更多
2013-08-14
77 瀏覽
ผึ้งน้อยได้มีโอกาสมารวมจอยกรุ๊ปกับเค้าซักที แถมคราวนี้ยังไม่ธรรมดา เพราะพวกเราจะไปทานอาหารจีนสุดหรูกันที่ห้องอาหาร “หลิว” (Liu) โรงแรม Conrad กันค่ะโรงแรม Conrad ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ การเดินทางมายังที่นี่ หากใครที่ขับรถมาก็เข้ามาใน All Seasons เลยค่ะเพราะอยู่บนพื้นที่เดียวกัน หรือถ้าใครที่สะดวกเดินทางโดยรถสาธารณะ ก็ไม่ต้องกังวนไป เพราะแม้โรงแรมจะอยู่ลึกเข้ามาจนพาให้ขี้เกียจเดิน แต่ทางโรงแรมเข้าก็รู้ใจ จัด Shuttle Bus วิ่งเวียนรับส่งโรงแรม – สถานี BTS เพลินจิต ตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่มเลยค่ะ แถมรสยังวิ่งมาเรื่อยๆไม่ต้องรอนานอีกด้วยมาถึง All Seasons แล้วก็เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ อาจจะมีงงบ้างสำหรับค
โรงแรม Conrad ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ การเดินทางมายังที่นี่ หากใครที่ขับรถมาก็เข้ามาใน All Seasons เลยค่ะเพราะอยู่บนพื้นที่เดียวกัน หรือถ้าใครที่สะดวกเดินทางโดยรถสาธารณะ ก็ไม่ต้องกังวนไป เพราะแม้โรงแรมจะอยู่ลึกเข้ามาจนพาให้ขี้เกียจเดิน แต่ทางโรงแรมเข้าก็รู้ใจ จัด Shuttle Bus วิ่งเวียนรับส่งโรงแรม – สถานี BTS เพลินจิต ตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่มเลยค่ะ แถมรสยังวิ่งมาเรื่อยๆไม่ต้องรอนานอีกด้วย
มาถึง All Seasons แล้วก็เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ อาจจะมีงงบ้างสำหรับคนที่ไม่เคยมา แต่สุดท้ายแล้วเราก็มาถึงโซน Lobby ของโรงแรมได้แน่นอน
กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 3 ก็จะเป็นชั้นของร้านอาหารจีน Liu เลยค่ะ ตัวร้านมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 100 คน
หน้าร้านจัดแต่งด้วยสีสันสวยงาม ด้วยเป็นช่วงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ จึงมีเหล่าขนมไหว้พระจันทร์เรียงรายโชว์ตัวอยู่พร้อมกับขนมที่หั่นชิ้นเล็กๆสำหรับทดลองชิมในจานด้านข้าง ภายในร้านจัดแต่งอย่างหรูหรา ผสมผสานความเป็นจีนกับการตกแต่งแบบสมัยใหม่ที่ลงตัว วันนี้พวกเราจะทานกันในห้องส่วนตัวที่จัดไว้ค่ะ
เชฟใหญ่ที่จะมารังสรรค์เหล่าอาหารจานเด็ดให้พวกเราทานกันในวันนี้ค่ะ เป็นคุณเชฟที่อารมณืดีมากๆ สร้างบรรยากาศให้วิบวับขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เดินทางมาเหนื่อย รับเก๊กฮวยเย็นกันก่อนค่ะ
เครื่องดื่มสามารถเลือกได้ระหว่างเก๊กฮวยและชาจีน มีทั้งร้อนทั้งเย็นค่ะ ชื่นใจมากๆ แอบลุ้นอยู่ว่าเก็กฮวยเย็นจะหวานเจี๊ยบแบบที่ร้านอื่นๆมั้ย
