2
0
0
7-min walk from Exit 5, Phrom Phong BTS Station continue reading
Telephone
02-102-2323
084-551-5559
Good For
Casaul Dining
Additional Information
Service Charge 10% Tax 7%
Opening Hours
Today
18:00 - 01:00
Mon
Closed
Tue - Sun
18:00 - 01:00
Payment Methods
Visa Master AMEX Cash
Other Info
Parking
Accept Credit Cards
Serves Liquors
Open Till Late
Tax Invoice
Restaurant Website
http://www.astonbkk.com
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
Signature Dishes
Foie Gras Spagetti Cabonara
Review (2)
Aston Dining Room & Bar ร้านอาหารสุดชิคในซอยสุขุมวิท 31 นี้เป็นของเชฟมือรางวัล- ศรา จิรารัตน์ ผู้จบจากสถาบัน Cordon Bleu และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน top 20 best chefs in Bangkok ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นในแง่ของการให้บริการอาหารแบบ Chef’s Table คือเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชมการทำงานของเชฟและทีมงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้เห็นทุกขั้นตอนการปรุงออกมาเป็นอาหารแต่ละจาน โดยเชฟจะเป็นผู้อธิบายรายละเอียดอาหารเมื่อนำมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าลองมาสัมผัสดูจริงๆค่ะ**-บรรยากาศ-**ดีไซน์ของร้านนี้โดดเด่นสะดุดตาเห็นมาแต่ไกลด้วยตัวร้านที่ด้านนอกเป็นโครงปูนเปลือย ปลูกไม้เลื้อยเกาะพันจนครอบคลุมทั้งหมด เท่ดีทีเดียวค่ะ ส่วนภายในร้านแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างสุดจะเป็นบาร์เครื่องดื่ม ชั้น 2 จะเป็นห้องอาหารสำหรับ Chef’s Table ซึ่งตรงกลางจะมีลักษณะเป็นครัวเปิดโล่ง ล้อมรอบด้วยเคาน์เตอร์ซึ่งจัดเป็นที่รับประทานอาหารให้ได้ชมลีลาการทำอาหารกันแบบใกล้ชิด ส่วนชั้น 3 จะเป็น wine cellar ค่ะ เราชอบบรรยากาศและการตกแต่งของที่นี่มากทีเดียว คือดูเรียบเท่ มีรสนิยม ดู masculine หน่อยๆ แต่ก็อบอุ่นมีชีวิตชีวา และ cozy น่านั่งชิลล์ ไม่ได้หรูหราจนตัวเกร็งหรือฟรุ้งฟริ้งมากจนเกินงาม โดนใจแรงๆเลยล่ะค่ะ**-ราคา-**● Degustation Menu : 3,500++ บาทสำหรับ Chef’s Table ที่นี่นั้นมีเฉพาะมื้อเย็นของทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ และไม่ได้ให้สั่งอาหารแบบ a la carte แต่จะเป็นเซ็ทอาหาร 6 คอร์ส ซึ่งสามารถดูเมนูได้ที่ website ของทางร้าน โดยหลักๆแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูทุกๆ 6 เดือน แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของแต่ละคอร์สก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งบ้าง และเนื่องจากทางร้านต้องมีการจัดเตรียมล่วงหน้า จึงต้องจองโต๊ะไว้ก่อนไปทานค่ะ โดยโทร.