อิน เดอะ มู้ด ฟอร์ เลิฟ ซูชิ บาร์ แอนด์ บิสโทร (Closed)

ได้ Voucher จาก Openrice มาจ้า เลยได้โอกาสมาลองร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดังอีกร้าน กับร้าน In the mood for love .... ร้านนี้ตกแต่งค่อนข้างลายตา ก็ดูดีนะ แต่เราชอบแบบเรียบๆมากกว่า ... ที่จอดรถค่อนข้างน้อยมาก เราเกือบจะไม่ได้ทานเพราะหงุดหงิดหาที่จอดไม่ได้เนี่ยแหล่ะ 555 แต่สุดท้ายก็ได้จ้า ไปจอดในซอยแถวๆนั้นเอาตัวอย่างเมนูอาหารจ้า ... เมนูมีให้เลือกพอควร พวกซูชิ โรลต่างๆ โซบะ ปลาดิบ ราคากลางๆค่อนไปทางสูง อย่างพวกโรลต่างๆก็ 350-500 บาทเตรียมพร้อมจ้าาาา ^^สั่งเป็นชาเขียวรีฟิวมา กลิ่นชาหอมดี ไม่หวานมากเริ่มต้นจานแรกด้วย ปลาดิบรวม ทั้งหมด 5 อย่าง มาอย่างละนิด จัดมาแบบโหร่งเหรงไปหน่อย แต่เรื่องความสด สดดี

คำ่คืนแห่งความโรแมนติกคงถูกเติมเต็มได้ไม่ยากถ้าพร้อมด้วยบรรยากาศกับอาหารที่แสนอร่อย หากท่านอยากเดทสวยๆบรรยากาศดีๆที่มีแค่เราสองนี่คือหนึ่งในสถานที่แนะนำ! กับ In the mood for love one ร้านซูชิฟิวชั่นสมัยใหม่ที่พร้อมด้วยบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก กับแสงสลัวๆชวนให้เป็นค่ำคืนที่แสนจะน่าจดจำ อย่ารอช้า มาดูเมนูแนะนำก่อนเลยกับ ซิกเนเจอร์ของร้านจานนี้Caterpillar หนอนน้อยของเรานั่นเองแต่ส่วนตัวไร้ซไม่ค่อยชอบปลาไหลแต่ถ้าไม่มีกลิ่นคาวโอเคพอรับได้Guilty but happy ฟังดูแปลกๆใช่มั้ยเพราะมันเป็นซูชิกุ้งเทมปุระสอดไส้ชีสข้างในไงหละเค้าถึงตั้งชื่อนี่ รู้สึกผิดแต่ก็มีความสุข (ที่ได้กิน) รสชาติแบบที่ชอบเทมปุระกรอบๆทานพร้องข้าวและชีส อร่อ

In The Mood For Love Sushi Bar & Bistro สาขานี้ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 36การตกแต่งร้านก็สวยงาม ดูดี เน้นไปทางโทนสีเข้มๆ มีเพลงเปิดให้ฟังเพลินๆการตกแต่งอาหารก็น่ารักกก รสชาติก็เลิศ In The Mood For Love Sushi Bar & Bistroเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เน้นพวกซูชิ ซาชิมิจ้าาส่วนเมนูก็นี้เลยจ้าา >> Sashimi Salad,Caterpillar

ร้านนี้อยู่ใน ซอยสุขุมวิท 36 ค่ะ ถ้ามาโดยแท็กซี่คงจะสะดวกกว่า เพราะตอนที่เราไป ที่จอดรถน้อยค่ะ เราไปตอนกลางวัน ที่จอดเลยพอมีให้จอดอยู่ เดินเข้าร้านทางเข้าเล็กๆ ค่ะ แต่พอเข้าไปในร้าน บรรยากาศดีมากก ตกแต่งสวยค่ะ ถ้าไปตอนกลางคืนคงจะดีกว่านี้ บรรยากาศภายในร้านค่ะ ตกแต่งสีเข้มๆ มีเพลงฟังเพราะๆ ค่ะอุปกรณ์การกิน ในครั้งนี้เมนูแรก สลัดค่ะ ผักสด อร่อย น้ำจิ้มรสชาตดี ไม่เลี่ยนค่ะจำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่า อร่อยมากกกกกก สีเขียวๆที่เห็น คือ อะโวคาโด ค่ะ รสชาตหวานมัน นุ่มลิ้นมาก เป็นซูชิ ที่ด้านบนมีชีสหอมๆ อร่อยไปอีกแบบค่ะแซลมอนรนไฟ ซูชิ รสชาตอร่อย หมดภายในพริบตาครีมบูเล่ เป็นครีมบูเล่ ที่อร่อยที่สุด ที่เคยทานมา ณ ตอนนี้ เนื้อสัมผัสเนียนมาก

