2
0
0
ระดับ4
Aston Dining Room & Bar ร้านอาหารสุดชิคในซอยสุขุมวิท 31 นี้เป็นของเชฟมือรางวัล- ศรา จิรารัตน์ ผู้จบจากสถาบัน Cordon Bleu และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน top 20 best chefs in Bangkok ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นในแง่ของการให้บริการอาหารแบบ Chef’s Table คือเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชมการทำงานของเชฟและทีมงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้เห็นทุกขั้นตอนการปรุงออกมาเป็นอาหารแต่ละจาน โดยเชฟจะเป็นผู้อธิบายรายละเอียดอาหารเมื่อนำมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าลองมาสัมผัสดูจริงๆค่ะ**-บรรยากาศ-**ดีไซน์ของร้านนี้โดดเด่นสะดุดตาเห็นมาแต่ไกลด้วยตัวร้านที่ด้านนอกเป็นโครงปูนเปลือย ปลูกไม้เลื้อยเกาะพันจนครอบคลุมทั้งหมด
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
Aston Dining Room & Bar ร้านอาหารสุดชิคในซอยสุขุมวิท 31 นี้เป็นของเชฟมือรางวัล- ศรา จิรารัตน์ ผู้จบจากสถาบัน Cordon Bleu และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน top 20 best chefs in Bangkok ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นในแง่ของการให้บริการอาหารแบบ Chef’s Table คือเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชมการทำงานของเชฟและทีมงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้เห็นทุกขั้นตอนการปรุงออกมาเป็นอาหารแต่ละจาน โดยเชฟจะเป็นผู้อธิบายรายละเอียดอาหารเมื่อนำมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าลองมาสัมผัสดูจริงๆค่ะ
45 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
9 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
16 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
13 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
11 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
**-บรรยากาศ-**

ดีไซน์ของร้านนี้โดดเด่นสะดุดตาเห็นมาแต่ไกลด้วยตัวร้านที่ด้านนอกเป็นโครงปูนเปลือย ปลูกไม้เลื้อยเกาะพันจนครอบคลุมทั้งหมด เท่ดีทีเดียวค่ะ ส่วนภายในร้านแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างสุดจะเป็นบาร์เครื่องดื่ม ชั้น 2 จะเป็นห้องอาหารสำหรับ Chef’s Table ซึ่งตรงกลางจะมีลักษณะเป็นครัวเปิดโล่ง ล้อมรอบด้วยเคาน์เตอร์ซึ่งจัดเป็นที่รับประทานอาหารให้ได้ชมลีลาการทำอาหารกันแบบใกล้ชิด ส่วนชั้น 3 จะเป็น wine cellar ค่ะ เราชอบบรรยากาศและการตกแต่งของที่นี่มากทีเดียว คือดูเรียบเท่ มีรสนิยม ดู masculine หน่อยๆ แต่ก็อบอุ่นมีชีวิตชีวา และ cozy น่านั่งชิลล์ ไม่ได้หรูหราจนตัวเกร็งหรือฟรุ้งฟริ้งมากจนเกินงาม โดนใจแรงๆเลยล่ะค่ะ

**-ราคา-**

● Degustation Menu : 3,500++ บาท
สำหรับ Chef’s Table ที่นี่นั้นมีเฉพาะมื้อเย็นของทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ และไม่ได้ให้สั่งอาหารแบบ a la carte แต่จะเป็นเซ็ทอาหาร 6 คอร์ส ซึ่งสามารถดูเมนูได้ที่ website ของทางร้าน โดยหลักๆแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูทุกๆ 6 เดือน แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของแต่ละคอร์สก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งบ้าง และเนื่องจากทางร้านต้องมีการจัดเตรียมล่วงหน้า จึงต้องจองโต๊ะไว้ก่อนไปทานค่ะ โดยโทร.จองได้ที่เบอร์ 084-551-5559 และ 02-102-2323 ถ้าใครมีข้อจำกัดเช่นแพ้อาหารประเภทไหน ก็สามารถแจ้งได้ตอนโทร.จองเลยค่ะ