จองได้ที่เบอร์ 084-551-5559 และ 02-102-2323 ถ้าใครมีข้อจำกัดเช่นแพ้อาหารประเภทไหน ก็สามารถแจ้งได้ตอนโทร.จองเลยค่ะ● Wine Pairing : 2,000 ++ บาทสำหรับคอไวน์ที่อยากมาทานแบบมี wine pairing ก็จ่ายเพิ่มอีก 2,000++บาท เชฟศรานั้นนอกจากจะเป็นเชฟทำอาหารแล้วยังมีดีกรีเป็น Certified Sommelier ด้วย ฉะนั้นฝีไม้ลายมือการจับคู่ไวน์ให้เข้ากับอาหารนี่น่าจะไว้ใจได้ ถ้าสนใจก็น่าลองจัดดูค่ะ**-เมนู (ก.ค.-ธ.ค. 2558)-**● Oyster (Addition 180 bht/ Pcs.) – เมนูนี้ไม่รวมอยู่ในเมนูหลัก ถ้าจะสั่งต้องจ่ายเพิ่มต่างหากค่ะ ทราบมาว่าจะเสิร์ฟมาเป็นหอยนางรมสดราดด้วยเจลลี่ Ponzu (ซอสเปรี้ยวพอนซึของญี่ปุ่น) แตงกวา และสาหร่าย sea grapes ซึ่งสำหรับตัวเองขอสารภาพว่าไม่ได้สั่ง เพราะไม่แน่ใจกับปริมาณของอาหารทั้งคอร์สว่ากระเพาะน้อยๆของเราจะรับไหวรึเปล่า เลยไม่อยากตัดกำลังซะตั้งแต่ต้นมื้อน่ะค่ะ แต่ขอบอกเลยว่าถ้าเป็นผู้ชายไปทานแบบท้องว่างๆก็สั่งได้เลยค่ะ น่าจะเอาอยู่แน่ๆ● Snacks – คอร์สแรกของมื้อนี้จะเป็นเมนูที่อาจจะต่างกันไปในแต่ละวัน คือเป็น daily creation ค่ะ สำหรับวันที่เราไปได้มา 3 จานนี้จานที่ 1 : หอยหลอดที่ปรุงมาด้วยซอสรสเดียวกับต้มข่า โดยตัว “ซอส”ที่ว่านั้นใช้เทคนิคทาง molecular gastronomy ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนกลมเล็กๆละลายในปาก เสิร์ฟมาบนกระดองรองด้วยน้ำแข็ง จัดว่าทานได้เพลินๆเป็นการเริ่มต้นมื้อแบบเบาๆจานที่ 2 : Croquettes ไส้ปลาเค็มปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำเสียบไม้ให้ทานง่ายๆ 2 ชิ้น ฟังดูแล้วรสชาติน่าจะแปลกประหลาด แต่ปรากฏว่าชิมดูแล้วเข้าท่าดีเลย ไม่เค็มมากอย่างที่กลัวแต่ปรุงรสมากลมกล่อมดีทีเดียวจานที่ 3 : เป็นคล้ายๆกุ้งซาชิมิที่ปรุงมาด้วยน้ำส้มสายชู เสิร์ฟมาแบบจิ๋วๆคำเดียวหมดพอให้รู้รสค่ะ● Sakura Ebi – เส้น capellini ลวกมาแบบ al dente กำลังดีเพอร์เฟ็คถูกใจที่สุด ราดซอส seaweed pesto หอมกลิ่นสาหร่าย เพิ่มรสชาติด้วยกุ้งฝอยกรอบๆเต็มจาน ท็อปด้วย sea grapes ช่อสวย จานนี้ชอบมากๆเลยล่ะค่ะ● Bread & Butter – จบจากของว่างจานเล็กจานน้อยแล้วก็ถึงคิวของขนมปังกับเนยที่เป็น complimentary มาตามธรรมเนียมอาหารตะวันตกทั่วไป ซึ่งพอเสิร์ฟปุ๊บเชฟรีบบอกเลยว่าถ้าเป็นผู้หญิงที่ปกติทานได้ไม่มากให้พยายามอย่ากินขนมปังเยอะ เพราะมื้อนี้ยังอีกยาวไกลค่ะ พอชิมดูแล้วรู้เลยว่าทำไมเชฟต้องเตือน คือขนมปังเค้าเลิศมากๆ ด้านนอกกรอบแต่ไม่กระด้าง ด้านในเนื้อนุ่มหนึบตามสไตล์ขนมปังฝรั่ง อุ่นมาร้อนๆทานอร่อยที่สุด เนยที่เสิร์ฟมาก็เนื้อนุ่มเบา โรย sea salt กรุบกรอบไว้ด้านบนเพิ่มกลิ่นรสได้เหมาะเจาะ อร่อยจนเริ่มทานแล้วก็หยุดได้ยากจริงๆ● Heirloom Tomato – จานนี้เป็น Ceviche ซึ่งเป็นเมนูปลาดิบที่นิยมกันในแถบละตินอเมริกา ของที่นี่ทำจากปลา hiramasa kingfish ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู (vinegar) ใบโหระพา และมะเขือเทศฝาน รสชาติออกแนวสดชื่นกลมกล่อมดีค่ะ● Foie -in-Law - เมนู Foie gras สุดครีเอทที่เชฟบอกว่าได้ไอเดียมาจากไข่ลูกเขย จานนี้บอกเลยว่าอร่อยแทบลืมหายใจ ปลื้มปริ่มแบบพีคสุดๆ ...Foie gras ชิ้นอวบหนา ผิวด้านบน sear มาจนกรอบกริ๊บ ด้านในกึ่งสุกกำลังดีเป็นสีชมพู ทั้งสัมผัสที่นุ่มนวลละลายในปาก ทั้งกลิ่นที่หอมอวลไม่มีกลิ่นสาบปนเลยซักนิด ทั้งรสชาติที่กลมกล่อมสมบูรณ์แบบ บ่งบอกว่าใช้ Foie gras เกรดท็อปสุดๆ ..เคียงมาด้วยไอศครีมรสเดียวกับน้ำราดไข่ลูกเขยท็อปด้วยหอมเจียวกรอบๆที่เชฟบอกว่าให้ทานสลับกับ foie gras เป็นการรีเซ็ทลิ้น (ไม่ให้ทานผสมเข้าไปด้วยกันในคำเดียวนะจ๊ะ) รสเปรี้ยวๆหวานๆสดชื่นของไอศครีมกับความ rich ของตับห่านต่างก็เบรครสชาติซึ่งกันและกันไม่ให้เลี่ยนหรือจัดจ้านจนเกินไป ขนมปังขิงกรอบๆที่โรยมาข้างๆก็ทานเคียงไปด้วยกันได้ดี ..ทานไปแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่ากับเมนู Foie gras นี่ ฟินกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว..เลิฟเลย...!● Skate Wing – โชว์ฝีมือเชฟจาก Cordon Bleu โดยนำเนื้อส่วนปีกของปลากระเบนที่ชำแหละได้ยากนี้มาปรุงด้วยน้ำส้ม vinegar ทานคู่กับดอกกะหล่ำดองและใบ nasturtium ..ทานแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติที่สดชื่นและความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อปลากระเบนอร่อยดีงามที่สุด เป็นอีกจานที่ฟินมากกก...● Anjou Pigeon – เนื้อนกพิราบปรุงด้วย Jerusalem Artichoke และ Black Truffle ..เมนูนี้ถ้าใครอยากเพิ่ม truffle ก็เพิ่มเงินอีก 750 บาทได้จ้ะ ในส่วนของเนื้อนกพิราบจะมีส่วนขาที่ทอดแล้วพันแป้ง kaitifi ซึ่งเป็น pastry ของทางตะวันออกกลาง ลักษณะเป็นเส้นบางๆทอดกรอบมาหน้าตาคล้ายมันรังนกแต่เนื้อละเอียดกว่าและให้ความกรอบที่เบาร่วนละลายในปาก อร่อยมากๆ ..นอกจากนี้ยังมีส่วนเนื้ออกที่ทำมาเป็นสเต็กแบบ medium กำลังดี๊ดี เนื้อเป็นสีชมพูชุ่มฉ่ำ รสสัมผัสนุ่มนวล เป็นอีกจานที่อร่อยระเบิดระเบ้อ สูสีกับจาน Foie gras แบบไม่มีใครยอมใคร ..ปลื้มปริ่มแทบลอยได้● Artisanal Cheese (Addition 400 bht) – เมนูเสริมที่ถ้าจะสั่งต้องจ่ายเพิ่มต่างหากอีก 400 บาท เป็นชีสหลากชนิดของ Jean Yves Bodier ผู้ได้ชื่อว่าเป็น butter master ชื่อดังของฝรั่งเศส อันที่จริง cheese lover อย่างเราอยากสั่งมาลองมาก ..แต่ ณ.