更多
2014-10-24
65 瀏覽
พักนี่ชักใจหาย ที่เห็นหลายร้านในนิมมานปิดตัวลง บ้างก็ปิดตัวลงเพราะสู้กับราคาที่เช่าที่ที่ขึ้นจนฮืดขึ้นคอสู้ไม่ไหว จำต้องถอยร่นไปยังซอยถัดๆไปที่ราคาค่าเช่าถูกกว่า (ได้ยินข่าวลือว่า ร้านแถวซอย 1 ฝั่งโรงแรมเก่า ปิดตัวกันหมด เพราะเจ้าของที่ไม่ยอมให้มีร้านขึ้นอีก จนร้านสุริยันจันทรา ต้องถอยร่นย้ายไปอยู่แถวซอยคิริมังคลาจารย์ รวมถึงหลายร้านต้องย้ายไปซอยนั้นที่ไกลกว่า เปลี่ยวกว่า ก็ต้องพึ่งลูกค้าประจำและการบอกต่อ ทำให้ร้านบางส่วนยังคงอยู่ได้) แต่บางร้านก็ต้องปิดตัวย้ายหายไปเลย อาจจะสู้ค่าที่ไม่ไหวบ้าง หรือรสชาติอาหารไม่ได้เลิศจนจะมาลูกค้ามาอุดหนุนได้ตลอด อย่างที่คนเหนือเคยพูดว่า ร้านย่านนิมมานมักจะทำรสชาติคนกรุงเทพที่ไม่เหมาะกับคนเหนือ (รวมถึงราคา
แต่มีร้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่คู่กับย่านนิมมานมานาน นานก่อนที่กระแสย่านนิมมานจะบูมเสียอีก...ไม่ใช่ร้านไฮโซหรูเลิศแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่จะเรียกว่าร้านอาหารก็ไม่ใช่อีก เป็นความอาร์ตส่วนนึงของเชียงใหม่ แค่ฟังชื่อร้านก็ชวนอาร์ตแล้ว อย่างร้าน...ไอศกรีมกดกริ่ง
ร้านไอศกรีมกดกริ่งนี่เป็นร้านทำไอศกรีมโฮมเมดทำขายส่งในเชียงใหม่ ที่มาของชื่อร้านก็มาจากการที่ผู้รับซื้อจะต้องมากดกริ่งเพื่อมาขอรับไอศกรีมไปขายต่อ เป็นร้านขายส่งที่ตั้งมานานหลายทศวรรษแล้ว จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ปัจจุบันก็ยังเป็นร้านขายส่งอยู่ แต่ก็เปิดหน้าร้านเป็นของตัวเองด้วย ร้านแห่งนี่อยู่ในนิมมานซอย 5 หากมาทางด้านฝั่งถนนนิมมาน ร้านจะอยู่ซ้ายมือ หน้าร้านเป็นชานร้านเปิดขายแบบซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ไม่มีห้องอาหารรับประทานที่ร้านแต่อย่างใด ดังนั้นใครมีราชรถมา ต้องรีบซื้อ เพราะไม่มีที่จอดรถ...แต่ถ้าใครเดินเท้ามา ก็เลือกกันให้เพลินก่อน ค่อยกดกริ่งก็ได้ ตอนสาวเหนือมาทำรีวิว (2 ครั้ง) ก็เห็นมีลูกค้ามาสองราย รายแรกขับรถเบนซ์ฝ่าสายฝนกระหน่ำมาซื้อไป 10 ถ้วย รายหลังเป็นนักท่องเที่ยวเดินเท้ามาหลังจากสาวเหนือกำลังเลือกไอศกรีม ซึ่งพนักงานขายก็รอออเดอร์อยู่ นักท่องเที่ยวมีการพูดน่ารักว่า ถ้าซื้อแล้วขอกดกริ่งได้ไหม เดี๋ยวไม่ได้ชื่อว่ามาถึงร้านแล้ว...เล่นเอาสาวเหนือและพนักงานยิ้มร่วนเลย เห็นความน่ารักของชื่อร้านหรือยัง อันนี้แค่ภาพโฆษณา ไอศกรีมไม่ได้มีรสแค่นี่นะจ๊ะ...ชื่อเมนูทำสมัยที่นักท่องเที่ยวจีนยังไม่บูม แต่คาดว่าในอนาคตอาจต้องทำภาษาจีนเพิ่มขึ้นแหง เวลาขายเค้าจะขายเป็นถ้วยเล็กๆ แบบเท่าสกู๊ตนึง(แต่ก็ใหญ่เท่ากำปั้น) แช่แข็งไว้อย่างดี ไม่มีมาตักสดๆกันตรงหน้า ไอศกรีมเลยเกลี้ยงเกลาไร้ผิวรอยดวงจันทร์
เนื่องจากสาวเหนือไม่ได้รีวิวครบทุกรสชาติ เพราะหาโอกาสกลับไปร้านยากแล้ว เลยขอรีวิวเฉพาะสองรสที่มีขายในหน้าเทศกาล(อิฉันชอบรีวิวอะไรเป็นลิมิเต็ด ดูมันพิเศษกว่า) เริ่มจาก น้อยหน่า ที่มีขายเฉพาะเดือนกันยายนถึงธันวาคม...ตอนได้ยินชื่อน้อยหน่า สาวเหนือแอบหวั่นเล็กน้อย เพราะไม่ชอบกินน้อยหน่า (คือสมัยเด็กดูโฆษณาเด็กกินน้อยหน่าแล้วเม็ดติดคอตาย กลัวติดตามาแต่นั้น) พอได้ชิมแล้ว เป็นรสชาติหวานนำฝาดนะ ได้รสน้อยหน่าหน่อยๆ แต่รสหวานก็จางๆ บาลานซ์กันระหว่างสองรสชาติ ถัดมาเป็น ข้าวเหนียวมะม่วง มีขายเฉพาะเดือนเมษายน-กันยายน หน้ามะม่วงพอดี อันนี้ก็คล้ายกับน้อยหน่า คือรสชาติบาลานซ์ระหว่างรสชาติแท้จริงกับวัตถุดิบที่แต่งเติม สรุปโดยรวมก็เป็นไอศกรีมรสชาติแบบคนเหนือ คือคนเหนือจะไม่กินรสชาติอะไรที่จัดสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่กินอะไรหวานจัดแบบลิ้นคนกรุงเทพนัก ถ้าไม่นับเรื่องไม่มีห้องอาหาร ก็ถือว่าเป็นร้านไอศกรีมราคาน่าคบหาในย่านของกินแพงเช่นนี้
สาวเหนือรีวิวรสชาติได้น้อย ก็คงต้องฝากเพื่อนๆตามไปรีวิวรสชาติอื่นๆกันแทนเน้อเจ้า
題外話/補充資料:
บางเมนูมีขายเฉพาะหน้าเทศกาล เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงขายเดือนเมษายน-กันยายน น้อยหน่าขายเดือนกันยายน-ธันวาคม
ร้านไม่มีที่จอดรถ ควรคิดเมนูที่จะซื้อล่วงหน้าไว้ก่อน หรือโทรสั่งให้ทางร้านเตรียมของไว้
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)
張貼