อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2013-09-24
88 วิว
ที่โซน Lobby ของโรงแรม Amari Boulevard มีบาร์นั่งดื่มชิลล์ๆในชื่อที่สื่อความหมายตรงๆว่า Lobby Barเนื่องจากเคารพระเบียบ “เมาไม่ขับ” ผึ้งน้อยเลยนั่นรถ BTS มาลงที่สถานี นานา จากนั้นเดินต่อมาอีกแค่นิดหน่อยก็จะถึงสุขุมวิทซอย 5 เข้าซอยมาแล้วโรงแรมจะอยู่ทางด้านขวามือ ตรงข้ามกับ Foodland ซุเปอร์มาร์เก๊ตเลยค่ะปกติแล้วที่นี่จะไม่มี Cocktail Buffet นะคะ แต่วันนี้ผึ้งน้อยมาดื่มแบบ Buffet ด้วย Promotion Deal ของทางร้านในราคาเพียงแค่ 444 บาทเท่านั้น (แบบนี้ไม่โดนไม่ได้แล้ว)ราคานี้นอกจากจะสำหรับ Cocktail Buffet แล้ว ยังรวมกลับแกล้มเป็นถั่วและข้าวโพดคั่วแบบไม่อั้นอีกด้วยค่ะผึ้งน้อยสอบถามจากทางพนักงานมาว่าราคาปกติของ Coc
เนื่องจากเคารพระเบียบ “เมาไม่ขับ” ผึ้งน้อยเลยนั่นรถ BTS มาลงที่สถานี นานา จากนั้นเดินต่อมาอีกแค่นิดหน่อยก็จะถึงสุขุมวิทซอย 5 เข้าซอยมาแล้วโรงแรมจะอยู่ทางด้านขวามือ ตรงข้ามกับ Foodland ซุเปอร์มาร์เก๊ตเลยค่ะ
ปกติแล้วที่นี่จะไม่มี Cocktail Buffet นะคะ แต่วันนี้ผึ้งน้อยมาดื่มแบบ Buffet ด้วย Promotion Deal ของทางร้านในราคาเพียงแค่ 444 บาทเท่านั้น (แบบนี้ไม่โดนไม่ได้แล้ว)
ราคานี้นอกจากจะสำหรับ Cocktail Buffet แล้ว ยังรวมกลับแกล้มเป็นถั่วและข้าวโพดคั่วแบบไม่อั้นอีกด้วยค่ะ
ผึ้งน้อยสอบถามจากทางพนักงานมาว่าราคาปกติของ Cocktail ที่ร้านนี้จะอยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อแก้ว
(จากคำพูดนี้ก็คิดว่าน่าจะแก้วละ 200 กว่าๆ นะคะ ราคามาตรฐาน ...ผึ้งน้อยไม่ได้เห็นเมนูที่ระบุราคาซะด้วยสิ)
พื้นที่ของร้านจะไม่ได้กั้นแยกด้วยผนังแต่จะเสมือนเป็น Lobby ไปในตัวเลย ไฟจะสลัวกว่าโซนหลักเล็กน้อยตามสไตล์บาร์
ชุดโซฟาและของแต่ร้านสไตล์ไทยๆดูเข้ากันดี โซฟานุ่มน่านอนกลิ้งมาก กับแกล้มมาในจานแบบไทยๆ ไม่เฉพาะฝรั่งที่ชอบการตกแต่งแบบนี้ ผึ้งน้อยก็ชอบค่ะ
ถั่วกับข้าวโพดคั่ว มาพูนจานเลย อ้อ ลืมบอกไป วันนี้ผึ้งน้อยและเดอะก๊วนมาด้วยกัน 3 กระเพาะค่ะ
มานับแก้วไปพร้อมๆกันนะคะ แก้วที่ 1
Blue Kamikaze
(Vodka, Triple sec, Blue curacao, Lime juice, Sugar syrup)
หลังๆมานี่ผึ้งน้อยไม่ค่อยดื่ม Blue Kamikaze ซักเท่าไหร่ เพราะกี่ร้านกี่ร้านก็หวานเจี๊ยบไร้รสเหล้าจนน่าเศร้าใจ...แต่ไม่ใช่กับที่นี่ค่ะ
รสเหล้าแรงแต่กลมกล่อมมากเลย ทำเอากลับมาชอบ Cocktail ตัวนี้ได้อีกครั้ง แก้วที่ 2
Margarita
(Tequila, Cointreau, Lemon juice)
แก้วใหญ่สะใจมาก รสเหล้ายังเข้มข้นรุนแรงเช่นเดียวกัน (จนทุกคนตกลงกันว่าแก้วถัดไปต้องขอเบาเหล้าลงบ้างซะแล้ว)
หอมหวานตรบเครื่องตามสไตล์ของ Magarita ค่ะ แก้วที่ 3
Sex on the beach
(Vodka, Peach schnapps, Crème de cassis, Orange juice, Cranberry)
ตกแต่งเก๋ๆด้วยแอ๊บเปิ้ล
แก้วนี้รีเควสแบบเบาๆ (ยังไม่อยากเปิดห้องพักเพราะกลับบ้านไม่ไหวค่ะ)
ด้วยความที่น้ำผลไม้จะเยอะซักหน่อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แก้วนี้เลยอ่อนๆดื่มง่ายค่ะ