จุดนี้กระเพาะเต็มแทบล้นแล้ว เอาเป็นว่าถ้าใครความจุเพียงพอก็น่าลองจัดดูนะคะ● Nom Yen – ของหวานชื่อน่ารักนี้คือไอศกรีมรสนมที่ท็อปมาด้วย sherbet รส strawberry yuzu เปรี้ยวๆ เสิร์ฟมาในขนาดจิ๋วๆแต่รสชาตินั้นยิ่งใหญ่ค่ะ ทั้งหอมและสดชื่นดีจริงๆ● Palm Sugar, Black Rice, Passion Fruit, Coconut –ของหวานเมนูนี้เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากขนมไทยๆอย่างข้าวหลามนี่เอง ประกอบไปด้วยไอศกรีมรสข้าวเหนียว รสเสาวรส และแป้งข้าวเหนียวดำผสมกะทิหวานมัน จัดว่าอร่อยใช้ได้ แต่ส่วนตัวเราชอบเจ้า Nom Yen มากกว่าน่ะค่ะปิดท้ายมื้อนี้ด้วยการสั่งชาร้อนๆมาจิบ มีขนมชุดเล็กๆเคียงมาให้ทานแกล้มกัน เป็นมื้อที่อิ่มอร่อยประทับใจที่สุดมื้อหนึ่งเลยทีเดียว ..แม้ว่าถ้าแยกมาดูกันจานต่อจานแล้วอาจจะไม่ได้เลิศที่สุดทุกเมนู แต่เมื่อมองภาพรวมของมื้อแล้วทุกอย่างประกอบกันได้เหมาะเจาะลงตัวสมบูรณ์แบบถูกใจจนหาข้อติไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอร์สที่มีการเสริมรส-ตัดรสกันอย่างเหมาะเจาะพอดีจนสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยไหลลื่นตั้งแต่จานแรกจนจานสุดท้าย ความพิถีพิถันต่อการเตรียมอาหารทุกจานทั้งเรื่องของการสร้างสรรค์เมนู เทคนิควิธีทำ ไปจนถึงการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การบริการที่สุภาพและเป็นมืออาชีพ บรรยากาศของร้านที่แสนโดนใจ กลายเป็นมื้อที่ดีงามปลื้มปริ่มแบบสุดๆ ...เมื่อนึกถึงว่าถ้าเทียบกับร้านประเภท Fine dining ในระดับราคาพอๆกันแล้ว ชื่อเสียงของ Aston อาจจะยังไม่ใหญ่เท่าอีกหลายๆร้านในแง่ของการได้รับรางวัลหรือจัดอันดับจากสถาบันต่างๆ แต่ส่วนตัวแล้วกับบางร้านที่ชื่อชั้นเหนือกว่าพอลองแล้วเรากลับประทับใจไม่เท่าที่นี่ เลยทำให้รู้สึกเหมือนกันว่าจะฟิน-ไม่ฟิน...ปลื้ม-ไม่ปลื้ม สุดท้ายแล้วมันก็ลิ้นใครลิ้นมันจริงอย่างที่เค้าว่ากันนั่นล่ะค่ะ สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การทานอาหารแบบ Chef’s Table ดูบ้างก็แนะนำว่าน่ามาลองค่ะ  continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
Chef’s Table เป็นกระแสการทานอาหารที่กำลังมาแรงโดยเชฟจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชมเบื้องหลังกรรมวิธีการปรุงอาหารและได้มีโอกาสพูดตุยกับเชฟอย่างใกล้ชิดAston Dining Room and Bar ของเชฟต้น - ศรา จิรารัตน์(อดีตโปรแกรมเมอร์ที่ค้นพบตนเองว่ามีความชอบในการทำอาหาร และมีพรสวรรค์ในด้านนี้โดยจบด้านการทำอาหารจากLe Cordon Bleu ) จัดเป็นร้านอาหารในสไตล์ดังกล่าวภายในร้านมีครัวเปิดขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางร้าน รอบๆครัวมีเคาน์เตอร์บาร์และเก้าอี้นั่ง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับเบื้องหลังการปรุงอาหารของเชฟอย่างใกล้ชิดAston Dining Room and Bar จัดเป็น Modern European Restaurantเมนูของที่นี่ จะเป็น Menu Course (ไม่บริการเสริฟ A Lacarte)โดยจะเปลี่ยนเมนูทุก 3 เดือน หรือปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมในแต่ละเดือน อาจมีการปรับเปลี่ยนเมนูเข้ามาใหม่ 1-2 