อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2016-06-10
123 วิว
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินอาหารฝรั่งเศสกันบ้างนะคะ เป็นการแลกเวาเชอร์จากรีวิวอีกเช่นเคยค่า โดยเป็นห้องอาหารภายในโรงแรม Vie Hotel นั่นเองค่ะสำหรับพิกัดของโรงแรม VIE ก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟบีทีเอสสถานีราชเทวีเลยนะคะ วันนั้นเราไม่ได้เอารถไปค่ะ ตรงทางลงก็จะเห็นตัวรร.อยู่ไม่ไกลแล้วหละนะคะพอเข้าไปปุ๊บ ก็จะเจอส่วนของ VIE Lounge ก่อนเลยค่ะ เราไปถึงก่อนเวลา (เค้านัดไว้ 18.30 น.) ก็เลยนั่งรอที่เล้าจน์น่ะแหละค่ะ ส่วนถ้าหันไปทางซ้ายจะเป็นส่วนของล็อบบี้และเคาน์เตอร์รีเซพชั่นนะคะพอใกล้เวลาหกโมงครึ่ง พนักงานก็มาบอกเราว่าเรียนเชิญด้านบน (ต้องบอกเลยว่า ประทับใจตั้งแต่ Doorman ของที่นี่เลยค่ะ บริการดีมากๆ)ห้องอาหาร La
สำหรับพิกัดของโรงแรม VIE ก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟบีทีเอสสถานีราชเทวีเลยนะคะ วันนั้นเราไม่ได้เอารถไปค่ะ ตรงทางลงก็จะเห็นตัวรร.อยู่ไม่ไกลแล้วหละนะคะ พอเข้าไปปุ๊บ ก็จะเจอส่วนของ VIE Lounge ก่อนเลยค่ะ เราไปถึงก่อนเวลา (เค้านัดไว้ 18.30 น.) ก็เลยนั่งรอที่เล้าจน์น่ะแหละค่ะ ส่วนถ้าหันไปทางซ้ายจะเป็นส่วนของล็อบบี้และเคาน์เตอร์รีเซพชั่นนะคะ พอใกล้เวลาหกโมงครึ่ง พนักงานก็มาบอกเราว่าเรียนเชิญด้านบน (ต้องบอกเลยว่า ประทับใจตั้งแต่ Doorman ของที่นี่เลยค่ะ บริการดีมากๆ)
ห้องอาหาร La Vie จะอยู่ที่ชั้น 11 ของโรงแรมนะคะ ไปถึงก็ขอเก็บภาพบรรยากาศของห้องอาหารก่อนเลยค่ะ สวยอ้ะ ชอบจัง ถ้ามีใครมาด้วยก็คงดีกว่านี้เนาะ (เพ้อแล้วป้า กลับมาค่ะกลับมา) หลังจากแจ้งชื่อกับพนักงานแล้ว พนักงานก็พาไปที่โต๊ะที่จองไว้ค่ะ ตอนแรกพนักงานวางเมนูอีกเมนูหนึ่งที่เป็นของ Bangkok Restaurant Week นะคะ (รูปซ้ายมือ) แต่เราไม่ได้มี voucher ตัวนั้นค่ะ เป็นอีกตัวหนึ่งแหละ พนักงานเลยนำเมนูอีกตัวมาเปลี่ยนให้ค่ะ (รูปทางขวามือ) ถ้าดูจะเห็นว่าของเรามีเนื้อวัวอยู่นะคะ แต่ตัวบางกอกฯ จะไม่มีค่ะ voucher ไม่ได้รวมเครื่องดื่มนะคะ เราสั่งเป็น Perrier มาค่ะ โดยพนักงานนำมะนาวมาให้ด้วย (น่ารักมาก) ส่วนตัวบิสกิตแท่งยาวนี่เป็น complimentary ของที่นี่เช่นกันค่ะ ตัวบิสกินมีรสเค็มแฝงนิดหน่อยค่ะ กรอบกำลังดี ดิปมะเขือเทศหอม กินแล้วสดชื่นและเรียกน้ำย่อยได้ดีค่ะ ส่วนดิปที่เป็นแองโชวี่ รสก็เค็มแบบที่มันควรเป็นแหละค่ะ แต่มีกลิ่นหอมของน้ำมันมะกอกเพิ่มมาด้วยนะคะ จากนั้นพนักงานก็นำขนมปังมาบริการค่ะ มีสามแบบให้เลือก เราถามน้องว่าอันไหนนิยมสุด (เพลย์เซฟสุดๆ ฮ่ะ แฮ่...) น้องแนะนำซอฟท์โรลล์ค่ะ ก็สั่งไปตามนั้นนะฮับ ตัวซอฟท์โรลล์นี่ ขอบอกว่า สมควรแล้วค่ะที่พนักงานแนะนำ โดนเรามากๆ นิ่ม หอม อุ่นกำลังกิน หวานนิดๆ อร่อยยยย ยิ่งป้ายเนย (แน่นอนว่าเนยสดนะฮับ) ยิ่งเพิ่มความอร่อยค่ะ เป็นการเปิดมื้อที่ดีงามค่ะ
Amuse-Bouche อะมูส บุชนะคะ เป็นแซลมอนทาทาร์ สดเลยค่ะ มีกลิ่นและรสของพริกไทยด้วย รสเค็มและเปรี้ยวมาทีละคำค่ะ รสจะแฝงเบาๆ นะคะ ไม่ได้โดดมาก ต่อไปค่ะกับสตาร์ตเตอร์ - ฟัวร์กราส์ ชื่อเมนูเต็มๆ ในเวาเชอร์คือ ตับห่านฝรั่งเศสราดซอสราสเบอร์รี่ เสิร์ฟพร้อมสลัดผักร็อคเก็ต
(เวาเชอร์ให้เลือกระหว่างเมนูนี้ หรือ ซุปหน่อไม้ฝรั่งกับเห็ดทรัฟเฟิล หรือ ล็อบสเตอร์ บิสค์ ร็อคล็อบสเตอร์) ตัวนี้ข้างนอกกรอบแบบผิวๆ ข้างในยังนุ่มหวานอยู่ สลัดกับน้ำราดรสราสเบอร์รี่อร่อยลงตัวมากค่ะ เป็นการกินฟัวร์กราส์ครั้งหนึ่งที่เราประทับใจนะคะ
จานหลักค่ะ สเต็กเนื้อวัวริบอายส์สายพันธุ์ออสเตรเลียนเลี้ยงด้วยธัญพืช 150 วันเสิร์ฟคู่ทรัฟเฟิลทูเร ราดด้วยซอสเนื้อ
(มีให้เลือกระหว่างเมนูนี้ หรือ ปลาหิมะเสิร์ฟพร้อมเห็ดต้ม ผัดผักโขมอ่อนและซอสปลาวาคูเล หรือ เนื้อแกะเสิร์ฟพร้อมมะเขือออเบอร์จีนย่าง ผักอ่อนและกระเทียมกงฟี่ราดซอสโรสแมรี่) ตัวนี้เราสั่งมีเดียมแรร์นะคะ แต่ออกมากึ่งๆ มีเดียมน่ะ
ตัวนี้นุ่มแต่ยังมีเทกซเจอร์ให้เคี้ยว หวานเลือด รสเกลือและพริกไทโรยมมาเบาๆ ที่ด้านขวาจะเยอะกว่าด้านซ้ายหน่อย แต่อร่อยดีอยู่ค่ะ
ส่วนตัวมันบดที่แนมมาข้างๆ หอมเนย และกลิ่นผักฝรั่งบางอย่าง (นึกชื่อไม่ออกซะงั้น) กรุ่นขึ้นจมูกมาก เทกซเจอร์หนืดๆ กำลังดีค่ะ