ชื่อเมนูอ่านแล้วอยากทานขึ้นมาทันทีค่ะ พอดีถามน้องพนักงานด้วยว่าประมาณไหนเลยลองสั่งมาทานดูพอดีมื้อนี้ทานกับลูกค้าชาวญี่ปุ่นเลยได้ชิมด้วยกัน เป็น Maki Roll ค่ะ ชื่อเมนูน่าสนใจทีเดียว Guilty but Happy ที่ส่วนตัวชอบตัวสาหร่ายที่ห่อข้าว และไส้ในที่มีหลากหลายอยู่แล้วเมนูนี้มีไส้ทานแล้วอิ่มเหมือนได้ทานอาหารเป็นจานเต็มๆ เลยค่ะ ที่อร่อยสุดที่ทานคำแรกได้รสชาติ และเนื้อสัมผัสเลยคือเนื้อกุ้ง และแป้งทอดเทมปุระนี่แหละค่ะ ที่กรอบแบบบางๆ มีซอสอยู่ด้านใน กุ้งเนื้อแน่น สดมากๆค่ะ ส่วนความหอมจะได้จากครีมชีส กับไข่กุ้งที่สอดแทรกระหว่างเทมปุระ ที่ไม่ชอบอาจมีอยู่นิดนึงคือ มีรสเผ็ดของวาซาบินิดๆ มาคราวหน้าถ้าสั่งจานนี้จะบอกไม่ใส่ค่ะ รสเผ็ดขึ้นจมูกทีเดียว แต่ถามๆ

ร้าน In The Mood for Love ร้านนี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 36 เดินจากปากซอยมาไม่ถึง 100 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ตกแต่งสวยงาม โดดเด่น หากจะไปทานร้านนี้ควรโทรจองโต๊ะล่วงหน้า เพราะอาจจะไม่มีที่นั่ง ถ้าไปช้าโดยเฉพาะช่วงวันศุกร์-เสาร์ค่ะ อาหารเป็นอาหารญี่ปุ่น ซูชิ แต่บรรยากาศร้านดูหรูหรามากๆ เหมือนเป็นครัวอาหารยุโรปเลย เหมาะกับการมาทานแบบคู่รักค่ะเมนูชื่อแปลกหู รูปร่างแปลกตา ต้องยกให้จานนี้ค่ะ Caterpillar เป็นข้าวปั้นขนาดใหญ่ราดซอสและห่อด้วยอโวคาโด อร่อยและอิ่มมากจริงๆค่ะ อาหารจานอื่นๆก็อร่อยค่ะ โดยเฉพาะเป็ดย่าง หมดเร็วมาก ถ่ายรูปไว้ไม่ทันเลย (ฮืออออ)โดยรวมแล้ว ร้านนี้รสชาติดีและอร่อย แต่ราคาแพงไปนิด เหมาะกับการมาท