ผลคือ ไม่หวานเลยค่ะ เป็นเก็กฮวยต้มหอมๆ ดื่มง่ายและสดชื่นแบบไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือด
นั่งคุยๆกันยังไม่ทันไร อาหารจานแรกก็ยกมาเสิร์ฟ
Trio variety of cold and hot platter (Peking duck roll with spring onion, Crispy sugar cane shrimp roll, Steamed squid ink seafood dumpling)
ออเดิร์ฟรวมมิตร (กุ้งพันอ้อย, เกี๊ยวหมึกดำห่อกุ้งบด, เป็ดปักกิ่งม้วนต้นหอม) (350 บาท) ออเดิร์ฟจานนี้จัดวางมาเก๋ๆ พาให้น้ำย่อยเริ่มทำงานตั้งแต่ยังไม่ทันทาน
กุ้งพันอ้อย ราดน้ำจิ้มมาเล็กน้อยให้ทานได้เลย รสกุ้งๆๆๆชัดเจนที่ทานคู่กับน้ำจิ้มรสหวานๆเปรี้ยวๆช่างชวนให้อยากทานต่อ แต่น่าเสียดายที่มีชิ้นเดียว >_<
เมนูนี้อาจจะดูไม่ค่อยจีนเพราะออกไปทางอาหารเวียดนามที่เราคุ้นเคย แต่อาหารนั้นไร้พรมแดนค่ะ เกี๊ยวหมึกดำห่อกุ้งบด
แค่ลักษณะก็โดดเด่นที่สุดในจานแล้วค่ะ เพราะเป็นเมนูที่ไม่เคยเห็นที่ไหน
รสชาดของกุ้งที่ห่อไว้นั้นหวานหอมเนื้อเด้งยิ่งกว่ากุ้งพันอ้อยเมื่อครู่
คอนเฟิร์มว่าคำนี้เป็นติ่มซำที่อร่อยมากๆ เพราะผึ้งน้อยไม่ได้แต่น้ำจิ้มเลยแม้แต่นิดเดียว อร่อยในตัวค่ะ
เป็ดปักกิ่งม้วนต้นหอม หนังเป็ดปักกิ่งที่คุณเชฟบรรจงห่อม้วนโดยมีต้นหอมเป็นแกนกลาง
ที่แรกผึ้งน้อยก็ลังเลเล็กๆ เพราะไม่ชอบทานตรงโคนต้นหอม
แต่มองๆดูแล้วก็เห็นว่าคุณเชฟจัดการเคลียร์ส่วนโคนออกไปให้เหลือแต่เพียงเล็กน้อย (เยี่ยม)
อร่อยแปลกใหม่ในแบบที่ไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มอีกแล้ว
ทั้งๆที่ม้วนอยู่แต่หนังเป็ดก็ยังกรอบอร่อย นับว่าจานออเดิร์ฟนี้ผึ้งน้อยถูกใจทุกอย่าง
ถัดมาเป็นซุปหน้าตาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
Seafood with wild mushrooms soup top with seaweed
ซุปเห็ดทะเลสาหร่าย (220 บาท) ที่ว่าไม่ธรรมดา นั่นก็เพราะซุปถ้วยนี้อุดมไปด้วยอาหารทะเลอัดและเห็ดที่แน่นมาเต็มถ้วย ท๊อปด้วยสาหร่ายจีนบังตาเอาไว้ให้ได้ตื่นเต้นกันตอนที่ตักทาน
การปรุงรสชาดเป็นแบบเพลนๆ ให้เราสัมผัสรสของวัตถุดิบกันเต็มที่
และแล้ว เมนูอาหารจานใหญ่ที่ให้ความรู้สึกแบบโต๊ะจีนแท้ๆก็มาเสิร์ฟ
Braised sliced sea shell with fish maw and garden green
หอยเชลล์ไต้หวันกระเพาะปลาน้ำแดง (350 บาท) เนื้อหอยเชลล์ที่แน่นหนึบเคี้ยวอร่อยรสหวานหอมนั้นเป็นสัมผัสแปลกใหม่ที่ผึ้งน้อยไม่เคยได้จากหอยเชลล์มาก่อน (สารภาพเลยว่าตอนทานนี่ไม่รู้เลยค่ะว่าเป็นหอยเชลล์)
ยกให้เป็นพระเอกของจานนี้ไปเลย
ที่เด่นรองลงมาก็คงไม่พ้นกระเพาะปลาที่อยู่อีกฝั่งนึงค่ะ กระเพาะปลานุ่มๆชิ้นบางสวยวางเรียงราย
ทานควบคู่ไปกับผักบร๊อคโคลี่และเห็ดหอม
แม้จานใหญ่แค่ไหนก็แป๊บเดียวเกลี้ยงค่ะ
จานถัดมา เมนูขึ้นเหลาของชาวจีนที่คนไทยไม่คุ้นเคย
