0
1
0
เบอร์โทร.
052-081-555
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:00 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 22:00
วิธีจ่ายเงิน
เงินสด
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
โกโก้ ลาเต้
รีวิว (2)
ระดับ1 2018-03-29
173 วิว
在清迈的时候找到了这家每天24小时营业的网红咖啡厅,店面比想象中的要大,虽然客人不少,但是空间感特别好,虽然人多但各个客人之间不太会互相打扰(对比之下上海新开不久的Starbucks reserve 就差很多)这里更像一个图书馆,可以安静的读书、上网或发呆,点一杯咖啡吃点小食坐坐,稍微休息一下挺好。食物不过不失吧。 อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
สาวเหนือกลับมารุงรังอีกรอบแล้วเน้อรีวิวร้านนี่เหมือนเป็นร้าน To Fast To Sleep แถวสามย่านเมืองบางกอก ที่อิฉันบังเอิญได้ไปดูงาน (ขนาดนั้น!) เมื่อสองสามปีก่อน ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ 24 ชม. สำหรับเน้นกลุ่มนักเรียน คนทำงานชีวิตนกฮูก ที่กลางคืนไม่รู้จักหลับจักนอนรังตัวเอง ต้องถ่อสังขารมาติวหนังสือตอนดึกๆ ที่คาเฟ่ บ้างก็เป็นนกฮูกโดดเดี่ยว บ้างก็เป็นนกฮูกมาทั้งก๊ก บางทีเห็นนอนสลบคาโต๊ะไปเลยก็มี(กล้านอนในที่ที่ไม่ใช่ห้องหับตัวเองได้ยังไงนิ) แต่ร้านลักษณะนี่ได้รับความนิยมมากในขณะนั้น ชนิดหาโต๊ะนั่งไม่ได้เลย ใครใคร่อยากนั่งนานจนรากงอกแผ่กิ่งก้านใบก็ตามสบาย(ตราบใดที่ทั่นยังจ่ายค่าอาหารเกิน 100 แน่นอน) เรียกว่าเป็นร้านที่ช่วยตอบโจทย์แก้ปัญหานักเรียนชอบไปนั่งติวหนังสือ(หรือขายประกัน หรือสอนขาย MLM) ตามร้าน fastfood จนเป็นปัญหาระดับชาติมาแล้ว...ซึ่งปัญหาที่บางกอกเกิดฉันใด เชียงใหม่ก็เกิดฉันนั้น แต่ตอนนั้นยังแทบไม่มีร้านไหนกล้าทำ เพราะนั้นหมายความว่าต้องมีศักยภาพในการแบกค่าไฟบานแน่นอน เพราะเป็นร้านเปิด 24 ชม.แต่ในที่สุด กรุงเทพมีอะไร เชียงใหม่ก็ต้องมีบ้าง...กรุงเทพมี To Fast To Sleep เชียงใหม่ก็มีร้าน CAMP บนชั้น 5 ห้างสรรพสินค้า MAYA สี่แยกรินคำ ที่จะไปย่านนิมมานฯ นั้นแลสถานที่ตั้งของร้านคงหาไม่ยาก ก็คือห้างสรรพสินค้า MAYA (เมญ่า) ที่สี่แยกรินคำนั้นเลย ร้านอยู่บนชั้น 5 นั้นแล กดลิฟท์แก้วขึ้นมาโลดร้าน CAMP เป็นร้านที่ก่อตั้งจากบริษัท AIS เพื่อให้เป็นแหล่งศูนย์รวมวัยรุ่นเด็กเรียนมาติวหนังสือ ทำการบ้าน ประชุม แถมกินข้าวในร้านเลยเสร็จสรรพ (แต่ถึงขั้นนอนไหมนี่ ไม่เคยไปร้านตอนดึกแฮะ เลยไม่ได้ไปสังเกตการณ์) กลุ่มรองลงมาก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย มาเช่าใช้ห้องประชุม นอกนั้นก็จะเป็นกลุ่มย่อยเช่นคนทำงาน ที่นี่มีทั้งอาหาร ปลั๊กไฟ wifi พร้อม นั่งกันจนรากงอกกันไปข้างนึง เปิดตลอด 24 ชม. ใครดูรีวิวรี่แล้วจะโลนไปร้านเลยก็ยังได้ด้านนอกร้านฝั่งขวา ก็มีที่นั่งสำหรับรอได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นลูกค้าของร้าน ก็จะมีคนมาดูหนังที่ SF บางคนหาที่นั่งไม่ได้บ้างเข้ามาภายในร้าน จะเห็นการตกแต่งนั้นใช้วัสดุที่เป็นไม้ ตัดกับฉากพลาสติกสีดำ ทำให้เป็นการตกแต่งแบบผสมแบบธรรมชาติและโมเดิร์น เน้นด้านบนเพดานที่ไม่เล่นแท็คเจอร์สามเหลี่ยม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ร้านเมืองนอก โซนที่นั่งด้านติดกระจก ก็เป็นเคาน์เตอร์บาร์เดี่ยว สำหรับลูกค้ามาคนเดียว มีปลั๊กคอมไว้เสียบเล่นโน๊ตบุคพร้อม ข้อเสียคือเป็นมุมติดกระจกทางเข้าหน้าร้าน คนย่อมเดินผ่านไปผ่านมา (แต่ถ้าท่านไม่สนใจสายตานั้นก็อีกเรื่อง) เก้าอี้และขนาดโต๊ะแคบ วางโน๊คบุคกับกาแฟยังพอได้ แต่ถ้าวางมากกว่านั้นต้องไปโต๊ะอื่นที่กว้างกว่าดีกว่า (ก็เข้าใจอยู่ว่าถ้าทำให้นั่งสบายเกินไป รากจะงอกเกิน)วิธีสั่งอาหารก็คือ ไปสั่งที่เคาน์เตอร์ก่อนนั้นแหละค่ะ เมื่อสั่งอาหารและจ่ายตังค์แล้ว พนักงานจะให้สลิปพร้อมเบอร์รับอาหารมาด้วย ซึ่งถ้าอาหารเสร็จแล้ว จะมีเบอร์ปรากฎขึ้นบนหน้าจอมอมิเตอร์แบบนี้ และจะมีสลิปรหัส wifi ด้วย แต่ใช้เล่นได้แค่ 2 ชม./เมนู ก็ต้อง...มาซื้ออาหารเพิ่มเพื่อรับรหัสใหม่นะจ๊ะ (ตรงนี่แหละ ที่ป้องกันพวกซื้อแต่น้ำขวดอันเดียว แช่นั่งมันทั้งคืน...ยังไม่แน่ใจว่าตรงนี้ร้าน To Fast To Sleep มีระบบจัดการแบบนี้หรือยัง) ใครรอสั่งอาหาร ควรนั่งรอมารับไปเลยนะค่ะ เพราะที่นี่ไม่มีพนักงานไปเสิร์ฟถึงโต๊ะจุดที่น่ารักอย่างนึงคือ จุดรับอาหาร(เฉพาะอาหารตามสั่ง ถ้าเครื่องดื่มรับที่หน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงินเลย) ซึ่งอยู่ด้านในสุดใกล้เคาน์เตอร์สั่งอาหาร ทำเป็นผนังชั้นวางของ...