ใครที่ได้ติดตาม Fb และ บล็อกของผมคงจะเคยได้ผ่านตามาบ้างที่ผมตามหาพี่สาวคนนึงที่สนิทกันมากๆเมื่อตอนเรียนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมตามหาด้วยความยากลำบากมานานเป็นปีๆ สุดท้ายก็ได้เจอกัน พี่สาวคนนี้ได้ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปากช่อง จริงๆเคยไปเจอกันครั้งหนึ่งแล้วเมื่อตอนได้คุยกันใหม่ๆ แต่ว่ายังไม่หายคิดถึงครับ เมื่อเดือนก่อนจึงได้จัดทริปไปเยี่ยมพี่สาวคนนี้ถึง 3 วัน 2 คืน กะว่าจะคุยกันให้เบื่อไปเลยครับ พอเอาเข้าจริงพี่สาวได้จัดทัวร์กินให้แบบกินกันไม่หวาดไม่ไหวเลยครับ กินกันวันละ 5-6 มื้อ แต่ละมื้อก็หนักๆทั้งนั้น พอเสร็จจากร้านนึงก็เข้าร้านต่อไปเลย เป็นการเจอกันที่ “อิ่มมาก” คราบบบ

ร้านนี้เป็นร้านที่พี่สาวคนนี้แนะนำอีกเหมือนกันครับ พี่สาวบอกว่ามาร้านนี้บ่อยมากจนรู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดีครับ วันนั้นก็เลยได้ฉลองความคิดถึงกันไปหลายเมนู เลยเชียวครับ

ครัวยุ้งข้าว เขาใหญ่

การเดินทางไปครัวยุ้งข้าวไปไม่ยากเลยครับ จากถนนมิตรภาพเลี้ยวเข้าถนนธนรัชต์ มาไม่ไกลครับ ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ซ้ายมือติดกับ Sheepland ให้สังเกตุเสาโทรศัพท์อันนี้ไว้นะครับ เป็นเสาแรก ร้านจะอยู่ใกล้ๆเสาต้นนี้เลยครับร้านครัวยุ้งข้าวเป็นร้านอาหารขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มากครับ มีโต๊ะนั่งไม่เกิน 20 โต๊ะครับ ด้านนอกจะเป็น outdoor ทั้งหมด มีซัก 10 โต๊ะได้ครับ ส่วนด้านในจะเป็นห้องแอร์ ถ้ามากินกลางคืนแนะนำให้เข้าไปนั่งในห้องแอร์นะครับ เพราะยุงเขาใหญ่ๆที่มาตอนหัวค่ำๆตัวใหญ่ กัดเจ็บทีเดียวครับร้านครัวยุ้งข้าวจะเป็นอาหารไทยทั่วไปนะครับ เน้นไปทางอาหารใต้เล็กๆ เพราะพ่อครัว และคุณแม่ของพ่อครัวเป็นคนนครศรีธรรมราชครับ ก็เลยเลือกเอาอาหารใต้ที่เราคุ้นเคยกันมาใส่ไว้ในเมนูด้วย และเค้ายังใช้วัตถุดิบและน้ำพริกแกงต่างๆที่ส่งตรงขึ้นมาจากนครศรีธรรมราชด้วยนะครับ รับรองเลยว่าอาหารใต้ของร้านครัวยุ้งข้าว “ร่อย” ถึงใจด้วยฝีมือ วัตถุดิบ และ เครื่องแกงมี่ส่งมาจากใต้แท้ๆเชียวครับ พี่สาวของผมก็เป็นคน “ซุ๊หราด” ครับ มิน่าถึงได้ถูกใจร้านนี้นักหนาถึงขั้นมาพากินเป็นร้านแรกกันทีเดียวครับ

เครื่องดื่มที่สั่งมาเป็นน้ำสมุนไพรที่ทางร้านทำเอง ใหม่ สด ทุกวันครับ มีน้ำลำไย น้ำใบบัวบก และน้ำกระเจี๊ยบ

น้ำลำไย กับ น้ำใบบัวบก - น้ำลำไยหวานไม่มาก น้ำใบบั วบกหอม ขมนิดหน่อย ...

3

น้ำลำไย กับ น้ำใบบัวบก - น้ำลำไยหวานไม่มาก น้ำใบบั วบกหอม ขมนิดหน่อย ...