● Wine Pairing : 2,000 ++ บาท
สำหรับคอไวน์ที่อยากมาทานแบบมี wine pairing ก็จ่ายเพิ่มอีก 2,000++บาท เชฟศรานั้นนอกจากจะเป็นเชฟทำอาหารแล้วยังมีดีกรีเป็น Certified Sommelier ด้วย ฉะนั้นฝีไม้ลายมือการจับคู่ไวน์ให้เข้ากับอาหารนี่น่าจะไว้ใจได้ ถ้าสนใจก็น่าลองจัดดูค่ะ

**-เมนู (ก.ค.-ธ.ค. 2558)-**

● Oyster (Addition 180 bht/ Pcs.) – เมนูนี้ไม่รวมอยู่ในเมนูหลัก ถ้าจะสั่งต้องจ่ายเพิ่มต่างหากค่ะ ทราบมาว่าจะเสิร์ฟมาเป็นหอยนางรมสดราดด้วยเจลลี่ Ponzu (ซอสเปรี้ยวพอนซึของญี่ปุ่น) แตงกวา และสาหร่าย sea grapes ซึ่งสำหรับตัวเองขอสารภาพว่าไม่ได้สั่ง เพราะไม่แน่ใจกับปริมาณของอาหารทั้งคอร์สว่ากระเพาะน้อยๆของเราจะรับไหวรึเปล่า เลยไม่อยากตัดกำลังซะตั้งแต่ต้นมื้อน่ะค่ะ แต่ขอบอกเลยว่าถ้าเป็นผู้ชายไปทานแบบท้องว่างๆก็สั่งได้เลยค่ะ น่าจะเอาอยู่แน่ๆ

● Snacks – คอร์สแรกของมื้อนี้จะเป็นเมนูที่อาจจะต่างกันไปในแต่ละวัน คือเป็น daily creation ค่ะ สำหรับวันที่เราไปได้มา 3 จานนี้

