...ข้าวเหนียวมูน สูตร 40 ปี ข้าวเหนียวพันธุ์ดี วัตถุดิบเกรดเอ...
ข้าวเหนียวมูนในใจคุณต้องมีลักษณะและรสชาติแบบไหน? ในครั้งนี้ Food Specialists จะพาคุณไปพบกับตำนานข้าวเหนียวมูนสูตร 40 ปี คัดสรรข้าวเหนียวพันธุ์ดีและวัตถุดิบเกรดเอทั้งหมด ประกอบกับวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน ทำเองทุกขั้นตอน ดังนั้นเรื่องความอร่อยไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ว่าจะกินกับผลไม้อย่างมะม่วง ทุเรียน ขนุน หรือจะกินกับสังขยา หน้าปลา หน้ากุ้ง ถ้าได้ข้าวเหนียวมูนดีๆ แบบนี้สักจานอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง
ร้านข้าวเหนียวมูนที่เราจะพาไปเจาะลึกความอร่อยระดับตำนานนั่นก็คือ ร้าน ช.ศรแก้ว เอกลักษณ์อยู่ที่ข้าวเหนียวมูน 9 สี หรือที่เรียกว่าข้าวเหนียวมูนฟรุตตี้ ปัจจุบันคุณก้อย พิกุล ศรแก้ว ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นผู้สานต่อธุรกิจของครอบครัว จากร้านข้าวเหนียวมูนเล็กๆ ที่โชคชัย 4 กลายมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อคุณก้อยเข้ามาทำการตลาด พัฒนาสินค้า และขยายสาขา เปลี่ยนภาพลักษณ์ของข้าวเหนียวมูนโบราณให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย
ข้าวเหนียวมูน สังขยา หน้าปลา หน้ากุ้ง เป็นสูตรของคุณยาย เคยขายที่ตลาดชลบุรี อำเภอศรีราชา จนมาถึงรุ่นคุณแม่และย้ายมาตั้งร้านในกรุงเทพฯ ที่ลาดพร้าว-โชคชัย 4 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 รวม 40 ปีแล้ว แต่หากรวมสูตรตั้งแต่ชลบุรีก็นับว่าเกือบ 100 ปี แรกเริ่มเดิมทีสูตรของคุณยายมีเพียงข้าวเหนียวมูนสีขาว พอมาถึงรุ่นคุณแม่และคุณก้อยจึงเพิ่มข้าวเหนียวมูนสีเหลืองจากขมิ้น สีเขียวจากใบเตย และข้าวเหนียวดำ เมื่อเห็นว่าข้าวเหนียวมูนสีๆ ขายดีจึงเริ่มทำข้าวเหนียวมูนฟรุตตี้ที่มีส่วนผสมของผลไม้ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 4 สี กลายเป็นข้าวเหนียวมูน 9 สี และหยุดอยู่ที่ 9 สีเนื่องจากร้านถือกำเนิดในช่วงรัชกาลที่ 9 และเลข 9 ก็ยังถือเป็นเลขมงคลของคนไทยด้วย
เมื่อร้านข้าวเหนียวมูนมาอยู่ในมือของทายาทรุ่นที่ 3 คุณก้อยไม่ได้หยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายในร้าน ยังคงคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดมีคุณภาพที่สุด นี่ล่ะเคล็ดลับมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด มีทั้งลูกค้าหน้าเก่าหน้าใหม่แวะเวียนมาเสมอ คุณก้อยใช้เวลากว่า 10 ปีในการตามหาข้าวเหนียวพันธุ์ดีที่เหมาะสำหรับทำข้าวเหนียวมูน จนพบข้าวเหนียวคัดเกรดจากอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ข้าวทุกเม็ดต้องไม่มีจุดดำไม่มีเชื้อรา เมื่อนำมามูนแล้วเม็ดข้าวเรียวยาว เรียงเม็ดสวยน่ากิน กะทิที่ใช้ได้มะพร้าวจากสวนที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นมะพร้าวเกรดเอเนื้อหนาคั้นกะทิได้มากและกลิ่นต้องหอม ไม่ว่าจะนำมามูนข้าวเหนียว ทำสังขยา หรือแม้กระทั่งน้ำกะทิที่ใช้ราดบนข้าวเหนียวก็มาจากมะพร้าวคุณภาพ ส่วนข้าวเหนียวมูน 9 สีก็มั่นใจได้ว่าเป็นสีจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่ใช้สีสังเคราะห์อย่างแน่นอน นอกจากวัตถุดิบเกรดเอแล้วช.ศรแก้วก็ให้ความสำคัญกับกรรมวิธีที่พิถีพิถันทำทุกอย่างเหมือนทำกินเองในครอบครัว
เห็นทายาทรุ่นที่ 3 ทั้งขยายสาขา ทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเป็นคนทำการตลาดให้ช.ศรแก้วเป็นที่รู้จักมากขึ้นและสานต่อตำนานข้าวเหนียวมูนแบบนี้ คุณก้อยกลับเล่าว่าจริงๆ แล้วเกือบจะไม่ได้สืบทอดกิจการต่อเพราะตัวเองไม่ได้ชอบการค้าขายและรู้สึกเบื่อกับธุรกิจของที่บ้าน ตั้งแต่เด็กเห็นคุณแม่ลำบากเตรียมของทำขนมจึงรู้สึกไม่ชอบ แต่เมื่อโตขึ้นเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกาคุณแม่ชวนมาสืบทอดร้านข้าวเหนียวมูน ประกอบกับเป็นช่วงที่คุณพ่อเสียชีวิต พี่ก้อยจึงตัดสินใจกลับมาทดแทนพระคุณ สานต่อธุรกิจครอบครัว และดูแลคุณแม่ไปพร้อมกัน
OpenRice ได้รู้แบบนี้แล้วก็รู้สึกขอบคุณที่เห็นคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว เห็นคุณค่าของสิ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นำความรู้ความสามารถมาพัฒนาให้ของที่ดีอยู่แล้วดียิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ร้านข้าวเหนียวมูนอร่อยๆ อย่างร้านช.ศรแก้วเป็นร้านในตำนานที่ยังมีชีวิต สืบทอดรสชาติจากอดีตให้คนรุ่นใหม่ยังได้ลิ้มลองความอร่อยแบบดั้งเดิม
ขอบคุณเรื่องและข้อมูลจากร้าน ช.ศรแก้ว