รายการDegustation Menu 2,800++With Wine Pairing 1,700++รายการอาหาร1. Amuse BoucheMolecular Cocktailน้ำแตงโมผสมวอดก้า รสหวานสดชื่นมากๆ*** Ireland OysterCucumber ,Ponzu, Seagrape (Additional 120 THB/PC)เมนูนี้เป็น Optional จ่ายเงินเพิ่มต่างหาก2. Baby Prawn    Capellini ,Seaweed Pesto,Tobikoเส้น Capellini คลุกเคล้าด้วยน้ำมันกับซอส Pesto โรยหน้าด้วยกุ้งฝอยทอดกรอบจานนี้รสชาติจะออกเค็มๆ เพื่อเรียกน้ำย่อย3. Bread    Freshly Baked , Lescure Butterขนมปัง Baguette ของที่นี่ จะนำไปอบให้ร้อนก่อนแล้วค่อยนำมาเสริฟ ทานตอนร้อนๆ จะกรอบอร่อยเรียกน้ำย่อยได้อย่างดีเลยครับ4. Lamb    Smoked Eel,Cream Friache,Burnt butter ,Rocky Gully Riesling,Frankland    Estate 2012จานนี้โดดเด่นจากการนำเนื้อแกะดิบชั้นดี เผาผิวด้านนอกด้วยความร้อน,นำไปรมควันกับเนยไหม้ ผิวด้านนอกของเนื้อยังคงความดิบแต่ไม่มีความคาว เลยแม้แต่น้อย มีกลิ่นหอมของเนยไหม้ ทานตัดกับ Cream Friache ซึ่งมีรสเปรี้ยวนิดๆกับ ไวน์ซอส (Frankland Estate 2012)5. Foie Gras    Duck Consomme ,Basil ,Ginger, Domaine Bott-Geyl|Pinot Gris,Les Elements    AOC Alsace ,France 2009เกี๊ยวไส้ฟรัวกราส์เทอรีน กับน้ำซุปเครื่องยาจีน ซึ่งใช้เวลาตุ๋น 1 วันเต็มหลังจากนั้นนำน้ำซุปไปแช่ตู้เย็นแล้วกรองน้ำซุปด้วยผ้าขาวบางปล่อยให้น้ำซุปหยดผ่านผ้าขาวบางลงมา ปรุงรสด้วยโหระพาและขิง6. Hiramasa    Green Curry,Coconut,Cashew Nut ,Jean d’Alibert Domaine Saint Esteve Pinot    Noir ,Languedoc-Roussillon,Franceปลา Hiramasa เนื้อนุ่มทานคู่กับซอสแกงเขียวหวานซึ่งทำจากผักและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ มีความเผ็ดไม่มากนักหอมกลิ่นเครื่องเทศ เครื่องเคียงเป็น Risotto ทำมาจากข้าวญี่ปุ่นและ Butter เม็ดข้าวจะชุ่มๆ หอมกลิ่นเนย7. Beetroot    Horse Radish Icecream,Wood Sorrrelไอติมบีทรูทเสริฟมาคู่กับเกล็ดแป้งกรอบ จานนี้รสเปรี้ยวอ่อนๆ ช่วยปรับรสของลิ้นก่อนเข้าจานหลัก8. Wagyu Beef    Flat Iron ,Cheek,Celeriac    B Crux, UCO Valley Mendoza,Argentina 2008นำเนื้อส่วนหัวไหล่ไปรมควันด้วยฟาง ให้ได้ความสุกระดับมีเดียมกลิ่นหอมมากๆ ทานคู่กับ Celeriac รสเค็มอ่อนๆเนื้อส่วนแก้มวัวนำไปตุ๋นกับซอสไวน์แดง รสจะออกหวานอ่อนๆ*** Artisanal CheeseSelection from Jean Vyes Bodier (Addional 350 THB)เมนูนี้เป็น Optional จ่ายเงินเพิ่มต่างหาก9. ChocolateGuayaquil 64% ,Banana, NutellaMaury Fagayra Rouge,Rossillon France NV.ชอกโกแลต รสออกขมนิดและหวานน้อยทานคู่กับไอติมกล้วย อร่อยมากครับ10. Petit FourAssorted of mini confectionerราคาอาหารยังไม่รวมเซอร์วิสชาร์จและภาษีมูลค่าเพิ่ม continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)