วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2013-04-17
139 วิว
ผึ้งน้อยกับ Smirve Bar แทบจะเป็นขาประจำเย็นวันธรรมดาไปเสียแล้ว ที่ว่าเฉพาะวันธรรมดานั้นก็มีสาเหตุอยู่ คือเพื่อหลีกเลี่ยงข้อเสียเพียงข้อเดียวของร้านคือการสูบบุหรี่ในร้านนั่นเอง (ทางร้านเค้าไม่ห้ามเรื่องสูบในร้าน แต่ลูกค้าบางคนที่มีมารยาทเค้าก็จะออกไปสูบข้างนอกค่ะ) ดังนั้นการไปนั่งชิลล์ร้านนี้ในค่ำวันศุกร์หรรษาคือการพาตัวเองไปรมควันดีๆนี่เอง ถึงแม้จะมีปัญหาด้านกลิ่นยังไง แต่ด้วยความที่ Cocktail ของร้านนี้อร่อยได้ใจผึ้งน้อยซะจนอดใจไม่ไหวจึงต้องมานั่นเองเส้นทางการมาที่นี่ ง่ายๆ ขับมาบนเส้นนาราธิวาส เลี้ยวเข้าซอยจันทร์2 โรงแรม Forum จะอยู่ทางซ้ายมือ ในโรงแรมมีที่จอดพอประมาณ ถึงแน่นยังไงก็ยังขยับขยายมาจอดลานจอดรถฝังตรงข้ามได้โดยไม่เสี
ที่ว่าเฉพาะวันธรรมดานั้นก็มีสาเหตุอยู่ คือเพื่อหลีกเลี่ยงข้อเสียเพียงข้อเดียวของร้านคือการสูบบุหรี่ในร้านนั่นเอง (ทางร้านเค้าไม่ห้ามเรื่องสูบในร้าน แต่ลูกค้าบางคนที่มีมารยาทเค้าก็จะออกไปสูบข้างนอกค่ะ) ดังนั้นการไปนั่งชิลล์ร้านนี้ในค่ำวันศุกร์หรรษาคือการพาตัวเองไปรมควันดีๆนี่เอง
ถึงแม้จะมีปัญหาด้านกลิ่นยังไง แต่ด้วยความที่ Cocktail ของร้านนี้อร่อยได้ใจผึ้งน้อยซะจนอดใจไม่ไหวจึงต้องมานั่นเอง
เส้นทางการมาที่นี่ ง่ายๆ ขับมาบนเส้นนาราธิวาส เลี้ยวเข้าซอยจันทร์2 โรงแรม Forum จะอยู่ทางซ้ายมือ ในโรงแรมมีที่จอดพอประมาณ ถึงแน่นยังไงก็ยังขยับขยายมาจอดลานจอดรถฝังตรงข้ามได้โดยไม่เสียเงิน
ร้าน Smirve Bar อยู่ข้างฟร้อนท์เลยค่ะ ^^
วันนี้ตั้งใจมาดรี๊งค์และฟังเพลงสดโดยเฉพาะค่ะประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม วงที่จะเล่นวันนี้ก็มาถึง หลังจากเตรียมการเสร็จ (ใช้เวลาไม่นาน) ก็เริ่มบรรเลง วงนี้เจอบ่อยกว่าวงอื่น นักร้องนักดนตรีอัถยาศัยดี และที่สำคัญคือร้อเพลงเพราะ เพลงแรงๆก็สามารถเล่นเป็นอคูสติกให้เข้ากับบรรยากาศได้
Cocktail แก้วแรก เป็น A Must ของผึ้งน้อยเลย มากี่ครั้งก็ออร์เดอร์เป็นประจำ
คราวนี้ผึ้งน้อยตั้งใจดูเมนูมาเป็นอย่างดีค่ะว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง
Dark Mojito (200 บาท)Dark Rum, Mint Leave, Brown Sugar, Lime, Soda
ส่วนผสมตามมาตรฐานของ Mojito แต่เข้มข้นด้วย Dark Rum (ส่วนมาจะใช้ Light Rum)ความเข้มข้นและกลมกล่อมของรสชาดของแก้วนี้ยังคงรักษามาตรฐานความอร่อยไว้ได้เป็นอย่างดี
