อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-01-05
128 วิว
วันนี้ขอขึ้นที่สูง พาไปดูบรรยากาศของ Vertigo Grill & Moon Bar ตั้งอยู่บนยอดดาดฟ้า ชั้น 61 โรงแรมบันยันทรี บนถนนสาทรกันดีกว่าครับ ใกล้ๆ วาเลนไน์เผื่อใครแพลนอยากจะไปสวีทจะได้เตรียมตัวทันกันนะVertigo Grill & Moon Bar เป็นร้านสุดโรแมนติกที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ก็คือ Vertigo Grill ข้างนึงของยอดตึก เป็นส่วนที่มีโต๊ะนั่ง ทานอาหารกันเป็นเรื่องเป็นราว กับอีกส่วนเรีกว่า Moon Bard จะเป็นบาร์กลมๆ กับที่นั่งล้อมรอบ สำหรับดริ้งชมวิวชิลๆ 2 ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกันครับ แต่ถ้าจะมาทานที่ Vertigo ต้องแต่งกายสุภาพนิดนึงนะครับ ผมไปถึงยามเย็น ฝั่ง Vertigo แดดยังร้อนอยู่ เลยต้องมานั่งที่ Moon Bar ก่อน แล้วซักพักพนักงานก็จะตามไปนั่งที่โต๊ะ วิวฝั่ง
Vertigo Grill & Moon Bar เป็นร้านสุดโรแมนติกที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ก็คือ Vertigo Grill ข้างนึงของยอดตึก เป็นส่วนที่มีโต๊ะนั่ง ทานอาหารกันเป็นเรื่องเป็นราว กับอีกส่วนเรีกว่า Moon Bard จะเป็นบาร์กลมๆ กับที่นั่งล้อมรอบ สำหรับดริ้งชมวิวชิลๆ 2 ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกันครับ แต่ถ้าจะมาทานที่ Vertigo ต้องแต่งกายสุภาพนิดนึงนะครับ ผมไปถึงยามเย็น ฝั่ง Vertigo แดดยังร้อนอยู่ เลยต้องมานั่งที่ Moon Bar ก่อน แล้วซักพักพนักงานก็จะตามไปนั่งที่โต๊ะ วิวฝั่ง Moon Bar ก็จะได้อารมณ์แม่น้ำ สงบๆ หน่อยครับ ลืมบอกว่าข้างบนลมแรงมากๆ หัวกระเซิงกันหมดเลย พอมานั่งที่โต๊ะ ตอนนี้ยังไม่มีคนเลย แต่เราเห่อต้องมาเร็วๆ ไม่ได้มาบ่อยนี่หน่า บริการก็นำเมนูมาให้ อาหารจะมีทั้งเป็นจานเดี่ยว หรือจะสั่งเป็นคอร์สเมนูก็ได้ เราเลยสั่งเป็นคอร์สเมนู 5 อย่าง มาแบ่งทาน 2 คน และ main dish อีก 1 อย่างครับ
ชมวิวกันเพลิน ดูตึกนู้นตึกนี้ ถ่ายรูปกระหน่ะ เพราะตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคน เลยไม่ต้องระวังอะไรมาก อย่างแรกก็ยกมาถึงครับ กุ๊กกิ๊กน่ารัก เกินไปหรือเปล่า ต้องขออภัยที่ไม่รู้ชื่อเมนูซักอย่างเพราะจำไม่ได้ และไม่ได้ถ่ายมาด้วย เอาเป็นว่าขอตั้งเอง บรรยยายเองเลยแล้วกัน จานแรกสำหรับคอร์สเมนู 5 ชนิด เหมือนเป็นออเดิฟเย็นเรียกน้ำย่อยก่อน ถ้วยช็อตแช่เย็น มีกุ้งสด มะเขือเทศ พริกหยวก ผักอื่นๆ หั่นเล็กๆ ในถ้วย ก็ถือว่าเรียกความสดชื่นได้ดี แต่ก็ไม่ได้รสแบบเต็มๆ กินเอาสวยๆ ระหว่างทานพระอาทิตย์กำลังจะตกเลย ก็ได้อารมณ์โรแมนติกไปอีกแบบ อันนี้ที่เห็นเป็นด้านสีลมครับ จานที่สองก็มาถึง เป็นออเดิฟเช่นกัน แต่อันนี้ดูจับต้องได้มากขึ้น สีขาวๆ เป็นชีสสดครับ ชื่อไรชนิดไหนจำไม่ได้ ด้านบนมีถั่ว ส่วนข้างล่างเป็นมะเขือเทศสุก ราดด้วยซอสสีดำเหนียวๆ เค็มๆ หน่อย จานนี้ค่อนข้างเลี่ยนขึ้นจมูกเลย ถ้าไม่ได้ชอบทานชีสคงไม่ถูกปากนัก รสชาติของชีสที่เข้มข้นมากๆ ทานพร้อมมะเขือเทศที่เวลากัดก็จะมีน้ำหวานๆ ชุ่มฉ่ำไหลออกมาพร้อมกัน ก็เป็นรสสัมผัสที่แปลกดีเหมือนกัน ฟ้ามืดแล้ว ด้านบนจะเปิดไฟสวยเชียว แต่ละโต๊ะก็จุดเทียนสว่างสไว โรแมนติกมากเลยทีเดียว ช่วงนี้คนเริ่มมาแล้ว แน่นเต็มเกือบทุกโต๊ะ จานต่อมาเป็นซุปข้าวโพด จานนี้ค่อยถูกปากหน่อย อาจจะคิดว่าธรรมดา แต่จริงๆ ของเค้าก็อร่อยทีเดียว รสข้าวโพดหวานหอม น้ำซุปร้อนและข้นดีมาก ทานแล้วได้ความหวานมันและอบอุ่นดี ถ้าอากาศหนาวๆ จะเข้ากันได้มากเลยทีเดียว ชมวิวกลางคืนกันต่อ ตึกแต่ละตึกจะส่องแสงสกาววาวแวววับ เราสามารถมองเห็นทรรศนียภาพรอบด้านของกรุงเทพฯ เป็นภาพที่สวยงามมาก แม้อาจไม่มีแสงดาวสุกสว่าง แต่ก็มีแสงไฟอันศิวิไลซ์ของกรุงเทพฯ ช่วยขับประกายความโรแมนติกให้กับค่ำคืนนี้ได้ดีเช่นเดียวกัน
(ต่อภาคสองครับ)
โพสต์