แต่ให้สังเกตตรงป้ายสีดำด้านขวา จะมีช่องเล็กๆ ซ่อนอยู่ นั้นคือช่องส่งอาหาร ซึ่งด้านหลังเป็นครัวซ่อนอยู่นั่นเองค่ะ เป็นการออกแบบตกแต่งภายในที่ไอเดียเก๋มากๆ (ตอนแรกอิฉันเกือบหาไม่เจอว่าให้ไปรับอาหารที่ไหนหว่า 555) แต่บริเวณช่องนี่ จะไม่มีพนักงานมาดูแลรอลูกค้ามารับอาหารนะค่ะ วางแล้วก็วางเลย เพราะต้องรีบไปทำอาหารให้ลูกค้าท่านอื่นต่อ ดังนั้นใครสั่งอาหารไว้ ควรรอรับแล้วค่อยไปหาโต๊ะเลยจะดีกว่า ต้องรับผิดชอบอาหารของท่านเองด้วย (เช่นเดียวกับสัมภาระที่เอาของมาค่ะ ทางร้านจะไม่รับผิดชอบกรณีของถูกขโมยสูญหายนะค่ะ คุณต้องรับผิดชอบเอง เพราะขนาดความกว้างของร้านใหญ่มาก และไม่ต้องการให้พนักงานเดินไปรบกวนลูกค้าส่วนใหญ่ที่เน้นมานั่งทำงานมากกว่ามากินข้าว)ปกติบริเวณที่เหมาะในการรับประทานอาหารคือบริเวณใกล้เคาน์เตอร์สั่งอาหารนี่แหละค่ะ เป็นส่วน CANTEEN เพราะมีขนาดโต๊ะกว้างกว่า และความสูงอยู่ในระดับพอดีในการรับประทานอาหารได้สะดวก มากกว่าโต๊ะด้านในสุด ที่จะเน้นลูกค้านั่งทำงานกับเครื่องดื่ม...แต่ใครจะนำอาหารไปกินด้วย ก็ไม่ว่ากันห้องประชุมเป็นส่วนที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปใช้ได้ ยกเว้นต้องสั่งอาหารตั้งแต่ราคารวมกัน 200 บาทขึ้นไป (รายละเอียดอื่นๆ สอบถามทางร้านเพิ่มเติมค่ะ) ห้องประชุมที่สุดยอดสุด จะเป็นชั้นล่างที่ติดกระจกชมวิวนี่แหละ ส่วนชั้นลอยจะไม่มีกระจกชมวิวแบบนี้จร้าในกรณีหาโต๊ะไม่เจอ...มะเป็นไร เพราะมีเก้าอี้แบบนั่งเดี่ยว(ซ้าย) เป็นรูปสามเหลี่ยมมีเบาะดำอยู่รอบข้าง คล้ายแกนพีระมิด แถมมีเตาเสียบปลั๊กพร้อม เรียกว่าจะนั่งทำงานแบบเดี่ยวๆหันหลังชนกันก็ยังได้ เรียกว่าใช้พื้นที่และการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ได้คุ้มจริงๆมุมนี่เป็นมุมยอดนิยมที่สุด เป็นโต๊ะเตี้ยแบบนั่งเบาะทำงาน นั่งได้เต็มที่ก็ 2 คน โต๊ะเหล็กไม่เคลื่อนเลื่อนไปไหน แถมมีช่องลอด จะยื่นแข้งยื่นขาได้ตามสบายชี้แจงก่อนว่า อิฉันไปกินมาสองวันนะค่ะ ไม่ได้ไปรีวิวทีเดียวแล้วสั่งหมดเมนูเบสิกแรกๆ ทานเล่นๆก็เฟรนฟรายส์ (60 บาท) อันนี้รสชาติก็ไม่ต่างกับเฟรนฟรายทั่วไป ต่างกันแค่ทอดมาร้อนๆ เนื้อแน่นแข็งไม่เหี่ยวคอพับคออ่อนเหมือนเฟรนฟรายร้านแฟรนไชส์ในห้าง(ห้างนี่มีเฟรนฟรายขายที่เดียวคือร้าน KFC งับ) ไม่มีมาทำเป็นสต็อกเยอะๆแบบร้านแฟรนไชส์ แถมใส่ตะกร้ามาอีก ปริมาณเยอะดีเลยนะราดหน้าหมู (65) บาท ไข่ดาว (10 บาท) ไข่ดาวน้ำมันเยิ้มไปหน่อย ส่วนราดหน้าน้ำไม่หนืดเหนียว เกือบใส ร้อนได้ที่(ร้อนชนิดฟองอากาศปุดๆเลย) เส้น ผักและเนื้อใช้ได้ รสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มไม่จืดจนเกินไป ปริมาณโอเค แต่ก็ยังไม่เลิศขนาดชวนติดใจข้าวไข่พระอาทิตย์ (50 บาท) เห็นว่าเป็นเมนูเด่นแนะนำของที่นี่...