2
0
0
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
Signature Dishes
Mango Gelato & Sticky Rice Lavender Gelato & Crepe
Review (2)
Ampersand Boutique ..ร้านไอศครีมเจลาโต้โฮมเมดเล็กๆที่โชว์โลโก้หน้าร้านเป็นรูปเครื่องหมาย “&” สมกับความหมายของชื่อร้านนี้เกิดขึ้นจากความรักในการทานขนมหวานและไอศครีมของคุณศศิวิมล เพ็ชรน้ำสินหรือคุณยิ้ม เจ้าของร้านสาวสวยอารมณ์ดีที่ได้ไปร่ำเรียนเทคนิคการทำไอศครีมมาจากสิงคโปร์ ต่อด้วย Workshop ที่อิตาลีและการตระเวนชิมไอศครีมตามที่ต่างๆหลายประเทศ เพื่อกลับมาเปิดร้านไอศครีมที่เน้นการใช้วัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งผลิตทั่วโลกในการรังสรรค์ไอศครีมหลากหลายรสชาติให้เราได้ชิมกันในกรุงเทพฯนี่เองค่ะทราบมาว่าร้านนี้ค่อนข้างฮิตในหมู่ Expat ที่พักอาศัยกันในย่านสุขุมวิทซะด้วย แถมเรตติ้งใน Tripadvisorก็ดีงามเลยทีเดียว พอจะการันตีได้ว่าคุณภาพไอศครีมที่นี่น่าจะไม่แพ้ของต่างประเทศเลยนะ***-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-***ร้านอยู่ในคอนโดบ้านพร้อมพงษ์ ซอยสุขุมวิท 39 ตรงข้ามกับ UFM Fuji Supermarket ถ้านำรถมาสามารถนำเข้าไปจอดในที่จอดรถของคอนโดได้ หน้าร้านเป็นกระจกโปร่ง มีป้ายรูปไอศครีมอันโตวางหน้าประตูให้เห็นได้ง่ายๆ ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวสว่างตาตัดกับสีน้ำเงิน-ฟ้า มีโซฟาน่าสบายพร้อมหมอนนุ่มๆและตุ๊กตาหมีตัวโตไว้ให้อิงให้กอดกันได้ตามใจชอบ เหมาะกับวันสบายๆที่อยากจะมานั่งๆนอนๆละเลียดไอศครีมอร่อยๆดีจริงๆค่ะสำหรับคนที่ไม่สะดวกมาที่สาขานี้ จะแวะไปลองที่สาขา Central World ชั้น 7 ก็ได้นะคะ พื้นที่อาจจะไม่กว้างขวางน่าสบายเท่าที่นี่ แต่ก็มีไอศครีมและขนมให้เลือกครบเหมือนกันแน่นอนค่ะ***-เมนูที่ได้ลอง-**อย่างที่เกริ่นไว้แล้วว่าไอศครีมที่นี่เน้นการใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม ใช้นมสดออร์แกนิค ไม่ใส่สีและกลิ่นสังเคราะห์ ไม่ใส่สารกันบูด และยังนำเข้าวัตถุดิบจากแหล่งผลิตทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้นนอกจากผนังร้านจะประดับด้วยแผนที่โลกที่แปะ magnets เก๋ๆโชว์คอนเซ็ปต์Internationally Inspired ของร้านแล้ว ที่ตู้ไอศครีมก็ยังมีติดธงชาติเล็กๆโชว์ให้เราได้รู้ว่าไอศครีมแต่ละรสนั้นใช้วัตถุดิบจากที่ไหนบ้าง เช่น Hazelnut นั้นนำเข้าจากตุรกี , Dark Chocolate จากเบลเยี่ยม, กาแฟจากบราซิล, Matchaจากญี่ปุ่น, Earl Grey จากอังกฤษ, Maple Syrup จากแคนาดา..