...ขนมเทียนไหว้เจ้าตรุษจีนและใช้ในงานบุญของไทย...
อีกหนึ่งขนมที่ต้องเห็นบนโต๊ะไหว้เจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีนนั่นก็คือ ขนมเทียน ซึ่งมักวางเคียงคู่กับ ขนมเข่ง เราก็เลยนึกว่าขนมเทียนเป็นขนมที่มาจากประเทศจีน แต่แท้จริงแล้วขนมเทียนเป็นขนมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยดัดแปลงมาจากขนมเข่ง แต่ใส่ไส้ด้านในซึ่งมีทั้งไส้คาวและไส้หวาน ถ้าเพื่อนๆ เคยกินขนมเทียนไส้หวานก็จะรู้ว่าเหมือนกับขนมใส่ไส้เลย เพียงแต่แป้งด้านนอกไม่ใช่กะทิ เรียกได้ว่าเป็นขนมฟิวชั่นก็ว่าได้ สำหรับคนไทยเชื้อสายจีนและคนจีนเชื้อสายไทยที่ต้องการไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษในช่วงเทศกาลอย่างวันตรุษจีนก็มักใช้ขนมเทียนเป็นอีกหนึ่งในของไหว้ของมงคลด้วย
แป้งด้านนอกของขนมเทียนทำมากจากแป้งข้าวเหนียว ไส้คาวทำจากถั่วเขียวซีกผัดกับเครื่องปรุงรสให้กลิ่นพริกไทยชัดเจน ส่วนไส้หวานนั้นทำจากมะพร้าวขูดผัดกับน้ำตาลมะพร้าวเหมือนไส้ของขนมใส่ไส้ นำมาห่อด้วยใบตองเป็นทรงสามเหลี่ยม แล้วนำไปนึ่ง พอสุกแล้วแป้งข้าวเหนียวจะใสน่ากิน
ขนมเทียน นอกจากจะชื่อนี้แล้ว ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น ภาคเหนือ เรียก ขนมจ๊อก, ภาคอีสาน เรียก ขนมหมก, ภาคกลาง เรียก ขนมนมสาว เป็นต้น ในแต่ละท้องถิ่นของไทยก็นิยมนำขนมเทียนไปใช้ในงานบุญอย่างวันสงกรานต์ (วันปีใหม่ไทย) , งานบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ, งานวันออกพรรษา ฯลฯ ด้วยมีความเชื่อว่าเป็นขนมมงคล มีความหมายสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ความราบรื่น เมื่อนำไปไหว้เจ้าหรือใช้ในงานบุญ โดยเฉพาะวันขึ้นปีใหม่ วันตรุษจีน วันตรุษไทยก็จะได้มีชีวิตที่ราบรื่นไปตลอดปีนั่นเอง
ปั้นขนมเทียนด้วยแป้งข้าวเหนียวใส่ไส้แล้วห่อด้วยใบตอง
ห่อใบตองเป็นทรงสามเหลี่ยมเหมือนยอดเจดีย์แล้วนำไปนึ่งจนสุก
ประโยชน์ของข้าวเหนียวที่นำมาทำแป้งห่อไส้ขนมเทียน มีทั้งวิตามินบี 1, วิตามินบี 2 มีโปรตีนช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงประสาทและสมอง ช่วยให้ผ่อนคลายสดใสร่าเริง และยังมีส่วนช่วยในการป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบและปัญหาวุ้นในตาเสื่อม นอกจากนี้ไส้ขนมเทียนไม่ว่าจะคาวหรือหวาน ที่ทำจากถั่วเขียวซีกกวนและมะพร้าวขูดต่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน เพราะถั่วเขียวมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ และมีธาตุเหล็กสูงช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ส่วนเนื้อมะพร้าวช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่าเนื้อมะพร้าวและกะทิจะทำลายสุขภาพ ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะในเนื้อมะพร้าวมีไขมันเชิงเดี่ยวเผาผลาญได้ง่าย แต่ควรรับประทานร่วมกับผักและผลไม้อื่นด้วยเช่นกัน
อ้างอิง: http://puechkaset.com/ขนมเทียน/ l https://cooking.kapook.com/view79721.html