น้พกระเจี๊ยบ - น้ำกระเจี๊ยบหวานชื่นใจ

4

น้พกระเจี๊ยบ - น้ำกระเจี๊ยบหวานชื่นใจ

เมนูแรกเป็นเมนูทานเล่นที่เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้ครับ เห็ดทอดกระเทียม ราคา 100 บาท
เมนูนี้ทำจากเห็ดนางฟ้ามาฉีกเป็นเส้นๆ แล้วเอาไปชุบแป้งบางๆทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ แล้วทอดมาแบบไม่อมน้ำมันซะด้วยนะครับ เอามาเสิร์ฟร้อนๆ ก่อนเอาเข้าปากก็หมดลมเป่าไปหลายปู๊ด เห็ดทอดปรุงรสชาติให้ออกเค็มๆ นิดๆ กรอบเกรียวมากๆ ตรงโคนดอกเห็ดจะหนึบๆ ดี เคี้ยวมันจริงๆครับ เมนูนี้เหมาะสำหรับแกล้มเบียร์มากๆครับ กินไป เม้าท์กันไปไม่นานจานนี้ก็หมดลงครับเมนูที่สองก็เป็นเมนูแนะนำของที่ร้านเช่นกันครับ หมูแดดเดียวทอดใบมะกรูด ราคา 100 บาท
เมนูนี้เป็นหมูที่หั่นเป็นชิ้นยาวๆ ปรุงรสให้ออกเค็มๆ ติดหวานนิดๆ แล้วเอาไปตากแดดซะหน่อย ก่อนจะนำมาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ใส่ใบมะกรูดลงไป ทอดด้วยกันให้เนื้อหมูหอมใบมะกรูดเข้าไปอีก เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมซอสพริกแก้เลี่ยนครับ ใครจะทานยังไงผมไม่รู้ละ ผมเอามาทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยชัวร์ๆครับเมนูที่สามก็เป็นเมนูหลักที่เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้เช่นกันครับ สะตอผัดกุ้งหมูสับ ราคา 150 บาท
ได้บอกไปแล้วในตอนต้นว่าแม่ครัว วัตถุดิบ และเครื่องแกงในร้านนี้ส่งตรงมาจากนครศรีธรรมราช เพราะฉะนั้นวัตถุดิบ และรสมือจึงได้รสชาติของอาหารใต้จริงๆ สะตอผัดกุ้งหมูสับจานนี้รสชาติจัดจ้านมากๆ เผ็ดนะครับ กินไปคำเดียวก็เหงื่อแตกแล้ว แต่มันมีความรู้สึกว่าอร่อย จนอยากกินซ้ำครับ เรียกว่าครบรสคนใต้เลยครับ เผ็ด เค็ม เท่านั้น ไม่มีหวานเลย
ครับเมนูที่สี่ ปลาช่อนผัดขึ้นฉ่าย ราคา 150 บาท
เมนูนี้ทางร้านใช้ปลาช่อนเนื้อหนาๆ ที่เลาะเอาแต่เนื้อทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน แล้วนำมาผัดกับใบคึ่นฉ่าย ใส่ขิงซอย และพริกชี้ฟ้าเล็กน้อย รสชาติของปลาช่อนผัดคึ่นฉ่ายจานนี้จะติดหวานๆ เค็มๆ แล้วได้รสร้อนๆของขิงด้วยครับ เมนูนี้ก็ต้องกินกับข้าวสวยร้อนๆอีกแล้วครับ รสชาติติดหวานๆ เค็มๆ ร้อนๆขิงแบบนี้ต้องเอาความนุ่มๆ อุ่นๆ ของข้าวสวยมาตัดครับ อิอิอิเมนูที่ห้า กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ราคา 100 บาท
เมนูนี้พี่สาวคนดีบอกว่าเมนูกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาของร้านครัวยุ้งข้าวเค้าขึ้นชื่อมากครับ พี่สาวก็เลยสั่งมาให้ชิม กะหล่ำปลีเอามาผัดไฟแรงๆ ปรุงรสด้วยน้ำปลาผัดให้พอสุก เมนูนี้จะกินเปล่าๆก็ได้ จะกินกับข้าวก็ดีนะครับ ได้รสชาติเค็มๆ ได้ความหวานจากกะหล่ำปลี กินกันหนุบหนับๆ เชียวครับเมนูสุดท้ายเป็นเมนูที่ผมแนะนำเองเลยครับ แกงเหลืองออดิบปลากะพง ราคา 150 บาท
เมนูนี้สุดยอดมากครับ เป็นเมนูที่ผมอยากกินมานานแล้วด้วยและพี่สาวคนดีก็กระซิบบอกดังๆว่า แกงเหลืองออดิบปลากะพง รสเด็ดขาดมากๆ พอเค้ายกเอามาเสิร์ฟอย่างแรกที่เห็นคือชิ้นปลากะพงหนา ใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆ แถมให้มาตั้ง 2 ชิ้น แถมเนื้อปลาก็แน่น แสดงถึงความสดของปลากะพง ออดิบก็ยังกรุบกรอบ นับว่าเป็นส่วนผสมที่ดีของเมนูนี้ครับ รสของแกงเหลืองก็เด็ดขาดอย่างที่พี่สาวคนดีเกริ่นเอาไว้จริงๆ มีรสเผ็ดนำมาก่อนเลย มีรสเปรี้ยวผสมเค็มเล็กๆเท่านั้นครับ แล้วก็มีความหอมของเครื่องแกงเวลาซดน้ำแกงด้วย ถึงเมนูนี้จะเผ็ด แต่มันเป็นความเผ็ดที่อร่อยมากครับ น่าแปลกที่พอทานไปมากๆ กลับมีความหวานนิดๆติดที่โคนลิ้นครับ ไม่ทราบว่าเป็น effect ของการกินเผ็ด หรือว่าเป็นความหวานของออดิบนะครับ เมนูนี้ต้องขอข้าวสวยเอามาทั้งโถเชียวครับครัวยุ้งข้าวเป็นร้านอาหารขนาดไม่ใหญ่มาก เจ้าของร้านทั้ง 2 คนอารมณ์ดี คุยสนุกสนาน อาหารอร่อย โดยเฉพาะอาหารใต้ และอยู่ไม่ไกลจากถนนมิตรภาพครับ ถ้ามีโอกาสเดินทางผ่านอำเภอปากช่อง หรือเดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่ก็เชิญมาลองชิมกันได้นะครับ
Chubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน

เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนได้ไปเที่ยวเขาใหญ่ 3 วัน 2 คืน บอกไปคงไม่มีใครเชื่อว่าไม่เคยไปเที่ยวเขาใหญ่เลย มีผ่านบ้าง อะไรบ้าง ใกล้เขาใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยไปก็ฟาร์มโชคชัยเท่านั้นครับ ก่อนไปจึงกระดี๊กระด๊าจะทริปซะใหญ่โต วางแผนล่วงหน้า หาร้านอาหาร ร้านกาแฟ พอเอาเข้าจริงถนนธระรัชต์ที่คิดว่าระยะทางจากปากช่องถึงที่ทำการอุทยาเขาใหญ่จะเป็นเส้นทางยาวหลายๆสิบกิโลเมตรก็เป็นเพียงระยะทางสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารที่ติดว่าแต่ละที่ห่างกันมากๆก็กลับอยู่ใกล้กัน จนบางที่รั้วติดกันเลยก็มี ก็เลยถือว่าการมาเขาใหญ่ครั้งนี้เป็นการเซอร์เวย์เส้นทาง เพราะคงได้กลับมาเก็บตกร้านอาหารเขาใหญ่แน่ๆ มาครั้งนี้เก็บไปได้ไม่กี่ร้านเองครับ

วาโน สเต๊กเฮาส์ กลางดง ปากช่อง

การเดินทางมาร้าน วาโน เสต๊กเฮาส์ มาไม่ยากเลยครับ เพราะอยู่ริมถนนมิตรภาพเลยครับ ถ้ามาจากกรุงเทพจะผ่านตลาดผลไม้กลางดง ผ่านโรงฟักไข่ปากช่องของบริษัทเบทาโกร แล้วให้เตรียมยูเทิร์นข้างหน้าได้ ทางที่ยูเทิร์นทางซ้ายจะเป็นทางเข้าวัดปางดโศกพอดีเลยครับ พอยูเทิร์นมาแล้วให้ชิดซ้ายไว้ครับ ร้านจะอยู่ภายในตึกของบริษัทฤทธา (RITTA)

ถ้ามาจากปากช่องให้สังเกตศูนย์วิจัยข้าวโพดไร่สุวรรณทางด้านซ้ายเอาไว้นะครับ พอผ่านทางเข้าไร่สุวรรณให้ชิดซ้ายไว้ ร้านวาโน สเต๊กเฮาส์ อยู่ก่อนถึงไร่สุวรรณ ฝั่งเดียวกับไร่สุวรรณในอาคารบริษัทฤทธาครับ ให้เลี้ยวเข้าอาคารของบริษัทฤทธา พอผ่านป้อมยามให้เลี้ยวขวาแล้วเลยไปจอดรถได้หน้าตึกเลยครับตัวร้าน วาโน เสต๊กเฮาส์ อยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารฤทธา ครับ เดินขึ้นบันไดหน้าอาคารไปไม่กี่ขั้นก็ถึงตัวร้านแล้วครับ ตัวร้านจะแบ่งออกห้องๆ 3 ห้องติดเครื่องปรับอากาศทุกห้องครับ เฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งในร้านเน้นการใช้ไม้ตกแต่งเป็นหลัก เรียบๆ ดูหนักๆแต่เผอิญว่าสีของไม้เป็นสีสว่างก็เลยดูว่าจะเบาขึ้นมานิดหน่อยครับเมนูร้านนเน้นไปทางสเต็กเนื้อวัว สเต็กเนื้อสัตว์ต่างๆ หมู ไก่ ปลาซาลมอน และเมนูพาสต้าครับพอเราสั่งอาหารไป เค้าก็จะเอาสลัดผักกับครัวซองต์มาให้ก่อนเลยครับ
น้ำสลัดเป็นแบบใสนะครับ รสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานนิดๆ ผมว่าน้ำสลัดเค้าอร่อยทีเดียวแหละ ยิ่งมาได้ทานกับผักสดๆ กรอบๆ แล้วเข้ากันได้ดีทีเดียวครับที่เด็ดอยู่ที่ครัวซองต์ที่เสิร์ฟมาด้วยครับ ปกติเวลามากินสเต็กก็เห็นเสิร์ฟแต่ plain roll ธรรมดานะครับ แล้วเป็น plain roll ที่ไม่ค่อยจะอร่อยซะด้วย เพิ่งเห็นมีที่นี่แหละครับ ที่เสิร์ฟครัวซองต์กับสเต็ก และเป็นครัวซองต์ที่อร่อย กรอบ หอม ชุ่มเนยมากๆครับ ติดใจถึงกับซื้อกลับไปกินบ้านอีก 10 อัน .... ตอนแรกจะซื้อมากกว่านี้แล้วครับ แต่ว่าเค้าบอกว่าเดี๋ยวไม่มีขายคนอื่น ฮ่าๆๆ สอบถามดูแล้วได้ความว่าพ่อครัวเค้าทำครัวซองต์เองเลยนะครับเมนูอย่างแรกที่สั่งมาก็คือ Onion Soup หรือ ซุปหัวหอม ราคา 220 บาท
ตอนยกมาเสิร์ฟ คนรับถึงกับกรีดร้อง (ในใจ) ซุปหอมมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชีสที่เค้าโปะหน้าซุปแล้วน้ำไปอบอีกครั้งนึงละลายลงไปในเนื้อซุป และเลอะปากถ้วยเต็มไปหมด แต่มันดูน่ากินมากกกกกก เน้นเลยว่ามากกกกกกกกกก Onion Soup เป็นซุปแบบใสนะครับ มีหอมใหญ่ที่ผัดกับเนยจนสุกนิ่ม แล้วเอาไปเคี่ยวกับน้ำซุปจนเปื่อย ให้ความหวานตามธรรมชาติแก่น้ำซุป แล้วมีรสเค็มๆของน้ำซุปกับความเค็มของชีสช่วยให้ซุปหัวหอมถ้วยนี้อร่อยขึ้นอีกมากเลยครับถัดมาเป็นอาหารเส้น พาสต้าผัดกับพริกแห้งกับแอนโชวี่ ราคา 290 บาท
เส้นสปาเกตตี้ผัดกับแอนโชวี่หรือปลาเค็มฝรั่งทอดกรอบกับพริกแห้ง รสเผ็ดปานกลาง มีความเค็มของแอนโชวี่มากลบความเผ็ดนิดๆ ทำให้สปาเกตตี้จานนี้มีรสที่กลมกล่อม โดดเด่นมากๆครับ เส้นสปาเกตตี้เค้าก็ลวกมาอย่างดีทีเดียว ไม่ถึงขั้น al dente’ แต่ก็เหนียว นุ่มใช้ได้เลยครับ แอนโชวี่ทอดกรอบก็ให้มาเยอะและยังเป็นชิ้นๆพอๆกับเส้นสปาเกตตี้เลย จานนี้แบ่งกันทาน 2 คนกับสเต็กก็อิ่มแบบแน่นๆเลยครับพระเอกของวันนี้เป็นสเต็กซี่โครงแกะ ราคา 650 บาท
ตอนที่ยกมาเสิร์ฟก็ตกตะลึงไปแป๊บนึงเลยครับ เพราะเท่าที่นับดูในหนึ่งจานมีซี่โครงแกะถึง 6 ซี่ .... 6 ซี่ทีเดียวครับ ผมว่าราคาเท่ากันนนี้ถ้าทานในกรุงเทพฯจะได้ซี่โครงแกะมากสุดก็แค่ 3 ซี่เท่านั้น ดดยส่วนมากเค้าจะเสิร์ฟกันอยู่ที่ 2 ซี่เท่านั้นเองครับ

เนื้อซี่โครงแกะถูกย่างมาแบบกึ่ง medium กึ่ง well done คือไม่มีเนื้อที่ยังไม่สุกเลย เนื้อสุกทั้งชิ้น แต่เป็นการสุกแบบที่ยังมีน้ำเลือดมีชมพูจางๆไหลออกมาเวลาหั่นเนื้อครับ เนื้อซี่โครงหนา นุ่ม ชุ่มน้ำเนื้อมากๆครับ ที่สำคัญไม่เหม็นสาบแกะเลยครับ ชิ้นซี่โครงแกะก็ใหญ่มากด้วยครับ ได้กินกันแบบเต็มอิ่มไปเลยครับที่เสิร์ฟมากับสเต็กซี่โครงแกะก็มีข้าวโพดหวานผัดเนยและมันฝรั่งบด น้ำเกรวี่และ Mint Sauce ครับ เป็น Mint Sauce ที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนเลย เพราะ Mint Sauce ส่วนมากที่เสิร์ฟกับสเต็กซี่โครงแกะจะเป็นแบบเจลลี่ แต่ที่ร้าน วาโน เสต๊กเฮาส์ จะเป็นน้ำจิ้มใบละระแหน่นแบบน้ำจิ้มแบบใสๆ รสออกหอมๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ครับ ถูกใจกับน้ำจิ้มสะระแหน่นของร้านนี้มากๆครับ