ต่อไปเป็นขนมหวานค่ะ เป็นช็อกโกแลตฟองดองเสิร์ฟคู่ไอศกรีมวานิลาค่ะ
(ของหวานมีให้เลือกระหว่างเมนูนี้ หรือ ดาร์คแอนด์ไวท์ช็อกโกแลตมิลเฟย หรือ เอสเปรสโซสไลซ์กับไอศกรีมวานิลาค่ะ) ตัวเปลือกกรอบ ข้างในลาวาแบบจัดเต็มมากค่ะ และตัวช็อกโกแลตลาวาก็เป็นช็อกดาร์ค (แต่ไม่ดาร์คร้อยนะคะ เพราะมีรสหวานเจือด้วยค่ะ) ค่อนข้างเข้มข้น ไอศกรีม..ค่อนข้างธรรมดาค่ะ ตัวเนื้อไอศกรีมเหมือนมีเม็ดวานิลาหรืออะไรบางอย่างแทรกมาด้วยนะคะ
ต่อไปเป็นเซอร์ไพรซ์จากทางเชฟนะคะ คอมพลิเมนทารีค่ะ เป็นมาการองกับคานาเล่ (Canele) ซึ่งขอบอกว่าเป็นการกินคานาเล่ครั้งแรกของเรานะคะ ฮาา เปลือกของคานาเล่จะเป็นคาราเมลหนาและเกรียมหน่อยนะคะ (ให้อารมณ์เหมือนบ้าบิ่นนิดๆ ค่ะ แหะๆ) แต่อันนี้เราว่าเกรียมไปนิ้ด ข้างในเป็นไส้คัสตาร์ดนุ่มๆค่ะ อย่างไรก็ตาม การเกรียมของเปลือกทำให้ส่งกลิ่นหอม ไส้คัสตาร์ดหวานอ่อนๆ รสละมุนๆ ค่ะ ส่วนตัวมาการอง เปลือกไม่ได้กรอบมาก ออกแนวเทกซเจอร์เหนียวนิดๆ ให้เคี้ยวเล่นกับฟันด้วยซ้ำ อร่อยกับคนละแบบที่เราชอบของดาราเทวี แต่ชอบรสชาติของไส้มาการองที่นี่ค่ะ มีความเป็นถั่วที่แฝงเอาไว้และจะเผยตัวในตอนท้ายนะคะ
วันนั้นทั้งหมดนี้จ่ายค่าเครื่องดื่มเพิ่มไปอย่างเดียวร้อยกว่าบาท ทิปพนักงานหญิงที่ชื่อน้องปุ้ย (ที่ดูแลดีมาก ให้ข้อมูลดี บริการดี๊ดี) ไปอีกหน่อยด้วยค่ะ
(เวาเชอร์เดิมที่ขายที่แอพแห่งหนึ่งราคาอยู่ที่ 699++ นะคะ ซึ่งเราว่าคุ้มมากอ้ะ แต่ไม่เห็นมีขายแล้วนะคะ สำหรับดีลนี้อ้ะ เสียดายมากๆ) ถ้าใครอยากฟังเปียโนเพราะๆ จะเริ่มมาเล่นตอนราวๆ ทุ่มครึ่งนะคะ
หลังจากอิ่มด้วยความประทับใจแล้ว ก็ลงมาด้านล่างให้พนักงานเรียกแท็กซี่ให้ค่ะ ซึ่งพอได้แท็กซี่ พนักงานก็ยื่นทิคเก็ตตัวนี้ให้ด้วย อืมม์..ดีจัง บริการดีอ้ะ
สรุปแล้วนะคะ
สำหรับการรับประทานอาหารครั้งแรกกับที่นี่ ประทับใจหลายอย่างเลยค่ะ บรรยากาศ บริการ รสชาติของอาหาร เรียกว่า เพอร์เฟ็คก็ได้นะคะ ค่อนข้างประทับใจจนคิดว่าถ้ามีดีลอีก จะซื้อแหละ แหะๆ เป็นอีกที่หนึ่งที่ถ้าพาคนสำคัญไปกิน ก็น่าจะสร้างความประทับใจให้ได้ไม่ยากเลยค่ะ
โพสต์