1
0
0
เบอร์โทร.
02-378-8000 (4046)
ข้อมูลร้านอาหาร
Grotto Restaurant Champagne and Wine Bar เป็นร้านอาหารในโรงแรม The Grand Fourwings Convention โดยตัวร้านจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม ซึ่งเป็นร้านอาหารบรรยายกาศสบายๆ เหมาะแก่การพบปะเพื่อนฝูง อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
โอกาสพิเศษ
ชิลล์เอาท์
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
16:00 - 01:00
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า มาสเตอร์ อเมริกันเอ๊กเพรส เงินสด
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ร้านอาหารปิดดึก
วงดนตรีสด
มีแอร์
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.facebook.com/grandfourwings/timeline?ref=page_internal
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
เนื้อแกะย่างคลุกซอสพริก สลัดแซลมอนรมควันและเต้าหู้ อกเป็ดอบเครื่องเทศและน้ำผึ้ง
รีวิว (1)
สำหรับวันนี้จะพาไปกิน ณ ห้องอาหารเปิดใหม่แถวศรีนครินทร์นะคะ (เปิด 1 มิ.ย. เราไปกิน 4 มิ.ย.น่ะ สามวันหลังเปิด) นั่นก็คือห้องอาหาร Grotto Champagne and Wine Bar ซึ่งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม Grand Four Wings ศรีนครินทร์นั่นเองค่ะเอารูปชื่อห้องอาหารมาแปะก่อน เพื่อเป็นการเปิดตัว อิอิสำหรับพิกัดของรร.แกรนด์โฟร์วิงส์ ก็ตามนี้เลยนะคะ อยู่ถนนศรีนครินทร์ค่ะสำหรับห้องอาหาร Grotto Champagne and Wine Bar จะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรมนะคะ ถ้าขับรถมา จอดที่อาคารจอดรถชั้น 4 เรียบร้อยแล้วก็กดลิฟท์มาที่ชั้น L เดินผ่านบริเวณล็อบบี้แล้วจะเจอทางลงห้องอาหารเป็นบันไดอยู่ทางซ้ายมือค่ะ แต่ถ้ามารถแท็กซี่ ก็จะเจอล็อบบี้ตามภาพก่อน จากนั้นก็เลี้ยวขวา (หันหน้าเข้าล็อบบี้นะฮับ) ก็จะเจอบันไดลงไปที่ห้องอาหารนี้เช่นกันค่ะ เราช้อบชอบแชนเดอเลียร์ของที่นี่หละ ตอนกลางคืนนี่สวยมากเลยค่ะตรงก่อนบันไดทางลงห้องอาหารกร็อตโต้ ก็จะมีจอบอกโปรฯ ช่วงนั้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแขกอินเฮ้าส์ ได้ส่วนลด 20% และเลดี้ไนท์สำหรับทุกวันพฤหัส สุภาพสตรีรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้วค่ะ ห้องอาหารแห่งนี้เปิดตั้งแต่ 16.00-01.00 น.เลยนะคะลงไปปุ๊บก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เชียวค่ะ สวยอ้ะ ชอบจัง (ในร้านก็ตกแต่งสวยมากนะคะ ออกแนวขรึม คลาสสิคดีค่ะ)เข้าไปในห้องอาหารกันค่า สำหรับที่นี่จะมีที่นั่งทั้งหมด 80 ที่นั่งนะคะ สำหรับอาหารที่นี่จะเป็นสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน-เอเชี่ยนค่ะโดยเป็นที่นั่งหน้าบาร์และเลาจน์ 22 ที่นั่ง ที่นั่งหลัก 36 ที่นั่ง โซนด้านนอก 12 ที่นั่ง (เฉพาะโซนด้านนอกค่ะที่สูบบุหรี่ได้) และห้องส่วนตัว 1 ห้อง มี 10 ที่นั่ง (ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะคะ)วันนั้นกลุ่มของเราไปกันสิบคนค่ะ ก็นั่งตรงที่นั่งหลักด้านหน้าวงดนตรีเลยนะคะ จะเห็นว่าด้านหน้าระหว่างวงกับโต๊ะเราจะมีพื้นที่ไว้ให้แดนซ์กันด้วยค่ะ เพราะวงดนตรีที่เล่น พอช่วง 22.00 น.