ถ้าหากว่าเบื่อร้านสเต็กร้านเดิมๆ บนเส้นทางไปเขาใหญ่แล้ว ผมว่าร้าน วาโน เสต๊กเฮาส์ก็เป็นทางเลือกทางใหม่แบบเกรดเอเอให้กับคนรักการทานเนื้อ ทานสเต็กเป็นทางเลือกใหม่ๆนะครับ

ใครเคยไปพักที่ Chateau de Khaoyai คงจะคุ้นเคยกับห้องอาหารนี้เป็นอย่างดี
บ้านหลังเล็กๆ น่ารัก ที่ชื่อ มาเรีย เป็นเรือนรับรองอาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพัก
ต้องนั่งรถมาทานข้าวถึงจะได้ฟีลว่ามาที่ชาโตจริง บรรยากาศติดริมน้ำในยามเช้า ทานเบรคฟัสไป รับลมชิลๆ จริงๆหน้าหลับต่อมากกว่าอาหารเช้าเหมือนโรงแรมทั่วๆไป ขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว อร่อยเพราะอิ่มบรรยากาศ
ไข่ม้วนอร่อยสุดๆในจานนี้ หอมนมและเนย ทานมากอาจจะเลี่ยนได้ แฮมนึ่งมาในน้ำร้อน
จึงไม่ต่อยกระด้าง ออกเค็มนิดๆ ไข่ดาวสุกกำลังดีไม่เละหรือดิบเกิน

สตาร์บัคส์ Starbucks Coffeeที่The Mall Korat อร่อยไม่แพ้กรุงเทพฯ ขอแนะนำเมนูไอซ์ คาราเมล มัคคิอาโต รสคาราเมลหวานๆหอมๆใส่น้ำแข็งเย็นชื่นใจ และครัวซองท์ครีมอัลมอนด์ที่มีเนื้อครัวซองท์นุ่มๆหอมกลิ่นครีม มีอัลมอนด์กรุบกรอบอร่อยสุดยอด

ที่ร้านเคเอฟซี KFC ที่สาขาThe Mall Korat เมนูอร่อยๆที่แนะนำคือไก่ทอด (ฮอทแอนด์สไปซี่)เนื้อไก่กรอบนอกนุ่มในเข้มรสเครื่องเทศเผ็ดนิดหน่อย อร่อยกำลังดี และไก่วิงซ์แซ่บเปรี้ยวนิดเผ้ดหน่อยชิ้นเล็กๆน่ารัก แล้วก็เป็ปซี่ซ่าๆตบท้ายให้ความอร่อยมันลงตัว

ที่ร้านสเวนเซ่นส์ Swensen's ที่สาขาThe Mall Korat ตกแต่งร้านสวยสไตล์แบบเมืองนอก ครั้งนี้ขอแนะนำเมนูโกลเด้น ซันเด(ข้าวโพดหมด)เนื้อไอศกรีมเป็นรสวานิลลาหวานหอมสีเหลืองอ่อนๆน่ารับประทาน กินกับขนุนหวานๆที่เป็นเส้นๆพร้อมแก้เลี่ยนด้วยวิปปิ้งครีมจืดๆนุ่มๆกับขนมปังกรอบอร่อยมากๆ

ที่ร้านซิสเลอร์ Sizzler สาขาThe Mall Korat นี้คนไม่เยอะ ไม่พลุกพล่าน เมนูแนะนำคือไส้กรอกหมูและไก่ย่างสไปซี่ ที่กินหมดจานก็ไม่ต้องกินสลัดบาร์กันพอดี เพราะมีทั้งไส้กรอกหมูชิ้นโตกรอบนอก หนึบใน รสชาตเข้มหอมอร่อยมากและไก่ย่างสไปซี่เนื้อไก่ย่างชิ้นโตเผ็ดแสบตั้งแต่หนังไปถึงไก่เนื้อใน อร่อยสุดยอด ยิ่งกินกับมันอบยิ่งอร่อยคูณสอง