มันเป็นข้าวสวยผสมไข่ แล้วเจียวออกมาเป็นข้าวไข่นี่แหละค่ะ แต่รสชาติ...จืดสนิทศิษย์ส่ายหน้ามากๆ ขนาดเอาซอสมะเขือเทศใส่ไม่ยั้ง ยังไม่ทำให้รสชาติอร่อยขึ้นมาเลย แถมกินไปมันเหมือนกินข้าวทอดชุบไข่มากกว่า...เมนูนี่ไม่ผ่านสำหรับอิฉันค่ะ ทนกินได้แค่ครึ่งจานเท่านั้น คิดว่าร้านควรเปลี่ยนเป็นข้าวไข่เจียวจะดีกว่าค่ะ เอาข้าวไปผสมไข่แล้วทอด มันบ่เวิร์ดอ่ะและเพราะทนกินเมนูนี่ไม่ไหว มันบ่อิ่ม เลยยอมสั่ง สเต็กหมูคุโรบูตะซอสเห็ด (95 บาท) มากินล้างแค้น...พบว่า ล้างแค้นสำเร็จแระ ซอสเป็นซอสเห็ดแชมปิญอง ที่มีชิ้นเห็ดผสมด้วย ไม่ใช่แค่ปั่นๆเห็ดเป็นซอสอย่างเดียว รสชาติเผ็ดหอมนิดหน่อย ราดลงบนสเต็กหมูที่ทำร้อนๆ หนังเหนียวติดกระดูกไปนิด แต่ก็ย่างสุกได้ที่ รสชาติกลมกล่อมหายเฟลจากข้าวไข่ทอดได้ชะงักเลย...ถ้าเทียบเมนูข้าวทั้งหมด ให้ราดหน้ากับสเต็กนี่แหละค่ะ ลำสุดในร้านนี่แระเมนูของหวานล้างปากเป็น ช็อกลาวา เสิร์ฟวิปปิ้งครีมกับไอศกรีมวานิลา อันนี้รสชาติอร่อยดี ช็อกลาวาทำร้อนๆ ตัดออกมาซอสช็อกโกแลตเยิ้มตามสูตร (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะถ่ายแล้วไม่สวยตอนตัดชิ้นช็อกลาวา)เครื่องดื่มเป็น ไวท์ช็อกโกแลตโอรีโอ้ เฟรบเป้ (95 บาท) นอกจากปั่นโอรีโอ้ให้ละเอียดกับไวท์ช็อกโกแลตแล้ว ยังมีโอรีโอ้หนึ่งชิ้นโป๊ะหน้าให้อีก ปั่นละเอียดมีน้ำหน่อย ทำให้เนื้อเฟรบเป้ไม่แห้งมาก รสชาติหวานกลางๆ ที่สำคัญแก้วใหญ่สะใจดีลองเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มผลไม้แบบหวานๆ อย่างลิ้นจี่เยลลี่ปั่น รสชาติหวานเปรี้ยวกำลังพอดี ปริมาณเยอะแต่น้ำน้อยกว่าไวท์ช็อกโกแลต แต่มีดีตรงมีเยลลี่รสเดียวกันอยู่ตรงก้นแก้วสรุป ให้คะแนนอาหารที่นี่อยู่ในระดับกลางๆ คือกินได้บางเมนูค่ะ ตัวชูโรงคงเป็นที่เครื่องดื่ม เน้นตามประสากลุ่มคนที่เข้ามาติวหนังสือ ประชุม คนวัยเรียนและทำงาน จึงเน้นตัวเครื่องดื่มมากกว่าเน้นตัวอาหาร การบริการระดับดีค่ะ ก็คือเป็นคาเฟ่ของเหล่านกฮูกในร่างคนวัยเรียนวัยทำงาน อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)