อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-09-06
292 วิว
วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศพาไปดินเนอร์แบบหรูๆ ใต้แสงเทียน ที่ห้องอาหาร La Tavola & Wine Bar โรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong ซึ่งห้องอาหารแห่งนี้ให้บริการอาหารอิตาเลี่ยน และยังเอาใจคนที่รักรสชาติของไวน์แท้ๆ ที่นำเข้าจากอิตาเลี่ยน อีกด้วย สำหรับห้องอาหารแห่งนี้ตกแต่งแบบเรียบๆ แต่หรูหรา ตามสไตล์อิตาเลี่ยน นอกจากนี้ยังสามารถเห็นครัวแบบเปิดที่สามารถร่วมซึมซับบรรยากาศของเชฟที่บรรจงจัดทำอาหารจานสวยๆ ไว้เอาใจลูกค้าที่มาใช้บริการได้อย่างใกล้ชิด ส่วนในบรรยากาศสำหรับมื้อ Dinner นั้นมีการสร้างบรรยากาศด้วยการจุดเทียนไว้ตามโต๊ะ ซึ่งทำให้ห้องนั้นดูสลัวๆ แบบโรแมนติกเล็กน้อย และล่าสุดมีการจัดโปรแกรมอาหารที่สามา
สำหรับห้องอาหารแห่งนี้ตกแต่งแบบเรียบๆ แต่หรูหรา ตามสไตล์อิตาเลี่ยน นอกจากนี้ยังสามารถเห็นครัวแบบเปิดที่สามารถร่วมซึมซับบรรยากาศของเชฟที่บรรจงจัดทำอาหารจานสวยๆ ไว้เอาใจลูกค้าที่มาใช้บริการได้อย่างใกล้ชิด ส่วนในบรรยากาศสำหรับมื้อ Dinner นั้นมีการสร้างบรรยากาศด้วยการจุดเทียนไว้ตามโต๊ะ ซึ่งทำให้ห้องนั้นดูสลัวๆ แบบโรแมนติกเล็กน้อย
และล่าสุดมีการจัดโปรแกรมอาหารที่สามารถดื่มด่ำกับไวน์รสชาติเยี่ยมในบรรยากาศแบบ Wine Dinner ภายใต้โปรแกรม “Frescobaldi 700 years of great Tuscan wines” ที่เสิร์ฟอาหารแบบ 5 course meal แต่มีอาหาร 6 จาน ที่สำคัญทุกจานนั้นเสิร์ฟคู่กับไวน์รสเลิศ 6 ชนิดด้วยกัน ก่อนอื่นที่นี่เสิร์ฟ Complimentary bread มารองท้องแบบจุใจ แต่อย่าเผลอทานหมดละครับ ไม่งั้นจะอิ่มเร็วเกินไป เพราะยังมีอาหารอีก 6 จานรอเสิร์ฟอยู่ มาเริ่มที่เมนูแรกกันเลยดีกว่ากับ Appetiser ที่ชื่อว่า “Aperitivo” หรือ Tonno e Fagioli - Seared Crusted Sesame Tuna, Cannellini Mash, Lemon Brioche, Parsley Emulsion เมนูนี้เป็นขนมปังกรอบที่มาพร้อมทูน่าสดรสดีวางบนถั่วบด พร้อมกับซอสพาร์สลี่ ถือว่าเบาๆ กำลังดีเลยครับ สำหรับเมนูนี้เสิร์ฟพร้อมกับไวน์ขาว “Danzante Pinot Grigio” สำหรับ First Course คือ “Primo Piatto” ซึ่งคอร์สนี้เสิร์ฟมาพร้อมกัน 2 เมนู นั่นก็คือ Panzanella Tradizionale ซึ่งทำมาจาก Olive Oil Poached Salmon, Tomato Ravioli, Crispy Bread, Fruits, Red Onion Jam เมนูนี้ดูหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ผลไม้สด ที่มาพร้อมกับปลาแซลมอนสดกับน้ำมันมะกอก นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มรูปแบบที่มาในรูปเยลลี่กลมๆ ที่เรียกเครื่องดื่มสไตล์นี้ว่า molecular drink สำหรับเมนูนี้เสิร์ฟคู่กับไวน์ขาวอีกชนิดนั่นก็คือ “Albizzia 2011 Chardonnay” ส่วนอีกเมนูที่เสิร์ฟคู่กันก็คือ Panzanella 2012 ทำมาจาก Traditional Panzanella bread, tomato, onion, basil, extra virgin olive oil เป็นสลัดมะเขือเทศ ที่มาในขนาดไม่มากจนเกินไป สำหรับเมนูนี้เสิร์ฟคู่กับไวน์ขาวอีกชนิดนั่นก็คือ “Pomino Bianco Chardonnay” จากนั้นต่อด้วย “Pasta” กับเมนูที่ชื่อว่า Pappardelle con il sugo ที่มีส่วนผสมของ Hand Cut Peppardelle, Beef Cheek Ragout, Shaved Mushrooms – Truffle เส้น Peppardelle ที่ตัดด้วยมือของเชฟเอง ที่มาพร้อมกับเนื้อ และเห็ด Truffle รสชาติของน้ำซอสเข้มข้น ในส่วนของเนื้อนั้นนุ่มและมีรสชาติดี ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวของเนื้อ เมนูนี้เสิร์ฟมาในขนาดพอเหมาะ และเสิร์ฟคู่กับไวน์แดงที่ชื่อว่า “Chianti Nipozzano Riserva” มาถึง Main Course กับ “Secondo Piatto” กับเมนูที่ชื่อว่า “Mare & Monti” ที่ทำมาจาก Char Grilled Beef Cheek, Truffle Risotto, Scallop, Colonnata Lard, Enoki Mushrooms เนื้อย่างคุณภาพดี ที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าว Risotto ที่ผัดคลุกเคล้ากับเห็ด Truffle มาพร้อมกับหอยเชลล์ชิ้นโต ถือว่าทำได้ดีทีเดียวเนื้อไม่เหนียวจนเกินไป ซึ่งเมนูนี้เสิร์ฟพร้อมกับไวน์แดง “Chianti Castiglioni” มาถึงเมนูสุดท้ายกับ Dessert Course ที่ชื่อว่า “Dolce” หรือ Torta della casa - Sultana Grape and Hazelnut Cake, Cantucci Ice Cream, Vin Santo Reduction ของหวานปิดท้ายแบบเบาๆ ด้วย เค้ก Hazelnut และลูกเกด ที่มาพร้อมกับไอศกรีม Cantucci ที่เสิร์ฟพร้อมกับไวน์ “Pomino Vin Santo”
เพียงเท่านี้ก็ทำให้มื้อ Dinner สุดพิเศษของคุณเต็มไปด้วยรสชาติอาหารอิตาเลี่ยน และไวน์รสเลิศ ในบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก
สำหรับเมนูพิเศษแบบนี้ เพียง 2,950++ ต่อท่าน เท่านั้น ก็ทำให้ลิ้มรสอาหารรสเลิศ 6 เมนู และไวน์รสชาติดี 6 ชนิดด้วยครับ
โพสต์