือว่าดีนะคะ การบริการนี่ดีมากเลยแหละ เดี๋ยวจะเล่าต่อในรีวิวแล้วกันนะคะ)สำหรับประวัติของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ก็อปมาจากน้องเหมียว (ฮา) ดังนี้นะคะโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เริ่มต้นเมื่อปีพุทธศักราช 2542 (ค.ศ.1999) จากแนวคิดที่ต้องการให้คนไทยมีโอกาสได้ดื่มด่ำรสชาติเบียร์สดรสเยี่ยมแบบต้นตำรับเยอ
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปบล็อกเกอร์ปาร์ตี้กันอีกครั้งนะคะ แต่เจ้าภาพรอบนี้เปลี่ยนจากคุณอ้น มาเป็นน้องเหมียว ณ nanareview.com แทนค่ะ ซึ่งปาร์ตี้รอบนี้จัดที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาแจ้งวัฒนะนี่เป็นสาขาน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาเนี่ยเองหละค่ะ (แต่ขอบอกว่า ถึงจะเปิดแค่ไม่กี่วัน (เราไปวันที่ 22 สิงหาค่ะ) แต่โดยรวมถือว่าดีนะคะ การบริการนี่ดีมากเลยแหละ เดี๋ยวจะเล่าต่อในรีวิวแล้วกันนะคะ)
สำหรับประวัติของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ก็อปมาจากน้องเหมียว (ฮา) ดังนี้นะคะ
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เริ่มต้นเมื่อปีพุทธศักราช 2542 (ค.ศ.1999) จากแนวคิดที่ต้องการให้คนไทยมีโอกาสได้ดื่มด่ำรสชาติเบียร์สดรสเยี่ยมแบบต้นตำรับเยอรมันแท้ๆ โดยการลงทุนนำเข้าเครื่องจักรผลิตเบียร์ และวัตถุดิบหลักที่ดีมีคุณภาพจากประเทศเยอรมันพร้อมด้วยผู้ปรุงเบียร์ (Brew master) ชาวเยอรมัน โดยเปิดกิจการโรงเบียร์ฯขนาดเล็ก ที่เรียกว่า Microbrewery ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย ควบคู่กับอาหารรสชาติคุ้นลิ้นแบบคนไทยภายใต้ชื่อ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง (Tawandang German Brewery) สาขาแรกที่ถนนพระราม 3 ปี ต่อมา พ.ศ. 2548 ก็ได้ขยายสาขาที่ 2 คือ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงเลียบทางด่วนรามอินทรา และสาขาที่ 3 ในปีพ.ศ.2558 ที่แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นกิจการของผู้ประกอบการคนไทยที่ได้สร้างตำนานแห่งโรงเบียร์ฯ ของคนไทยที่น่าภูมิใจมาเกือบ 2 ทศวรรษ
ร้าน (สาขาแจ้งวัฒนะ) เปิดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.58 บนพื้นที่ 7 ไร่ เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สำหรับงบลงทุนโรงเบียร์เยอระมันตะวันแดง สาขาแจ้งวัฒนะ บริษัทได้ใช้งบลงทุนไปประมาณ 200 ล้านบาท ตัวอาคารมีพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ใช้เวลาก่อสร้างราว 7 เดือน ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ถึง 250 คัน และมีชั้นใต้ดินสำหรับจอดรถอีก 100 คัน ส่วนบรรยากาศและการตกแต่งภายในนั้น ยกระดับความหรูหราให้เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Boutique Industrial Design” สามารถจุคนได้ถึง 1,200 ที่นั่ง นอกจากนี้ ตัวพื้นยังมีการยกเป็นเสต็ปลดหลั่น 3 ชั้น แบบไม่มีเสาคั่นตรงกลาง เพื่อรับประกันว่าทุกที่นั่งจะสามารถมองเห็นการแสดงบนเวทีได้อย่างชัดเจนเพื่อความสุนทรีย์ในการชมการแสดงอย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ในโอเปร่าเฮ้าส์ของต่างประเทศ พร้อมกันนี้บริษัทยังได้จัดสรรพื้นที่ห้อง VIP สำหรับลูกค้าที่ต้องการสังสรรค์เป็นกลุ่ม เพื่อรองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 20-200 คนเป็นต้นไป
โทรศัพท์. 02-9605511 -2 ร้านเปิดให้บริการทุกวันเวลา 17.00-01.00 น.
