วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2016-07-15
81 วิว
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินเบอร์เกอร์กันบ้างนะคะ โดยคราวนี้เป็นเบอร์เกอร์สัญชาติฮาวายค่ะ กับ Teddy's Bigger Burger สาขาเกตเวย์เอกมัยนั่นเองฮ้าบบบสำหรับพิกัดของร้านจะอยู่ที่ชั้น G ของเกตเวย์เอกมัยนะคะ เป็นชั้นเดียวกับศูนย์อาหารและแมกซ์แวลูค่ะ ร้านจะมีทั้งโซนด้านนอกและด้านในตามภาพเลยนะคะการตกแต่งภายในร้านค่ะ ให้บรรยากาศความรู้สึกฮาวายมั้ยคะ อิอิ นั่นก็เพราะเจ้าของร้านเป็นคนฮาวายนั่นเองหละค่า เป็นผู้ชายสองคนคือ คุณ Ted และคุณ Rich ที่อยากมีเบอร์เกอร์ดีๆ ไว้กิน แล้วไม่สามารถหาซื้อได้เลยเปิดร้านซะเองค่ะ ซึ่งก็เปิดครั้งแรกที่ฮอนโนลูลู เมื่อปี 1998 นะคะ และปัจจุบันก็มีทั้งหมด 8 สาขาทั่วโลกค่ะที่นี่มีอ่างให้ล้างมือด้วยค่ะ ซึ่งควรนะคะ
สำหรับพิกัดของร้านจะอยู่ที่ชั้น G ของเกตเวย์เอกมัยนะคะ เป็นชั้นเดียวกับศูนย์อาหารและแมกซ์แวลูค่ะ ร้านจะมีทั้งโซนด้านนอกและด้านในตามภาพเลยนะคะ
การตกแต่งภายในร้านค่ะ ให้บรรยากาศความรู้สึกฮาวายมั้ยคะ อิอิ นั่นก็เพราะเจ้าของร้านเป็นคนฮาวายนั่นเองหละค่า เป็นผู้ชายสองคนคือ คุณ Ted และคุณ Rich ที่อยากมีเบอร์เกอร์ดีๆ ไว้กิน แล้วไม่สามารถหาซื้อได้เลยเปิดร้านซะเองค่ะ ซึ่งก็เปิดครั้งแรกที่ฮอนโนลูลู เมื่อปี 1998 นะคะ และปัจจุบันก็มีทั้งหมด 8 สาขาทั่วโลกค่ะ
ที่นี่มีอ่างให้ล้างมือด้วยค่ะ ซึ่งควรนะคะ เพราะใช้มือกินจะฟินกว่าสำหรับหลายๆ เมนู 555 และแต่ละโต๊ะก็จะมีปุ่มสำหรับกดเรียกพนักงานด้วยค่ะ
สำหรับโปรโมชั่นในช่วงนี้นะคะ เช็คอินก็จะได้รับพันนาคอตต้าสับปะรดฟรี 1 ถ้วยค่ะ รวมทั้งหากกินครบ 1500 บาทก็จะได้เป็นสมาชิกฟรีเลยนะคะ
ลองมาเล็งๆ เมนูของร้านนี้กันดีกว่าค่ะ อิอิสำหรับการกินเบอร์เกอร์ที่นี่นะคะ ที่เราชอบและคิดว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านนี้เลยก็คือ การ Make your own Burger ค่ะ ซึ่งก็จะมีขั้นตอนตามนี้นะคะ
1. เลือกขนาดของเนื้อก่อนค่ะ (เนื้อที่นี่เป็นแบบ Groud Chuck และเก็บรักษาเนื้อแบบชิลล์ไม่ได้แช่แข็งนะคะ) ซึ่งจะมีด้วยกันสามขนาดคือ 5 7 หรือ 9 ออนซ์ ซึ่งตัวห้าออนซ์จะเป็นขนาดปกติ ไม่ต้องเพิ่มเงินไม่ว่าจะสั่งเบอร์เกอร์เมนูไหนนะคะ แต่ถ้าสั่ง 7 ออนซ์จะต้องเพิ่ม 60 บาท และถ้าเลือก 9 ออนซ์ก็จะเพิ่มเงินอีก 100 บาทค่ะ โดยสามารถเลือกความสุกได้ตามที่ต้องการนะคะ
2. จากนั้นเลือกว่าจะเป็นเบอร์เกอร์อะไรนะคะ ซึ่งสำหรับคนรักเนื้อก็จะมีให้เลือกระหว่าง Teddy's Original Burger / Cheese Burger / Teri Burger / Monster Double Burger ค่ะ และอีกสี่เมนูสำหรับคนสายไม่กินเนื้อนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Crispy Chicken Burger / Grilled Chicken Burger / Fish Fillet Burger / Bacon Burger ค่ะ