เป็นต้นนอกจากไอศครีมเป็น scoop แล้ว ที่นี่ยังมีขนมหวานจากไอศครีมให้สั่ง สำหรับเครื่องดื่มก็มีชาหลากหลายชนิดให้เลือก มีกาแฟสดที่ชงเมื่อไหร่ก็หอมกรุ่นไปทั่วร้าน ..รวมไปถึง Frappe และ Gelato Shakesต่างๆครบครันทีเดียวค่ะไอศครีมที่นี่จะมีให้เลือกสั่งตามนี้ค่ะ●Cone ราคา 99 บาท ได้ไอศครีม 1 รส (รส premium เพิ่ม 30 บาท)● ถ้วย Size S ราคา 89 บาท ได้ไอศครีม 2 รส (รส premium เพิ่ม 30 บาท)●ถ้วย Size Lราคา 159 บาท ได้ไอศครีม 3 รส (รส premium เพิ่ม 60 บาท)รสชาติของไอศครีมจะมีทั้งที่เป็นรสประจำซึ่งจะมีอยู่ (ค่อนข้าง) ตลอด แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างถ้าบางรสชาตินั้นมี profile ไปคล้ายกับ Flavor of the Month ซึ่งเป็นรสชาติพิเศษของแต่ละเดือน ซึ่งถ้ารสไหนได้รับความนิยมก็อาจมีการเวียนกลับมาบ่อยๆได้ค่ะ แอบนับดูแล้วในตู้มีไอศครีมให้เลือกถึง 14 รส ซึ่งเราได้ลองไปตามนี้เลย...●Dark Chocolate – รสยอดนิยมของทางร้านที่เราขอบอกเลยว่าลองแล้วเลิฟมากกก...รสช็อคโกแลตเข้มข้นชัดเจน เนื้อไอศครีมแน่นหนึบเนียนละเอียดไม่มีฟองอากาศ และไม่หวานเกินไป ถูกใจ Chocolate Lover อย่างเราที่สุดค่ะ●Chocolate Grand Marnier – เป็น Flavor of the month ของเดือนที่แล้ว สำหรับเราที่ปกติก็ชอบกินช็อคโกแลตที่มีไส้ผสมเหล้าอยู่แล้ว พอมาเจอกับรสนี้ที่ได้ทั้งรสช็อคโกแลตเต็มๆบวกความหอมของ Grand Marnier นี่เลยฟินระเบิดระเบ้อ แอบเทใจให้มากกว่ารส Dark Chocolate นิดนึงเพราะรู้สึกว่ามันเป็นรสชาติไอศครีมที่หาทานที่อื่นได้ยากน่ะค่ะ●Strawberry Cheesecake – อีกหนึ่งรส Best Seller ของทางร้าน หอมกลิ่นนมและสตรอเบอร์รี่ชัดเจน แทรกด้วย crumbles กรุบๆหอมชีส ปลื้มสุดๆค่ะ●Matcha – เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่ทำออกมาได้ชัดเจน หอมชาเขียวเน้นๆ ไม่หวานมาก ชิมมาถึงตอนนี้ชักจับทางได้ว่าจุดเด่นของร้านนี้คือการเน้นรสชาติเต็มๆชัดๆแบบไม่ต้องเดานี่เอง เพราะใส่วัตถุดิบ (อย่างของรสนี้ก็คือชาเขียว) จัดเต็มไม่มีกั๊ก เป็นสไตล์ที่ถูกใจเรามากๆ●Earl Grey – อาจเป็นเพราะชิมรสมัทฉะซึ่งมีความขมแทรกอยู่มาก่อน พอมาลองรส Earl Grey เลยรู้สึกว่าเทียบกันแล้วรสจะอ่อนๆนุ่มนวลกว่า แต่ก็ได้กลิ่นของ Black Tea ผสมความหอมสดชื่นของมะกรูด เป็นรสชาติเบาๆทานสบายๆน่ะค่ะ●Lemon Myrtle Biscuit & Rosemary –เป็น Flavor of the Month ของเดือนนี้ เนื้อไอศครีมหอมกลิ่น Rosemary ชัดเจน แทรกอยู่ด้วยผงบิสกิตที่ใส่ Lemon Myrtle ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรของทาง Australia (เลยไม่ได้มีรสเปรี้ยวเหมือนมะนาวแต่อย่างใดนะจ๊ะ) รสของไอศครีมจะออกแนวหวานอ่อนๆเบาๆ เน้นที่กลิ่นหอมของ Rosemary ซะมากกว่า ซึ่งถ้าคนที่ชอบกลิ่นสดชื่นแนวๆนี้อยู่แล้วก็น่าจะฟินกันไป แต่สำหรับเราที่ค่อนข้างรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ปลื้มอะไรเท่าไหร่กับกลิ่น Rosemary (ยกเว้นแต่เวลาที่มันไปทาอยู่บนเนื้อแกะย่างนุ่มๆ..555+) รสนี้ก็เลยเป็นรสที่เราทานได้แบบเพลินๆหอมๆแต่ไม่ได้ติดใจมากน่ะค่ะ●Maple Syrup & Candied Bacon –เห็นชื่อ Maple Syrup ก็พอเดาได้ล่ะค่ะว่าอิมพอร์ตมาจาก Canada เราเป็นคนชอบกลิ่น Maple Syrup อยู่แล้ว ส่วนการเอาเบคอนมาทำขนมก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าตกใจอะไร เพราะในต่างประเทศก็มีการทำช็อคโกแลตไส้Praline รสเบคอนออกมากันแล้ว เราชิมแล้วก็ชอบเสียด้วย พอมาเห็นที่บ้านเรามีให้ทานในรูปแบบไอศครีมแบบนี้ก็เลยรีบขอลองค่ะ ต้องบอกว่าคุณยิ้มเธอใส่เบคอนเป็นชิ้นใหญ่ๆชัดๆจัดเต็มแบบใจถึง daring สุดๆ โดยแต่ละชิ้นจะเป็น Candied Bacon คือได้นำไปเคลือบผิวด้วย Maple Syrup ก่อน ให้ความหวานเล็กน้อยปนกับรสเค็มของเบคอนแทรกด้วยกลิ่นรมควันหอมๆ ส่วนเนื้อไอศครีมเป็นรสเดียวกับ Maple Syrup ค่ะ จัดเป็นรสนึงที่โดดเด่นในแง่ของความสร้างสรรค์สุดครีเอทณ.โมเม้นต์นี้เชื่อว่านี่คงเป็นร้านเดียวในกรุงเทพฯที่จะมีไอศครีมรสนี้ให้ทาน ถ้าอยากลองต้องมาจัดค่ะแอบนึกในใจว่าซักวันนึงคุณยิ้มเธออาจจะลองทำไอศครีมรสหมูหยองดูมั่งก็ได้น้า...เสิร์ฟคู่กับข้าวตังน้ำพริกเผาออกจะเกร๋..5555 (อ่ะ..ล้อเล่งจ้า..)●Coffee – ปกติแล้วแม้ว่าเราจะเป็นคอกาแฟเข้าขั้นเสพติด แต่พอถึงเวลาสั่งไอศครีมจะไม่ชอบสั่งรสกาแฟค่ะ เพราะรู้สึกว่ากลิ่นรสของกาแฟในไอศครีมร้านอื่นๆนั้นมักจะออกแนวเน้นหวานมัน และแม้จะหอมกลิ่นกาแฟจริงแต่ก็เป็นกลิ่นกาแฟแบบ confection ที่ทำให้นึกถึงพวกลูกอมรสกาแฟ เค้กกาแฟ อะไรทำนองนั้น ซึ่งเดาว่าคงเป็นเพราะส่วนใหญ่ใช้กาแฟผงแบบ instant coffee เป็นตัวแต่งรสไอศครีมน่ะค่ะ เลยไม่ค่อยถูกจริตเราที่คุ้นเคยกับกาแฟสดมากกว่า แต่สำหรับรสกาแฟของร้านนี้ต่างออกไปค่ะ แค่ทานเข้าไปคำแรกก็ต้องร้องว้าววว...คือมันหอมกาแฟแบบเข้ม-ลึก กรุ่นอวลไปทั้งปาก และเป็นกลิ่นของกาแฟแบบเดียวกับเวลาที่ดื่ม Caffe Latte ที่ชงจากเมล็ดกาแฟสดชั้นดีบดใหม่ๆ แตกต่างจากของที่อื่นจริงๆค่ะเห็นป้ายบอกว่าไอศครีมตัวนี้ใช้เมล็ดกาแฟที่นำเข้ามาจาก Brazil เราเลยเดา (เอาเอง) ว่าที่นี่คงใช้กาแฟสดแท้ๆที่ชงกลั่นเข้มข้นมาผสมทำไอศครีมแน่เลย ปลื้มค่ะ...●Salted Caramel – รสนี้เคยเป็น Flavor of the Month แต่ฟีดแบ็คดีงามจนทางร้านว่าจะทำออกมาขายอีกค่ะ ปกติเราชอบทานช็อคโกแลตไส้ Salted Caramel อยู่แล้ว เพราะมีทั้งความหอมของคาราเมลบวกกับรสหวานที่ปนเค็มเล็กน้อยให้กลมกล่อม พอมาเป็นรสไอศครีมแบบนี้ก็เลยถูกใจค่ะ ชอบๆ● Pistachio – ตัวนี้บอกเลยว่าฟินสุดๆสมกับที่เป็นรส premium เพราะทั้งกลิ่นรสและความมันของถั่ว pistachio นี่แบบว่าอัดแน่นมาเต็มค่ะ คือถ้าพูดถึงไอศครีมรสนี้นี่ของที่อื่นมักทำเป็นแบบโรย pistachio ให้เห็นเม็ดแทรกเป็นระยะๆห่างๆอยู่ในไอศครีมขาวๆใช่มั๊ยล่ะค่ะ แต่ของที่นี่จะทำออกมาในลักษณะไอศครีมเนื้อเนียนสีเขียวอ่อนๆซึ่งได้จากสีของ pistachio ตามธรรมชาติล้วนๆเวลาที่เนื้อไอศครีมสัมผัสลิ้นนี่มีความรู้สึกถึงเนื้อถั่ว pistachio ที่บดจนเนียนละเอียดแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของเนื้อไอศครีมเลยจริงๆ ...อลังมากๆค่ะ● Macadamia – ทราบมาว่า Macadamia นั้นเป็นถั่วที่แพงที่สุดในโลก ฉะนั้นก็เลยต้องจัดเป็นเมนู premium ด้วยต้นทุนนี่เองค่ะ ความเอร็ดอร่อยดีงามของ Macadamia นั้นเกิดจากปริมาณไขมันที่มีอยู่สูงกว่าถั่วชนิดอื่นๆ ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่ไม่แข็งกระด้างแบบถั่วลิสงหรือ almonds แต่ก็ยังคงความกรอบอยู่ ชวนให้เกิดความรู้สึก “เคี้ยวมันส์” แต่ในแง่ของกลิ่นรสนั้นเราว่าไม่ค่อยแรงโดดเด่นเท่าไหร่ ฉะนั้นเมื่อมาทำเป็นไอศครีมเนื้อเนียนๆแบบนี้ แม้จะบดเมล็ด Macadamia ใส่แบบอัดแน่นเนียนไปกับเนื้อไอศครีมเช่นเดียวกับรส Pistachio แต่เมื่อไม่ได้เคี้ยว ไม่ได้สัมผัสความกรอบมันของ Macadamia เต็มๆเม็ด สำหรับเราแล้วก็เลยรู้สึกว่ารสนี้จะแพ้รส Pistachio ซึ่งเป็นถั่วที่มีความชัดเจนของกลิ่นมากกว่าไปนิดนึงน่ะค่ะนอกจากไอศครีมที่ตักกันเป็นถ้วยๆแล้ว ที่นี่ยังมีไอศครีมที่ทำมาในรูปลักษณ์ของขนมหวาน ตกแต่งสวยงามอีกด้วย แนวๆเค้กไอศครีมน่ะค่ะซึ่งเราได้ลองกันไป 2 อย่างคือ..●Dark Chocolate Gelato Cake – เป็นไอศครีมรส Dark Chocolate ที่มีไส้เป็น Salted Caramel เบสเป็น Brownie และท็อปด้วยเม็ด Hazel nuts และ Chocolate fudge รสเข้มข้นที่ตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆเคี้ยวหนึบ เป็นชิ้นที่น่าจะถูกใจคนชอบช็อกโกแลตสุดๆค่ะ●Raspberry Lychee Rose – ชิ้นนี้ทำให้เราอร่อยว้าวตาโตแบบ surprise สุดๆ คือไม่นึกเลยว่าไอศครีม Sorbet มันจะฟินได้ขนาดนี้ (ปกติแล้วเราชอบไอศครีมแบบ creamy ค่ะ) ..