ในสูตรขนมอบมักจะเห็นเบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดาอยู่ในส่วนผสม ด้วยชื่อที่คล้ายคลึงกันนี้หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าสองสิ่งนี้มันเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร บางคนก็เหมารวมเอาว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่เดี๋ยวก่อน! เบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดานั้นมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน ดังนั้นเรามารู้จักกับทั้ง 2 สิ่งนี้กันเลยดีกว่า
เบกกิ้งพาวเดอร์ (Baking powder) หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ผงฟู เป็นสารที่ช่วยทำให้ขนมฟูน่ารับประทาน อย่างเค้กหรือเบเกอรี่อื่นๆ เกิดจากการผสมเบกกิ้งโซดา กับสารที่เป็นกรดและแป้งข้าวโพด เพื่อไม่ให้สารทั้ง 2 ชนิดสัมผัสกันโดยตรง เมื่อเริ่มแรกที่ผงฟูสัมผัสกับของเหลวมันจะเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ก่อน แต่จะไม่ปลดปล่อยเต็มที่ จนกว่าจะได้รับความร้อน จึงปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เต็มที่ ดังนั้นส่วนผสมที่เราทำเสร็จแล้วจึงไม่จำเป็นต้องอบทันที สามารถพักไว้ก่อนได้
เบกกิ้งโซดา (Baking soda) มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต จะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน ข้อเสียของเบกกิ้งโซดาคือ จะมีสารตกค้าง ถ้าใช้ปริมาณมากเกินไปทำให้เกิดรสเฝื่อน และเพื่อให้สารตกค้างนี้หมดไปสามารถเติมส่วนผสมที่เป็นกรดลงไปด้วย เช่น ครีมเปรี้ยว, โยเกิร์ต, น้ำมะนาว ฯลฯ
นอกจากนี้ เบกกิ้งโซดา จะทำปฏิกิริยากับกรด โดยจะปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมาทันทีที่สัมผัสกับของเหลวที่เราใส่เข้าไป ดังนั้นหากส่วนผสมใดที่เราใส่แต่เบกกิ้งโซดา จึงต้องรีบอบทันที นี่จึงเป็นสาเหตุที่สูตรขนมอบบางสูตรเลือกที่จะใส่ทั้งเบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดาพร้อมกัน
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเวลาจะทำขนมหรือต้องใช้เจ้า 2 อย่างนี้ล่ะก็อย่าลืมดูปริมาณที่ต้องใส่ให้ดีด้วยนะคะ ขนมที่ทำออกมาจะได้ฟู นุ่ม อร่อย และน่ารับประทาน ถ้าใครยังไม่มีสูตรในดวงใจลองดูสูตร Valentine's Chocolate Cake ของ OpenRice ที่ทั้งทำง่ายแค่ใช้ไมโครเวฟแถมยังมีส่วนผสมของทั้งเบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดาอยู่ด้วยนะคะ ♥
เครดิตภาพ : chatelaine, cookingontheside, wherewomencook, pauladeen, zeelandia-international, slashfood, blogs.babble