7
2
2
ระดับ4
Ippudo  เป็นร้านราเมงที่มีต้นกำเนิดมาจาก Hakata (เมือง Fukuoka) บนเกาะ Kyushu  โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1985   และก็ได้กลายเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นเรื่อยมา  สมกับชื่อของร้านซึ่งมีความหมายว่า single+wind+hall  (เทียบกับสำนวนไทยก็ต้องบอกว่าเป็นคลื่นลูกใหม่) ที่ช่วยปัดเป่าภาวะถดถอยของธุรกิจราเมงใน Fukuoka ณ.ช่วงเวลานั้น  อีกทั้งยังขยับขยายสาขาราวกับจะพัดพาเอารสชาติความอร่อยของ Hakata Ramen ให้ขจรไกลไปยังประเทศต่างๆอีกด้วย  ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีร้าน Ippudo อยู่กว่า 150 สาขาในเมืองใหญ่ของกว่า 13 ประเทศ อาทิเช่น New York, Hong Kong, Sydney, London, Paris, Singapore…ฯล
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
Ippudo  เป็นร้านราเมงที่มีต้นกำเนิดมาจาก Hakata (เมือง Fukuoka) บนเกาะ Kyushu  โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1985   และก็ได้กลายเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นเรื่อยมา  สมกับชื่อของร้านซึ่งมีความหมายว่า single+wind+hall  (เทียบกับสำนวนไทยก็ต้องบอกว่าเป็นคลื่นลูกใหม่) ที่ช่วยปัดเป่าภาวะถดถอยของธุรกิจราเมงใน Fukuoka ณ.ช่วงเวลานั้น  อีกทั้งยังขยับขยายสาขาราวกับจะพัดพาเอารสชาติความอร่อยของ Hakata Ramen ให้ขจรไกลไปยังประเทศต่างๆอีกด้วย  ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีร้าน Ippudo อยู่กว่า 150 สาขาในเมืองใหญ่ของกว่า 13 ประเทศ อาทิเช่น New York, Hong Kong, Sydney, London, Paris, Singapore…ฯลฯ  ส่วนในกรุงเทพมหานครของเรานี้ก็มีอยู่ถึง 5 สาขาด้วยกัน คือที่ Central Embassy, Emporium, Central ปิ่นเกล้า, Silom Complex และ Terminal 21  ...โดยครั้งนี้เรามาลองที่สาขา Central Embassy นี่เองค่ะ
63 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์

74 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์

69 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


****-Profile-****

ผู้ก่อตั้ง  Ippudo ขึ้นก็คือเชฟ Shigemi Kawahara – เจ้าของตำแหน่ง Ramen King ประจำปี ค.ศ. 2005 และผู้ชนะเลิศการแข่งขันในรายการ TV Champion Ramen Chef ถึง 3 สมัยซ้อนในช่วงปี ค.ศ. 1995-1998 จนได้รับการบันทึกชื่อไว้ใน The Ramen Hall of Fame  เลยทีเดียว

...ด้วยวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ตั้งไว้ว่า  “คิดค้น พัฒนาอย่างต่อเนื่องแต่คงความเป็น Ippudo” (To continuously innovate to remain true) – ราเมงของ Ippudo จึงมุ่งเน้นที่การใช้วัตถุดิบสดใหม่คุณภาพดี ปรุงด้วยขั้นตอนพิถีพิถันตามแบบฉบับราเมงญี่ปุ่นแท้ๆ  แต่ก็ไม่ลืมที่จะคิดค้นพัฒนาสูตรอาหารเพื่อนำเสนอรสชาติใหม่ๆตลอดเวลา ...และหลายๆเมนูที่เราได้ลองไปในครั้งนี้ก็สะท้อนแนวคิดดังกล่าวออกมาได้อย่างชัดเจนค่ะ

****-เมนูที่ได้ลอง-****

[The Ramen]