ช่วงก่อนมีเคมเปญเขียนรีวิวชิงรางวัลกับ openrice เราได้รางวัลเป็นวอยเชอร์ของร้านนี้มาค่ะ ได้มาแล้วก็จัดแจงนัดเพื่อนไปหม่ำกันดีกว่าร้านนี้ตอนนี้มี 2 สาขาค่ะคือที่ซ.สุขุมวิท 36 และเอกมัยเราเลือกมาที่สาขาแรกตรงซ.สุขุมวิท 36 การเดินทางก็ง่ายนั่ง BTS มาลงสถานีทองหล่อ เดินออกประตูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามซ.ทองหล่อ เดินเข้าซ.ไปไม่ลึกมากร้านอยู่ซ้ายมืออ้อ ใครจะมาหม่ำที่ร้านมีโต๊ะไม่มากควรโทรจองก่อนค่ะ ช่วงเวลาในการติดต่อตั้งแต่ 15.00 น.เป็นต้นไปสาขาสุขุมวิท 36 เบอร์ 02-6615076 สาขาเอกมัย เบอร์ 02-3928477ร้านเปิด อังคาร-อาทิตย์ หยุดจันทร์ เปิดบริการตั้งแต่ 17.30-24.00 น. วันเสาร์และอาทิตย์เพิ่มช่วงกลางวัน 11.30-14.00 น.ด้วยร้านนี้ชื่อ

หากอยากหาร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตกแต่งร้านแนวหรูๆละก็ อาจจะหาไม่ยากใช่มั้ยครับร้านนี้ชื่อ in the mood for love เป็นอีกหนึ่งร้านที่แนะนำเลย ดูแค่บรรยากาศภายในร้านสิครับมันน่ามากับบางคนที่รักมากๆๆ ร้านนี้อยู่ที่สุขุมวิทซอย 36 ครับ ขับรถเข้ามาจะเจอป้ายร้านทางซ้ายมือเลย หาไม่ยากครับเมนูทั้งหมดจะเป็นญี่ปุ่นนะครับ และก็มีเครื่องดื่มด้วย (คนญี่ปุ่นชอบทานข้าวกับเหล้าจริงๆ) ฮาๆวันนี้เราสั่ง ซูชิแซลมอน เป็ดย่าง(อะไรสักอย่างจำไม่ได้ขออภัยแต่อร่อยมาก) ข้าวหน้าหมูเกาหลี และเกี๊ยวซ่าครับอยากบอกว่า เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยทุกอย่างที่สั่งมาเลยครับ อร่อยมากๆจริง โดยเฉพาะเมนูเป็ดมื้อนี้ฟาดเรียบไม่ให้เหลือ อย่ารอช้าครับ รีบตามไปกินเลย

มื้อเย็นดินเนอร์แสนเก๋ กับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ อีกทั้งอาหารที่อร่อยและแปลกตา เครื่องดื่มที่รสเยี่ยม สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้คุณนั่งชิลอยู่นี่ได้ทั้งคืน จนกระทั่งร้านปิดเลยทีเดียว เมนูจานแลกอกเป็ดราดซอส เนื้อเป็ดแสนนุ่ม ไม่มีกลิ่นสาบ ราดด้วยซอสรสหวาน รู้สึกว่าจานนี้อร่อยขึ้นมาอย่างมาก ชิ้นเดียวไม่เคยพอจิงๆ ตามมาด้วย เมนูแสนแปลก แต่อร่อย caterpillar เป็นเหมือนข้าวปั้นที่ขนาดใหญ่ราดซอสและโป๊ะด้วยอโวคาโด จานนี้อร่อยและอิ่มมากจิงๆเครื่องดื่มสั่งมาแก้เลี่ยน จำชื่อไม่ได้แต่กลิ่นและรสแบบแอ็ปเปิ้ลๆ ตัดรสชาติกับอาหารที่ทานได้ดีทำให้ไม่เลี่ยนเกินไป ร้านนี้อยู่ในซอย สุขุมวิท 36 เดินจากปากซอยมาไม่ถึง 100 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ตกแต่งสวยงามเ

ร้าน In the mood For love sushi bar and bistro อยู่ในซอยสุขุมวิทฝั่งตรงกันข้ามทองหล่อ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ สามารถเดินเข้าในซอยได้ประมาณ 15 นาที ร้านนี้เป็นร้านญี่ปุ่นกึ่งเรโทรหน่อย อาหารก็ออกแนวกึ่งฟิวชั่นค่ะ ตกแต่งร้านเป็นบรรยากาศเหมือนหนังฮ่องกงเรื่องนึง ที่กำกับโดยหว่อง กาไว ร้านนี้บรรยากาศดีและสวยมาก โคมไฟในร้านนี้เก๋มากๆเมนูแนะนำ เลือกตามที่เป็น signature ของที่ร้านได้เลย เช่น ยำสาหร่าย, Caterpillar sushi สั่งได้เลยอร่อยทุกอย่าง เพราะวันนี้มานั่งดื่มมาการิต้า เป็นเครื่องดื่มเลมอนมะนาว รสชาติหวานอมเปรี้ยวค่ะ เอาเป็นว่าร้านนี้รสชาติดีและอร่อย ราคาแพงไปนิดน่าจะเหมาะมาในโอกาสพิเศษมากกว่าค่ะ