แม้จะมีน้ำตาลทรายแดงเป็นส่วนผสมแต่รสก็ไม่ได้ออกหวานเป็นหลัก จะหอมน้ำตาลทรายแดงมากกว่า มีความเปรี้ยวจากน้ำมะนาวมายั้งความมึนจากเหล้ารัม และเพิ่มความสดชื่นด้วยใบสะระแหน่
ส่วนระดับความมึนหลังดื่มก็แล้วแต่ว่าเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตารึเปล่า ถ้าเจอก็อาจมีเป๋ได้ (จัดให้อย่างหนัก)
ถัดจากแก้วโปรดก็ขอตามด้วย “แก้วที่อยากลอง”
Red Devil (200 บาท)
Vodka, Peach Schnapps, Gin, Triple Sec, Orange Juice, Grenadine, Sweet & Sour
ดูจากส่วนผสมแล้วน่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะมีเหล้าตั้ง 4 อย่าง (>_<)
เป็นการจัดรูปแบบการเสิร์ฟโดยใช้พริกแดงเสียบเป็นเขา Devil ที่ปากแก้ว น่ารักดีจัง สมชื่อ Red Devil มากๆ มีการเล่นชั้นสีจากความหนาแน่นของส่วนผสมด้วย สีแดงที่อยู่ล่างสุดนั่นน่าจะเป็น Grenadine หวานๆ
(มีส่วนผสมที่เป็นสีแดงอยู่อย่างเดียว คงไม่ใช่พริกหรอกค่ะ...หวังว่า)
รสชาด...มีรสของแอลกอฮอล์ที่ปนมากับรสส้ม (เพราะมีทั้ง Triple Sec และ Orange Juice นี่นะ) ไม่หวานนำจนกลบรสแอลกอฮอล์ ออกไปทางกลมกล่อมพอดีๆ แถมยังสีสวยอีก....
ดูท่าว่าเป็นอีกแล้วนึงที่ต่อจากนี้จะกลายมาเป็นเมนูโปรดของผึ้งน้อยซะแล้ว
ตอนที่ดื่มถึงเจ้าสีแดงก้นแก้วแอบตกใจ...เผ็ด...!!! (จริงๆต้องบอว่าแปล๊บๆที่ริมฝีปากมากกว่า)
ก่อนจะเข้าใจผิดไปว่าเจ้าสีแดงนั่นเป็นพริกที่เป็น Shock Surprise ตอนจบก็พลันนึกออกเสียก่อนว่าปากแก้วมันเสียบพริกมาก่อน ตอนนี้พรกหล่นไปแล้วดันมาจิบตรงจุดพอดี ...สรุปว่าเข้าใจผิด
เจ้าสีแดงนั่นเป็น Grenadine รสหวานๆธรรมดาค่ะ
ตั้งใจจะฟังเพลงซะหน่อย ดันโชคไม่ดี เจอผู้หญิงแนวสาวคาราโอเกะที่มากะกลุ่มผู้ชายโต๊ะข้างๆวิ่งโร่ไปแย่งไมค์นักร้องอย่างไร้มารยาทมาร้องอย่างยาว (ถ้าร้องแค่เพลงสองเพลงก็ไม่ว่ากันหรอกค่ะ) แต่นี่ยึดไมค์ไปเลนแถมยังร้องเสียงหลง ฟังแล้วระคายหูมาก กลับบ้านดีกว่า
อย่างน้อยวันนี้ Cocktail ก็อร่อยถูกใจ ไว้มาใหม่วันหลัง อิอิ
สรุปความชิลล์
บรรยากาศ – สถานที่สวย คนน้อย วงดนตรีดี ...ถ้าเอานักร้องไม่ได้รับเชิญคนนั้นออกไปทิ้งข้างนอกได้จะเพอร์เฟกต์มากๆ
การบริการ – โดยรวมแล้วการบริการของที่นี่จัดว่าดีค่ะ เรียกตัวง่ายได้ของเร็ว
รสชาด – วันนี้เน้นเครื่องดื่ม ซึ่งก็ถูกใจอย่างมากทั้ง 2 แก้ว จากที่เคยลองดื่ม Cocktail ของที่นี่มาราวๆ 10 อย่างก็ขอยกให้ 2 แก้ววันนี้ติดอันดับ Top Three ล่ะค่ะ
โพสต์