ที่ร้านแดรี่ควีน Dairy Queen สาขาที่The Mall Korat คนต่อคิวเยอะมาก เพราะเป็นห้างใหญ่ที่สุดของจังหวัด เนื้อไอศกรีมแข็งดี เนื้อเนียนขาวนวลนุ่มลิ้น รสชาตหวานหอมนมกลมกล่อมเย็นชื่นใจ เหมาะกับอากาศร้อนๆเป็นอย่างยิ่ง ราคาก็ไม่แพงเพียงแค่15บาทเท่านั้น

ที่ร้านแมคโดนัล McDonald's ที่สาขาThe Mall Koratนี้พนักงานน่าประทับใจมากๆ บริการได้รวดเร็ว(สงสัยเห็นเรารีบๆ) ช่วงเวลาที่ต้องเร่งด่วนขนาดนี้เหมาะที่สุดก็คงเป็นแม็กไก่ทอดชิ้นโตๆที่กรอบนอกนุ่มในเข้มเต็มรสเครื่องเทศจนแทบไม่ต้องใส่ซอสก็อร่อยอยู่แล้วและตบท้ายด้วยcocacolaซักแก้วเพื่อความซ่าอย่างสดชื่น

แวะซื้อพิซซ่าไปทานที่ห้องเช่า เพราะต้องการความสะดวกและรวดเร็วจึงแวะซื้อพิซซ่านี่แหละสะดวกที่สุดโดยไปซื้อที่ร้านเดอะ พิซซ่า คอมพานี The Pizza Companyที่สาขาThe Mall Korat แนะนำเมนูฮาวายเอี้ยนถาดกลาง แค่ยังไม่เปิดกล่องก็หอมชวนหิวแล้ว เปิดมาเจอชีสนุ่มๆตักใส่จานก็ยืดสุดๆ แป้งนุ่มเบคอนก็เข้มอร่อย และขนมปังกระเทียมก็หอมกลิ่นกระเทียมออริกาโน่ ร้อนๆนุ่มๆเค็มๆมันส์ๆอร่อยสุดยอด

มาอบรมสัมมนาที่สระบุรี แต่เรามาก่อนล่วงหน้า 1 วัน กว่าจะมาถึงก็มืดค่ำละ แวะกินอะไรก่อนละกันไหนก็มาแถวๆ สระบุรีละ ก็เลยแวะกินสเต็กหน่อยละกัน กับร้าน Dairy Home มาถึงก็เกือบร้านจะปิดละ ไม่ได้กินมานานเพราะคราวก่อนมากินแล้วไม่ประทับใจ เลยแทบจะเลิกกินไปเลยเมนุอาหาร บรรดาเครื่องปรุงรสชาติต่างๆอาหารค่ำของเราในวันนี้เป็นพอร์คชอพ เป็นสเต๊กหมูติดซี่โครง ย่างมาสุกกำลังดี ราดซอสมาเล็กน้อย เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัด หมูนุ่มอร่อยดีทีเดียว คราวนี้ไม่ผิดหวังเหมือนครั้งก่อน

รสชาติ อร่อยใช้ได้
ราคา 3xx บาท
บริการ OK

ไปเที่ยวเขาใหญ่กำลังจะกลับกรุงเทพฯ ค่ะ เห็นร้านอาหาร ลาน+ลี+ลาร์ คุ้นว่าเจอในเน็ต ก็เลยกะว่าจะซื้อเครื่องดื่มไว้ดับกระหาย
ระหว่างทางสักหน่อย ในส่วนที่ขายเครื่องดื่มและขนมหวานนั้น จะตั้งชื่อแยกจากชื่อร้านอาหารไปเลยคือ "ร้านกาแฟรักกัน"แถมมีที่มาของชื่อด้วยนะคะ ที่ชื่อกาแฟรักกันนี่ ก็เพราะว่า เป็นนามสกุลเดิมของเจ้าของเค้าค่ะ เลยอยากตั้งชื่อร้านกาแฟแยกออก
จากร้านอาหาร และคำว่ารักกัน ก็หมายถึงการเอาใจใส่ในเครื่องดื่มทีทำให้ลูกค้าด้วย
ปล.แต่คนที่รับออเดอร์หน้าไม่ค่อยยิ้มนะคะ 555ตอนแรกเห็นเมนูเค้กก็เลยอยากทาน พอสั่งกลับบอกว่าไม่ได้ขายแล้ว ในใจก็คิดแล้วทำไมไม่ลบออกล่ะค่ะ เลยสั่งแค่เครื่องดื่ม
ไปอย่างเดียว และระหว่างรอเครื่องดื่มก็เลยเดินถ่ายภาพบรรยากาศในร้านมาสักหน่อยยอมรับว่าชอบการตกแต่งร้านสไตล์ย้อนยุคมาก มีของเล่นโบราณประดับเต็มไปหมด แต่คนขายหน้าไม่ยิ้มนี่บางทีมันเลยทำให้
ร้านไม่น่าเข้าเท่าไร เนื่องจากร้านอาหารติดกับร้านกาแฟก็เลยไปเก็บภาพที่ร้านอาหารด้วยร้านอาหารตกแต่งได้น่านั่งมาก โปร่งโล่งสบาย แถมมีลูกเล่นเพ้นท์ผนังเยอะแยะ ชอบเลย กลางคืนมีเวทีเล่นดนตรีสดด้วย และมี
แกลลอรี่ด้านบนทางที่เดินไปเข้าห้องน้ำค่ะ รู้สึกว่าที่นี่จะเปิดเป็นที่พักด้วย ลองเข้าไปดูในเว็บไซด์สวยและเท่ห์ดีเหมือนกันนะคะ
แอบชอบเลย สักพักเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ เราเลือกสั่งเป็นชาเขียวหวานกำลังดี หอมมาก ถือว่าใช้ได้ ทานแล้วสดชื่นดีค่ะแต่ส่วนแก้วนี้จืดมากค่ะ ไม่มีกลิ่นกีวีเลย มีแต่โซดา ไม่ประทับใจเท่าไรค่ะ