ราเมงสไตล์ของ Ippudo นั้นเป็น Hakata Ramen   มีความโดดเด่นที่น้ำซุปกระดูกหมู (Tonkotsu)   ซึ่งทางร้านได้นำกระดูกจากส่วนต่างๆของหมูมาเคี่ยวเป็นเวลากว่า 15 ชั่วโมง   จนได้ออกมาเป็นน้ำซุปสีขาวครีมนวล มีรสชาติกลมกล่อม และปรับระดับความเข้มข้นให้เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคในประเทศต่างๆทั่วโลก  ส่วนเส้นราเมงที่ใช้นั้นมีทั้งแบบเส้นตรงเรียวบางและเส้นหยักเพื่อให้เข้ากับรสชาติของแต่ละเมนู โดยเป็นเส้นที่ทางร้านนวดเองด้วยมือแบบวันต่อวัน การันตีทั้งความเหนียวนุ่มและสดใหม่จากฝีมือของทีมเชฟที่ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับมาจากเชฟ Shigemi Kawahara เองเลยทีเดียว  นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกระดับความนุ่มของการลวกเส้นได้ถึง 4 ระดับคือ Soft / Normal / Hard / Very Hard ซึ่งส่วนตัวเราชอบแบบ Hard เพราะรู้สึกว่ามีความสู้ฟันแบบ Al Dente กำลังดี เคี้ยวสนุก ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไปน่ะค่ะ

● Shiromaru Motoaji  (ราคา S 150 บาท / R 200 บาท) – Tonkotsu Ramen ชามขาวกับน้ำซุปสูตร Original ของทางร้าน ซึ่งเป็นสไตล์ของ Hakata Ramen แบบดั้งเดิม  น้ำซุปหอมกลมกล่อมเข้มข้นกำลังดี เส้นราเมงแบบเส้นตรงเรียวบางเป็นพิเศษ ใส่หมูชาชูที่ทำจากเนื้อหมูส่วนไหล่ซึ่งติดมันน้อย เสริมรสด้วยถั่วงอก เห็ดหูหนูคิคุราเกะ และต้นหอม  บดกระเทียมสดใส่เข้าไปอีกหน่อยนี่คืออร่อยเป๊ะเว่อร์ ...เมนูนี้เราติดใจมาตั้งแต่ครั้งที่ได้ไปลองที่ญี่ปุ่น  กลับมาลองที่สาขาในกรุงเทพฯก็ยังรักอยู่ เรียกว่าเป็นเมนูโปรดเลยล่ะค่ะ
Shiromaru Motoaji
฿150
84 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


● Akamaru Shinaji (ราคา S 160 บาท / R 220 บาท) – ราเมงชามแดงที่ใช้น้ำซุป Tonkotsu เช่นเดียวกับเมนูที่แล้ว แต่เพิ่มรสชาติด้วย Miso Paste สูตรพิเศษของทางร้าน  เสริมด้วยกลิ่นหอมๆของน้ำมันกระเทียมโคยุ และเลือกใช้เนื้อหมูส่วนท้องซึ่งติดมันเยอะกว่าเพื่อให้สมดุลกลมกลืนกับรสชาติที่เข้มข้นขึ้น  ส่วนเส้นและเครื่องอื่นๆจะเหมือน Shiromaru Motoaji ค่ะ  ส่วนตัวแล้วตอนที่ลองเมนูนี้ที่ญี่ปุ่นเรารู้สึกว่าน้ำซุปมีความเข้มข้นมากจนเลี่ยน ทำให้ไม่ปลื้มเท่าไหร่ แต่พอมาลองเมนูนี้ที่เมืองไทยกลับได้ระดับความเข้มข้นกลมกล่อมที่ทานกำลังสบาย อร่อยสูสีกับราเมงชามขาวแบบเลือกลำบากเลยทีเดียวนะ
Akamaru Shinaji
฿160
88 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์

Akamaru Shinaji
฿160
102 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


● Karaka-men (ราคา 230 บาท) –เป็นราเมงสูตรเผ็ดร้อนที่ได้จากการนำน้ำซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับมาเติม Spicy Miso เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และหมูสับ เส้นราเมงสำหรับชามนี้จะเป็นเส้นหยัก เพื่อให้เกี่ยวหมูสับติดเส้นขึ้นมาได้ง่ายๆ ส่วนหมูชาชูจะใช้เนื้อหมูส่วนท้องเช่นเดียวกับชามที่แล้วค่ะ
Karaka-men
฿230
70 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


[Seasonal Menu]