จานที่ 1 : หอยหลอดที่ปรุงมาด้วยซอสรสเดียวกับต้มข่า โดยตัว “ซอส”ที่ว่านั้นใช้เทคนิคทาง molecular gastronomy ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนกลมเล็กๆละลายในปาก เสิร์ฟมาบนกระดองรองด้วยน้ำแข็ง จัดว่าทานได้เพลินๆเป็นการเริ่มต้นมื้อแบบเบาๆ
Snack
8 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 2 : Croquettes ไส้ปลาเค็มปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำเสียบไม้ให้ทานง่ายๆ 2 ชิ้น ฟังดูแล้วรสชาติน่าจะแปลกประหลาด แต่ปรากฏว่าชิมดูแล้วเข้าท่าดีเลย ไม่เค็มมากอย่างที่กลัวแต่ปรุงรสมากลมกล่อมดีทีเดียว
Snack
7 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 3 : เป็นคล้ายๆกุ้งซาชิมิที่ปรุงมาด้วยน้ำส้มสายชู เสิร์ฟมาแบบจิ๋วๆคำเดียวหมดพอให้รู้รสค่ะ
Snack
11 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Sakura Ebi – เส้น capellini ลวกมาแบบ al dente กำลังดีเพอร์เฟ็คถูกใจที่สุด ราดซอส seaweed pesto หอมกลิ่นสาหร่าย เพิ่มรสชาติด้วยกุ้งฝอยกรอบๆเต็มจาน ท็อปด้วย sea grapes ช่อสวย จานนี้ชอบมากๆเลยล่ะค่ะ
Sakura Ebi
16 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Bread & Butter – จบจากของว่างจานเล็กจานน้อยแล้วก็ถึงคิวของขนมปังกับเนยที่เป็น complimentary มาตามธรรมเนียมอาหารตะวันตกทั่วไป ซึ่งพอเสิร์ฟปุ๊บเชฟรีบบอกเลยว่าถ้าเป็นผู้หญิงที่ปกติทานได้ไม่มากให้พยายามอย่ากินขนมปังเยอะ เพราะมื้อนี้ยังอีกยาวไกลค่ะ พอชิมดูแล้วรู้เลยว่าทำไมเชฟต้องเตือน คือขนมปังเค้าเลิศมากๆ ด้านนอกกรอบแต่ไม่กระด้าง ด้านในเนื้อนุ่มหนึบตามสไตล์ขนมปังฝรั่ง อุ่นมาร้อนๆทานอร่อยที่สุด เนยที่เสิร์ฟมาก็เนื้อนุ่มเบา โรย sea salt กรุบกรอบไว้ด้านบนเพิ่มกลิ่นรสได้เหมาะเจาะ อร่อยจนเริ่มทานแล้วก็หยุดได้ยากจริงๆ
Bread and Butter
14 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
Bread and Butter
10 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Heirloom Tomato – จานนี้เป็น Ceviche ซึ่งเป็นเมนูปลาดิบที่นิยมกันในแถบละตินอเมริกา ของที่นี่ทำจากปลา hiramasa kingfish ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู (vinegar) ใบโหระพา และมะเขือเทศฝาน รสชาติออกแนวสดชื่นกลมกล่อมดีค่ะ
Heirloom Tomato
6 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Foie -in-Law - เมนู Foie gras สุดครีเอทที่เชฟบอกว่าได้ไอเดียมาจากไข่ลูกเขย จานนี้บอกเลยว่าอร่อยแทบลืมหายใจ ปลื้มปริ่มแบบพีคสุดๆ ...Foie gras ชิ้นอวบหนา ผิวด้านบน sear มาจนกรอบกริ๊บ ด้านในกึ่งสุกกำลังดีเป็นสีชมพู ทั้งสัมผัสที่นุ่มนวลละลายในปาก ทั้งกลิ่นที่หอมอวลไม่มีกลิ่นสาบปนเลยซักนิด ทั้งรสชาติที่กลมกล่อมสมบูรณ์แบบ บ่งบอกว่าใช้ Foie gras เกรดท็อปสุดๆ ..เคียงมาด้วยไอศครีมรสเดียวกับน้ำราดไข่ลูกเขยท็อปด้วยหอมเจียวกรอบๆที่เชฟบอกว่าให้ทานสลับกับ foie gras เป็นการรีเซ็ทลิ้น (ไม่ให้ทานผสมเข้าไปด้วยกันในคำเดียวนะจ๊ะ) รสเปรี้ยวๆหวานๆสดชื่นของไอศครีมกับความ rich ของตับห่านต่างก็เบรครสชาติซึ่งกันและกันไม่ให้เลี่ยนหรือจัดจ้านจนเกินไป ขนมปังขิงกรอบๆที่โรยมาข้างๆก็ทานเคียงไปด้วยกันได้ดี ..ทานไปแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่ากับเมนู Foie gras นี่ ฟินกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว..เลิฟเลย...!
Foie-in-law
8 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Skate Wing – โชว์ฝีมือเชฟจาก Cordon Bleu โดยนำเนื้อส่วนปีกของปลากระเบนที่ชำแหละได้ยากนี้มาปรุงด้วยน้ำส้ม vinegar ทานคู่กับดอกกะหล่ำดองและใบ nasturtium ..ทานแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติที่สดชื่นและความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อปลากระเบนอร่อยดีงามที่สุด เป็นอีกจานที่ฟินมากกก...
Skate Wing
23 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Anjou Pigeon – เนื้อนกพิราบปรุงด้วย Jerusalem Artichoke และ Black Truffle ..เมนูนี้ถ้าใครอยากเพิ่ม truffle ก็เพิ่มเงินอีก 750 บาทได้จ้ะ ในส่วนของเนื้อนกพิราบจะมีส่วนขาที่ทอดแล้วพันแป้ง kaitifi ซึ่งเป็น pastry ของทางตะวันออกกลาง ลักษณะเป็นเส้นบางๆทอดกรอบมาหน้าตาคล้ายมันรังนกแต่เนื้อละเอียดกว่าและให้ความกรอบที่เบาร่วนละลายในปาก อร่อยมากๆ ..นอกจากนี้ยังมีส่วนเนื้ออกที่ทำมาเป็นสเต็กแบบ medium กำลังดี๊ดี เนื้อเป็นสีชมพูชุ่มฉ่ำ รสสัมผัสนุ่มนวล เป็นอีกจานที่อร่อยระเบิดระเบ้อ สูสีกับจาน Foie gras แบบไม่มีใครยอมใคร ..ปลื้มปริ่มแทบลอยได้
Anjou Pigeon
14 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Artisanal Cheese (Addition 400 bht) – เมนูเสริมที่ถ้าจะสั่งต้องจ่ายเพิ่มต่างหากอีก 400 บาท เป็นชีสหลากชนิดของ Jean Yves Bodier ผู้ได้ชื่อว่าเป็น butter master ชื่อดังของฝรั่งเศส อันที่จริง cheese lover อย่างเราอยากสั่งมาลองมาก ..แต่ ณ.จุดนี้กระเพาะเต็มแทบล้นแล้ว เอาเป็นว่าถ้าใครความจุเพียงพอก็น่าลองจัดดูนะคะ