ท่านใดต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถไปดูได้ที่เว็บไซต์นี้นะฮับ
http://tawandang.co.th/
เปิดตัวรีวิวนี้ด้วยภาพของร้านยามค่ำคืนก่อนเลยแล้วกันนะฮับ
ที่นี่ถ้าจะจุแล้วจุได้เต็มๆ ถึง 1200 คนเลยนะคะ แล้วก็มีห้องส่วนตัวทั้งหมดสี่โซนด้วยกัน โดยเล็กสุดอยู่ที่ 20 คน และห้องใหญ่สุดได้ถึง 200 คนเลยค่ะ ซึ่งมีทั้งชั้นล่างและชั้นบนนะคะ
ดูคิวคนจองมาซะก่อน เหอๆ นี่เพิ่งเปิดจริงอ้ะ
ให้ดูภาพโดยรวมของที่นี่นะคะ จะเห็นว่าลักษณะการสร้างจะออกแนวโรงละครโอเปร่าเลยหละค่ะ มีโถงและเพดานสูงกว้างขวาง และมีที่นั่งชั้นบนรายล้อมด้วยนะคะ แล้วเวทีก็ใหญ่ยักษ์มากๆๆๆ
1. ลาเกอร์เบียร์ : Lager Beer
เบียร์สีทองที่ใช้ยีสต์ชนิดจมเป็นเชื้อ หมักบ่มนาน 28 วัน รสชาตินุ่มลิ้น ฟองเบียร์น้อย มีกลิ่นหอมของดอกฮ๊อป ปริมาณแอลกอออล์ประมาณ 5%
2. ดุงเกลเบียร์ : Dunkel Beer
รู้จักกันในชื่อของ “เบียร์ดำ” หมักบ่มนาน 28 วัน มีรสหวานเจือรสขมจางๆของมอลต์ที่คั่ว จนหอมแล้วเป็นสีดำ ปริมาณแอลกอออล์ ประมาณ 4.5%
3. ไวเซ่นเบียร์ : Weizen Beer
เบียร์กลิ่นผลไม้ ใช้ยีสต์ชนิดลอยเป็นเชื้อ มีระยะเวลาหมักบ่ม 19 วัน ผลิตจากมอลต์ที่ได้จากข้าวสาลี หรือผลไม้ ฟองมากนุ่มลิ้น มีกลิ่นหอมรสผลไม้ ปริมาณแอลกอออล์ ประมาณ 5.5%
โดยสามารถเลือกได้อีกเช่นกันค่ะว่าจะสั่งเป็นแก้ว (ซึ่งก็มีตั้งแต่ไซส์ 0.3 หรือ 0.5 ลิตร (แต่แบบหลังจะมีแก้วแบบพิเศษสำหรับไวเซ่นเบียร์นะคะ ดูรูปจากเมนูเอาเนาะ)) หรือว่าจะสั่งเป็นทาวเวอร์ จุได้ 2-3 ลิตรค่ะ (หรือจะสั่งเป็นเหยือกๆ ละหนึ่งลิตรก็ได้นะคะ)
ส่วนเมนูแนะนำก็อยู่ที่หน้าคู่แรกของเมนูเลยค่ะ จะมีพาดหัวว่าจานเด็ดโรงเบียร์เลยค่ะ ส่วนราคาอาหารก็มาตรฐานของร้านสไตล์นี้หละนะคะ ไม่ได้ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงกว่าปกติค่ะ
ที่รองจานค่ะ มีอาหารกินเล่นเป็นตัวอย่างให้ดูด้วยนะฮับ
ภาพของบล็อกเกอร์ชุดแรกๆ ที่ไปกันค่ะ ก็มีทั้งคุณอ้น ลุงอ้วนกินกะเที่ยว น้องเหมียว ตอนนั้นน้องชื่น คุณเบนซ์ และน้องจ๊ะจ๋ายังไม่มา แต่เดี๋ยวจะมีภาพรวมหมู่อีกครั้งนะฮับ
เอาหละค่ะ มารีวิวอาหารกัน (สักที) ดีกว่าเนาะ สามอย่างแรกค่ะ กับเมนูกินเล่น เรียกน้ำย่อยกันนะคะ ได้แก่ กุ้งเรือนแก้ว หมูสะเต๊ะ และข้าวเกรียบกุ้งค่ะ เราไม่ได้กินข้าวเกรียบกุ้งนะคะ แต่อีกสองอย่างได้กินค่ะ
ส่วนตัวหมูสะเต๊ะ หมูทำมาได้นุ่มหอมมากเลยค่ะ น้ำจิ้มรสชาติดี อาจาดยังไม่เป๊ะ แต่โอเคค่ะ เสียดาย ถ้าอาจาดเลิศอีกอย่างจะปังมากมาย แฮ่...