● Clam Chowder Ramen (ราคา 260 บาท) – เมนูนี้เป็นการนำเอาซุปหอยลาย หรือ Clam Chowder สไตล์อเมริกันมาผนวกรวมเข้ากับราเมง โดยเส้นที่ใช้จะเป็นเส้นแบบหนา-เหนียว-นุ่ม ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ  ส่วนซุปเป็นซุป tonkotsu เข้มข้นที่ปรุงด้วยซอส Bechamel และ Truffle Oil  ใส่หอยลาย (Asari Clam) , มันฝรั่งทอด, ไข่ยางตูม  แล้วท็อปด้วย Parmesan Cheese ขูดมาพูนๆ  ทานกับเบคอนแผ่นบางเฉียบกรอบกริ๊บที่พาดมากับขอบชาม  ตอนจะทานทางร้านแนะนำให้คนผสมน้ำซุปกับชีสเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นหอมชีสยิ่งขึ้นนะคะ
Clam Chowder Ramen
฿260
79 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์

Clam Chowder Ramen
฿260
58 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


ทราบมาว่า Clam Chowder Ramen นี้แรกเริ่มเดิมทีเป็นราเมงที่ทำขึ้นเพื่อเสิร์ฟที่ Ippudo สาขา New York   จากนั้นก็นำมาขายในงาน Tokyo Ramen Show  ผลปรากฏว่าได้รับความนิยมกันล้นหลามจนที่ญี่ปุ่นต้องทำเป็นบะหมี่สำเร็จรูปออกมาวางขายใน 7-11 กันเลยทีเดียว  สำหรับที่กรุงเทพฯเรานี้จะมีเมนูนี้ให้สั่งกันถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 นี้เท่านั้น  ถ้าใครอยากลองก็ต้องรีบหน่อยล่ะค่ะ

ในแง่รสชาติเท่าที่ได้ลองดูนั้น น้ำซุปมีความครีมมี่หอมชีสมากทีเดียว เส้นก็หนาสู้ฟันสอดคล้องกันดีกับความข้นของน้ำซุป  ถ้าใครชอบทานพาสต้าสไตล์ซอสครีมหรือพวก carbonara อยู่แล้วน่าจะถูกใจมากมาย   ส่วนตัวเรารู้สึกว่าทานคำแรกๆอร่อยมาก แต่ให้ทานหมดทั้งชามคนเดียวคงไม่ไหวเพราะรสชาติออกจะหนักท้อง ทานไปทานมาชักเลี่ยน เหมาะกับจะสั่งเวลาพาเพื่อนมาช่วยแบ่งด้วย แต่ถ้าคนรักชีสก็คงซัดหมดได้สบายๆปลื้มปริ่มกันไปล่ะนะ

[Other Dishes]

● Ippudo Hakata Style Gyoza (ราคา 90 บาท) – เกี๊ยวซ่าชิ้นขนาดพอดีคำ แป้งบาง ไส้หมูรสดียัดมาแน่นใช้ได้ เสิร์ฟบน Hot Plate ร้อนจี๋ ทานเพลินแบบคีบกันรัวๆไม่กลัวปากพองเลยล่ะ
Ippudo Hakata Style Gyoza
฿90
72 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


● Aburi Salmon Roll (ราคา 3 ชิ้น 150 บาท / 6 ชิ้น 240 บาท) – เป็น Salmon Roll ชิ้นพอดีคำที่ sear ผิวมาเบาๆพอหอมๆ ปรุงรสด้วยซอสมาโย ไข่ mentaiko และท็อปด้วยไข่กุ้งโทมิโกะ อร่อยดีทีเดียวค่ะ
Aburi Salmon Roll
฿240
66 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


● บาทานิคุ บัน (ราคา 80 บาท) – เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมที่ New York มากๆ – Pork Bun แป้งคล้ายหมั่นโถวนุ่มๆ ยัดไส้เนื้อหมูส่วนท้องที่ตุ๋นมานุ่มๆชุ่มน้ำซอส  เห็นแล้วก็แอบนึกถึงเมนูขาหมูหมั่นโถวของจีน  แต่มีเพิ่มเติมคือยัดไส้ผักกาดแก้วทามายองเนสมาใน Bun ด้วย  ส่วนตัวถือว่าทานได้เพลินๆแต่ไม่ถึงกับว้าวนะ
บาทานิคุ บัน
฿80
70 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์