ดูแก้วเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับที่เคยดื่มๆมา (ส่วนมากเป็นแก้วกระบอกทรงสูง) แก้วที่ 4
B52
(Bailey’s Irish cream, Coffee liqueur, Grand marnier)
แก้วนี้ต้องรีบดื่มเพราะจุดไฟมาด้วย (ต้องดื่มให้ทันก่อนหลอดละลายค่ะ)
แก้วเป๊กเล็กๆแต่แรงและอร่อย รสชาดเข้มข้นมาก ช็อคโกแลตเหล้าก็ว่าอร่อยแล้ว กาแฟผสมเหล้าก็อร่อยไม่แพ้กัน
...แอบงงเล็กๆตอนอ่านเมนู เพราะเท่าที่ผึ้งน้อยรู้มา ปกติ B52 ต้องผสม Kahlua ด้วย แต่ในเมนูไม่เขียนค่ะ แก้วที่ 5
Mojito
(Light rum, Fresh lime, Brown sugar, Mint leaves, Soda)
Cocktail ที่ผึ้งน้อยไม่เคยพลาดซักร้าน เพราะเป็นอะไรที่ชอบมากจริงจัง
เสิร์ฟมาในแก้วทรงเตี้ย (โดยสถิติการดื่มของผึ้งน้อยแล้ว แก้วทรงเตี้ยมักจะชงมาเข้ม ดีที่รีเควสแบบไม่เข้มมากไป)
แก้วนี้ไม่ปลื้มเท่าที่ควร เพราะรสและกลิ่นของใบสะระแหน่ (ใบมินต์) แรงเกินไปจนกลบรสเหล้ารัมเลย แก้วที่ 6
Manhattan
(Bourbon, Sweet vermouth, Dry vermouth, Angostura Bitter)
เสิร์ฟมาในแก้วก้านสูงทรงสวยแปลกตา
เล็กแต่แรง เหมือนดื่มเหล้าเพียวๆเลยค่ะ แค่นึกถึงก็แทบจะเมาแล้ว
แก้วนี้เลยต้องยกให้คุณเพื่อน (ที่คอแข็งกว่า) เป็นผู้จัดการให้เรียบค่ะ แก้วที่ 7
Bloody Mary
(Vodka, Tomato juice, Lime juice)
ตกแต่งมาน่ารักอีกแล้ว
แต่แก้วนี้พลาดอย่างแรงค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าน้ำมะเขือเทศกับเหล้ามันไม่เข้ากันเลยซักนิด แก้วที่ 8
Daiquiri
(White rum, Sugar syrup, Lime juice)
บราโว่ !!!! แก้วนี้อร่อยที่สุดของวันนี้เลยค่ะ
รสชาดกลมกล่อมหอมหวาน ไม่แรงไม่อ่อน กำลังดีจริงๆ
แนะนำเลยค่ะ ถ้าจะมาลองดื่มกัน แก้วนี้สุดยอด แก้วที่ 9
Pink Lady
(Gin, Triple sec, Fresh milk, Sugar syrup)
ปกติก็ดื่ม Pink Lady อยู่แล้ว แต่แก้วนี้ไม่ปลื้มรองจาก Bloody Mary ค่ะ มีน้ำแข็งเล็กๆลอยมาเต็มเลยดูไม่ค่อยน่าดื่มเท่าไหร่...นั่นเป็นส่วนนึงค่ะ ประเด็นหลักอยู่ที่รสชาดที่ดันดื่มแล้วเหมือนนมเย็นใส่เหล้าซะงั้น >_< แก้วที่ 10 (แก้วสุดท้ายค่ะ ไม่ไหวแล้วววว >_<)
Dry Martini
(Gin, Dry vermouth, Olive)
ไม่โดนใจเท่าไหร่ (อาจเป็นเพราะ Daiquiri อร่อยเกินไปจนแก้วไหนๆก็ไม่อร่อยไปเลยก็เป็นได้ค่ะ)
แต่แก้วนี้ถ่ายรูปขึ้นมากค่ะ
สุดท้ายก็ดื่มไปทั้งหมด 10 แก้ว (3 คน)
กับกับแกล้มที่เน้นข้าวโพดคั่ว เติมหลายรอบมาก ทานเพลินเกินห้ามใจ
สุดท้ายนี้ “เมาไม่ขับ” นะคะ ^^
สรุปความประทับใจ
บรรยากาศ – สวยหรู ตกแต่งดูดีมีระดับ บาร์แม้จะเล็กแต่ก็ครบครัน แต่ร้านนี้จะเงียบๆอาจไม่เหมาะกับคนชอบเฮฮา แต่เหมาะแก่การนั่งดื่มชิลล์ๆค่ะ
การบริการ – พนักงานดูแลดีมาก สมเป็นระดับโรงแรม ดูเป็นกันเองแต่ยังคงความสุภาพไว้ได้เป็นอย่างดี
รสชาด – โดยรวมแล้วมีทั้ง Cocktail ที่ปลื้มและไม่ปลื้ม แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล แต่ด้วยราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพ (ความกลมกล่อมในการชง) และปริมาณแล้ว ถือว่าเป็นอีกร้านนึงที่น่านั่งมากๆ
โพสต์