ด้านนอกเป็นไอศครีมรส Raspberry ที่เปรี้ยวหวานกำลังดี๊ดีสดชื่น แต่ที่โดดเด่นสุดๆคือไส้ในที่เป็นไอศครีมรสลิ้นจี่ทำจากเนื้อลิ้นจี่เน้นๆผสมกับ Rose water พอเข้าปากปุ๊บได้กลิ่นลิ้นจี่หอมๆมาเต็มชื่นใจที่สุด แทรกด้วยเนื้อลิ้นจี่หวานๆ อร่อยระเบิดระเบ้อ ส่วนเบสเป็น GenoiseSponge Cakeเนื้อนุ่มเบา เข้ากันได้ดีค่ะเห็นที่นี่มีชาให้เลือกมากมาย กล่องชากลิ่นต่างๆนี่เรียงเต็มหน้าเคาน์เตอร์ ดูแล้วน่าลองมากๆค่ะ แต่เผอิญว่ามีใครไม่รู้สั่งกาแฟ ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนไปทั่วร้าน ได้กลิ่นแล้วรู้สึกว่าต้องเป็นกาแฟดีแน่ๆเลยสั่งเป็น Hot Americano (ราคา 70 บาท) มาลอง ขอบอกว่าเด็ดจริงไม่ผิดหวังค่ะ ความเข้มปานกลาง หอมแรง รสกลมกล่อม ไม่เปรี้ยว จัดว่าโดนใจทุกอย่างนะร้าน Ampersand นี้รับจัด Catering ด้วยนะคะ ถ้าใครสนใจก็ติดต่อได้ที่ โทร. 026620351 หรือ Email :the.ampersand.boutique@gmail.comโดยรวมแล้วเป็นร้านไอศครีมที่แม้จะเล็ก แต่ก็น่าประทับใจในความจัดเต็มทั้งในแง่คุณภาพวัตถุดิบ รสชาติ และการสร้างสรรค์เมนูที่หาทานที่อื่นได้ยาก เหมาะกับคนที่ชอบไอศครีมที่ได้รสชาติโดดเด่นชัดเจนแบบธรรมชาติแท้ๆไม่สังเคราะห์ ไม่หวานมาก และดีต่อสุขภาพ อยู่ใกล้สาขาไหนก็แวะไปลองดูได้ค่ะ  continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
อีกหนึ่งร้านไอศครีมที่ต้องยอมรับก่อนเลยว่าตอนแรกไม่เคยรู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อ .. แต่มีโอกาสได้ลองเพราะว่าขับรถผ่านเลยค่ะ แต่พอได้ลองแล้วต้องบอกว่าไอศครีมร้านนี้ดีจริงๆ Ampersand Boutique ... ร้านไอศครีมขนาดกว้างเท่ากับอาคารพาณิชย์ 1 คูหา แต่ไฟในร้านทำให้ร้านดูโดดเด่นกว่าร้านอื่นๆรอบข้าง จนเป็นจุดสะดุดตาให้เราได้เห็นร้านไอศครีมนี้- ที่ตั้งและการเดินทาง -ร้านแอมเพอร์แซน ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ค่ะ แต่เราว่าเข้าจากฝั่งถนนเพชรบุรีดูจะง่ายกว่ากันเยอะเลย ... ถ้าจากถนนเพชรบุรีเข้าตรงซอยข้างอาคารอิตัลไทยเลยค่ะ ตรงข้ามสะพานมาแล้วตรงจนสุดจะเจอทางแยก ถ้าตามรถวิ่งจะบังคับให้เลี้ยวซ้าย แต่ถ้าคนที่ไม่มีรถมาเราเดินแยกไปทางขวาได้เลย แล้วเราก็จะเจอร้านอยู่ทางขวามือค่ะ สังเกตป้ายไอศครีมโคนอันใหญ่ๆหน้าร้าน รับรองว่าไม่มีหลงค่ะ - เมนูของทางร้าน - ทางร้านขายไอศครีม gelato เป็นหลักเลยค่ะ เพียงแต่ว่าเราจะเลือกทางไอศครีมล้วนๆ หรือว่าจะเลือกทานคู่กับเครป วาฟเฟิล หรือแพนเค้ก รสชาติไอศครีมแต่ละวัน แต่ละเวลาก็อาจจะเจอได้ไม่เหมือนกันนะคะ แล้วแต่ว่าช่วงเวลานั้นมีไอศครีมอะไรบ้าง อย่างตอนเราไปเจอไอศครีมสไตล์ครีม+นม แนวเชอเบทนี่เราไม่เห็นเลยเหมือนกัน ขนาดไซส์ s = 89 บาท สามารถเลือกไอศครีมได้ 2 รสชาติค่ะ ขนาดไซส์ L = 159 บาท เลือกไอศครีมได้ถึง 3 รสชาติ แต่เราว่าถ้วยมันใหญ่มากเลยอ่ะคะ กินแล้วมีจุกอ่ะ โคน           = 99 บาท ได้ 1 รสเท่านั้นนะคะ ใส่ในโคนดูน่าทาน (แต่เราไม่ได้ลองมานะคะ) - บรรยากาศภายในร้าน -ภายในร้านเน้นตกแต่งด้วยโทนสีดูอบอุ่น อย่างเช่นสีขาว แต่ก็ยังมีการตกแต่งด้วยสีเข้มบ้างเพิ่มลุคส์เฉพาะนิดนึง ด้วยการใช้สีน้ำเงินเข้ม และสีเทามาช่วย ... ทำให้ร้านไม่ได้ดูขาวแบบสไตล์ผู้ญิ๊ง ผู้หญิง แต่ดูเท่นิดๆ ที่ไม่ว่าชายหรือหญิงก็เข้ามาได้แบบไม่เขินค่ะ ภายในร้านมีที่นั่งได้ทั้งส่วนเคาเตอร์ตรงริมกระจกด้านหน้าร้าน (พอดีมีคนนั่งอยู่เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ) ... แล้วก็ด้านในเป้นที่นั่งโซฟา+โต๊ะเก้าอี้ อยู่ริมกำแพงด้านเดียว ด้านในมีประมาณ 4-5 โต๊ะเท่านั้นค่ะ แล้วก็นั่งเป็นแนวยาวต่อกันไป ร้านค่อนข้างแคบ แต่ว่าคนนั่งในร้านไม่ค่อยเยอะนัก วันนั้นเรากับเพื่อนเลยใช้เวลานั่งเล่นกันที่ร้านได้นานพอสมควรแบบไม่โดนกดดันและไม่รู้สึกผิด นั่งคุยกันไปทานไอศครีมกันกันไป ... เพลินสุดๆเลยค่ะ- จุดเด่นของร้าน - ไอศครีมคือของขายหลักของร้าน จุดเด่นก็เกี่ยวเนื่องกับไอศครีมนี่แหล่ะค่ะ นั่นคือ วัตถุดิบสำหรับการทำไอศครีม ... ส่วนผสมในการปรุงแต่งรสของไอศครีมที่นี่เลือกใช้แต่ของพรีเมี่ยม คัดสรรมาให้ผู้บริโภคได้ทานแต่สิ่งที่ดี โดยใช้วัตถุดิบจากหลากหลายประเทศมาผสมเพื่อให้ได้รสตามแบบต้นกำเนิดมากที่สุด เช่น ชาเขียวก็ใช้ผงชามัฉชะจากประเทศญี่ปุ่น ช็อกโกแลตก็ใช้จากประเทศเบลเยี่ยม เป็นต้น - เมนูที่เราได้เลือกชิม - ที่เราได้ลองชิมจะมีไอศครีมชาเขียวมัทฉะและไอศครีมเอิร์ลเกรย์ ทั้งสองเมนูได้รสสัมผัสที่แน่น เนื้อเนียน แต่ไม่หวานมากจนเกินไป กลิ่นมัทฉะแรงชัดดีค่ะ แต่สำหรับเอิร์ลเกรย์ยังไม่ชัดมากเท่าไหร่ แต่รวมแล้วก็ถือว่าอร่อยเข้มข้นแล้ว ... เคยมีเพื่อนบอกมาว่าสตรอเบอรี่ชีสเค้ก และแนวโยเกิร์ตก็อร่อย ครั้งหน้าคงต้องหาโอกาสไปลองอีกค่ะ แถมร้านมี wi-fi ฟรีด้วยค่ะ .. ถ้าใครไป ถ่ายรูป อัพรูปสบายเลย  wi-fi เร็วใช้ได้อยู่เลยค่ะ   continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)