วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2015-01-14
427 วิว
ก่อนอื่น...ดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกค่า อัพโหลดรูปลงผ่านคอมทำรีวิวลงเว็บได้แล้ว หลังจากมีปัญหาทำไม่ได้มานานมาก จนต้องเล่นแต่โอเพิ่นสแน็ป ไม่ก็รีวิวผ่านมือถือ (แต่ก็ต้องเฉพาะร้านที่มีในระบบแล้ว จะเพิ่มร้านก็ไม่ได้ เฮ้อ)จะหาเวลากลับมาทำรีวิวเรื่อยๆ นะคะ เพราะตั้งแต่ระบบมีปัญหานี่ เราดองรีวิวไว้เยอะมากกกกกกสำหรับวันนี้ก็จะพาไปหม่ำแถวๆ รังสิต-นครนายกกันบ้างนะคะ เนื่องด้วยน้อง sawkitty สอบถามมาทางเฟซบุ๊คว่า มีเพื่อนที่ดูแลร้านนี้อยู่อยากชวนไปหม่ำแล้วก็มาทำรีวิว โดยที่สามารถรีวิวได้เต็มที่โดยไม่ต้องอวย เข้าเงื่อนไขเราทุกอย่าง (แม้การรีวิวแบบไม่อวยนี้จะทำให้ผู้ประกอบการหลายรายไม่กล้าติดต่อข้าพเจ้าไปทำรีวิวอีกเลยก็ตาม ฮา ) เราก็เลยตก
จะหาเวลากลับมาทำรีวิวเรื่อยๆ นะคะ เพราะตั้งแต่ระบบมีปัญหานี่ เราดองรีวิวไว้เยอะมากกกกกก
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปหม่ำแถวๆ รังสิต-นครนายกกันบ้างนะคะ เนื่องด้วยน้อง sawkitty สอบถามมาทางเฟซบุ๊คว่า มีเพื่อนที่ดูแลร้านนี้อยู่อยากชวนไปหม่ำแล้วก็มาทำรีวิว โดยที่สามารถรีวิวได้เต็มที่โดยไม่ต้องอวย เข้าเงื่อนไขเราทุกอย่าง (แม้การรีวิวแบบไม่อวยนี้จะทำให้ผู้ประกอบการหลายรายไม่กล้าติดต่อข้าพเจ้าไปทำรีวิวอีกเลยก็ตาม ฮา ) เราก็เลยตกปากรับคำไป แล้วก็ได้ไปกินเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาค่ะ (เป็นอีกรีวิวที่ไม่ดองไว้เป็นปี เหมือนรีวิวอื่นๆ ที่เคยดองมา )
สำหรับเส้นทางการไป เราวิ่งเส้นวิภาวดีรังสิตค่ะ จนเจอทางที่บอกให้ไปนครนายก (ผ่านฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต) ก็เลี้ยววนไป วิ่งถนนเส้นรังสิต-นครนายก โดยทางขวามือคือคลองรังสิต สังเกตทางขวามือไว้ พอเห็นสะพานสีแดงๆ ก็หาที่กลับรถเพื่อข้ามสะพานสีแดงนั้นไปค่ะ พอข้ามก็เลี้ยวซ้ายเลย แล้วก็สังเกตทางขวามืออีกที หาซอยรังสิต-นครนายก30 แล้วก็เลี้ยวเข้าไป จากนั้นก็วิ่งจนสุดซอยก็จะมีป้ายให้เลี้ยวขวาไปค่ะ พอเลี้ยวขวาไปไม่นาน จะมีลานจอดรถอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งลานจอดรถนี่จะอยู่ก่อนถึงร้านนิดเดียวเองหละค่ะ
จุดสังเกตนะคะ ลานจอดรถจะอยู่ตรงข้ามกับตึกสีเขียวชมพูแบบนี้ค่ะ ทางเข้าลานจอดจะเป็นพื้นดินผสมกรวดนิดหน่อยตามภาพเลย แล้วก็จะเจอทางเดินเข้าร้านทางฝั่งบึงน้ำค่ะ (ตัวม้านี่ติดไฟค่ะ ที่จริงร้านนี้เราว่าเหมาะที่จะมานั่งเย็นๆ ค่ำๆ มากกว่าหละค่ะ แต่มันไกล เราไปตอนเย็นไม่สะดวกจริงๆ ก็เลยแจ้งว่ามาตอนกลางวันแทน แหะๆ)
ทางเดินเข้าร้านจากด้านลานจอดรถค่ะ (ที่จริงตรงฝั่งหน้าร้านก็จอดได้นะคะ แต่ไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ) ช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่นปลากระพง (ที่นี่เอาเป็นๆ มาทำเลยหละค่ะ) ตัวละ 199 บาทเอง ถูกเวอร์มากๆ อ้ะ ถึงแค่สิ้นเดือนมิถุนายนนี้นะคะ
ระหว่างทางเดินไปก็จะมีแพลอยเป็นที่นั่งกลางแจ้งนะคะ อันนี้เหมาะกับตอนเย็นแน่ๆ บ่ายเยี่ยงนั้น เราคงมิกล้า แล้วก็มีกระชังเลี้ยงปลาอยู่ด้วยหละค่ะ ที่บึงน้ำนี่ อาสามเล่าให้ฟังว่า มีนำปลามาปล่อยด้วยนะคะ แล้วก็มีชาวบ้านมาตกปลาด้วย ทางเจ้าของร้านเค้าก็ให้ตกหละค่ะ ยกเว้นถ้าขนาดมาหว่านแห อันนั้นก็ขอสงวนสิทธิ์อะค่ะ (ใครทำก็เกินไป๊.. ไม่เกรงใจเจ้าของพื้นที่กันเลยรึ?)
ตรงนี้จะเป็นที่นั่งในร่มค่ะ (ตรงโซนด้านหน้าร้านก็มีอีกนะคะ) สอบถามอาสามแจ้งว่า ถ้าเอาเต็มพื้นที่จริงๆ ก็ได้ราว 500 คนค่ะ ซึ่งที่นี่นับตั้งแต่เปิดมาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วก็เคยมีการจัดงาน event ด้วยนะคะ อย่างตอนงานวาเลนไทน์ก็มีถ่ายรูปคู่ให้คนที่มากิน หรืออย่างตอนงานวันพ่อก็มีถ่ายรูปครอบครัวให้ ซึ่งแขกก็ดีใจกันไปหละค่ะ เพราะบางคนนี่ไม่เคยถ่ายรูปครอบครัวกันเลย โดยทางร้านก็ทำเป็นสตูเล็กๆ ตรงหน้าร้านหละค่ะให้ได้ถ่ายกัน (พวกงานอีเว้นท์ต่างๆ นี่สามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊คของทางร้านนะคะที่ https://www.facebook.com/watercityLumlukka?fref=ts)
มาดูเมนูกันค่ะ จะเห็นว่าร้านนี้เปิด 11.00-24.00 น.นะคะ แต่ช่วงเคอร์ฟิวจะปิดที่ 23.30 เพื่อให้พนักงานกลับได้สะดวกค่ะ (แต่ตอนนี้เคอร์ฟิวก็ยกเลิกไปแล้ว เปิดตามปกติแล้วหละค่ะ) แต่ถ้าใครอยากจะมาฟังดนตรี ที่นี่ดนตรีจะเริ่มเล่นตอน 19.00-21.00 ค่ะมีเบอร์โทร.ทางร้านด้วยนะคะ เผื่อใครจะโทร.ไปถามทางเนาะ แฮ่...
เมนูค่ะ มีราคาชัดเจน แล้วก็มีรูปให้สำหรับบางเมนูด้วยนะคะราคาเราก็ว่าโอนะคะ ไม่ได้แพงเวอร์อะไร
จะเห็นว่าร้านนี้มีอาหารสิงคโปร์ด้วยหละค่ะ เพราะเจ้าของร้านนี้เป็นชาวสิงคโปร์หละชื่อคุณไมเคิลค่ะ แต่วันที่เราไปเชฟมือหนึ่งไม่อยู่ อยู่แต่มือสองค่ะ แต่ก็มีลองสั่งเมนูอาหารสิงคโปร์มาลองสองเมนูนะคะ (อาสามจัดการให้หมดค่ะ เพราะเราขอให้สั่งให้ เนื่องจากเราไม่รู้ว่าร้านนี้อะไรอร่อย เจ้าถิ่นต้องรู้ดีกว่าเราสิเนาะ แฮ่..(ออกแนวโยนภาระให้คนอื่นนะเนี่ยป้า))
ราคาอาหารอื่นๆ พอเป็นสังเขปค่ะ ก่อนจะเริ่มเข้าอาหารเนาะ
จานแรกที่มาค่ะ ผักบุ้งผัดกะปิ เป็นอาหารสิงคโปร์นะคะ แต่มีแค็ปหมูชิ้นเล็กๆ โรยหน้ามาให้ด้วยค่ะรสชาติดีนะคะ เข้มข้นทีเดียว กลิ่นกะปิจะตามมาทีหลัง แปลกแต่อร่อย เผ็ดหน่อยๆ ดีค่ะ แต่เราว่ากากหมูมันดร็อปรสชาติโดยรวมนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็ทำให้เผ้ดน้อยลงน่ะนะคะ ถ้าถามเรา เราชอบกินแบบไม่กินกับกากหมูมากกว่าค่ะ แฮ่...