เป็นต้นไปจะเป็นช่วงของเพลงจังหวะเร็วๆ ให้ลูกค้าได้ลุกขึ้นเต้นนะฮับเซ็ตอัพของทีนี่ค่ะ เซ็ตผ้าให้ห้อยลงมาหละ เราว่าเก๋ดี แฮ่...สำหรับเมนูที่นี่จะแบ่งออกเป็นไวน์ลิสต์ (และเครื่องดื่ม) กับเมนูอาหารนะคะ จะเห็นว่าราคาอาหารไม่แพงเลย ถูกกว่าหลายๆ ร้านในสไตล์เดียวกันด้วยนะคะ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะทำเลด้วยหละค่ะ เราว่าราคาโอเคเลยอ้ะโปรโมชั่นพิเศษในช่วงนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเช็คอินรับเครื่องดื่มฟรี หรือลุ้นห้องพักที่รร.นี้นะคะเราเริ่มต้นกันด้วยเครื่องดื่มสีสันสดใส 5 แก้วนี้กันค่ะ แฮ่... สีสวยมากเลยเนาะ ที่จริงเครื่องดื่มห้าสีนี้จะเป็นเพียงสองเมนูค่ะ แต่ผสมรสที่แตกต่างกันไปนะคะสองเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ The Grotto กับ Belini ค่ะ ราคา 210++ บาททั้งคู่ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเอารสอะไรนะคะ ไม่ว่าจะเป็นพีช กีวี่ สตรอเบอรี่ หรือมะม่วงค่ะส่วนอะไรจะเป็นอะไรนั้น เดี๋ยวให้บาร์เทนเดอร์ท่านนี้เล่าให้ฟังกันค่าาวันนั้นเราดื่มเป็นกีวี่นะคะ โดยบอกบาร์เทนเดอร์ไปว่า เราชอบเปรี้ยวหน่อย ซึ่งพี่เค้าเลยเพิ่มน้ำมะนาวให้ค่ะ คุณคะ...มันอร่อยนัวมาก เราชอบค่ะ รสชาติดี อร่อยเลยแหละเริ่มกันด้วยขนมปังและดิปปิ้งสามชนิดค่ะ เรากินขนมปังตัวนุ่มไปนะคะ โอเคค่ะ อร่อยตามมาตรฐาน ดิปปิ้งจะมีบัลซามิกน้ำมันมะกอก ซัลซ่ามะเขือเทศ และซอสครีมมิ้นท์นะคะ ไม่ได้ชอบตัวไหนเป็นพิเศษค่ะ ขนมปังเปล่าๆ ก็ดีงามอยู่ค่ะ แฮ่...ตัวนี้เป็นคอมพลิเมนทารี่ต่างหากจากเชฟค่ะ เป็น Welcome Dish นะคะ ซึ่งแต่ละวันเมนูจะไม่เหมือนกันค่ะ (อารมณ์อมูสบุชเวลาเราไปกินอาหารฝรั่งเศสหละนะคะ) วันนั้นที่เราได้เป็นปลาค่ะ พื้นรองด้วยบัตเตอร์ซอสกับซอสมิ้นท์ค่ะจานนี้มาแบบเย็นนะคะ เนื้อปลาโอเคค่ะ เราชอบตัวซอสบัตเตอร์มากกว่าซอสอีกตัว เราว่าตัวบัตเตอร์ซอสช่วยส่งรสให้ปลาได้ดีกว่าค่ะ ออกหวานอ่อนๆ และหอมเนยนะคะต่อไปเป็น American Dive Scallop Compaccio ค่ะ เมนูนี้ราคา 400++ บาทนะคะ (ที่นี่ทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรสนะคะ)เมนูนี้เป็นหอยพัด (หรือหอยเชลล์) สไลด์บางๆ และราดด้วยน้ำจิ้มรสจัดค่ะ ขอบอกว่าเป็นจานเปิดตัวที่สร้างเซอร์ไพรซ์มาก (คือ ตอนแรกบอกว่าเมดิเตอร์เรเนียน-เอเชี่ยนนี่ ก็ไม่ได้คาดว่าจะได้รสจัดขนาดนี้นะคะ) รสชาติดีเลยค่ะ น้ำราดรสชาติจัดจ้านมากๆ แล้วการที่สไลด์หอยมาบางๆ ยิ่งทำให้น้ำจิ้มมันคละเคล้าทั่ว จนเวลากินตัวเนื้อหอยมันจะนิ่มแล้วก็ละลายในปาก พร้อมกับทิ้งรสชาติเผ็ดร้อนให้ค้างคาในปากค่ะต่อไปเป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับแอพพิไทเซอร์ที่สร้างเซอร์ไพรซ์ค่ะ กับ Grilled Marinated Lamb Steak 350++ บาทค่ะตัวนี้มีรสของน้ำยำรสจัดมาคลุกเคล้ากับแกะค่ะ ซึ่งแกะเองก็กลิ่นไม่แรงมาก (หลายคนที่ร่วมโต๊ะที่ปกติไม่ได้ชอบแกะยังโอเคเลยค่ะ) แต่ยังมีกลิ่นให้ไม่เสียความเป็นแกะค่ะ รวมทั้งเซลารี่ที่ใส่มาก็สดกรอบ ช่วยชูรสได้ดีมาก เป็นอีกเมนูที่อร่อยนะคะ คือต้องบอกก่อนว่า เราว่าอาหารที่นี่ปรับรสให้ถูกปากคนไทยน่ะค่ะ ใครที่ชอบกินอาหารที่มีความผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก แต่อยากได้รสชาติเข้มข้นของไทยๆ น่าจะประทับใจกับหลายเมนูของที่นี่นะคะต่อไปเป็นสลัดปูนิ่มหรือ Soft Shell Crab Salad 280++ บาทค่ะตัวนี้ด้วยความที่น้ำสลัดมันมากองอยู่ตรงด้านบน แล้วเราดั๊น...ไม่ได้คลุกเคล้าก่อนกินน่ะค่ะ ก็เลยทำให้ที่ตักมาตัวน้ำสลัดมันกลบรสอื่นหมด ตัวปูใหญ่ดีค่ะ เนื้อเยอะด้วย แต่โดยรวมรสน้ำสลัดแบบนี้ยังไม่ว้าวสำหรับเรานะคะ แฮ่...Caesar Salad with Smoked Salmon 300++ บาทค่ะตัวนี้อร่อยยยยยยยย น้ำสลัดก็เป็นรสชาติแบบที่เราชอบเลยค่ะ ซึ่งแค่กินผัก งา น้ำสลัด โดยไม่ต้องอาศัยแซลมอน ก็ยังอร่อยเลยค่ะ ถ้าเทียบสลัดสองอัน เราก็ชอบเมนูนี้มากกว่านะคะต่อไปเป็นซุปค่ะ Lobster Bisque and Cognac 320++ บาทค่ะตัวนี้จะมาแบบตัวน้ำซุปอยู่ในกาตามภาพเลยนะคะจากนั้นทางพนักงานก็จะรินน้ำซุปให้ค่ะสำหรับรสชาตินะคะ ตัวซุปเข้มข้นมากค่ะ ทั้งรสชาติและกลิ่นเลย จัดเต็มสุดๆ แล้วก็ตัวเนื้อล็อบสเตอร์ในซุปก็แน่นเด้งมากค่ะต่อไปเริ่มเป็นเมนคอร์สแล้วนะคะ จานแรกเลยค่ะกับ Pan Seared Scottish Salmon with Native Clams and Chorizo Sausage, Beurre Blanc Sauce 550++ บาทค่ะตัวปลาแซลมอนทำมาสุกนะคะ แต่ไม่แห้งและไม่กระด้างค่ะ รสจะออกแนวอาหารยุโรปจ๋าๆ หน่อยนะคะ รสออกกลางๆ เบาๆ ค่ะ แต่แซลมอนดีงามค่ะPan Roasted Duck Breast with Five Spice, Honey and Vegetable from Royal Project 450++ บาทเมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมสลัดนะคะ เนื้อเป็ดแน่นแต่ไม่เหนียวค่ะ และไม่มีกลิ่นแบบที่คนไม่ชอบเป็ดชอบบ่นกันด้วย (ฮา) แต่ที่เด่นสุดของจานนี้คือ ตัวกลิ่นค่ะ กลิ่นที่รม+อบนี่หอมมาก กลิ่นพุ่งสุดๆ รองพื้นด้วยมันบดที่เป็นแบบเนื้อเนียนนะคะ และซอสรองซึ่งน่าจะเป็นซอสส้มหละค่ะ จะอมเปรี้ยวนิดๆ และหอมอ่อนๆ ค่ะ ถ้าใครชอบเป็ดน่าจะไม่ผิดหวังกับเมนูนี้นะคะต่อไปค่ะกับอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนวันนั้นชอบกันนะคะ Foie Gras and Truffle Risotto 395++ บาทค่ะเป็นเมนูที่ไม่ได้ถ่ายด้วยไฟขาว แต่ถ่ายมาโดยอาศัยไฟของห้องอาหาร (ที่ออกโทนเหลือง) นะคะ ตัวนี้ฟัวร์กราส์ทำมาได้ดีค่ะ นิ่ม ไม่สุกเกินไป หอม และเนื้อสัมผัสกำลังดีเลย ขนาดเรากินตอนเย็นแล้ว ฟัวร์กราส์ก็ยังไม่แข็งเลยนะคะ (คือ...