● Nom Yen – ของหวานชื่อน่ารักนี้คือไอศกรีมรสนมที่ท็อปมาด้วย sherbet รส strawberry yuzu เปรี้ยวๆ เสิร์ฟมาในขนาดจิ๋วๆแต่รสชาตินั้นยิ่งใหญ่ค่ะ ทั้งหอมและสดชื่นดีจริงๆ
Nom Yen
10 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Palm Sugar, Black Rice, Passion Fruit, Coconut –ของหวานเมนูนี้เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากขนมไทยๆอย่างข้าวหลามนี่เอง ประกอบไปด้วยไอศกรีมรสข้าวเหนียว รสเสาวรส และแป้งข้าวเหนียวดำผสมกะทิหวานมัน จัดว่าอร่อยใช้ได้ แต่ส่วนตัวเราชอบเจ้า Nom Yen มากกว่าน่ะค่ะ
Palm Sugar, Black Rice, Passion Fruit, Coconut
14 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ชาร้อน
7 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ขนมเสิร์ฟมากับน้ำชา
9 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยการสั่งชาร้อนๆมาจิบ มีขนมชุดเล็กๆเคียงมาให้ทานแกล้มกัน เป็นมื้อที่อิ่มอร่อยประทับใจที่สุดมื้อหนึ่งเลยทีเดียว ..แม้ว่าถ้าแยกมาดูกันจานต่อจานแล้วอาจจะไม่ได้เลิศที่สุดทุกเมนู แต่เมื่อมองภาพรวมของมื้อแล้วทุกอย่างประกอบกันได้เหมาะเจาะลงตัวสมบูรณ์แบบถูกใจจนหาข้อติไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอร์สที่มีการเสริมรส-ตัดรสกันอย่างเหมาะเจาะพอดีจนสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยไหลลื่นตั้งแต่จานแรกจนจานสุดท้าย ความพิถีพิถันต่อการเตรียมอาหารทุกจานทั้งเรื่องของการสร้างสรรค์เมนู เทคนิควิธีทำ ไปจนถึงการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การบริการที่สุภาพและเป็นมืออาชีพ บรรยากาศของร้านที่แสนโดนใจ กลายเป็นมื้อที่ดีงามปลื้มปริ่มแบบสุดๆ ...เมื่อนึกถึงว่าถ้าเทียบกับร้านประเภท Fine dining ในระดับราคาพอๆกันแล้ว ชื่อเสียงของ Aston อาจจะยังไม่ใหญ่เท่าอีกหลายๆร้านในแง่ของการได้รับรางวัลหรือจัดอันดับจากสถาบันต่างๆ แต่ส่วนตัวแล้วกับบางร้านที่ชื่อชั้นเหนือกว่าพอลองแล้วเรากลับประทับใจไม่เท่าที่นี่ เลยทำให้รู้สึกเหมือนกันว่าจะฟิน-ไม่ฟิน...ปลื้ม-ไม่ปลื้ม สุดท้ายแล้วมันก็ลิ้นใครลิ้นมันจริงอย่างที่เค้าว่ากันนั่นล่ะค่ะ สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การทานอาหารแบบ Chef’s Table ดูบ้างก็แนะนำว่าน่ามาลองค่ะ
 
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2015-10-26
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿3500 (มื้อเย็น)
เมนูแนะนำ
Snack
Snack
Sakura Ebi
Bread and Butter
Bread and Butter
Heirloom Tomato
Foie-in-law
Skate Wing
Anjou Pigeon
Nom Yen
Palm Sugar, Black Rice, Passion Fruit, Coconut
ชาร้อน
  • Skate WIng