In The Mood For Love Sushi Bar & Bistro เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ออกแนวฟิวชั่นค่ะร้านนี้ตั้งอยู่ตรงสุขุมวิทซอย36 สามารถทะลุมาจากเส้นพระราม4ได้เหมอืนกันถ้ามาจากทางพระราม4 ร้านจะตั้งอยู่ขวามือ แต่เข้ามาลึกเหมือนกันนะค่ะ เกือบทะลุเส้นสุขุมวิทได้ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสวยมากค่ะ เก้าอี้ก็จะเป้นแนวโซฟา มีกระจกๆ ตรงซุชิบาร์ก็สวยค่ะ เอาเป้นว่าสวยไปหมดไม่ใช่ดีแค่การตกแต่งนะค่ะ รสชาดอาหารก็ดีค่ะ แต่ราคาแอบดุเหมือนกัน ทานแบบไม่อิ่มมาก ปาไปคนละเกือบพัน Y__Y

รสชาติอาหาร : ซูชิ อร่อยแทบทุกอย่าง สำหรับซูชิมัตสึสะกะ ถึงแม้จะไม่อร่อยเลิศ (และแพง) เท่า honmono แต่ก็ถือว่าอร่อย และราคาสมเหตุสมผลบรรยากาศร้าน : ร้านไม่ใหญ่นัก ตกแต่งแนว bistro ผสมกลิ่นอายจีน retro การบริการ : ดีราคา : ประมาณ 700 บาทต่อคน

รสชาติ : Fusion ญี่ปุ่นอร่อย ของคุณภาพดีบรรยากาศ : ร้านไม่ใหญ่มาก แต่จัดแบ่งได้เป็นสัดส่วนดี ร้านน่านั่งบริการ : มาตรฐานร้านทั่วไปราคา : ไม่แพงมาก ตามสไตล์ร้านญี่ปุ่น จานละประมาณ 250-350 บาทการเดินทาง : ร้านมีที่จอดรถ แต่อยู่ไกลต้องนั่งรถรับส่งของร้านมาอีกที

ทันทีที่ได้เข้ามายืนอยู่ในร้าน บรรยากาศดีอ่ะ ออกสไตล์จีนน่ะแต่รสชาติญี่ปุ่นนะ มุมนั่งในแต่ละมุมก็ดูผ่อนคลายดี เก้าอี้ลายดอกกุหลาบแดง เมนูแรกที่ทางร้านภูมิใจเสนอกับเรานั้นคือGuilty But Happy(360 บาท) เป็นไรที่อัดแน่นด้วยกุ้งเทมปุระ, ไข่กุ้ง, ครีมชีส, วาซาบิ และก็อะไรอีกไม่รู้ รวมกันอยู่ในโรลข้าวเคลือบแป้งกรุบกรอบ ราดซอสไรไม่รู้อีกแหละ 5 5แต่บอกได้คำเดียวว่าแฮปปี้สมกับชื่อจริงๆ เลยต่อมาเป็นโรลชื่อแปลกอย่าง Caterpillar (360 บาท) แต่เมื่อมาถึงก็เข้าใจในความหมายของชื่อเพราะโรลที่ห่อด้วยเนื้ออโวคาโด สอดไส้เทมปุระกุ้ง, ปลาไหลย่าง, ไข่ปลา เป็นรูปดักแด้สีเขียวอ้วนๆ อร่อยเกินห้ามใจ แบบว่าแย่งกะเพื่อนชิ้นต่อชิ้นกันเลยยยจากนี้เมนูของเพื่อน