Two flavors of crispy pigeon and sautéed minced pigeon
นกพิราบทอดสองสไตล์เลิศรส (700 บาท) ด้วยผึ้งน้อยเป็นคนเลี้ยงนกไว้ดูเล่น จานนี้เลยขอแค่ลองชิมค่ะ
เนื้อนกสับผัดมาแห้งๆไม่เลี่ยนน้ำมัน ทานคู่กับผักกาดแก้วสดกรอบ
ผึ้งน้อยตักเนื้อนกมาน้อยเลยไม่ค่อยรู้รสเท่าไหร่ แต่จากการทานของเพื่อนๆแล้ว ท่าทางจะอร่อยค่ะ ^^
จานหลักปริศนาจานสุดท้าย
Fried Rice Topped with Crab Meat & Dried Scallops sauce
ข้าวผัดกังป๋วยราดเนื้อปูไข่ขาว (450 บาท) ตอนที่จานนี้มาเสิร์ฟ ยังดูไม่ออกค่ะว่าจานนี้คืออะไร จนได้ลองตักขึ้นมามาองชัดๆนั่นแหละค่ะ ถึงบางอ้อ ว่านี้คือข้าวผัด ที่ราดด้วยน้ำข้นๆที่มีส่วนผสมของเนื้อปูและไข่ขาว ให้สีขาวสวยดูนุ่มนวล
ถ้าจะให้เปรียบเทียบ รสชาดของจานนี้มีส่วนคล้ายรีซอตโต้แม้กรรมวิธีจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทานเพลินๆแต่ก็อิ่มใช่เล่นเลยค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาให้กระเพาะที่ 2 ของสาวๆได้ทำงาน แม้จะอิ่มแค่ไหน..ถ้าจานถัดไปคือของหวาน พวกเราจะมีพื้นที่ในกระเพาะสำหรับสิ่งนั้นเสมอ
Coconut Ice Cream in Young Coconut
ไอศกรีมมะพร้าวในลูกมะพร้าวอ่อน (150 บาท) ไอศรีมมะพร้าว หรือที่คนไทยเราคุ้นเคยในชื่อของไอศครีมกะทิ ถูกเสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวอ่อนพร้อมสาคู เพิ่มรสชาดและสีสันให้สวยงามด้วยชิ้นสตรอเบอร์รี่สด
ได้ฟีลคล้ายๆไอศครีมกะทิทานกับข้าวเหนียวมูน ที่เพิ่มรสสัมผัสหนึบๆในแต่ละคำที่ทาน
สตรอเบอร์รี่อมเปรี้ยวอมหวานช่วยตัดรสได้ดี เสียดายที่ใส่มาน้อยไปหน่อย >_ <
นอกจากอาหารชุดมื้อคำแบบนี้แล้ว ที่ห้องอาหารแห่งนี้ยังมีบุฟเฟต์มื้อกลางวันด้วยนะคะ
สนนราคาต่อหัวตามนี้ค่ะ
All You Can Eat มื้อกลางวัน (จันทร์ – ศุกร์) 820 บาท
All You Can Eat มื้อกลางวัน (เสาร์ – อาทิตย์) 850 บาท
สรุปมื้อหรูๆมื้อนี้กันหน่อย
บรรยากาศ – เป็นบรรยากาศแบบจีนผสมผสานที่ดูหรูหรา พื้นที่ในร้านกว้างขวาง แม้จะไม่นั่งห้องส่วนตัวก็คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่นักในวันที่คนไม่แน่น
การบริการ – ตามมาตรฐานโรงแรมค่ะ บริการสุภาพ ส่วนคุณเชฟและเจ้าหน้าที่ที่พวกเราได้เจอในวันนั้นต่างเป็นกันเองและน่ารักมากๆ
รสชาดอาหาร – แม้อาหารที่เสิร์ฟในวันนี้จะไม่ใช่เมนูขึ้นชื่อที่ร่ำลือกันเรื่องความอร่อย แต่คุณภาพวัตถุดิบที่ทำมานัดก็ไม่เป็นรอง จะมีข้อติเล็กๆก็ตรงที่ความไม่หลากหลายของรสชาดอาหาร เพราะเมนูคราวนี้เน้นรสเพลนๆเป็นหลัก ยังขาดอาหารรสจัดๆที่คนไทยอย่างเราๆชื่นชอบ
ดังนั้น ในมื้อนี้ อาจจะดูแปลกซักหน่อย แต่ผึ้งน้อยปลื้มจานออเดิร์ฟมากที่สุดค่ะ
張貼