เมนูต่อไปค่ะ สลัดผลไม้รวมกุ้งทอดค่ะน้ำสลัดคลุกเคล้าทั่วถึงดี รสชาติน้ำสลัดก็รสดีค่ะ แต่ผักบางชิ้นแอบขมนิดหน่อย แต่ชอบการจัดวางดิสเพลย์จานนี้ค่ะ สวยงามดี เหมือนกุ้งกำลังบอกรักเชียว (มโนมากมายค่ะอิชั้น)
จานต่อไปค่ะกับยำครัวเมืองน้ำ หน้าตาอย่างที่เห็นเลยนะคะแปลกตรงที่มีไข่เยี่ยวม้าด้วยนี่แหละค่ะ (ไม่ค่อยเจอในเมนูยำเนาะ) แต่อร่อยมากกกก (เราชอบกินไข่เยี่ยวม้าค่ะ เวลากินโต๊ะจีนถ้ามีนี่เป็นอย่างแรกเลยที่จะจก แหะๆ) ไข่นิ่ม กลิ่นไม่ฉุนจัดค่ะ กุ้งที่เห็นนี่เป็นกุ้งก้ามกรามเผา แล้วด้านล่างก็มีมะเขือยาวเผารองก้นไว้ด้วยนะคะ ตัวมะเขือเผาหอมมาก เผามาดี จนต้องถามว่าเผาด้วยเตาถ่านใช่มั้ย (กลิ่นมันไม่เหมือนเผาด้วยเตาแก๊สจริงๆ ค่ะ มันจะหอมชัดกว่า) ซึ่งก็ใช่แหละค่ะ รสชาติของวัตถุดิบอย่างอื่นในจานยำนี้จัดจ้านดีค่ะ เสียแต่เปรี้ยวแบบไม่หอม (มะนาวฤดูนี้ก็นะ...อย่างที่รู้ๆ กันหละค่ะ เหอๆ) แต่เฟิร์มอีกทีว่าไข่เยี่ยวม้ากินกับเครื่องยำอร่อยมากๆ ฟินค่ะ
ต่อไปค่ะกับอีกหนึ่งจุดขายของที่นี่ นั่นก็คือปลากระพง ซึ่งที่นี่จะใช้วัตถุดิบแบบเป็นๆ ทำให้นะคะ เพราะของเป็นยังไงก็ต่างจากของแช่แข็งค่ะ (อันนี้ข้าพเจ้าผู้ซึ่งเกิดในจังหวัดติดทะเล และเคยกินอาหารทะเลที่ทำจากของเป็นๆ มาตั้งแต่เด็กขอคอนเฟิร์ม) กับจานนี้ค่ะ ปลากระพงพุงแตกเนื้อปลาสดมากกกก โอมากๆ ค่ะ ฟูนุ่มแต่แน่น ไม่เหมือนที่อื่นจริงๆ (ไม่คิดว่าจะได้กินในจังหวัดที่ไม่ติดทะเลนะนี่) ตัวเครื่องข้างบนที่เป็นทะเลทั้งหลายนี่ก็สดค่ะ แต่ตัวน้ำที่มาด้วยน้อยไปนิดทำให้จานนี้ออกแห้งๆ ไปหน่อยค่ะ แต่วัตถุดิบชนะเลิศมากค่ะ
จานต่อไปค่ะ เป็นจานข้าวที่สั่งมาแทนข้าวสวยน่ะนะคะ (อาสามจัดให้เช่นเคย แฮ่..)ผัดมาได้ร่วนค่ะ รสชาติดี อร่อย แต่หอมกระทะน้อยไปหน่อยค่ะ
ต่อไปเป็นปลากระพงแกงกะหรี่สิงคโปร์ค่ะ (อีกหนึ่งเมนูสิงคโปร์ที่อาสามสั่งให้มาลองหม่ำนะคะ)ตัวปลายังสดอยู่เช่นเคยค่ะ เนื้อหวานนุ่มมาก มีมะเขือยาวและกระเจี๊ยบเขียวด้วยนะคะ ตัวน้ำแกงกะหรี่นี่เข้มข้นมาก (ซึ่งเป็นผงแกงกะหรี่นำเข้านะคะ มันเข้มข้นกว่าทั่วๆ ไปจริงๆ ค่ะ) ออกเปรี้ยวหน่อยๆ จากน้ำมะขามในแกงกะหรี่ด้วยค่ะ อร่อยแบบแตกต่างดีค่ะ ถ้าชอบแนวนี้สั่งมาลองได้นะคะ