มาพักผ่อนที่รีสอร์ท "เวลาเวียน" วังน้ำเขียวค่ะ เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง และที่สำคัญรีสอร์ทตกแต่งทันสมัย
ดูโมเดิร์น เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ที่นี่ยังเปิดเป็นร้านกาแฟด้านหน้าทางเข้า ชื่อว่า "Coffee Time" และเปิดเป็น
ร้านอาหาร ชื่อว่า "The Clock Wise" ให้บริการทั้งแขกที่มาพัก และแขกสัญจร ถ้าสังเกตุที่นี่เค้าจะมีกิมมิคเรื่องเวลาเข้ามา
เกี่ยวข้องตลอด ดูจากชื่อรีสอร์ทและร้านอาหารนะคะ

ส่วนตัวได้ทานอาหารเช้าของทางโรงแรมและอาหารเย็นที่ต้องจ่ายเพิ่มด้วย หากเป็นลูกค้าที่มาพักจะได้ส่วนลด 10% สำหรับค่า
อาหาร ที่นี่ดีตรงที่ไม่มี Vat & Service Charge ค่ะ ราคาอาหารก็ไม่ได้แพงมาก แถมอาหารที่จัดมาหน้าตาของโรงแรมด้วย
เดี๋ยวพาไปชมหน้าร้านอาหารกันก่อนนะคะ บริเวณรอบๆ ล็อบบี้และหน้าครัวจะมีแปลงปลูกผักออแกนิกสำหรับสลัดที่ทานในวันนี้ด้วยค่ะส่วนบรรยากาศภายในห้องอาหารก็สัมผัสธรรมชาติแบบวิวพาโนราม่ากันเลยทีเดียว รองรับลูกค้าได้หลายมุม แล้วแต่ชอบวิวมุม
ไหนก็นั่งมุมนั้นเลยค่ะโดยเราจะพาไปชิมอาหารมื้อเย็นของวันที่เข้าพักก่อนนะคะ เราสั่งเป็นอาหารตามเมนู ดังนี้อุปกรณ์บนโต๊ะเตรียมพร้อมแล้ว อาหารไม่นานเลย ทั้งที่คนใช้บริการค่อนข้างเยอะ ประทับใจจริงๆ เริ่มที่อาหารทานเล่นจานแรก ยำวุ้นเส้นที่รองมาด้วยผักออแกนิก หน้าตาสวยงาม และรสชาดเปรี้ยวหวานรสยำเข้มข้น อร่อยมากค่ะข้าวสวยร้อนๆ ก็เสิร์ฟตามมาต้มยำถ้วยใหญ่มาก รสชาดเข้มข้นออกเปรี้ยวมะนาว เต็มไปด้วยเห็ดญุี่ปุ่นทั้งชาม กับกุ้งตัวขนาดกลาง ซดได้คล่องคอสปาเก็ตตี้โดยรวมโอเค แต่รสชาดไม่ค่อยเผ็ดเท่าไร ยังไม่จัดจ้าน ต้องขอซอสพริกมาทานด้วยเพิ่ม

ส่วนอาหารเช้าของที่รีสอร์ทที่จัดให้ลูกค้าจากที่เดินไปสำรวจไลน์อาหาร แอบผิดหวังเพราะว่าอาหารน้อยไปหน่อย เริ่มด้วยชุดเบรคฟาสที่เติมได้ไม่อั้น แต่รสชาดข้าวผัดจืดไปหน่อย เน้นกินฮอตดอก แฮมแทนค่ะเราชอบข้าวต้มที่นี่มากเลย ข้าวต้มหมูเห็ด เนื้อข้าวนุ่มมาก สลัดผักไม่ค่อยเยอะ แต่ก็พอทานกำลังดีปิดท้ายกับน้ำผลไม้สีสวย ที่เราลองทุกสี ทั้งน้ำฝรั่ง น้ำส้ม น้ำพั้นธ์ และน้ำสัปปะรด อร่อยไปคนละแบบ ส่วนโกโก้ครั้นซ์รสชาดปกติสรุปโดยภาพรวม
รสชาด : อาหารบางรายการยังรสชาดอ่อนอยู่ (ส่วนน้อย)แต่โดยภาพรวมก็อร่อยใช้ได้ค่ะ
บริการ : บริการไว สุภาพ และคอยเก็บจานให้ตลอด
ราคา : ราคาปานกลาง ไม่แพงมากเกินไป
บรรยากาศ : ที่่นี่ชนะเลิศเรื่องวิวที่ร้านอาหารค่ะ

