2
0
0
2-min walk from Exit 1, Chong Nonsi BTS Station
continue reading
Opening Hours
Mon - Sun
11:00 - 00:00
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
Signature Dishes
ร้าน Sushi Mori ที่ตึกสาธร สแควร์ ชั้น 2 นี้เป็นสาขาแรก ก่อนที่จะเปิดที่เกษรพลาซ่าเป็นสาขาที่สอง มองจากข้างนอกตึกเข้าไปเห็นร้านได้ชัดเจน บรรยากาศริมหน้าต่างสามารถมองเห็นวิวสีลมสาธรได้ ในร้านตกแต่งเป็น 3 ส่วน ตามตีมที่ Mori แปลว่าป่า ~ โซนแรกที่เราได้นั่งอยู่ข้างในตึกสุด ติดประตู ตกแต่งสไตล์โรงตีเหล็กในป่า ผนังกระจกและเพดานทำสีคล้ายๆควันบุหรี่ และมีไม้ท่อนเป็นกำแพงบางส่วน โซนนี้จะมีโต๊ะสำหรับ2คน มีม่านกั้นสำหรับความเป็นส่วนตัวด้วยถ้ามากรุ๊ปใหญ่ ~ โซนบาร์ หน้าเค้าเตอร์บาร์ และมีโต๊ะที่จัดให้คนที่มาเป็นกรุ๊ป~ โซนริมกระจก โซนนี้ดูน่านั่งสุดในความเห็นเรา เพราะสามารถมองเห็นวิวถนนสีลมสาธรได้ด้วยแล้ว ยังให้ความรู้สึกโล่ง โปร่งสบาย มากกว่า 2 โซนที่กล่าวมามาศุกร์เย็น คนเยอะมากจริงๆ คนเข้าร้านอย่างต่อเนื่อง ส่วนมากเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศทำงาน บรรยากาศคุยกันเสียงดังมากในร้าน รวมกับเสียงเพลงอินเตอร์ที่ทางร้านเปิดแข่งกับเสียงลูกค้า ค่อนข้างเสียงดังไป ไม่ผ่อนคลาย🥗 อาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer)- Mini Hotate Usuzukuri : หอยเชลล์ฮอกไกโดแร่บาง ราดซอสพอนซึรสชาติเปรี้ยว พร้อมสาหร่าย ไข่ปลาแซลมอนเคียงมา- Mini Engawa Unagi salad : สลัดราดน้ำสลัดงา และมายองเนส วัตถุดิบประกอบด้วยผักสด ครีบปลาเอ็นกาวะกับปลาไหลคาโกชิม่า แปลกกว่าสลัดอื่นตรงที่เอาปลาไหลมาใส่ในสลัด🍛 อาหารจานหลัก (Main course) - Premium Mori Chirashi : ข้าวหน้าปลาดิบ ทางร้านบอกว่าเป็นเมนูรวมปลาเกรดพรีเมียมที่สุดของร้าน ปลาดิบชิ้นใหญ่ รวมทั้งกุ้ง และไข่หวาน เด่นตรงข้าวญี่ปุ่นมีคลุกซอสหรือน้ำมันให้มีรสชาติ สามารถทานได้โดยไม่ต้องจิ้มโชยุ จะได้รสชาติเนื้อปลาเต็มที่- Kagoshima Wagyu A5 Black Truffle Curry : ข้าวแกงกระหรี่สูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติไม่เผ็ดร้อนเหมือนแกงกะหรี่ทั่วๆไป ไฮไลท์คือเนื้อคาโกชิมะวากิว เกรดที่ดีที่สุด หรือเกรด A5 ราดซอสทรัฟเฟิลดำ ไข่คาร์เวียร์ จริงๆสามารถเลือกระดับความสุกได้ เรามารู้ที่หลังเมื่อผจก.