บาทานิคุ บัน
฿80
65 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


● Goma Q (ราคา 70 บาท) –แตงกวาญี่ปุ่นเนื้อเนียน – สด – กรอบ ราดซอสงาที่หอมกลิ่นน้ำมันงาจริงจัง ปรุงรสอ่อนๆพอให้สดชื่น เสิร์ฟมาเย็นๆ   เป็นของว่างเบาๆที่ทานสลับกับอาหารจานอื่นๆได้ดีทีเดียว
Goma Q
฿70
59 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


● Ippudo Chicken Nanban (ราคา 120 บาท) – Chicken Nanban นี้เป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในเมือง Miyazaki ค่ะ เป็นไก่ชิ้นขนาดย่อมๆ ชุบด้วย sugared vinegar  ทอดมาจนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมมากับ Tartar Sauce ที่มีส่วนผสมของไข่ต้ม (ทั้งไข่แดงและไข่ขาว)บดละเอียด  หัวหอม พริกไทยดำ  มี  lemon วางเคียงมาเพิ่มความสดชื่น  ชิมดูรู้สึกว่าที่จริงแค่ทานไก่เปล่าๆก็อร่อยลงตัวแล้ว  แต่พอมีซอส Tartar ให้จิ้ม มี lemon ให้ตัดเลี่ยน  ก็ทำให้รสชาติหลากหลาย ทานได้ไม่เบื่อดี ชอบมากเลยล่ะ  เห็นว่าเมนูนี้ได้รับความนิยมกันมากที่ฮ่องกงด้วยนะ 
Ippudo Chicken Nanban
฿120
43 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


[Dessert]

● Cheese Cake Kakigori (ราคา 170 บาท) – เมนูนี้เป็นอะไรที่ทำเอาเราทึ่งมากมาย  คือไม่นึกไม่ฝันเลยว่าร้านราเมงจะทำขนมหวานออกมาได้เลิศขนาดนี้  งานนี้บอกเลยว่าร้านขนมหลายๆร้านต้องมีอายค่ะ   …Kakigori ถ้วยนี้ประกอบด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่เนียนละเอียดขั้นสุด มีความหอมและเนื้อสัมผัสแน่นๆแบบครีมชีสแทรกอยู่ในน้ำแข็ง ทำให้รู้สึกนุ่มนวล ทานคู่กับชีสเค้กก้อนนุ่มๆที่ฝังอยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เมนูนี้เสิร์ฟ Strawberry Sauce ที่ทำจากสตรอว์เบอร์รี่สดเคียงมาให้ราดด้วย รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นเห็นชิ้นสตรอว์เบอร์รี่แทรกอยู่ในซอสกันชัดๆเลย  ฟินระเบิดระเบ้อ!!
Cheese Cake Kakigori
฿170
44 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์


ในฐานะเชฟราเมงระดับแชมเปี้ยน  คุณ Shigemi Kawahara เคยกล่าวไว้ว่าราเมงแต่ละเมนูที่เขาสรรค์สร้างขึ้นนั้นเปรียบเสมือน “A cosmos served in a bowl” ...คือทุกองค์ประกอบในชามต้องได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันให้เข้ากันได้  มีความกลมกลืนกันทั้งน้ำซุป, เส้นที่เลือกใช้, toppings ต่างๆ และเครื่องปรุง  ดุจดั่งเป็นจักรวาลเล็กๆอยู่ในชามราเมง ...มาวันนี้เมื่อธุรกิจเติบใหญ่  ทางร้านมีเมนูอาหารแตกไลน์ออกไปอีกมากมาย แต่ทุกจานก็ดูจะยังยึดมั่นตามหลักปรัชญาของเชฟผู้ก่อตั้งแบรนด์อยู่เช่นเดิม  ถ้าอยากพิสูจน์ก็แวะไปลองกันได้ค่ะ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2017-07-31
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿500
เมนูแนะนำ
Shiromaru Motoaji
฿ 150
Akamaru Shinaji
฿ 160
Akamaru Shinaji
฿ 160
Karaka-men
฿ 230
Clam Chowder Ramen
฿ 260
Clam Chowder Ramen
฿ 260
Ippudo Hakata Style Gyoza
฿ 90
Ippudo Chicken Nanban
฿ 120
Cheese Cake Kakigori
฿ 170