ไปงานอย่างนี้ โอกาสได้กินอะไรร้อนๆ นี่ยากค่ะ กว่าแต่ละคนจะถ่ายรูปกันเสร็จ แหะๆ) รีซอตโต้ก็กำลังดีมาก อร่อยค่ะต่อด้วย Canadian Lobster Spaghetti with Chilli Garlic, Tomato Concasse and White Wine 1200++ บาทค่ะล็อบสเตอร์ของเมนูนี้ยังคงดีงามเช่นเดียวกันค่ะ เนื้อแน่นมากๆ ตัวเส้นไม่ได้มาแบบอัลดันเต้นะคะ แต่เราว่าก็โอนะคะ แล้วก็ตัวเส้นจะมีรสชาติเผ็ดๆ คลุกเคล้าอยู่ทั่วเลยค่ะ เป็นอีกเมนูที่อร่อยนะคะหมดคาวแล้วค่ะ ต่อไปเป็นของหวานกันบ้างนะคะ มีด้วยกัน 2 เมนูค่ะCream Brulee, Vanila with Assorted Fresh Berry 200++บาทตัวนี้ถ้ากินครีมบูเล่เปล่าๆ จะหวานไปหน่อยนะคะ แต่ถ้ากินพร้อมเบอร์รี่ที่ประดับหน้ามาด้วยจะพอดีค่ะ แต่เราไม่ชอบเจ้าแผ่นแอลมอนด์ของที่นี่แฮะ มันมีกลิ่นบางอย่างที่ไม่เหมือนที่เคยกินน่ะค่ะ แหะๆปิดท้ายมื้อนี้กันด้วย Homemade Mango Pudding, White Chocolate, Caramelize Nut and Coconut Ice Cream 200++ บาทตัวนี้ พุดดิ้งเนื้อแน่นไปนิดค่ะ ทำให้เทกซเจอร์มันขาดความนุ่มนวลเวลาเข้าปากน่ะ แล้วก็ตัวรสชาติ แม้พุดดิ้งจะเป็นมะม่วง ซึ่งน่าจะเข้ากับไอศกรีมมะพร้าว แต่เรากลับว่าไม่เข้ากันแฮะ รสชาติมันไม่บาลานซ์พอดีกันอะค่ะ แหะๆและเชฟที่รังสรรค์ (เฉพาะของคาวนะคะ ของหวานมาจากอีกครัว) มื้อนี้ให้เราก็คือท่านนี้นี่เองค่ะ คุณนำชัย แก้วกัณหา Chef De Cuisine ของห้องอาหารแห่งนี้นะคะพอสักราว 20.00 ก็เริ่มมีดนตรีมาเล่นแล้วค่ะ (จะมีเฉพาะวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ นะคะ) โดยช่วงนี้จะเล่นเพลงฟังสบายๆ ก่อนนะคะ พอหลังสี่ทุ่มถึงจะเริ่มเป็นจังหวะคึกคักนะฮับก่อนจะไปสรุปห้องอาหารแห่งนี้ก็ขอปิดท้ายกันด้วยป้ายห้องอาหารและโคมไฟสวยๆ อีกทีนะคะ อิอิสำหรับโปรโมชั่นในช่วงนี้นะคะ แอดไลน์ของโรงแรม จะได้รับส่วนลด 20% ทั้งอาหารและเครื่องดื่มค่ะ (ที่นี่รับบัตรเครดิตแบบไม่มีขั้นต่ำนะคะ) สิ้นสุดโปรฯ สิ้นเดือนสิงหาคมนี้นะคะสรุปสำหรับห้องอาหารแห่งนี้นะคะโดยรวมเราค่อนข้างประทับใจอาหารหลายๆ จานมากๆ อย่างที่รีวิวไปนะคะ รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน แบบที่จะถูกปากคนไทยแน่ๆ (แต่ต้องไม่คาดหวังว่าจะได้กินรสชาติยุโรปแท้ๆ นะคะ เพราะที่นี่จะไม่ใช่สไตล์นั้นค่ะ) ของคุณภาพดี การบริการดีค่ะ ราคาก็ไม่ได้แพงเลย ถ้าเทียบกับความเป็นห้องอาหารในโรงแรมน่ะนะคะ บรรยากาศก็อย่างที่เห็นค่ะ เราชอบแหละ สวยขรึม คลาสสิคดี (ถ่ายรูปมาซะหลายรูปน่ะ แฮ่...) โดยรวมประทับใจค่ะ แต่ของหวานยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่นะฮับ ซึ่งก็ได้แจ้งทางพีอาร์และเชฟไปแล้วค่ะถ้าใครกำลังหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ให้ไปแฮงค์เอาท์กัน กินอาหารอร่อยๆ ย่านศรีนครินทร์ ก็ลองพิจารณาร้านนี้ดูนะคะป.ล. สำหรับท่านที่นำรถมา ทางห้องอาหารแสตมป์บัตรให้ได้ 3 ชั่วโมงนะคะ หากเกินจากนั้นจะเสียค่าบริการชั่วโมงละ 30 บาทค่ะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)