มาถามความคิดเห็นถึงรสชาติอาหาร แต่น้องพนักงานไม่ได้ถามเรา จึงได้เนื้อมาในระดับค่อนข้างดิบ ทำให้เคี้ยวยากมาก ส่วนของเนื้อละลายในปากจริง แต่ส่วนที่ติดมันนั้นเคี้ยวไม่เข้าจริงๆ - Miso Soup (มีให้ในเซต) รสชาติไม่เค็มเหมือนหลายๆร้าน และให้สาหร่ายเยอะดี🍮 ของหวาน (Dessert) เป็นเมนูที่เราชอบมากที่สุด ทานหมดเกลี้ยง เล่นเอาเราจุดแน่นไปเลย- Mori Avocado Brûlée : แปลกและอร่อย ตรงรสชาติอโวคาโดแมกซิโกที่โรยน้ำตาล และเอาไปเผาไฟ ทำให้น้ำตาลมีรสชาติไหม้นิดๆ และมีความหอม ตัดรสชาติด้วยไอศกรีมชาโคว ที่รสชาติไม่หวาน (สามารถเลือกอีกรสชาติได้ คือ salt caramel) เมนูนี้เสริฟมา สวยทั้งหน้าตาและรสชาติ- พานนาคอตต้าชาเขียว (Matcha Panna Cotta) : ขนาดพานาคอตต้ามาเต็มแก้วไวน์เลยค่ะ ปริมาณเยอะมาก ดีที่ไม่หวาน และชาเขียวข้นๆ เลย เป็นอีกเมนูที่ชอบ- Melon ญี่ปุ่นจากฟาร์มของซูชิโมริ : มีให้ทุกคน หวานดีค่ะ🍵 เครื่องดื่ม เลือก ชาเขียวเย็น ที่สีไม่เขียว แต่ชาเขียวเข้มข้นดีจัง พนง.เติมรีฟิวตลอดไม่ต้องตามเลยค่ะถือว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นอีกร้านที่น่ามาทาน ด้วยลักษณะอาหารและการตกแต่งที่ต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นหลายๆ ร้าน อย่างไรก็ตาม แนะนำให้หลีกเลี่ยงเวลาที่คนน่าจะเยอะนิดนึง เช่นศุกร์เย็น คนจะเยอะและเสียงดังไป ไม่ผ่อนคลายเลยค่ะ
continue reading
Sushi Mori ร้านซูชิสาเกบาร์สไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นเอาใจคนทำงานออฟฟิตในย่านสาทร ชื่อร้านคำว่า Mori นั้นแปลว่า “Forest” หรือว่าป่านั่นเองครับ ซึ่งทางร้านก็ได้มีการเล่นคำพ้องเสียงเมื่อเวลาเขียนคำว่า Mori ด้วยภาษาคันจินั้นก็จะเหมือนกับความสดใหม่นั่นเอง และเหตุนี้เองทางร้านก็เลยนำชื่อนี้มาเป็นชื่อของทางร้านครับ ร้านนี้จริงๆแล้วเพิ่งเปิดมาได้ไม่นานเท่าไรครับบรรยากาศร้านนั้นเรียบหรูสวยงามสไตล์โมเดิร์น มีเมนูปลาดิบและอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมที่ทางร้านอิมพอร์เข้ามาจากญี่ปุ่นอยู่มากมายหลายอย่าง จุดเด่นของร้านนี้เลยก็คือโปรโมชั่นเด็ดๆที่จะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆทุกๆครึ่งเดือนครับ ซึ่งโปรโมชั่นเด็ดที่สุดของร้านนี้เลยจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากส่วนลด 50% นั่นเองครับด้วยความที่ออฟฟิตผมอยู่ไม่ไกลจากตึกนี้เท่าไร ได้ลองแวะมาทานช่วงที่ทางร้านมีโปรลด 50% สำหรับเมนูแซลมอนทุกเมนูในร้าน วันนี้เลยได้ลองเมนูแซลมอนเกือบทุกเมนูเลยครับ เรียกได้ว่าแทบจะว่ายน้ำกลับบ้านได้เลยทีเดียว แซลมอนนั้นอร่อยมากครับ สดหวานมัน แต่ละเมนูนั้นก็ปรุงออกมาได้อร่อยถูกใจ วันนี้กินกันไปแทบจะกลิ้งกลับแต่จ่ายในราคาที่เรียกได้ว่าร้านดังๆเจ้าไหนก็ทำไม่ได้ คุ้มมากๆครับร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น M หรือชั้นลอยของตึก Sathorn Square ครับ ตึกนี้นั้นมีทางเชื่อมมาจากรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีเลย ดังนั้นการเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดครับ ถ้ามาจากรถไฟฟ้า BTS นั้นให้เดินทางเชื่อมจนเข้ามาด้านใน เมื่อเจอ Fitness First แล้วให้เลี้ยวลงบันไดเลื่อนเข้ามาเลยครับ ก็จะเจอร้านอยู่หน้าบันไดเลื่อนเลยครับ หาไม่ยากครับ ถ้าใครจะชับรถมาจอดในตึกนี้ก็ทำได้เช่นกันครับ นำบัตรจอดรถมาให้ทางร้านสแตมป์จะสามารถจอดได้ฟรีสองชั่วโมงครับร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์สาเกบาร์ อิซากายะ ด้านในร้านนั้นมีที่นั่งอยู่สามโซนครับ คือโซนด้านในร้าน บาร์ แล้วก็โซนด้านนอก โซนด้านในนั้นเป็นเก้าอี้ธรรมดา ถ้าโทรมาจองก่อนก็จะได้นั่งที่นั่งริมหน้าต่างสามารถดูวิวรถติดถนนนราธิวาสได้เลย ส่วนที่นั่งโซนด้านนอกนั้นจะเป็นวิวชั้นลอยของ reception ตึก Sathorn Square สามารถนั่งทานไปส่องพนักงานหน้าตาดีๆในตึกนี้ก็ได้เช่นกันครับ ฮ่าๆ ลูกค้าที่มาทานที่ร้านนั้นจะค่อนข้างเยอะในช่วงเที่ยงๆของทุกวันครับ ส่วนช่วงเย็นนั้นถือว่าสบายกว่า แต่ยังไงถ้าจะมาทานอยู่แล้วแนะนำให้โทรจองไว้ก่อนจะดีกว่าครับ เพื่อที่นั่งวิวดีๆด้วยการบริการของพนักงานนั้นทำได้ดี สุภาพตามมาตรฐานร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมครับ พนักงานในร้านเยอะและดูสนใจลูกค้าดีมาก ด้วยความที่ร้านและโต๊ะในร้านนั้นไม่ใหญ่มาก เวลาสั่งอาหารมาทานเยอะๆมันก็จะดูเต็มๆโต๊ะไปหมด แต่พนักงานก็เดินมาดูตลอดครับ จานไหนหมดก็เก็บให้อย่างรวดเร็ว อาหารทยอยมาเสิร์ฟอย่างต่อเนื่องไม่มีขาดตอนครับร้านนี้มีเมนูอาหารญี่ปุ่นน่าสนใจหลายเมนูครับ ทั้งซาชิมิ ซูชิ โรล รวมถึงข้าวหน้าต่างๆ ช่วงที่ผมมาทานทางร้านมีโปรโมชั่นลดราคาแซลมอนทุกเมนูถึง 50% คือพูดง่ายๆว่า ราคาที่อยู่บนเมนูเท่าไรนั้นลดลงไปเลย 50% แบบไม่มีคิดเล็กคิดน้อย วันนี้ผมเลยมาจัดเมนูแซลมอนทุกเมนูเลยครับSalmon Combo Don (400 บาท)- เมนูนี้เป็นข้าวหน้าปลาแซลมอนแบบคอมโบ คือแซลมอนสามแบบครับ แบบดิบ แบบลนไฟ แล้วก็แบบลนไฟแล้วราดมาด้วยซอสมิโสะไซเกียว ก่อนที่จะโรยมาด้วยไข่ปลาแซลมอนอีกเยอะ เมนูนี้อาจจะเสิร์ฟมาไม่ใหญ่มาก แต่ทานเสร็จบอกเลยครับว่าอิ่มจุกมาก เพราะปลาแซลมอนของทางร้านนั้นทั้งชิ้นหนาและใหญ่ แถมยังให้ส่วนดีมาด้วยอีก เพราะมีบางส่วนติดส่วนท้องมาด้วย หวาน มัน อร่อยมากๆครับ ข้าวญี่ปุ่นทางร้านก็หุงแล้วปรุงมาได้อร่อยเช่นกันครับ (5/5)Salmon Zab (180 บาท)- เมนูนี้เป็นยำปลาแซลมอนสไตล์ไทย ทางร้านหั่นปลาแซลมอนออกเป็นลูกเต๋าชิ้นใหญ่ ก่อนที่จะนำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำที่แสนอร่อย หอมกลิ่นตะไคร้ แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความแซ่บสไตล์ไทย เรียกได้ว่าเป็นการฟิวชั่นที่ทั้งลงตัวแล้วก็อร่อยเลยครับ (4/5)Salmon Sphere (220 บาท)- เมนูนี้ถ้าให้ผมเรียกเองผมจะเรียกว่าเป็นแซลมอนห่อไข่ เพราะเป็นตัวปลาแซลมอนชิ้นใหญ่ห่อข้าวโดยด้านบนของข้าวนั้นจัดเต็มด้วยไข่คุณภาพถึงสี่อย่างด้วยกันครับ ทั้งไข่ปลาคาร์เวียร์ ไข่กุ้ง ไข่ปลาแซลมอน แล้วก็ไข่นกกระทาครับ ทางร้านเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่และหนามากจนไม่สามารถทานได้หมดได้ในคำเดียว ทางร้านราดมาด้วยซอสหวานอร่อย ทำให้เมนูนี้ออกมาลงตัวมากๆครับ (4/5)Salmon Crunchy Lava (250 บาท)- เมนูนี้เป็นแซลมอนลนไฟห่อด้วยข้าวก่อนที่จะราดมาด้วยซอสสไปซี่รสชาติเผ็ดๆหวานๆเหมือนซอสพริกศรีราชาผสมน้ำจิ้มไก่ แล้วก็ราดมาด้วยครั้นชี่เทมปุระ ตัวแซลมอนนั้นหอมนุ่มอร่อย ทานกับครั้นชี่ก็ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียวครับ (5/5)Salmon Aburi Saikyo Nigiri (100 บาท)Salmon Harasu Nigiri (100 บาท)Salmon Foie Gras Sauce Nigiri (160 บาท)- สามคำนี้เป็นซูชิสามสหายสไตล์แซลมอนครับ ซึ่งประกอบไปด้วยแซลมอนซูชิ แซลมอนส่วนท้องเบิร์นแล้วราดซอส และแซลมอนส่วนท้องเบิร์นราดซอสฟัวกรา ปลาแซลมอนชิ้นหนาและใหญ่มากๆครับ ส่วนท้องนั้นมันฟินมาก ความอร่อยของเนื้อปลานั้นถึงขีดสุดจริงๆครับ นุ่ม ฟิน ถูกใจมากๆครับ (4/5)หลังจากทานเสร็จก่อนคิดเงินทางร้านจะนำเมล่อนญี่ปุ่นหวานๆมาเสิร์ฟล้างปาก ซึ่งเมลอนนั้นอร่อยมากๆครับ หวานสะใจ ถูกใจมากๆวันนี้ผมมาทานแบบมีส่วนลด 50% โดยราคาที่ผมใส่ไปทั้งหมดนั้นก็จะถูกลดลงไปถึง 50% เลยครับ เรียกได้ว่าคุ้มมากๆเมื่อคิดส่วนลดแล้ว บางเมนูนั้นราคาเต็มก็ว่าคุ้มแล้วยิ่งได้ส่วนลดไปอีกยิ่งคุ้มหนักเลยครับ เมื่อเทียบกับความอร่อยแล้วด้วยยิ่งทำให้มื้อนี้ยิ่งเป็นความประทับใจอีกมื้อนึงสำหรับแซลมอนเมนูที่ดีแบบนี้ผมเองก็ติดตามโปรของทางร้านอยู่เรื่อยๆ ผ่านทั้งทาง Facebook แล้วก็ IG ถ้ามีโอกาสได้ไปลองเมนูอื่นๆอีกจะมารีวิวอีกครับ ของเค้าดีจริงๆครับ
continue reading