นอกจากเบียร์แล้วก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ อาทิ ค็อกเทลด้วยนะคะ อย่างวันนั้นก็มีน้องจ๊ะจ๋าสั่งบลูฮาวายมา กับชื่นสั่งคาลัวร์มาค่ะ ส่วนคน non-alcohol เหมือนเราสั่งมะนาวปั่น ของเราเป็นมะนาวโซดาค่ะ อิอิ
สำหรับรสชาติ เราว่าตัวน้ำซุปอร่อยค่ะ รสจัดใช้ได้เลย แต่ตัวเครื่องเย็นตาโฟ ลูกชิ้นปลาบางลูกมีกลิ่นคาวนิดหน่อยค่ะ
ผัดผักบุ้งซอยตะวันแดงค่ะ อีกหนึ่งเมนูแนะนำเช่นกันนะคะ
และอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของที่นี่ค่ะ มาร้านนี้ไม่สั่งนี่ผิดผีมากๆ กับขาหมูทอดตะวันแดง กรอบนอกสุดๆ ในก็ยังนุ่ม แถมน้ำจิ้มเด็ดมากค่ะ อร่อยค่ะ ชอบอ้ะ กินแบบต้องทำเป็นลืมๆ ไขมันไปชั่วขณะหนึ่งกันเลยทีเดียว Smiley ส่วนตัวมันบดที่มาด้วยกัน ที่นี่เค้าบดแบบหยาบๆ ค่ะ ไม่ได้หอมเนยเด่นมาก ตัวนี้ขาหมูเป็นพระเอกมากกว่านะคะ
สายบัว คือก้านดอก - ดอกบัวของบัวสาย ที่มีดอกสีแดงเป็นส่วนใหญ่ มีสีขาวบ้างพอประปราย
ไหลบัว หรือ หลดบัว เป็นสายบัวที่เป็นช่วงต้นที่ขยายพันธุ์ มีปลายแหลมใช้แทงใช้มุดดินไปเพื่อขยายอาณาเขต จะมีเปลือกหุ้มอยู่เช่นกัน
อีกหนึ่งเมนูที่มาไม่ถึงข้าพเจ้าค่ะ อย่างเสียดาย แต่ตอนถ่ายรูปนี่น่ากินมาก กุ้งตัวใหญ่ๆ หอมกลิ่นวุ้นเส้นและเครื่องเคราพอควรเลยค่ะ แต่ไม่ได้กินก็คอมเม้นท์ไม่ได้อะนะฮับ เดี๋ยวรออ่านจากบล็อกอื่นแล้วกันเนาะ แฮ่...
ปลาช่อนลุยสวน อันนี้เราได้กินตอนเย็นแล้วอะนะคะ รสชาติของเครื่องเคราจัดจ้านดี เนื้อปลา เนื่องจากเรากินตอนเย็นมากๆ แล้ว (หมายถึงอุณหภูมินะคะ ไม่ใช่เวลา ตึ่งโป๊ะ) เนื้อมันเลยค่อนข้างแข็งไปค่ะ ถ้ากินตอนร้อนๆ น่าจะกำลังดีนะคะ
เรากินกล้วยบวชชีค่ะ กล้วยนิ่มดี น้ำกะทิ ไม่น่าจะใช่น้ำกะทิกล่อง แต่รสก็ไม่เหมือนกะทิสดค่ะ เลยงงอยู่ แต่โดยรวมโอเคค่ะ กินได้นะคะ
แต่ที่เราชอบคือ มีการอวยพรวันเกิดให้กับคนที่มาฉลองวันเกิดที่นี่ด้วยนะคะ มีเค้กและพนักงานมาร้องเพลงด้วย อย่างที่นักร้องขึ้นมาทั้งหมดนั่นก็มาร้องเพลงวันเกิดค่ะ น่ารักอ้ะ เราว่าเป็นกิมมิคที่เก๋และน่ารักดีค่ะ
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ เราว่าโดยพื้นที่ของร้าน สถานที่จอดรถแล้วเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทั้งการรับลูกค้าจำนวนมาก กรุ๊ปต่างๆ (แต่ยังไม่มีเซ็ตราคาสำหรับกรุ๊ปนะคะ ก็ต้องสั่งเอาจากเมนูค่ะ) และเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย จะมากินอาหารอร่อยๆ จะพาลูกๆ มากินข้าว มาฟังเพลง มาฉลองวันเกิด (ซึ่งมีเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ) หรือจะมาแดนซ์กันตอนดึกๆ ก็มีอีกเช่นกัน แถมระหว่างนั้นก็จะมีเกมมาร่วมสนุกอีกเป็นช่วงๆ ด้วยค่ะ
นอกจากนั้นอาหารหลายๆ เมนูก็อร่อยเลยนะคะ เรียกว่านอกจากบรรยากาศแล้ว อาหารก็อร่อยด้วย แถมที่สำคัญ (ที่อยากให้รักษาไว้ตลอด อย่าเสียมาตรฐานนะคะ) คือ พนักงานทุกคนบริการดีมาก แม้แต่คุณแม่บ้านที่ดูแลในห้องน้ำ น้องๆ ที่ต้อนรับ เด็กเสิร์ฟ ทุกคนเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเทรนมาอย่างไร แต่ชื่นชมมากๆ ค่ะ
張貼