นอกจากนั้นก็ยังมีเมนู Hawaiian Burger / Kailua Burger / Bacado Burger / Western Burger
3. เลือกการแอดออนหรือท็อปปิ้งอย่างอื่นเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งแต่ละอย่างก็ราคาไม่เท่ากันนะคะ มีตั้งแต่อย่างละ 20 บาท (พวกซอสต่างๆ มีให้เลือก 6 ชนิด) จนถึง 45 บาทหละค่ะ รวมทั้งไซด์ดิชอื่นๆ อีกตามภาพเลยนะฮับ
สำหรับสายดื่ม ก็มีเบียร์จำหน่ายให้ ยี่ห้อก็ตามภาพเลยนะคะ
และด้วยความที่เป็นงานเชิญ ทางร้านก็เลยอนุญาตให้เข้าไปถ่ายในครัวได้ค่ะ (หรือใครจะดูจากด้านนอกก็ได้นะคะ เป็นกระจกใสตามภาพเลย) ซึ่งหินถ่านที่ใช้ในการย่างเห็นบอกว่าเป็นหินลาวาหรือหินภูเขาไฟนี่แหละค่ะ
วันนั้นไปกันสี่คน สามสาวสั่งนอนแอลกอฮอล์ ขณะที่หนึ่งหนุ่มสั่งเบียร์ไปตามภาพนะคะ ก็จะเป็น Deep Ocean (สีฟ้า-รสบลูฮาวาย) / Aloha Hawaii (สีเหลือง-รสส้ม) / Volcano (สีแดง - รสสตรอเบอร์รี่) แก้วละ 95 บาท+ (service charge 10%) ค่ะ
มามะ กินเบอร์เกอร์กันซะทีดีกว่าเนาะเริ่มด้วย Teddy Original Burger ก่อนเลยค่ะ เป็นเนื้อหมูนะคะ
ไล่มาจากด้านล่างสุดจะเป็นขนมปัง (ของที่นี่เป็นโปเตโต้บัน ซึ่งดีงามมากค่ะ ไม่เลี่ยน หวานอ่อนๆ และอร่อยยยย) ตามด้วยเนื้อหมู สับปะรด มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ แตงกวาดอง และผักกาดหอม ราดด้วยซอสเทอริยากิ และสเปเชี่ยลซอสแค่เมนูแรกก็อร่อยแล้วค่ะ ขนาดไม่ใช่เนื้อนะ ไม่มัน ไม่เลี่ยนเลยค่ะ (ทุกชิ้นเราให้ทางร้านแบ่งเป็นสี่ส่วน เพื่อทุกคนจะได้กินกันได้ครบทุกคนค่ะ) กินแล้วรู้สึกถึงความมีคุณภาพของวัตถุดิบ ไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ดแต่เป็นเฟรชฟู้ดค่ะ อร่อยดีงามนะคะ
สั่งไซด์ดิชกันมาด้วยค่ะ กับไก่นิวออร์ลีนส์วิงส์ 110 บาท+ (Service charge) ค่ะ โอเคนะคะ กินแกล้มกับเบอร์เกอร์ได้ แต่สำหรับเรา เบอร์เกอร์ที่นี่เด่นกว่าค่ะ แฮ่...
ไฟเบอร์กันด้วยซีซาร์สลัด 160 บาท+ (เซอร์ซิสชาร์จ) ค่ะ เอาไว้แก้เลี่ยนจากเนื้อสัตว์ล้วนๆ นะคะ เราเป็นคนติดกินผักแหละ ถ้ากินเนื้อสัตว์อย่างเดียวจะคาวปากง่ะนะ
อีกหนึ่งเมนูเบอร์เกอร์ที่ได้ลองกันวันนั้นค่ะ กับ Western Burger เป็นหนึ่งในเมนูขายดีของทางร้านนะคะ
เมนูนี้มีเนื้อ เบคอน เชดด้าชีส ซอสบาร์บีคิว ซึ่งสั่งเนื้อกันมาแบบมีเดียมแรร์นะคะตัวขนมปังเบอร์เกอร์ยังอร่อยมากเหมือนเดิม เนื้อจุ๊ยซี่มากๆ และไม่มันเลี่ยนเลยค่ะ เข้ากับซอสที่ช่วยส่งรสได้ดี อร่อยค่ะ ชอบ
ต่อไปเป็น Monster Double Burger ค่ะ
พิเศษตรงที่มีเนื้อ 2 ชิ้น (ก็บอกแล้วว่าดับเบิ้ล แฮ่...) มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ แตงกวาดอง และผักกาดหอม ราดด้วยสเปเชี่ยลซอสนะคะเนื้อยังคงสั่งมีเดียมแรร์ แต่ตัวนี้มามีเดียมค่ะ แต่ความจุ๊ยซี่และความหวานของเนื้อก็ยังคงมีอยู่ค่ะ ตัวซอสสเปเชียลก็ออกแนวครีมมี่แต่มีรสชาติที่ทำให้ไม่เลี่ยนนะคะ อร่อยค่ะ