ต่อไปเป็นจั๊กจั่นทะเลค่ะ ซึ่งเราเคยกินเมื่อน้านนานมาแล้วตอนทำทัวร์ไปภูเก็ตค่ะ จานนี้อาสามบอกว่า อาจจะสดน้อยหน่อยนะ เพราะของมาหลายวันแล้ว แต่อยากให้ลอง ก็เลยสั่งมาหม่ำค่ะ เป็นจั๊กจั่นทะเลทอดกระเทียมค่ะถึงอาสามจะบอกว่ามาหลายวันแล้วแต่ก็โอเคหละค่ะ ออกมากรอบดีมาก (แม้เนื้อจะน้อยและเบาตามประสาหลายวันแล้วนะคะ) โอเลยล่ะค่ะ
แต่เมนูนี้ปกติยังไม่ได้มีขายนะคะ แต่อาสามบอกว่าเจ้าของก็บอกว่า ให้สั่งมาอีก ต่อไปอาจจะเป็นหนึ่งเมนูที่มีขายประจำแล้วหละค่ะ
ให้ดูหน้าตาจั๊กจั่นทะเลแบบชัดๆ ค่ะ
ต่อไปเป็นต้มยำปลาคังค่ะ ตัวปลาสดดีอีกเช่นเคย น้ำต้มยำรสชาติจัดจ้านใช้ได้เลยค่ะ แต่ยังไม่ว้าวนะคะ (เรากินรสจัดมากอย่างที่ทราบๆ กันอะค่ะ เพราะงั้นสำหรับคนปกติ (ใช่ฮ่ะ อิชั้นมันคนผิดปกติ ) เราว่าอร่อยแล้วหละค่ะ อย่างเพื่อนเราก็ชอบ บอกว่าอร่อยดีค่ะ)
ต่อไปเป็นของหวานที่มีจำหน่ายที่นี่ค่ะ ไอศกรีมเค้กสี่รสชาตินะคะตัวไอศกรีมอร่อยดี แต่ตัวเค้กเนื้อมันแปลกๆ ไปอะค่ะ คงเป็นเค้กที่ทำสำหรับไอศกรีมเค้กโดยเฉพาะอะนะคะ
จากนั้นเนื่องด้วยฝนตก เราก็เลยย้ายกันไปที่ด้านหน้าร้านค่ะ มีตู้ปลาโชว์อยู่ด้วยหละ ปลาเต็มเลยมีตัวหนึ่งสีส้มๆ ทำหน้ายิ้มตลอดเวลา น่าร้าาาากกกกกก
ส่วนเจ้าหน้าดุนี่ ถ้าเอานิ้วไปขีดๆ ตรงตู้ เค้าจะทำปากงับๆ เราด้วยหละค่ะ (ดุหรืออยากเล่นหละนั่น ฮา)
ปลามังกรที่นี่ตัวใหญ่ยักษ์มากกกกค่ะ เห็นบอกอีกสักพักคงต้องย้ายหละค่ะ เพราะตู้ปลาเริ่มเล็กไปแระ
หน้าตาตู้ของเค้กไอศกรีมค่ะ หรือใครจะกินไอศกรีมอย่างเดียวก็ได้นะคะ เป็นของ BUD'S ICE CREAM ค่ะ (หายี่ห้อนี้กินยากพอควรนะนี่ เราไม่ค่อยเจอง่ะ แหะๆ)
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ ที่เด่นที่สุดก็คงเป็นของเรื่องวัตถุดิบที่เอาของเป็นๆ มาทำเลยหละค่ะ ไม่สดก็ไม่รู้จะว่าไงน่ะนะคะ ส่วนเรื่องของรสชาติก็มีที่อร่อยมาก อร่อยปานกลาง และมาตรฐานทั่วไปค่ะ (แต่วันที่เราไป พ่อครัวมือหนึ่งไม่อยู่นะคะ เรากินโดยเป็นฝีมือของพ่อครัว (หรือแม่ครัว?) รองค่ะ) มาดูคะแนนของร้านนี้กันเนาะ
โพสต์