มาเที่ยวแถววังน้ำเขียวค่ะ ตามหาร้านอาหารร้านนึงที่ในเน็ตแนะนำไว้ แต่วนหาหลายรอบก็ไม่เจอ เลยเลิกล้มความตั้งใจ ขับรถ
ผ่านตำบลไทยสามัคคีเห็นร้านนี้ป้ายเด่นชัด ใหญ่มากอยู่ข้างทาง ดูน่าสนใจดี ก็เลยตัดสินใจลองแวะเข้าไปทาน เพราะตอนนั้น
หิวมาก ร้านที่ว่าคือ "อาตง ขาหมู" ร้านนี้ไม่ได้ขายแต่ข้าวขาหมู ยังขายข้าวหมูแดง หมูกรอบ และอาหารตามสั่งด้วยร้านขนาดใหญ่ มีที่จอดรถเยอะ และมีโซนห้องน้ำที่แยกเป็นสัดส่วนบรรยากาศภายในร้านก็ค่อนข้างกว้าง มีที่ให้เลือกนั่งหลายโซน แต่บางโซนดูเหมือนว่าเค้ากำลังรีโนเวทปรับปรุงทาสีใหม่อยู่ค่ะ
วิวดี และข้างล่างก็เหมือนว่าจะทำเป็นสวนให้ถ่ายรูปต่อไปในอนาคต (เดานะคะ เพราะเห็นเอาตุ๊กตาบางอย่างมาลงบ้างแล้ว)
แต่วันที่ไปอากาศค่อนข้างร้อน ดูแห้งแล้งมีแต่เนินเขาที่ไม่มีต้นไม้เมนูอาหารมีให้เลือกไม่มากเท่าไร ราคาก็พอประมาณอากาศร้อนๆ สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาดับกระหายสักหน่อยเริ่มต้นที่จานนี้ เสียงกระทะร้อนฉี่มาแต่ไกล เหมือนจะน่าทาน แต่เราว่ามันแฉะและหวานเกินไปสักหน่อย แต่ในภาพรวมก็ใช้ได้ค่ะจานนี้น้ำแดงมาก หมูกรอบธรรมดา ไข่ออกแนวไข่พะโล้เลย รสชาดยังคงเน้นหวาน ทานได้แต่รสชาดยังไม่โดนมากจานนี้เห็นว่าแปลกดีก็เลยลองสั่งมาทาน รสชาดปกติทั่วไป ยังคงเน้นหวานเหมือนเดิม ไม่ค่อยเผ็ด

สรุปโดยภาพรวม
รสชาด : ออกแนวหวาน และรสธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น
บรรยากาศ : ร้านกว้างขวาง ดูโปร่งโล่งสบาย แต่ร้อน
บริการ : คนรับออเดอร์ รวมทั้งคนเสิร์ฟยิ้มแย้มดีค่ะ
ราคา : ราคาปานกลางไม่แพงมาก

ร้านอาหาร MYTH @ Pool เป็นร้านอาหารในรีสอร์ทมุติมายา ถือว่าเป็นสวรรค์บนดินของเขาใหญ่ ที่ห้องอาหารตั้งอยู่ด้านบนล็อบบี้ มีที่นั่งกว้างขวาง บรรยากาศดี ลมพัดเย็น พนักงานบริการดีมากๆ แต่ราคาก็จะสูงตามคุณภาพบรรยากาศภายในห้องอาหารดีมาก เหมาะกับการดินเนอร์ใต้แสงเทียนจริงๆขนมปังออเดิฟ ออกแข็งหน่อย ทานเพลินๆ เรียกน้ำย่อยเทมปุระก้ามปูฮอกไกโด นำเข้าจากญี่ปุ่น กรอบนอกนุ่มใน 650 บาท คุ้มๆพาสต้าผัดซอสมะเขือเทศ รสชาติออกเปรี้ยวหวาน อร่อยดีจานหลักเป็น พิซซ่าฮาวายเอี้ยน แป้งบางกรอบ ไม่ต้องใส่ซอสก็อร่อย

ถ้าวันหยุดแนะนำจองโต๊ะล่วงหน้า อาจจะเต็มได้