ต่อกันค่ะกับเมนูไซด์ดิชอีกหนึ่งเมนู Cheezzee Fries 75 บาท+(เซอร์วิสชาร์จ)
ให้ชีสมาเยอะเยิ้มอย่างที่เห็นค่ะ ชอบพรีเซนต์เตชั่นของเมนูนี้ที่ใส่มาในกระทะนะคะ ตัวมันฝรั่งดีอยู่ค่ะ ชิ้นหนา แต่พอเย็นแล้วรสชาติจะดร็อปลงนะฮับต่อไปเป็นเมนูที่เราเลือกบ้างค่ะ
กับ Teddy's Original Burger ค่ะ แต่เราสั่งเพิ่มพริกดอง สไปซี่ซอส และสับปะรดนะคะ
ขอบอกว่ามันอร่อยมาก เราชอบรสชาติการผสมระหว่าง สับปะรด พริกดองและสไปซี่ซอสของที่นี่มากเลย เปรี้ยวเผ็ดแซมมากำลังดีค่ะ ทำให้เบอร์เกอร์มีรสชาติมากๆ เลย อร่อยหละ ช้อบ ชอบ ปลาบปลื้มค่ะต่อไปเป็นไส้กรอกรวมราคา 130 บาท+ นะคะ
เราชิมแค่อันเดียวคือตัวชีสนะคะ อร่อยดีค่ะ กรุบเด้ง แป้งไม่เยอะค่ะโดยรวมของชุดแรกที่สั่งมาค่ะ แต่ไฮไลท์สุด (ของเพื่อนผู้ดื่มเบียร์) ยังไม่มานะคะ หุๆๆ
เมนูไฮไลท์ของวันนี้ค่ะกับ Monster Double Burger แบบจัดเต็ม
ประกอบด้วยเนื้อ 2 ชิ้นขนาด 7 ออนซ์ และเพิ่มอเมริกันชีส เบคอน ไข่ดาว ผักร็อคเก็ต อโวคาโด ซอสวาซาบิ และสไปซี่ซอสเยิ้ม ๆ ลาว้าลาวาแบบที่เห็นนะคะ แบบว่า...กินหนึ่งชิ้นน่าจะอิ่มได้สามมื้อน่ะค่ะ ฮาาาาเราขอแบ่งแอบชิมนิดหนึ่ง แบบ..เต็มเกิ๊น เต็มปากเต็มคำเกิน ต้องแยกกันกินง่ะค่ะ สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง (ตรงไหนคะป้า) อย่างเรา เราว่ามันเยอะไปนิดค่ะ แต่สุภาพบุรุษท่านใดที่ชอบจัดเต็มจัดหนัก จัดไปค่ะ ชิ้นนี้เจ็ดร้อยกว่าบาทได้นะคะ ถ้าจำไม่ผิด
ก่อนจะไปปิดท้ายด้วยอะไรหวานๆ (ที่ไม่ใช่ของหวาน เพราะวันนั้นของหวานหมดง่ะ) ให้ดูซอสทั้งหกชนิดที่มีให้เลือกก่อนค่ะ หน้าตาก็ประมาณนี้นะฮับบบ
เท่าที่กินวันนั้น เราชอบสไปซี่ซอส สเปเชียล และเทริยากิค่ะอีกหนึ่งเมนูประจำที่ร้านเบอร์เกอร์มักจะมีนะคะ นั่นก็คือมิลค์เชคนั่นเองฮับ (ไม่รู้มากินคู่กันได้ไงเนาะ อิ่มตายพอดี 555)
วันนั้นสั่งกันมาสี่รสชาติค่ะ Chocolate / Coffee / Strawberry / Vanilla Shake
เราชอบสตรอเบอรี่นะคะ หอม หวานอมเปรี้ยว กาแฟก็อร่อยค่ะ ช็อกโกแลตก็โออยู่ค่ะ ชอบวานิลาน้อยสุด อยากให้หอมและเข้มข้นกว่านี้อีกหน่อยค่ะปิดท้ายกันด้วยพานาคอตต้าที่เป็นโปรฯ เช็คอินของทางร้าน กับรายละเอียดเรื่องการจอดรถของที่นี่นะคะ ถ้าใครจะประทับตรา ก็ขึ้นไปจากชั้นนี้อีกหนึ่งชั้น เลี้ยวไปทางที่จะไปห้องน้ำ จะมีเคาน์เตอร์ให้สแกนอยู่ค่ะ
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ
เป็นเบอร์เกอร์ในไทยที่เรากินแล้วชอบที่สุดค่ะ ไม่เลี่ยน ไม่รู้สึกว่ากินอาหารจั๊งค์ที่มีความมันแต่อย่างใด ขนมปังดี เนื้อดีในแบบเฮลตี้ มีความจุ๊ยซี่ และชอบที่เราสามารถเลือกเบอร์เกอร์และท็อปปิ้งหรือแอดออนได้อีกหลายเมนูเข้าไปนะคะ ทำให้เป็นการกินเบอร์เกอร์อีกมื้อที่มีความสุขมาก ไม่เลี่ยนเลย (แต่อิ่ม) กินเพลินมากค่ะ
โพสต์
